web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 6
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 11
Total: 11

ผู้เขียน หัวข้อ: Runaway Bride vol.3 Chapter 2 : สัญญาเมื่อสายัณห์  (อ่าน 2986 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Runaway Bride vol.3 Chapter 2 : สัญญาเมื่อสายัณห์
« เมื่อ: 27 ธันวาคม 2013 เวลา 23:31:09 »


Chapter 2 : สัญญาเมื่อสายัณห์


ยังเหลือเวลาอีกสามวันก่อนที่สองฝาแฝดจะต้องไปโรงเรียน มันจึงเป็นโชคดีของเธอที่จะมีเวลาเหลือพอที่จะมาช่วยใครบางคนจัดงานสำคัญของเขา งานที่พวกเธอก็รอมานานแสนนาน เหมือนกับผู้หญิงอีกคนที่เฝ้ารอมาเกือบทั้งชีวิต และเธอก็เชื่อว่า ในวันนี้นางคงจะสมใจสักที..

มีลูกสะใภ้พร้อมกับมีหลานเลย...

“ป้างงมากเลยนะนิกกี้ บทที่เค้าจะเร็วก็ทำเสียจนป้าอึ้ง ปรับตัวไม่ทัน” แอนนิต้าบ่นพลางช่วยอีกสาวหาชุดสวยๆให้เด็กน้อยสองคนใส่ อมีเลียกับแอนเดรียต้องออกงานอีกแล้ว ได้สนุกก่อนไปโรงเรียนแล้วล่ะ

“หนูก็เหมือนคุณป้าแหละค่ะ ถ้าดาเรนไม่มาบ่นว่า พักนี้เพนนีท่าทางแปลกๆ หนูก็คงไม่เอะใจไปถามเจสหรอก ทำอะไรไม่เคยจะบอกเลย” นิโคลบ่นแต่ปากยิ้ม สมองเธอจินตนาการถึงภาพเด็กทารกหน้าตาน่ารักที่มีส่วนผสมของสองคนที่เธอนั่งลุ้นอยู่นานหลายปีว่าเมื่อไหร่จะลงเอยกัน คิดแล้วก็มีความสุขแต่เธอคงจะไม่สุขมากเท่าคนที่จะเป็นคุณย่าให้อนาคตอีกไม่นานคนนี้หรอก

“เหรอจ๊ะ งั้นตกลงว่า ลูกสะใภ้ป้าท้องจริงๆใช่ไหม.?” ถามเหมือนไม่เชื่อแต่ใจก็เชื่อไปแล้วเกินกว่าครึ่ง ก็เห็นมากับตาว่าลูกสะใภ้คนที่ว่ามีอาการแพ้ท้องจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น แถมลูกตัวเองยังเอาผลตรวจมาให้อีก จะไม่ให้เชื่อหมอก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว แล้วจะเชื่อใคร

“จริงค่ะ คุณป้าไม่รู้หรอกว่า แม่คนนั้นบ่นจนหูหนูแทบชาไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ตอนนั้นหนูก็เป็น มันเหนื่อยมากเลย”

“ป้ารู้ดีจ้ะ แต่ป้าคิดว่า ตอนที่หนูท้องเจ้าแฝดน้อยน่าจะหนักกว่านะ”

นิโคลพยักหน้ารับ เธอหวนคิดถึงตอนที่ตัวเองตั้งครรภ์เมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว ท้องแฝดหนักหนาจริงๆ เธอต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นจนดาเรนแทบจะไม่ได้พักผ่อน หล่อนผอมไปมากทีเดียว ทั้งต้องดูแลเธอทั้งต้องทำงาน ตอนนี้เลยหวังว่ากับเพนนีคงไม่หนักขนาดนั้น สงสารเจสสิก้า ปกติเขาก็งานหนักอยู่แล้ว แต่คุณหมอคงรู้ตัวดี เลยให้ว่าที่ภรรยามีเบบี๋แค่คนเดียว ฉลาดเหมือนเดิม..

