Chapter 1 : แม่มดและเจ้าชายกบ
สาวบลอนด์นั่งจดลิสต์รายการของที่ต้องใช้ในวันไปโรงเรียนของลูกน้อยสองคนที่เหลือเวลาไม่ถึงอาทิตย์ เธอเพลินจนลืมว่าตัวเองอยู่ที่ไหนจนกระทั่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำเล็กๆมากระทบใบหน้าแขนขาเล็กน้อย แว่บนึงเธอรู้สึกหงุดหงิดที่คิดว่าโดนใครสักคนแกล้ง แต่พอนึกได้ว่า เธอมานั่งทำอะไรตรงนี้ก็ยิ้มสดใสเงยหน้าขึ้น ยกมือทักทายพวกเขา
“เล่นกันไปก่อนค่ะเด็กๆ ขอมะม๊าทำงานแป๊บนะ” บอกลูกสาวสองคนที่ร้องเรียก และดวงตาก็เหลือบมองหาการ์ดคนสำคัญ หล่อนพยักหน้ารับรู้คำสั่งที่ไม่ต้องพูด ดาเรนรู้หน้าที่ดีเสมอ สมกับเป็นปะป๊าที่รักของลูกๆ สามีที่รักของเธอ และเจ้านายที่รักของลูกน้อง ผู้คนชิดใกล้รักหล่อนทุกคน มองข้ามเรื่องเพศไปแล้ว
แต่กระนั้นในสายตาคนภายนอกล่ะ ใครจะมองที่รักของเธอว่ายังไง ดาเรนยังเป็นผู้หญิงที่ทั้งสาวและสวย กิริยาอาการราวเจ้าหญิง และมันคงไม่แปลกแน่ๆ ถ้าใครจะรู้สึกขัดแย้งเวลาที่เธอแนะนำตัวว่าหล่อนเป็นสามีและปะป๊าของลูก
เมื่อก่อนเธอยังบอกได้อย่างเต็มปากว่าไม่แคร์ ไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไง แต่ปัจจุบันนี้เมื่อเด็กๆของพวกเธอต้องเข้าโรงเรียน ความคิดของเธอก็เปลี่ยน นึกห่วงว่าอาจมีเด็กเกเรบางคนหรือผู้ปกครองบางคนที่แอนตี้คนแบบพวกเธออยู่ และฝาแฝดสุดที่รักของเธอก็จะโดนผลกระทบ หรือเธอควรเก็บพับเรื่องส่งพวกเขาไปโรงเรียนอนุบาลเอาไว้ก่อน เอาไว้ให้โตกว่านี้ค่อยให้ไป แต่อีกใจก็อยากจะสอนให้พวกเขาได้รู้จักโลกแห่งความจริงบ้าง ได้อยู่ลำพังโดยไม่มีเธอหรือดาเรนคอยอุ้มชู
โอ้..คิดแล้วก็น่าเครียดเหมือนกัน มิน่าดาเรนถึงได้ดูใจลอยบ่อยๆ สงสัยต้องเรียกคุยกันจริงจังกว่านี้แล้วมั้ง...
แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่เธอต้องคิดเรื่องนี้เมื่อพบว่าโดนละอองน้ำที่เม็ดใหญ่กว่าครั้งแรกและกระดาษสมุดบันทึกของเธอเปียก มะม๊าคนสวยหันขวับทันที และเจอเจ้าตัวดียิ้มแป้นอยู่ในสระว่ายน้ำ “อมีเลีย.. แกล้งมะม๊าเหรอ!”
