web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 136
Total: 136

ผู้เขียน หัวข้อ: แพร่งหัวใจ บทที่ 5  (อ่าน 1912 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
แพร่งหัวใจ บทที่ 5
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 06:30:38 »






บทที่ 5

เด็กสาวตื่นแต่เช้า เนื่องจากวันนี้คณะของเธอมีกิจกรรมรับน้อง หล่อนคิดว่าไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นการจัดกันเองของพวกรุ่นพี่ จึงแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อยืดสีฟ้าสดใสกับกางเกงยีนสีน้ำเงินซีดเข้ารูป กางเกงขายาวทำให้เธอดูสูงขึ้นเล็กน้อย ปองกานต์ไม่ใช่คนตัวเตี้ย หล่อนสูงร้อยหกสิบกว่า แต่ถ้าเทียบกับปอที่เกือบร้อยเจ็ดสิบ ทำเอาความมั่นใจลดลงไปเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

น้ำหวานอดหวนคิดถึงเรื่องเมื่อวานและเมื่อคืนอีกครั้งไม่ได้ มีบางวูบที่เธอคิดว่าการตัดสินใจแบบนี้เป็นความคิดที่ผิด เกิดมีใครรู้เข้า หรือปารย์ไม่รักษาสัญญาล่ะก็ทุกอย่างเป็นอันจบ คนผมยาวไม่ชอบเลยที่ต้องพึ่งคนอื่นแบบนี้ ไม่มีใครไว้ใจได้เท่ากับตัวเองและครอบครัว

ช่างมัน ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อยู่แล้วนี่ คนจมูกงอนถอนหายใจเล็กน้อย และเดินไปที่ตึกสีขาวของคณะบริหารธุรกิจอย่างไม่รีบเร่ง เธอเผื่อเวลาไว้มากพอ

เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นที่บริเวณโถงชั้นล่างของตึก สาวร่างบางเดินเข้าไปข้างใน พยายามมองหาเก้าอี้นั่งแต่ทุกที่ถูกจับจองจนไม่มีที่ว่าง หล่อนเลยยืนพิงเสาแทน รอให้กิจกรรมเริ่มต้นขึ้น

"เธอๆ" เสียงเกือบห้าวดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล ปองกานต์ละสายตาจากผู้คนมากมายมามองหาต้นเสียง และก็พบว่าคนๆ นั้นเป็นทอมหน้าตาดีคนหนึ่ง

"มีอะไรเหรอ" เธอยิ้มให้อย่างเป็นมิตร น้ำหวานทำบ่อยและทำเป็นประจำเสียจนทุกอย่างเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

"เปล่าหรอก แค่จะถามว่าเธอชื่ออะไรเหรอ ผมชื่อต้น" เขายิ้มกลับมา สาวนัยน์ตาเข้มมองรอยยิ้มของอีกฝ่าย แก้มทั้งสองข้างมีลักยิ้มเล็กๆ ทำให้ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย ผมตัดสั้นมาอย่างดี เพื่อนใหม่ใส่เสื้อคอปกสีดำ เนื้อผ้าเรียบเนียน เพียงแค่มองก็รู้ว่าเป็นของมียี่ห้อ

"เราชื่อน้ำหวาน เรียกหวานเฉยๆ ก็ได้สั้นดี" เธอสำรวจเขาไปเรื่อยๆ ขณะพูดเพื่อที่จะได้ไม่ผิดสังเกตหรือน่าเกลียดเกินไปนัก

เขาสูงใกล้เคียงกับหล่อน ตัวก็บางพอๆ กัน ต่างกันแค่หญิงสาวเป็นคนกระดูกเล็กเลยดูกลมกลืน แต่อีกฝ่ายกระดูกใหญ่มองผาดๆ จึงดูผอมเกินกว่าที่ควรเป็น

"เราน่าจะทำความรู้จักกันมากกว่านี้นะ กลางวันไปทานข้าวด้วยกันไหม ผมเลี้ยงเอง" คนตรงหน้าพูดอย่างลื่นไหลไม่มีติดขัด บ่งบอกว่าเป็นคนมั่นใจในตัวเอง และคงจะพูดแบบนี้กับผู้หญิงบ่อยจนไม่มีทีท่าเก้อเขินเลยแม้แต่นิด ปองกานต์ไม่ค่อยแปลกใจ คนๆ นี้ก็คล้ายกับคนที่อยู่ที่ห้อง