“นั่นก็เป็นเรื่องฉลาดที่หนูต้องขอชมเจสค่ะ คุณป้าคิดแบบนั้นไหมคะ” หญิงสาวถาม ผู้ใหญ่ใจดีข้างๆก็ยิ้ม ไม่ว่าอะไร คล้ายๆจะยอมรับไปแล้ว กระนั้นเธอก็ยังอยากรู้บางอย่างอยู่ “เอ่อ..คุณป้าคะ คุณป้าโอเคกับเพนนีแล้วนะคะ”

ถามไปแล้วก็ลุ้นกับคำตอบ ก็รู้อยู่ว่า นางไม่ค่อยจะชื่นชมแฟนใหม่ของลูกสาวเท่าใดนัก แต่ก็ยังคิดว่า คนเป็นแม่คงจะยอมหากลูกยืนยันว่าสิ่งที่ทำอยู่ทำให้เขามีความสุข เพราะถ้าเป็นเธอ เธอก็ยอมรับในสิ่งที่ลูกเลือก หากมันไม่ได้ผิดร้ายแรง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน..

“บอกตามตรงนะจ๊ะ เรารู้กันสองคนนะนิกกี้ ความจริงถ้าป้าเลือกได้ ป้าก็อยากจะได้หนูมาเป็นลูกสาวอีกคนมากกว่า แต่ในเมื่อเลือกไม่ได้ ป้าก็ยอมรับสิ่งที่เจสเลือกจ้ะ ป้ายังไว้ใจเค้า” แอนนิต้าบอกเสียงซึมเล็กน้อย แต่ปากยังมีรอยยิ้มอยู่ คนฟังจึงพอจะโล่งใจได้บ้าง และพวกเธอก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องชุดกันต่อเพราะเจ้าแฝดตัวน้อยกับปะป๊าของเขาโผล่มาแล้ว

มาได้เวลาเหมือนกันนะ เหมือนจะรู้ว่าเธอใกล้จะอึดอัดแล้วแน่ะ

“มะม๊าๆ ดูสิๆ” แอนเดรียเรียกคุณแม่ คุณแม่ก็ละมือจากของที่ดูอยู่ไปดูลูกสาวสุดเลิฟสองคนแทน และคิดไปว่า ชุดออกงานของเด็กๆน่ารักจริงๆ

“ว้าว.. ลูกสาวมะม๊าน่ารักทั้งคู่เลย งั้นก็ไม่ต้องเลือกชุดใหม่แล้วเนอะ” นิโคลถลาไปย่อตัวตรวจดูเครื่องแต่งตัวของลูกที่พวกเขาภูมิใจนำเสนอ เธอเงยหน้าขึ้นมองดาเรน ขอความเห็นหล่อน ปะป๊าหน้าสวยพยักหน้ายิ้มแป้นราวจะบอกว่า ลูกสาวตนน่ารักที่สุดแล้ว เธอหัวเราะและขยับเข้าไปหอมแก้มหล่อนให้รางวัล ลืมคิดไปว่า นอกจากพวกเธอ มีใครอีกคนยังอยู่ตรงนี้ จนกระทั่งได้ยินเสียงแซว

“แหม.. ป้าอิจฉาตาเฮนรี่กับยายเอมมี่จริงๆเลยนะ”

นิโคลกับดาเรนหันไปมองคนพูดแล้วยิ้มเขินกันทั้งคู่ เพิ่งรู้ตัวว่าสวีทกันต่อหน้าต่อหน้าผู้ใหญ่ หากแต่แอนนิต้าก็โบกไม้โบกมือว่าไม่เป็นไร เชิญตามสบายให้พวกเธอ แต่ถึงอย่างนั้น ใครจะกล้าทำกันอีกล่ะ อายนะ...