“มะม๊าเย็นไหม.?” ลูกแฝดคนโตย้อนเสียงใส แล้วรีบตีน้ำเคลื่อนตัวหนีเธอ ร่างน้อยๆลอยไปในสระว่ายน้ำพร้อมห่วงยางพอดีตัวท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกๆของแฝดอีกคนที่ยังเกาะตัวปะป๊าแสนเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำวันพีชเอาไว้ แอนเดรียยังไม่ค่อยกล้าเล่นน้ำตามลำพังเหมือนพี่สาว แต่ก็อย่างที่รู้กัน อมีเลียเป็นสาวน้อยนักกีฬาประจำบ้านอยู่แล้ว น่ากลัวว่า เธอกับดาเรนคงจะต้องสนับสนุนเรื่องนี้ให้เขา ส่วนแฝดคนน้องคงต้องรอดูไปก่อนว่า ชอบทำอะไร อาจจะชอบกินอย่างเดียว...
“เย็นค่ะ แต่คงเย็นกว่านี้ ถ้ามะม๊าได้ทำแบบนี้” นิโคลลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยิ้มมีนัย มือสวยดึงผ้าขนหนูที่พันร่างกายช่วงล่างออก เผยให้เห็นบิกินนี่สีแดงแสนเซ็กซี่ที่สะดุดตาบางคนที่แอบมองเธออยู่ คุณแม่ยังสาวกระโดดลงน้ำ ว่ายฟรีสไตล์ไปดักหน้าเด็กน้อยในห่วงยาง
อมีเลียกรี๊ดตกใจที่เห็นเธอผุดขึ้นจากน้ำตรงหน้าเขา แต่ต่อมาก็หัวเราะชอบใจ โผเข้าหาเธอทั้งห่วงยางแบบนั้น “มะม๊ามาได้ไง..” ลูกสาวถามตื่นเต้น คนเป็นแม่ยิ้มหวาน มือหนึ่งเกาะห่วงยาง มือหนึ่งกวักน้ำเล่นกับลูก
“มะม๊าหายตัวมาค่ะ เชื่อหรือเปล่า” นิโคลบอกลูกสาว อมีเลียทำหน้างงเล็กน้อย แล้วส่ายหน้า
“มะม๊าไม่ใช่แม่มดในการ์ตูนที่หนูดูสักหน่อย”
คุณแม่ยังสาวอึ้งเล็กน้อยกับคำลูก แล้วก็ยิ้มเมื่อนึกได้ว่า เธอคงพลาดการ์ตูนเรื่องที่ว่า อมีเลียน่าจะดูกับดาเรน “แม่มดเหรอคะ หนูรู้จักแม่มดได้ยังไง ดูกับปะป๊าเหรอ..”
“กับอาเจสค่ะ แม่มดมีหม้อต้มยา เสกคนให้เป็นกบได้ด้วย”
มะม๊าคนสวยยิ้มขำกับเรื่องเล่าไร้เดียงสาของลูก เธอมองไปยังลูกอีกคนที่ในที่สุดก็ขอให้ปะป๊าพามาใกล้พวกเธอ ท่าทางจะกลัวพลาดเรื่องสำคัญ นิโคลหันไปคุยกับลูกคนเล็กบ้าง “แอนเดรียได้ดูเหมือนกันกับพี่ไหมคะ”
เจ้าเสือน้อยพยักหน้ารับหงึกๆ หน้าบึ้งๆ แก้มตุ่ยๆไม่ช่างพูดไม่ช่างยิ้มเหมือนพี่สาว แต่ชอบให้ใครๆเอาใจโดยเฉพาะดาเรน แบบนี้มีแย่งกันกับมะม๊านะเนี่ย เล่นเก็บปะป๊าไว้คนเดียวเลย.. ก็เจ้าแฝดคนนี้เหมือนเธอยังกับแกะพิมพ์ออกมาเลยนะนิโคล..
นิโคลสบตาผู้ใหญ่อีกคนที่เธอรู้สึกว่ามองเธอแปลกๆมานานแล้ว และเมื่อได้เห็นสายตาของดวงตาสีช็อกโกแลตเต็มๆแบบนี้ เธอรู้ดีว่าถึงความหมาย..