"อืม ต้องดูก่อนนะว่าติดอะไรรึเปล่า" หล่อนไว้ท่า ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธในทันที แม้จะไม่ได้มีความกระตือรือร้น แต่ก็ไม่ควรจะตัดเยื่อใย คบไว้เป็นเพื่อนก็น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย โดยเฉพาะเรียนคณะเดียวกันแบบนี้

"ครับ ผมจะรอคำตอบนะ" เพื่อนใหม่ยังคงยิ้มสบายๆ ตาชั้นเดียวขยิบเล็กน้อยอย่างขี้เล่น

"ฮัลโหลๆ เทสๆ" เสียงโทรโข่งดังขึ้น รุ่นพี่เกือบ 20 คน มายืนตรงตั้งแต่เมื่อไหร่ปองกานต์ไม่รู้เพราะมัวแต่ประเมินคนข้างๆ

"น้องๆ ครับ วันนี้เราจะมีกิจกรรมสนุกๆ กันนะ เดี๋ยวพี่จะรออีก 10 นาทีเผื่อน้องคนไหนมาสาย แล้วเดี๋ยวเราจะเดินไปที่ลานหน้าตึกกันนะครับ" รุ่นพี่หนุ่มรูปร่างสูงเป็นคนพูด

เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้น้องใหม่ทั้งหมดก็เดินออกจากตึกสี่เหลี่ยมมายังลานปูนที่อยู่ด้านหน้าโดยการนำของรุ่นพี่ จากนั้นเกมก็เริ่มต้นขึ้น

"ทุกคนเข้าแถวครับ แบ่งเป็น 10 แถวนะ จัดเสร็จแล้วนั่งลงเลยครับ" ตอนนี้รุ่นพี่คนอื่นเริ่มเข้ามาช่วยน้องๆ ให้แบ่งกันเป็นแถวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

น้ำหวานรู้สึกสนุกขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่ค่อยได้อยู่ในฐานะคนร่วมกิจกรรม แต่มักจะเป็นคนจัดกิจกรรมเสมอ แน่นอนว่าเพราะเครดิตดีกว่า แค่แข่งขันแล้วได้รางวัลหรือเรียนเก่งเดี๋ยวนี้ไม่พอแล้ว ต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วย ถ้าเป็นประธานหรือหัวหน้าได้ยิ่งดี ไม่แน่บางทีปีหน้าหล่อนอาจจะได้เป็นหนึ่งในรุ่นพี่เหล่านี้

"หวานนั่งต่อเราสิ" เสียงห้าวดังขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลนั้นระริกไหว มือขาวสาวนั้นจับมือเธอให้ทำตาม

"อืม" หล่อนตอบรับอย่างว่าง่าย

"พวกพี่จะบอกข้อความกับคนแรกนะ แล้วเดี๋ยวเรามาฟังข้อความจากน้องคนสุดท้ายกัน ให้น้องบอกต่อๆ กันนะ" เธอยิ้ม เกมนี้เป็นเกมที่เล่นมาตั้งแต่เด็ก แล้วที่ตลกอย่างหนึ่งก็คือไม่ว่าคนจะบอกต่อกันสักกี่คน น้อยหรือมาก คนสุดท้ายคำพูดมักจะถูกเปลี่ยนไปเยอะ ทั้งต่อเติมเข้ามาและตัดหายไป หญิงสาวนั่งคนสุดท้ายพอดี หล่อนจะกลายเป็นจุดสนใจเมื่อยืนขึ้นบอกข้อความ

"เริ่มเลยครับ" พอสิ้นเสียงจากโทรโข่งรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมซึ่งนั่งรออยู่หน้าแถวแต่ละแถวก็เริ่มกระซิบที่หูของน้องใหม่หัวแถวทันที จากนั้นแต่ละคนก็เริ่มกระซิบต่อกันมาเรื่อยๆ บางแถวช้าบางแถวเร็ว ปองกานต์ยิ้มอยากรู้ว่าประโยคนั้นคืออะไร ไม่ช้าไม่นานต้นก็ถูกกระซิบจากคนข้างหน้า