“คุณลุงแฟรงค์จะมาพร้อมคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมคะ” ดาเรนถามขณะพากันเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้า เธอเดินจูงมือแอนเดรียขณะที่นิโคลจัดการกับอมีเลียที่ชวนคุยนู่นนี่ตลอดทาง พวกเธอต้องแบ่งลูกคนละคนกัน เนื่องจากความสามารถในการรับมือลูกสาวแตกต่าง แต่มันก็ลงตัวดีทีเดียว

ผู้ใหญ่ที่เหลียวมองดูเด็กๆสองคนอยู่เป็นระยะหันมาสนใจคนถามบ้าง นางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มสุขใจ “ตาแฟรงค์เป็นพวกร่ำไรน่ะจ้ะ มาพร้อมป้า ป้าคงจะหงุดหงิดใส่เขา ก็เลยให้มาพร้อมพ่อแม่เราซะเลย คงไม่เห็นตาแก่นั่นเป็นภาระกับพวกเขาหรอกนะดาเรน”

“โอ้.. ไม่เป็นแบบนั้นหรอกค่ะ คุณลุงเป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว ว่าแต่คุณป้าเจอพ่อแม่ของเพนนีเรียบร้อยแล้วนะคะ” ดาเรนถามด้วยความห่วง จากนั้นก็ได้เจอข่าวที่น่าห่วงกว่าเดิม

“เจอแล้วจ้ะ พวกนั้นทำให้ป้าเครียดเหมือนกัน” แอนนิต้าถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความจริงไม่อยากเล่าถึงเท่าไหร่ อยากให้เจสสิก้าหรือเพนนีเป็นคนที่พูดเอง แต่คงเป็นไปไม่ได้ สงสารคนอยากรู้ สงสารคนเป็นห่วงคนนี้

“มีอะไรเหรอคะ พวกหนูพอจะช่วยได้ไหม..”

“ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกจ้ะ แค่ตาไบรอันกับคุณนายวิกกี้อยากจะให้ลูกสาวกลับไปคลอดที่บ้านเกิด และจะช่วยลงทุนทำโรงพยาบาลให้เจสที่นั่น”

ประโยคนี้ทำให้ดาเรนหันไปมองนิโคลที่เดินรั้งท้ายอยู่ทันที เชื่อว่าหล่อนก็ได้ยินเลยหน้าตาไม่สู้ดีเท่าไหร่ ก็เจสสิก้าเคยสัญญาไว้ว่าจะอยู่ที่นี่จนเป็นพลเมืองที่นี่ และตัวเธอเองก็คงจะคิดถึงหล่อนมาก หากต้องแยกย้ายกันไป

“แล้วคุณป้าว่ายังไงคะ” ถามร้อนใจ ผู้ใหญ่ตรงหน้าส่ายหน้าเหมือนสิ้นหวัง ใจเธอก็ยิ่งสลด “คุณป้าตามใจพวกเค้าใช่ไหมคะ” ดาเรนทำท่ารู้ทัน ก็พอรู้จักนิสัยกันดี แอนนิต้าอาจจะดูดุและเจ้าระเบียบกับลูก แต่เอาเข้าจริงก็ตามใจมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่ปล่อยให้คุณหมอขอยืดเวลาขีดเส้นตายง่ายๆแบบนั้นหรอก คราวนี้ก็คงเหมือนกัน ถ้าเจสสิก้าตกลง นางก็คงจะไม่ว่าอะไร

“ป้าก็แล้วแต่เค้าล่ะลูก แต่ดูเหมือนเจสจะไม่ตกลงนะ” แอนนิต้าบอกหน้าเครียด คนฟังสองคนเลยทำท่างง คงต้องเฉลย “พอเจสจะไม่ยอม พ่อตาแม่ยายก็โกรธน่ะสิ เค้าว่าทางเราชอบบงการ ควบคุมลูกเค้าทุกอย่าง”