ชอบฉันใส่บิกินนี่ล่ะสิ..ดาเรน.. แต่เสียใจนะ ตอนนี้ลูกอยู่ เล่นด้วยไม่ได้หรอก เธอบอกหล่อนไปทางสายตา เลยโดนตัดพ้อกลับมาให้ยิ้มขำ ดาเรนจะบ้าหรือไง จะมาจูจุ๊บเร่าร้อนต่อหน้าลูก เป็นไปได้เหรอ.. แค่นี้ก็....
“ปะป๊าเป็นกบไหม..มะม๊า”
ดวงตาสีฟ้ากระพริบปริบๆ แปลกใจกับอะไรที่ได้ยิน นิโคลกับดาเรนมองหน้ากันงงๆ กว่าที่พวกเธอจะประมวลผลได้ เด็กไม่ช่างพูดก็พูดบ้าง สั้นๆแต่ชัดเจน
“เจ้าหญิงจุ๊บกบ กบกลายเป็นเจ้าชาย”
“มะม๊าก็จุ๊บปะป๊าบ่อยๆ” เด็กน้อยอีกคนเสริมเสียงใส หน้าตาใสๆบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรลึกซึ้งหรอก สองฝาแฝดแค่พูดแบบไร้เดียงสา หากแต่คนฟังกลับคิดว่า มันเป็นความไร้เดียงสาที่น่าตีน่าดู เจ้าตัวเล็กสองคนต้องแอบดูพวกเธอเวลาที่แอบมาทำหวานกันแน่ๆ เอาแล้วไง..ดาเรน...
“มะม๊าจุ๊บกบให้กลายเป็นปะป๊า”
เสียงใสอีกเสียงพูดขึ้นมาให้คนคิดมากอยู่แล้วเริ่มตาถลน นิโคลมองลูกสองคนสลับกัน พวกเขาดูเมามันส์กับเรื่องนี้น่าดู พอคนหนึ่งพูดอีกคนก็พูดเสริมกัน มันส์พะยะค่ะ ตอนนี้นึกอยากให้พวกเขากลับเป็นทารกพูดไม่ได้เหมือนเดิมแล้วสิ
“งั้นอมีเลียจะจุ๊บแอนเดรียให้กลายเป็นกบบ้าง”
“ไม่เอา! แอนเดรียไม่อยากเป็นกบ!” เจ้าเสือน้อยเถียง มือเล็กผลักหน้าพี่สาวที่ยื่นหน้ามาหา อมีเลียที่ขี้เล่นกว่าพยายามจะจุ๊บปากน้อง เลียนแบบพ่อแม่ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไร เป็นความไร้เดียงสาที่ร้ายกาจนัก ส่วนเจ้าแฝดน้องก็ทำท่าขยะแขยงแต่ก็กลัวจมน้ำไปด้วย มือหนึ่งดันหน้าพี่ อีกหนึ่งเกาะบอดี้การ์ดส่วนตัว ดูนัวเนียกันไปหมด คนที่ลอยคอในน้ำมองอยู่เริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เธอจะสงบศึกทางน้ำนี้ได้อย่างไร
“ดาเรน..” นิโคลหันไปหาตัวช่วย ปะป๊าคนสวยก็เอาแต่หัวเราะขำ ไม่ได้ดูตกใจอะไรสักนิด ยังคงทำหน้าที่เล่นกับลูกต่อไป ไม่ได้สนใจเรื่องกบหรือเรื่องจูบอะไรทั้งนั้น หรือนี่มันเป็นเรื่องปกติ.? ไม่ใช่แล้ว.. ในพจนานุกรมของเธอ เรื่องนี้น่าห่วงกว่าเรื่องไปโรงเรียนของพวกเขาซะอีก มาแอบดูพวกเธอสวีทกันได้ยังไง..
มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก.. แก่แดดเกินไปแล้ว... หญิงสาวเริ่มเครียด และดูเหมือนจะเครียดมากขึ้นเมื่อหูได้ยินบางอย่าง
“แอนเดรียคะ กบว่ายน้ำเก่งนะ ไม่เอาเหรอ เมื่อก่อนปะป๊าเป็นกบนะ ถึงได้ว่ายน้ำเก่ง โตแล้วถึงจะเป็นคน เพราะมะม๊า” คนได้ยินตาโตทันที นี่ดาเรนที่รักของเธอพูดอะไรออกไป หล่อนรู้ตัวไหม.. หล่อนคิดอะไรอยู่ตอนที่พูด หรืออยากให้ฝาแฝดจุ๊บกัน.. ไม่เอานะ เธอไม่ชอบซิสคอนฯ..
คุณแม่ยังสาวชะโงกหน้าไปมา พยายามหาทางทำให้คนพูดเห็นสีหน้าของเธอ ให้รู้ว่ากำลังตกใจ แต่ไม่เลย หล่อนไม่มอง เอาแต่เล่นกับเด็กๆ แต่มันจะเป็นอะไรไปล่ะ พวกเขายังเด็กตัวแค่นี้ เธอนั่นแหละที่คิดมาก...
ใช่แล้ว.. เธอนั่นแหละที่คิดมากไป สถานการณ์ตอนนี้กลับกลายมาเป็น พวกเด็กๆส่งเสียงฮือฮา ยกเรื่องใหม่มาเถียงกัน
“แอนเดรียไม่เป็นกบก็ว่ายน้ำได้”
“ไม่ได้ แอนเดรียว่ายไม่เป็นหรอก ต้องเป็นกบ!” อมีเลียเถียง หัวเราะขำ และแทนที่เขาจะทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบ อย่างการเข้าไปบังคับจูบปากแอนเดรียน้อย เจ้าหญิงน้อยๆนักกีฬาของเธอกลับเคลื่อนตัวหนีน้องสาวไปทั้งห่วงยางที่ความจริงไม่จำเป็นต้องใส่ เธอก็คิดว่าเขาว่ายได้แล้ว อมีเลียลอยห่างจากน้องไปนิดหน่อยก็หันมาส่งสายตาท้าทายแฝดของตัวเอง นิโคลนิ่งมองดูว่าแอนเดรียจะทำยังไงต่อไป เขายังจะเกาะดาเรนไว้แบบเดิมหรือจะปล่อยมือปะป๊าเพื่อตามพี่สาวที่ส่งเสียงล้อเลียนน้องไม่เลิก
“แอนเดรียจะเป็นกบๆ”
“ไม่เป็นๆ” คนน้องตะโกนกลับไปพร้อมวักน้ำนอกห่วงยางจงใจสาดไปยังคนพี่ แต่คราวนี้อมีเลียว่ายห่างออกไปแล้วเลยสาดไม่ถึง แอนเดรียเลยอึ้งไป แล้วร้องจะให้บอดี้การ์ดส่วนตัวพาไปแก้แค้นแต่ดาเรนทำแค่ยิ้ม
“อยากสาดอมีเลียให้ถึง ลูกต้องไปเองค่ะ ปะป๊าเป็นกบที่หมดแรงแล้วล่ะ”
ดาเรนพูดหน้าตาเฉย ส่วนเธอมองดูลูกสาวนิ่งตัดสินใจ แอนเดรียดูทั้งอยากจะว่ายตามพี่ทั้งยังกลัว อมีเลียก็ยังส่งเสียงล้อน้องไม่เลิกรา ทำไมเป็นแบบนี้ แล้วคราวนี้เธอควรทำยังไง แค่ลุ้นอยู่ตรงนี้หรือเข้าไปช่วย แต่ทำไมดาเรนไม่ช่วยลูก คิดขุ่นๆในใจ ก็ตกใจเพราะเสียงของคนที่ตนแอบว่า หล่อนพูดบางอย่างกับลูก
“แอนเดรีย.. ถ้าไม่อยากเป็นกบอย่างที่อมีเลียว่า ลูกต้องปล่อยปะป๊า แล้วค่อยๆว่ายไปหาพี่นะคะ”
“ไม่เอา แอนเดรียกลัวจม”
“ไม่จมค่ะลูก หนูใส่ห่วงยางอยู่นะ”
“แต่...”