"ผู้หญิงผิวขาว ผมยาว กระโปรงบาน สวยที่สุด" พอได้ฟังหญิงสาวก็หลุดหัวเราะ ทำไมกระโปรงบานถึงสวย ประโยคโดยรวมแปลกๆ ผ่านมาหลายปากเนื้อความคงเปลี่ยนไปเยอะแต่น่าจะพอมีเค้าเดิมอยู่

"เสร็จแล้วนะครับ คนสุดท้ายลุกยืนขึ้นเลย" หล่อนค่อยๆ ลุกขึ้น ปัดฝุ่นที่ก้นเล็กน้อยพองาม

"ไหนพี่ขอฟังที่น้องแต่ละคนได้ยินหน่อยสิครับ เริ่มจากด้านนั้นเลย" แขนยาวๆ นั้นผายมือไปที่แถวด้านซ้ายสุด ซึ่งมีชายหนุ่มใส่แว่นหน้าตาดีคนหนึ่งยืนอยู่

"ผู้หญิงขายาว ผิวคล้ำ กระโปรงยาว น่าเกลียดที่สุดครับ" น้ำหวานยิ้มเมื่อได้ยิน

"ผู้หญิงผิวน้ำตาล ใส่กระโปรง น่ารักค่ะ"

"ผู้หญิงผิวขาว ผมยาว ใส่กระโปรงมาโรงเรียนค่ะ" สาวอวบผิวขาวดูหมวยพูดต่อ และก็มาถึงแถวของหล่อน

"ผู้หญิงผิวขาว ผมยาว กระโปรงบาน สวยที่สุดค่ะ" พูดเสร็จเธอก็ยิ้ม รุ่นพี่ผู้ชายซึ่งเป็นหัวหน้ากิจกรรมมองมา ดวงตาเขาแสดงความอยากรู้จัก ก่อนที่จะหันไปมองน้องใหม่ในแถวถัดไป

"แต่ละคนตอบไม่เหมือนกันเลยใช่ไหมครับ" ชายหนุ่มถาม

"ค่ะ/ครับ" ทุกคนตอบเกือบจะพร้อมเพรียงกัน

"ประโยคที่ถูกต้องคือ ผู้หญิงผมยาว ผิวขาว ขาเรียว กระโปรงสีแดง เด่นสะดุดตา" เขาพูดเสร็จเสียงจากในแถวก็ดังขึ้น แต่ละคนก็หันไปพูดกับคนข้างๆ ไม่ก็ข้างหน้าของตัวเองถึงคำตอบที่ได้รับ สรุปว่าไม่มีใครถูก ที่พอจะมีเหมือนกันคือผู้หญิงผมยาว ผิวขาวเท่านั้น

"เงียบก่อนครับๆ" เขาปราม เสียงจากน้องใหม่ค่อยๆ เบาลงจนกระทั่งเงียบอีกครั้งหนึ่ง

"เห็นไหมครับว่าคำพูดของคนเรา ต่อให้ฟังมาเหมือนกัน จากที่เดียวกัน แต่พอพูดกันต่อไปเรื่อยๆ ปากต่อปากมันก็เปลี่ยน ที่พี่อยากจะบอกในเกมนี้คือ อย่าเชื่อถือข่าวลือ สิ่งสำคัญคือข้อมูลที่เป็นความจริง" จบได้ดี หล่อนนึกในใจ

"โอเค เดี๋ยวเราจะต่อกันด้วยลูกโป่งหรรษานะครับ ให้น้องจับคู่กันสองคน ตอนนี้เลยครับ คนข้างๆ ก็ได้ จับคู่เสร็จแล้วให้ออกมายืนรอบสนามเว้นตรงกลางไว้" ได้ยินดังนั้นเธอก็รู้สึกอุ่นที่ข้อมือ และแทบจะไม่แปลกใจเลยที่คนๆ นั้นเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งคุยกันเมื่อสักครู่

"เธอคู่ผมไหม" มีเสียงทุ้มๆ มาจากด้านหลัง" เป็นเด็กหนุ่มใส่แว่นคนนั้นนั่นเอง

"เอ่อ เราคู่กับต้นแล้วน่ะ" คนผมหยักศกบอก เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเดินจากไปเพื่อหาคนอื่นมาเป็นคู่แทน วันนี้คนมาร่วมกิจกรรมมีไม่มากนัก ไม่เกิน 50 คนเห็นจะได้ พวกรุ่นพี่คงคิดไว้อยู่แล้วถึงได้คิดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นมา ไม่อย่างนั้นคงจัดลำบากถ้าคนเยอะ