“อะไรกันคะ อย่างเพนนีเนี่ยเหรอ ที่ยอมให้เจสควบคุม ทำเหมือนไม่รู้จักลูกตัวเอง” นิโคลแหลมเข้ามาทันที มันอดใจไม่ไหว ก็เธอรู้เธอเห็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณหมอ หล่อนมีอะไรก็ปรึกษาเธอตลอด แม้กระทั่งเรื่องขอสาวแต่งงานคราวนั้น ก็มีแค่เรื่องที่หล่อนไปแอบทำลูกเท่านั้นที่มาทำเซอร์ไพร์ส

“จ้ะ ป้าก็พอรู้ว่าปกติเจสจะตามใจแฟนเสมอ แต่เรื่องนี้ป้ากลับไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ กลัวว่า....”
ดาเรนและนิโคลมองหน้ากัน เพราะสายตาของผู้ใหญ่ตรงหน้าที่เหมือนจะบอกว่า มันมีบางอย่างเกี่ยวกับพวกเธอสองคน หรืออีกทีก็เกี่ยวกับพวกเธอทั้งหมด และมันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสัญญาที่คุณหมอมีเอาไว้ให้ และในที่สุดก็เป็นคนที่รู้ดีในเรื่องนี้ ตัดสินใจออกมา

“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณป้า เรื่องนี้ยกให้หนู” นิโคลพูดอย่างมาดมั่นท่ามกลางสายตาที่มองมาด้วยความรู้สึกหลายอย่างจากทุกคน ทั้งจากลูกสองคนของตัวเองที่ไม่รู้เรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกัน สายตาประหลาดใจของแอนนิต้า และแววตาตื่นตกใจของดาเรน หากแต่เธอก็สนใจมันน้อยเต็มที เพราะตอนนี้เธอคงจะต้องเตรียมตัวสู้ทั้งกับตัวเองและเจสสิก้า เพราะหล่อนกับเธอที่วางสัญญาต่อกันไว้ ก็คงจะมีแต่เธอกับหล่อนเท่านั้นที่จะจัดการมันเอง และเธอก็คิดแล้วว่า...

ถ้าคำสัญญาทำให้ใครอีกคนต้องลำบากในการรักษา จะมีไว้เพื่ออะไร.?

....................................

เพนนีมือสั่นขณะเลื่อนมันไปตามท้องน้อยของตน เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า มันมีอีกชีวิตอยู่ในท้องของเธอแล้ว ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนยอมให้อีกคนใส่เขาเข้ามา ก็คงจะยังคิดว่านี่เป็นเรื่องโกหก

“ไม่ต้องกลัวหรอกจ้ะ เธอยังใส่ชุดเดิมได้ ตอนนี้เขายังเป็นแค่ตัวอ่อนเท่านั้น” เสียงที่ดังมาด้านหลังพร้อมอ้อมแขนอบอุ่นทำให้ใจเธออุ่นขึ้น หวาดกลัวน้อยลง เริ่มมั่นใจว่าหล่อนจะอยู่เคียงข้างเธอแม้ในวันที่เจ็บปวดที่สุดในอีกเก้าเดือนข้างหน้า แต่ก็แน่ล่ะ ในเมื่อหล่อนจะเป็นหมอที่ทำคลอดให้เธอไม่ใช่ใครที่ไหน คิดแล้วก็สบายใจขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ห่วงเรื่องที่จะอายหมอคนอื่น แต่ถึงตอนนั้นจริงต่อให้อายแค่ไหน ก็ต้องยอมให้ใครก็ไม่รู้มาดูอยู่ดีนั่นแหละ

“คุณสมใจแล้วสิที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ได้” เพนนีทำบ่นแต่ที่จริงเธอดีใจที่ได้ทำแบบนี้ ถึงจะกลัวแค่ไหนเรื่องคลอดลูก แต่เมื่อนึกถึงเจ้าฝาแฝดตัวเล็กที่เธอเป็นพี่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ เห็นความน่ารักของพวกเขา เห็นตอนที่คุณหมอที่รักของเธอดูแลอุ้มชูพวกเขามาด้วย เธอก็พบตัวเองมีความสุข