“ไม่เชื่อ เดี๋ยวปะป๊าลองปล่อยหนูดูก่อนนะ รับรองไม่จมแน่นอน ปะป๊าเอาหัวเป็นประกันเลยจ้ะ” ดาเรนยืนยันและไม่ยอมฟังเสียงทัดทานของลูกคนเล็กที่พยายามเอื้อมมือเล็กๆดึงหล่อนไว้ หล่อนดึงตัวเองออกมาพร้อมปล่อยมือออกจากห่วงยางของเด็กน้อย แอนเดรียร้องกรี๊ดอย่างตกใจในตอนแรกพาให้เธอใจหายวาบ หากแต่ต่อมาก็เห็นเขายิ้ม และพูดร่าเริง
“แอนเดรียไม่จมๆ”
นิโคลมองลูกน้อยแฝดคนเล็กค่อยๆกระทุ่มน้ำเข้าไปคนพี่ เธอยิ้มให้กับความพยายามของเขา และความน่ารักของอมีเลียที่ยังอยู่คอยน้องสาวอยู่ในที่เดิม แสดงให้เห็นว่า พี่น้องรักกันจริงอย่างที่เธอคาด แต่ที่เธอไม่ได้คาดและไม่อยากเชื่อคือเรื่อง กบๆ จุ๊บๆ มันกลายมาเป็นกลยุทธ์ในการชวนลูกหัดว่ายน้ำได้ยังไง..
แต่ใครจะสนใจล่ะเรื่องนั้น.. ขอแค่ตอนนี้ได้เห็นพวกเขามีความสุข...
“พวกเค้าเก่งจังนะคะ ว่ามั้ย.?” ดาเรนที่ว่ายน้ำเข้ามาภรรยาพูดเสียงใส หากแต่ดวงตาสีช็อคโกแลตเป็นประกายใสยิ่งกว่าเวลาที่มันสบตากับดวงตาของหญิงสาวที่ตัวเองรัก และได้เห็นหล่อนยิ้มสุขใจ
“ฉันแทบไม่คิดว่าแอนเดรียจะกล้า กลัวเค้าร้องไห้แทบตาย” นิโคลพูดตามจริง และเรื่องจริงในความคิดของเธอ คือเธอคงจะพุ่งไปดึงลูกมากอดถ้าเขาร้องไห้ที่ถูกปะป๊าทิ้งให้ลอยคอตามลำพัง ยังไงคนเป็นแม่ก็ใจอ่อนทุกครั้งที่เห็นน้ำตาลูก ต่อให้เขาจะดื้อหรือแก่นแก้วสักแค่ไหน ต่อให้ทำผิดเท่าไหร่ก็ตาม แต่ความจริง ดาเรนเองก็แพ้น้ำตาลูกนะ ทำไมถึงยังกล้า...
“บอกตามตรงฉันก็กลัวค่ะ แต่ฉันยังเชื่อว่าแอนเดรียเข้มแข็งเหมือนนิกกี้” พูดยิ้มๆ อีกคนที่อึ้งๆอยู่ก็ยิ้มเขิน ก็เล่นมาชมกันตรงๆนี่นา ถึงจะเคยมาบ่อยแค่ไหนก็ยังไม่วายจะตื่นเต้นเวลาดาเรนชม ก็คนมันรัก...