"รอบละ 10 คู่นะครับ พวกพี่จะโยนลูกโป่งไปให้ ให้น้องเหยียบ ถ้าโชคดีจะเจอกระดาษสีดำ ถ้าโชคร้ายจะเจอแป้ง ใครได้กระดาษสีดำชนะนะครับ เป็นคู่กันก็ช่วยกันเหยียบนะครับ ใช้เท้าเหยียบได้อย่างเดียวนะครับ แต่เอามือจับได้" งานนี้ปองกานต์เปื้อนเห็นๆ แต่หล่อนจะห่วงสวยไม่ได้ แม้ว่าจริงๆ ในใจจะห่วงก็เถอะ ต้องแสดงออกว่าเป็นคนง่ายๆ ไม่ถือ ไม่เรื่องมาก เธอแค่หวังว่าจะเลอะมากนัก อย่างน้อยสุดก็ควรจะโดนแป้งแค่กางเกงอย่าให้ต้องโดนหน้าหรือผมเลย คงดูไม่จืดแน่ๆ

"หนึ่ง สอง สาม เริ่มครับ" ลูกโป่งหลากสีถูกโยนเข้ามาที่เท้าของแต่ละคน ต่างคนช่วยคู่ของตัวเอง

"หวานเหยียบเลย" ที่ระหว่างขาตรงข้อเท้าของต้นมีลูกโป่งสีฟ้าถูกหนีบอยู่ เธอเหยียบเต็มแรง แสงลูกโป่งแตกดัง 'โป๊ะ' แป้งสีขาวลอยฟุ้งทันที

และคู่หูจำเป็นก็หนีบลูกโป่งมาเรื่อยๆ หล่อนเหยียบจนเท้ากลายเป็นสีขาวแล้ว พื้นมีแต่แป้งลอยเต็มไปหมด คนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ร่วมเล่นถอยห่างออกไปจนถึงขอบสนาม

'โป๊ะ' สาวตากลมเหยียบลูกโป่งสีส้ม แต่คราวนี้ไม่มีแป้งเหมือนเคย เป็นกระดาษสีดำแผ่นไม่ใหญ่นักร่วงลงไปที่พื้นพร้อมกับเศษลูกโป่งที่แตก คนร่างบางรีบหยิบขึ้นมาก่อนจะชูกระดาษขึ้น

"รอบนี้ได้ผู้ชนะแล้วครับ" เสียงรุ่นพี่ประกาศ

หล่อนถูกต้นรวบไปกอด กลิ่นหอมของแป้งที่เล่นนั้นติดตัวอีกฝ่ายเต็มไปหมด ไม่น่านักเพื่อนใหม่ก็คลายตัวออก แล้วยืนยิ้มให้  ผมสีดำเงางามมีเศษสีขาวเล็กๆ ติดเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูดีน้อยลง

"ผู้ชนะมายืนข้างพี่เลยครับ แล้วก็สิบคู่ต่อไปมายืนรอพี่ให้สัญญาณเลย" ระหว่างเดินไปที่ริมสนาม น้ำหวานก็พยายามปัดแป้งออกจากผมของตัวเอง

"ดีใจด้วยนะครับ" รุ่นพี่หนุ่มหันมากระซิบเบาๆ ก่อนจะเปิดเครื่องแล้วบอกเริ่มรอบต่อไป

"ขอบคุณค่ะ" หล่อนเอ่ยออกไป

"น้องชื่ออะไรเหรอครับ" เขาถามอีกครั้งเมื่อปิดเสียงโทรโข่ง

"น้ำหวานค่ะ" เธอยิ้ม

"แล้วน้องล่ะครับ" ชายหนุ่มคงหมายถึงเพื่อนใหม่ข้างๆ หญิงสาวจึงใช้มือสะกิดเตือน

"ต้นครับ" เสียงห้าวแนะนำตัวอย่างมั่นใจ

"ครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องทั้งสองนะ พี่ชื่อดล อยู่ปี 3 แล้ว มีอะไรสงสัยถามพี่ได้ตลอดนะ" ถึงคำพูดจะธรรมดา แต่ดวงตานั้นแฝงความหมายบางอย่าง เหมือนจะบอกว่าที่พูดไปทั้งหมดนั้นหมายถึงเธอเพียงคนเดียว เด็กสาวไม่มั่นใจสักเท่าไหร่นัก