เจสสิก้าน่ารักเมื่ออยู่กับเด็ก แต่เธอก็ยังไม่วายจะแอบกลัวว่า หากมีลูกของตัวเองจริงๆแล้ว หล่อนจะดูรักลูกแบบนั้นไหม อย่าให้ลูกของพวกเธอกลายเป็นลูกอิจฉาก็แล้วกัน แต่นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคุณหมอคนนี้แล้วล่ะ หล่อนจะใส่ใจลูกตัวเองเหมือนลูกคนอื่นหรือเปล่า หวังว่าคงไม่ทำให้เธอผิดหวังที่ไว้ใจ...

คุณหมอคนสวยไม่ตอบ กลับเดินไปข้างหน้าและนั่งลงตรงหน้าว่าที่เจ้าสาวและแม่ของลูก สองแขนโอบรอบเอวที่ยังบางอยู่ของหล่อน ใบหน้างามซบลงกับท้องของเพนนี ถึงสิ่งมีชีวิตในท้องหล่อนจะยังโตไม่พอที่จะเคลื่อนไหวให้เธอรู้สึกได้ หากแต่หัวใจก็รับรู้ไปแล้วว่า เขาอยู่ในนั้น และเธอก็หลงรักเขาไปเสียแล้ว..

ใจง่ายจริงๆ..

“อยากให้ลูกชื่ออะไรจ๊ะ” ถามไปกับว่าที่คุณแม่ และมองตากันเมื่อหล่อนก้มหน้าลงหา มือบางลูบหน้าผากเธออย่างถนอม จนรู้สึกได้ถึงความรักจากหัวใจหล่อน ตอนนี้เธอแน่ใจตัวเอง เธอเลือกคนไม่ผิด ถึงหัวใจกว่าครึ่งจะมอบให้ผู้หญิงอีกคนไปแล้ว แต่ส่วนที่เหลืออยู่นี้ยกให้หล่อนทั้งหมด เลิกเจ้าชู้เด็ดขาด แม้สายตาอาจจะมองดอกไม้ดอกอื่นบ้าง แต่มือเธอจะไม่คิดหยิบมันขึ้นมาเชยชม

“แล้วแต่คุณดีไหม.. ฉันไม่ถนัดเรื่องนี้เลย แต่รู้ว่าคุณถนัด” เพนนีตอบเสียงราวสาวน้อยเพ้อฝัน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอหลงต้องมนต์ความอ่อนหวานของคุณหมอจอมเจ้าชู้ เจสสิก้าถึงจะไม่เคยบังคับอะไรเธอ หากแต่อำนาจของหล่อนก็ดูเหมือนจะเหนือเธอทุกอย่าง แน่นอนเพราะเธอมักจะตามใจคนรักเสมอ ก็มันรัก..

แค่หวังว่า คนที่เธอรักจะไม่ทำร้ายเธอด้วยความรักของเธอเอง มันคงเจ็บน่าดูชม.. และฉันขอร้องคุณได้ไหม.. อย่าทำ...

“อืมเหรอ.. แต่ฉันอยากให้เธอคิดนะ อีกอย่างเธอมีเวลาอีกตั้งหลายเดือนก่อนที่เค้าจะคลอด หรือว่ายังไงดี..” คุณหมอถาม เพนนีทำท่าคิด เม้มปากน้อยๆ ไม่ได้รู้หรอกว่า ท่าทางของตัวเองทำให้อีกคนหมั่นเขี้ยว และตนจะโดนอะไรถ้าทำ ทั้งที่ก็โดนมาบ่อยตั้งแต่เป็นแฟนกันจนวันนี้ที่ได้เป็นคู่ชีวิต หรือว่าตั้งใจจะให้โดน..