“ปากหวานจริงๆ” นิโคลพูดหัวเราะกลบเกลื่อน พยายามจะเคลื่อนตัวหนีคนที่ชอบจี้จุดเขินแต่ก็พบตัวเองโดนดักหน้า
ดาเรนดำน้ำมาโผล่ตรงหน้าเธอเหมือนตอนที่เธอทำกับอมีเลียตอนแรกที่หย่อนตัวลงน้ำ เพียงแต่ตอนนี้เธอไม่ได้แค่ตกใจเหมือนที่ลูกเป็น ตื่นเต้นมากกว่าหลายเท่า ก็ดาเรนเล่นไม่โผล่มาเปล่าๆ หล่อนใช้แขนยาวรวบตัวเธอเข้าไปใกล้และพาเธอดำลงน้ำไปด้วยกัน และหล่อนจูบเธอใต้น้ำ...
อ่อนหวานและเต็มไปด้วยความรัก ตื่นเต้นและเร่าร้อน ถึงจะอยู่ในน้ำแบบนี้ก็ยังรู้สึก.. รู้สึกอยากถูกกอดถูกจูบแบบนี้ตลอดไป และอาจจะอยากถูกทำมากกว่านี้ ถ้าไม่คิดว่าตัวเองไม่ใช่นักดำน้ำจอมอึด ไม่ใช่ปลาหรือนางเงือก พวกเธออยู่ในน้ำนานขนาดนั้นไม่ได้ คงจะตายเสียก่อน หากแต่มันเป็นความหวาดเสียวที่คุ้มค่าน่าดู ความจริงคือเธออยากถูกหล่อนจูบนานแล้วตั้งแต่ที่รู้สึกว่าโดนสายตาหล่อนแทะโลมตอนที่ปลดผ้าขนหนูออกจากตัว
ดวงตาของดาเรนมักบอกอะไรมากกว่าปากของหล่อนเวลาที่ไม่ยอมพูดอะไร แต่บางครั้งปากของหล่อนก็ทำให้เธอรู้สึกเร่าร้อนและเข้าใจความรู้สึกของหล่อนได้ แม้ไม่ต้องพูดสักคำ อย่างตอนนี้...
แต่ว่า.....
“มะม๊าอย่าทำให้ปะป๊าเป็นกบอีกสิคะ”
“ใช่ๆ แอนเดรียไม่ชอบกบ”
สองเสียงที่แว่วเข้าหูพาให้เธอทั้งคู่สะดุ้ง ทั้งเธอและดาเรนไม่รู้เลยว่าผุดขึ้นมาจากใต้น้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นตอนที่จะหายใจไม่ได้แล้วนั่นแหละ แต่จะตอนไหนก็ช่างเถอะ เพราะมันสำคัญกว่าที่ว่าตรงนี้พวกเธออยู่ในสายตาของดวงตาสองคู่ที่จับจ้องไม่วางตา อมีเลียกับแอนเดรียเห็นพวกเธอสวีทกันอีกแล้ว...
“ปะป๊าไม่เป็นกบแล้วค่ะลูก ปะป๊าโตแล้ว” ดาเรนเป็นคนแรกที่ได้สติและผละออกไปก่อนใคร หล่อนทิ้งเธอและว่ายน้ำไปหาลูกสองคนที่ห่วงยางลอยคออยู่ในน้ำใกล้ขอบสระ กลับไปเป็นการ์ดประจำสระว่ายน้ำนี้เหมือนเดิม
ส่วนเธอพอได้สติกลับมาสมบูรณ์ก็นึกโกรธตัวเองที่ลืมลูกไปชั่วขณะ ถ้าพวกเขาสองคนจมน้ำไปจะทำยังไง เธอต้องขาดใจตายแน่ๆ บางทีอาจจะฆ่าตัวตายตาม.. ต้องจดเอาไว้ในหัวเลยว่า ห้ามทิ้งลูกไว้ตามลำพังในสระว่ายน้ำแบบนี้อีกครั้ง ไม่ว่าอยากจะจู๋จี๋กับปะป๊าของพวกเขาสักแค่ไหน...