"ค่ะ" ปองกานต์ตอบออกไปเพียงแค่นั้น สมองยังคงครุ่นคิดสิ่งต่างๆ



รอบตัดสินมาถึง เหลือเพียง 6 คู่เท่านั้นที่ต้องมาแข่งกันในรอบนี้ ของรางวัลถูกประกาศก่อนที่จะเริ่มมีการเล่นแล้วว่าเป็นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล ขนดูนุ่มนิ่มน่ารักน่ากอดไม่น้อย

"เริ่มเลยครับ" พี่ดลบอก

น้ำหวานรู้สึกปวดข้อเท้านิดๆ ตั้งแต่รอบที่แล้ว หล่อนเหยียบลูกโป่งโดยใช้เท้าข้างเดียวเยอะเกินไป คราวนี้จึงตกลงกับต้นว่าจะสลับหน้าที่กัน

"เย้ ได้แล้วค่ะ" เสียงหวานๆ ร้องขึ้นมา ปองกานต์หันไปมองคู่ข้างๆ ทันที รอบนี้จบลงอย่างรวดเร็ว หล่อนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

"เราได้ผู้ชนะแล้วนะครับ น้องๆ ที่เหลือไม่ต้องเสียใจ พี่มีรางวัลปลอบใจพิเศษ" เธอมองไปที่รุ่นพี่ทันที มือของเขาชี้ไปที่ตุ๊กตาหมีขนาดเล็กในมือของรุ่นพี่คนอื่น ไม่ได้ตัวใหญ่ ตัวเล็กก็ยังดี น่ารักดีด้วย ห้องแคบยังไงตัวใหญ่ก็ไม่มีที่ไว้อยู่แล้ว สาวผมยาวคิดปลอบใจตัวเอง

หลังจากรับตุ๊กตามาคนละตัวแล้ว รุ่นพี่ทั้งหมดก็ประกาศให้ทุกคนแยกย้ายกลับ ส่วนคนจัดกิจกรรมก็ช่วยกันทำความสะอาดเก็บกวาดพื้นที่เปื้อน เลอะตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้หล่อนก็ทำกิจกรรมอื่นต่อไม่ไหวเหมือนกัน แป้งเข้าจมูกจนคันไปหมดแล้ว

"กลางวันนี้คงไม่ได้ไปทานข้าวด้วยกันแล้วใช่ไหม" เพื่อนใหม่ถาม

"งั้นขอเบอร์ติดต่อได้ไหม จะได้โทรมาชวนไปทานข้าวด้วยกัน" เป็นคำขอที่แนบเนียนพอสมควร คนผมยาวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะบอกหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองออกไป ถ้าคนตรงหน้าขอดื้อๆ คงถูกปฏิเสธไปแล้ว

"อืม ไว้วันอื่นละกัน" น้ำหวานบอกออกไปหลังจากที่นิ่งคิดไม่ถึงนาที

"อ่ะ ผมให้" เขายื่นรางวัลของตัวเองมาให้เธอ

"ทำไมล่ะ ไม่เก็บไว้เหรอ" หญิงสาวถาม ยังไม่รับของที่ถูกส่งมา

"ไม่ล่ะ ผมไม่ได้ชอบตุ๊กตา ให้หวานดีกว่า" เหตุผลนั้นดูธรรมดา แต่สีหน้าของอีกฝ่ายทำให้คนจมูกงอนรู้สึกว่ากำลังได้รับของขวัญพิเศษอย่างไรอย่างนั้น

"ขอบใจนะ" เธอบอกพร้อมกับรับมา ปองกานต์ยิ้ม

"ให้ผมไปส่งไหม ผมเอารถมา" เขาชี้ไปที่รถสปอร์ตที่จอดอยู่ที่ลานถัดไป

"ไม่เป็นไรหรอก หวานอยู่หอพักในมอนี้เอง" หล่อนปฏิเสธ ไว้ตัวอย่างที่ตั้งใจ

"โอเค กลับดีๆ นะ" ต้นพูดก่อนจะเดินไปยังรถของตัวเอง ส่วนเธอก็หันหลังและเดินกลับยังที่พัก และขณะที่เดินผ่านพี่ดล หญิงสาวก็พบกับสายตาเดิมอีกครั้ง น้ำหวานยิ้มให้ก่อนจะเดินต่อไปโดยไม่หันมองอีก



สภาพของคนผมยาวกลายเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาตลอดทาง ส่วนมากจะมีสีหน้าแปลกใจว่าเธอไปทำอะไรมาถึงได้มีแป้งติดไปทั่วแบบนี้ แต่บางคนก็มองด้วยความรู้สึกแบบอื่น คล้ายกับว่าเห็นว่าเป็นเรื่องน่ารัก ปองกานต์ไม่สนใจ หล่อนยิ้มเล็กน้อย ถึงจะดูไม่ดีแต่รอยยิ้มช่วยได้เสมอ

"ไปไหนมา" นั่นคือคำทักทายแรกของวันจากเพื่อนร่วมห้อง อีกฝ่ายนอนอ่านหนังสือท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก

"ไปทำกิจกรรมคณะมา ทำไมเหรอ" หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย คำถามนั้นไม่ควรจะออกมาจากปากอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ เหตุผลก็เพราะว่าตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีความรู้สึกอะไรต่อกัน

"ไม่มี แค่ตื่นมาแล้วอยากทำ" คำตอบตรงไม่มีอ้อมค้อม เกือบจะหยาบคาย

"ก็ทำเองสิ วันๆ คิดแต่เรื่องนี้รึไง" หล่อนอดถามไม่ได้ เพราะไม่เห็นคู่นอนคนนี้จะทำอย่างอื่นนอกจากคิดเรื่องบนเตียง ฟังเพลง อ่านหนังสือ

"ไม่ได้คิด แค่รู้สึก" สาวตาน้ำตาลเข้มหรี่ตามองคนผมสั้น ถ้าไม่เริ่มรู้นิสัยคงคิดไปแล้วว่าคนตรงหน้ากวน เธอถอนหายใจ

"อีกอย่าง...ทำเองน่ะมันจะไปสนุกได้ยังไง" น้ำเสียงนั้นเนิบช้าเน้นย้ำคำพูดที่ออกมา หล่อนเกลียดน้ำเสียงแบบนี้เสียจริง ที่พลาดท่าเสียทีส่วนหนึ่งก็เพราะจังหวะการพูดของปอ แล้วก็บรรยากาศที่ถูกจัดฉากขึ้นมานั่นอีก

ปองกานต์ไม่อยากจะพูดอะไรอีก เธออยากอาบน้ำเต็มทนจึงหยิบของใช้กับผ้าขนหนูแล้วเดินออกจากห้องไปยังห้องน้ำรวม



ปารย์ชอบกลิ่นแป้งเด็กที่ติดตัวของเพื่อนร่วมห้อง แต่ที่ชอบยิ่งกว่าคือกลิ่นที่อีกฝ่ายอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ แล้วผสมกับกลิ่นตัว มันให้ความรู้สึกสดชื่นน่าลิ้มลองอย่างบอกไม่ถูก

ตอนเช้าหล่อนตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยอารมณ์ที่ต้องการปลดปล่อย แต่เมื่อพบว่าอีกคนหายไปจึงค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อยที่ต้องลดทอนอารมณ์ด้วยตัวเองแทนที่จะได้ระบายโดยมีคนช่วย

บ่ายของเมื่อวานหญิงสาวก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้ำหวานอีกครั้ง ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าอาหารจานนี้จะทานเท่าไหร่ก็ไม่พอ ยิ่งทานยิ่งต้องการมากขึ้น เธอชอบความร้อนแรง ชอบการตอบสนองที่ไว ชอบเสียงร้องหวานๆ ที่บ่งบอกความต้องการ ที่ผ่านมาไม่มีใครคนไหนเปลือยความรู้สึกดิบข้างในออกมาหมดขนาดนี้เลย และคืนนี้คนที่กำลังเปิดประตูเข้ามาไม่รอดอย่างแน่นอน ปอยิ้มอย่างมีเลสนัย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 06:37:39 อาพัทธ์ อันธการ »



email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

ออฟไลน์ si

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 42
Re: แพร่งหัวใจ บทที่ 5
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 22:41:28 »
เรื่องจะเป็นยังงัยต่อ  :efb50fe2:

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
Re: แพร่งหัวใจ บทที่ 5
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 16:02:01 »
มาต่อแล้วนะคะ *-*
เริ่มดราม่านิดๆ แล้ว
email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.