“อย่าทำแบบนั้นสิ อย่าทำลายของหวงของฉัน” เจสสิก้าแกล้งโวยวาย อีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็ทำหน้าตาแปลกใจ

คนขี้แกล้งยิ้มและลุกขึ้นยืน มือหนึ่งยังกุมท้องอีกสาวขณะปล่อยให้อีกมือโอบหล่อนเข้ามาหาตัวเอง ปากเธอจัดการแยกริมฝีปากบนกับล่างของหล่อนออกจากกัน เพนนีอาจจะตกใจแต่ก็เหมือนจะคิดไว้แล้ว หล่อนจึงโอนอ่อน ยอมให้ลิ้นร้อนๆเข้าไปสำรวจในปาก ครางลึกเมื่อรู้สึกถึงอารมณ์รักที่ถูกยัดเยียดให้ มือตนดึงมือที่อยู่ที่ท้องตัวเองขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แต่เจ้าของมือรู้ว่าควรทำยังไง

“อีกหน่อย.. ฉันคงจับเธอแรงๆไม่ได้แล้ว รู้ไหม..เพนนี” คุณหมอกระซิบขณะมือกอบกุมก้อนเนื้อคัพบีขึ้นมา เธอก้มหน้าลงตั้งใจจะทำให้ตัวเองอิ่มหนำกับเรือนกายสาวสะพรั่งของว่าที่เจ้าสาวเมื่อหล่อนเองที่ยอมยกมันให้เธอเต็มที่ เต็มใจให้เธอนวดเค้น ดูดดื่มกับมัน มิหนำซ้ำยังยอมปลดเสื้อและบราของตัวเองออกเองอีกต่างหาก ทรวงอกขาวจึงเด่นตระการตาเธอให้ต้องแอบเลียปากตัวเองด้วยความอยากที่ไม่เข้าใครออกใคร ถึงอย่างนั้นสมองก็ยังคิดว่ามันแปลกอยู่...

แปลกใจเล็กน้อยที่ปกติเพนนีจะไม่ใช่คนกล้ามากนักเรื่องเริ่มก่อน หล่อนต้องรอให้เธอปลุกอารมณ์จนทนไม่ไหว แต่มันคงเปลี่ยนไปจากฮอร์โมนของสาวท้องอ่อนๆ ระบบการทำงานในร่างกายหล่อนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงทีละน้อย และเธอก็รู้ว่า กับว่าที่คุณแม่ทุกคนจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่ต้องการมีเซ็กส์ไปเลยเพราะไม่สบายตัวจากการแพ้ท้อง อาจจะนึกโกรธสามีที่ทำให้ตัวเองต้องทรมาน บางคนก็กลัวว่าการมีเซ็กส์จะทำให้แท้งลูกจึงไม่ยอมให้สามีแตะต้องตัวทั้งที่มันเป็นความคิดที่ผิด ผู้หญิงท้องมีเพศสัมพันธ์ได้ หากรู้จักประมาณตัว หากแต่มันก็เป็นแค่อาการทางจิตชนิดหนึ่งเท่านั้น ที่หวังว่าจะไม่เกิดกับคู่ของเธอ และเธอคิดว่าไม่ เพนนียังต้องการ บางทีหล่อนอาจจะเป็นประเภทที่สองที่ฮอร์โมนกระตุ้นความต้องการทำให้โหยหาความรักและการดูแลทางเซ็กส์

“คุณก็ถนอมฉันหน่อยสิ” เพนนีตอบเสียงสั่น เธอรู้สึกต้องการจนแทบทนไม่ได้ ไม่เคยเป็นขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้ถึงจะมีแค่โซฟาเธอก็คงจะยอมโดนบอกรักแบบนี้ โชคดีที่พวกเธออยู่ในห้องนอน เธอกำลังลองชุดแต่งงานอยู่ แต่คงต้องลองต่อหลังจากนี้แล้วล่ะ เธอไม่มีใจจะสนใจมันแล้ว และเธอยิ้มพอใจเมื่อแผ่นหลังสัมผัสที่นอน พร้อมด้วยร่างกายของอีกคนที่ขึ้นคร่อม ได้เห็นหล่อนปลดพันธนาการเสื้อผ้าออกจากตัวเอง

“คุณสวยมาก.. ทำฉันอายทุกที..” ว่าที่เจ้าสาวและคุณแม่บอกเหมือนบ่นแต่อีกคนพอเข้าใจ เพนนีไม่ค่อยจะมั่นใจในสรีระของตัวเอง ทั้งที่ก็สวยในแบบที่ตัวเองมี มันเหมาะแล้ว จะมาหน้าอกใหญ่ทั้งตัวเล็กเท่านี้ มันจะดีหรือไง...

เดี๋ยวก็เดินหลังค่อมกันพอดีสิ มันจะหนักจนเกินแบกไหวนะ

“อายทำไมล่ะ เธอเองก็สวย อีกหน่อยก็ยิ่งจะสวยเมื่อเธอเป็นแม่”

คนฟังรู้สึกตัวเองหน้าแดงแล้ว ความร้อนที่สองแก้มมันบอก และเพื่อป้องกันตัวเองจากความอาย เธอจึงเบนความสนใจคนพูดออกจากเรื่องนี้ด้วยการดึงหล่อนเข้ามามอบจูบหวาน และพบตัวเองสั่นสะท้านภายใต้มือหล่อนที่ค่อยๆไล้ขึ้นมาเรื่อยๆที่ต้นขาตน เพราะเป็นหมอสูติฯหรือเพราะหล่อนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน จึงรู้ว่าควรปลุกความตื่นเต้นของเธอได้อย่างไร หรือเพราะประสบการณ์มากรักของคนเจ้าชู้ คู่ขาที่ผ่านมา มีมากี่คนแล้ว ก็ไม่อยากจะนับหรือรับรู้หรอก แค่บางครั้งก็ยังสงสัย เธอมีดีพอหรือไร หล่อนจึงเลือก เลือกเป็นเจ้าสาว เลือกเป็นแม่ของลูก...

“คุณแน่ใจแล้วนะที่เลือกฉัน.?” ปากสั่นด้วยอารมณ์รักยังอุตส่าห์จะพูด คนที่ระเริงรื่นกับทรวงอกของเธออยู่เลยเงยหน้าขึ้นมามองสงสัย เจสสิก้าคิดว่านี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นยี่สิบคำถามกัน แต่ถ้าไม่ตอบมันจะได้หรือ..

“แน่ใจที่สุดเพนนี ฉันรักเธอ”

ฟังคำตอบคนถามก็เผยยิ้มถึงจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะความเจ็บหนึบๆที่เกิดขึ้นเพราะเรือนกายถูกสอดแทรกอย่างไม่ให้สัญญาณ หากแต่ความต้องการที่มากกว่าความเจ็บพาให้เธอยินยอมถูกทรมาน แต่คุณหมอก็เหมือนจะรู้ว่าควรทำยังไงให้เธอหาย เรือนกายขาวกระจ่างราวหิมะต้องพระอาทิตย์จึงเลื่อนตัวลงไปจัดการมันให้ หล่อนเพิ่มอารมณ์รักร้อนให้เธอด้วยลิ้นร้อนที่อ่อนโยน ช่วยกระตุ้นจุดอ่อนไหว ไม่นานเกินรอ เธอก็พบดาวสุกสกาวกลางใจ หญิงสาวกรีดร้องไม่ต้องกลัวอายใคร ก็เธออยู่กันสองคน อ้อมแขนที่อ่อนโยนโอบกอดเธอดึงเธอมาแนบอกอุ่น และถึงจะเหนื่อยแต่เธอรู้ว่าหล่อนยังไม่ได้....

“รอแป๊บนะเจส ขอพักนิด”

“ไม่เป็นไรเพนนี ฉันโอเคแล้ว”

คุณหมอบอกเสียงใจดี คนฟังก็เกือบจะเชื่อแบบนั้น หากไม่ได้ยินเสียงหล่อนแอบกลืนน้ำลายเอื๊อก เธอจึงเลือกไม่ฟังที่หล่อนบอก พอจับลมหายใจได้แล้วก็ลุกขึ้นมานั่งคร่อมตัวกัน เห็นรอยยิ้มรู้ทันจากว่าที่คุณสามี “คุณรู้นี่ว่า ฉันไม่ยอมหรอก”

เจสสิก้าหัวเราะ และเสียงขาดหายเป็นเสียงอื่นทันทีที่กลับเป็นฝ่ายถูกบริการบ้าง ร่างกายหล่อนอ่อนไหวมากมาย ไม่ทันไรก็แสดงอาการโหยหารักอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งเธอยังแอบคิดว่าแค่สิ่งที่เธอมีมันไม่เพียงพอที่หล่อนต้องการ แต่บางทีเธอก็คงแค่คิดมาก ความไวต่อสัมผัสของตัวคุณหมอพาให้หล่อนแตะสวรรค์หลังจากเธอเพียงไม่นาน ใบหน้างามเข้ามาซุกหว่างอกเธอเหมือนทุกครั้งที่เสร็จกิจ ทำเหมือนเป็นลูกเธออย่างนั้น

“คุณชอบทำเหมือนเด็ก..” เพนนีวิจารณ์ อีกสาวที่เธอนึกว่าหลับแล้วส่งเสียงหัวเราะเบาๆ และยังไม่ยอมขยับตัวออกจากอกเธอ “ทำกับคนอื่นแบบนี้ไหมเนี่ย รู้นะว่าเคย..”

“ก็เคยแหละ แต่ไม่มีความสุขเท่านี้..”

คราวนี้ดวงตาสองสีได้พบกัน เจสสิก้ายิ้มอ่อนโยนก่อนเข้ามาประกบปากกับอีกสาว กระซิบในจูบ “ต่อไปนี้เธอจะเป็นที่หนึ่งของฉัน My wife”

“ปากหวานไปเรื่อย” คนช่างเขินพูดขัดแต่พบตัวเองยินยอมถูกกอดไว้แนบอกคนตัวใหญ่กว่าเมื่อหล่อนสับเปลี่ยนตำแหน่งให้ตนนอนทับ แต่ยังไม่ลืมอายต่อเมื่อหล่อนพูดอีก

“ก็เธอชอบให้ฉันหวาน ฉันรู้นะ”

เพนนีอึ้งไปสักพักและทุบอกอีกคนเบาๆ ยังระวังกลัวว่าจะเจ็บ “คนบ้า ฉันกลัวลูกเป็นเหมือนคุณจัง ฉันต้องเตรียมปวดหัวมั้ยเนี่ย..”

คุณหมอไม่ตอบทำแค่ยิ้มและกอดกระชับว่าที่ภรรยา ว่าที่แม่ของลูกเอาไว้แนบตัว หัวใจเธอเต้นอย่างสงบขณะที่จรดริมฝีปากกับหน้าผากเพนนีที่กอดตอบกลับมา หล่อนดูเหมือนจะหลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อน นั่นเองที่เธอมีโอกาสถอนหายใจด้วยความกังวล ถูกต้องเธอมีความสุขดีที่เลือกผู้หญิงคนนี้เป็นเมียและแม่ของลูก แต่เรื่องพ่อตาแม่ยาย กลับเป็นอะไรที่ไม่เคยคิดถึงเลย..

บอกตามตรง เธอลืมไปเลยว่า หลังจากแต่งงานแล้ว จะต้องเจออะไรอีกนอกจากเจ้าหน้าที่ที่จดทะเบียนสมรสให้ แต่กระนั้น เธอยังมั่นใจว่า จะสามารถผ่านมันไปได้ ถ้าคนที่ตัวเองกอดอยู่ตรงนี้ให้ความร่วมมือ..

ใช่.. ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตอย่างที่เราเคยมีที่นี่ด้วยกัน...

กับพวกเค้า...

เธอรักพวกเค้าเหมือนกันหรือเปล่าล่ะเพนนี...




...............................

 :875328cc:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.