“แต่มะม๊าบอกว่า มะม๊าเป็นแม่มด มะม๊าหายตัวได้” เสียงใสๆหนึ่งเสียงเถียงขึ้นมาอีก อมีเลียนั่นเอง เด็กที่เธอหลอกเล่นเมื่อครู่ ยังจะจำได้อีกนะ
“ใครว่า มะม๊าเป็นเจ้าหญิงตะหาก” อีกเสียงเถียงขึ้นมาเสียงแข็ง พร้อมวักน้ำแกล้งพี่สาวที่ก็ไม่เคยจะยอมแพ้กัน พยายามกอบน้ำส่งคืนให้น้อง ร้อนถึงการ์ดประจำสระคนเก่งต้องออกโรงห้าม
“ไม่เอาค่ะลูกๆ อย่าเถียงกัน ขึ้นกันดีกว่านะคะ เราแช่น้ำกันนานแล้ว จะไม่สบาย” ดาเรนชวนลูกสาวแต่แน่นอนพวกเขาไม่ยอม มองตรงมาหาเธอแทน และเธอรู้แล้วว่าควรทำอะไร
นิโคลว่ายน้ำไปหาลูกๆและสามี เอื้อมมือจับตัวลูกสาวสองคนในห่วงยาง จากนั้นก็จุ๊บปากน้อยๆของพวกเขาทีละคน พูดปนหัวเราะ “ลูกสองคนโดนคำสาปแล้ว ถ้าไม่รีบขึ้น ไม่รีบไปอาบน้ำในบ้านกับปะป๊า จะกลายเป็นกบกันทั้งคู่เลย กลัวมั้ย.?”
“ไม่เอาๆ” สองสาวน้อยกรี๊ดและรีบตะกุยตะกายน้ำไปยังขอบสระทั้งที่ว่ายก็ใช่จะเป็น แต่ยังพยายาม หรือว่ากลัวคำสาปจริงๆ เห็นแล้วก็ขำ...
ดาเรนตามตัวพวกเขาไปติดๆ หล่อนขึ้นไปข้างบนก่อนและค่อยก้มลงอุ้มลูกขึ้นทั้งห่วงยางทีละคนอย่างชำนาญ พาให้เธอยิ้มเอ็นดูทั้งลูกทั้งประทับใจสามี และคิดไปว่า ถ้าวันนี้ไม่ใช่ดาเรนที่อยู่กับเธอ ชีวิตของเธอจะเป็นยังไง จะมีความสุขแบบนี้ไหม..
ถ้าเปลี่ยนจากดาเรนเป็นผู้ชายสักคน เขาจะดีกับเธอแบบนี้หรือเปล่า เขาจะดูแลรักลูกแบบนี้ไหม หญิงสาวคิดในใจ ยอมรับว่าหัวใจเธอแกว่งเล็กๆเมื่อเห็นครอบครัวปกติที่โรงเรียน และคิดถึงความเป็นไปของลูกที่นั่น
“นิกกี้รีบตามมานะคะ” เสียงหล่อนดังแว่วมา พาเธอกระพริบตาออกจากภวังค์ และนาทีหนึ่งที่เธอสบตาหล่อนและมองเห็นสายตาของลูกทั้งสองที่มองปะป๊าหน้าสวยของเขา เธอก็ได้คำตอบให้กับตัวเอง...
ความรักของพวกเธอ พ่อแม่ลูก เข้มแข็ง ความผูกพันหนักแน่นพอที่จะเป็นเกราะปกป้องให้พวกเขาสู้กับโลกภายนอกได้ และไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรในภายภาคหน้า พวกเธอทั้งหมดจะสู้มันไปด้วยกันอย่างแน่นอน และเธอก็จะปกป้องพวกเขาให้ได้ ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ
แม้เวทย์มนต์ของแม่มดอย่างเธอจะมีแค่เพียงความรักตัวเดียวเท่านั้นเอง...
..........................................
:875328cc: