web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 144
Total: 144

ผู้เขียน หัวข้อ: Runaway Bride vol.3 Chapter 20 : ความรักอยู่ไม่ไกล  (อ่าน 3843 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Runaway Bride vol.3 Chapter 20 : ความรักอยู่ไม่ไกล
« เมื่อ: 19 มกราคม 2014 เวลา 17:45:30 »


Chapter 20 : ความรักอยู่ไม่ไกล 


ลานกว้างข้างบ้านกลายเป็นที่นั่งเล่นประจำทุกครั้งที่ไม่มีหิมะตก  ถึงจะยังต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆออกมาวิ่งเล่น  ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับเด็กๆสักนิด  แม้กระทั่งเด็กอ่อนอย่างเจสซี่  ฮาร์เบอร์...

แต่เด็กน้อยตัวเท่านี้จะมีทางเลือกอะไรมากกันล่ะ  ถ้าปะป๊ามะม๊าอยากจะมานั่งตรงนี้  เขาก็ต้องมา..

ก็จะไม่มาได้ไง  วันนี้เลี้ยงส่งแขกคนสำคัญด้วยนะ  ถ้าพวกหล่อนไปแล้ว ก็คงจะคิดถึงน่าดู  โดยเฉพาะสาวน้อยอิซซาเบล..

“เพนนี..  นั่งตรงนั้นแหละ  ใกล้แสงแดดดี  ส่วนเจสก็อยู่ๆใกล้เอาไว้  ถ้าจะไปไหนก็ช่วยหาอะไรให้คุณภรรยาคุณทานก่อนนะ”  นิโคลจัดแจงตำแหน่งให้เสร็จสรรพ   ไม่มีการถามความสมัครใจของใคร  จากนั้นก็เดินจากไปที่อื่นเสียอย่างนั้น  ไม่สนใจคนที่นั่งตาปริบๆมอง

“โอ้..  ให้ตายฉันก็ไม่มีทางชินกับเค้า”  เพนนีพึมพำขณะมองตามหลังสาวบลอนด์ที่เดินลิ่วๆไปเจ้ากี้เจ้าการทำเรื่องอื่นต่อ  เธอส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ  พอหันกลับมาหาอีกคน  เจสสิก้ากลับนั่งจิบไวน์เคล้าถั่วสบายใจ  หล่อนเลิกคิ้วให้เมื่อรู้ว่าถูกมอง   “ฉันอิจฉาคุณจริงๆเจส” 

คุณหมอยักไหล่น้อยๆก่อนปัดมือขจัดฝุ่นผงจากถั่ว  เช็ดซ้ำให้สะอาดด้วยกระดาษเปียก  แล้วค่อยยื่นมือมาขอตัวลูกสาวไปอุ้มบ้าง  หากมะม๊าของเขากลับมองเธอเหมือนตัวประหลาดไปซะนี่  อะไรกัน...

“เพนนี..  ฉันอยากช่วยไง  เธอจะได้ไปทำอย่างอื่นบ้าง”

“ฉันจะไปทำอะไรล่ะ  ไม่เห็นมีอะไรให้ทำ”  สาวตัวเล็กบอก  ดวงตามองไปที่ผู้หญิงผมบลอนด์ที่กำลังดูนู่นดูนี่อยู่อย่างกับกำลังตรวจงานที่บริษัท  “ฉันว่า เค้ากำลังอยากจะไปทำงานล่ะ”

เจสสิก้าหัวเราะกับความเห็นของคุณภรรยา   ได้ทีที่หล่อนเผลอก็คว้าตัวลูกสาวที่นอนมองตาแป๋วมาใส่ตักตัวเอง  และก่อนที่คุณแม่ของเขาจะแหวใส่  เธอก็ชิงพูดตัดหน้า  “คงใช่แหละจ้ะ  นิกกี้อยู่เฉยๆเป็นที่ไหน  ตอนเจ้าแฝดตัวเล็กเท่าเจสซี่  เค้ายังทำงานที่บ้านเลย”

“โอ้..งั้นฉันแน่ใจแล้วว่าฝาแฝดได้เชื้อไฮเปอร์มาจากใคร” เพนนีส่ายหน้าก่อนพาตัวเองลุกขึ้น  “คุณอยากได้อะไรไหม..  ฉันเริ่มหิวนิดๆแล้ว  สงสัยติดมาตอนท้อง”

“อะไรก็ได้ที่ฉันชอบ  เธอรู้นี่ว่าฉันชอบอะไร” 

“โอ้ใช่..  ฉันรู้..  นิกกี้ของคุณก็รู้เหมือนกันสินะ”

“นิกกี้ของฉันที่ไหน  เดี๋ยวก็โดนดาเรนกับเจ้าแฝดรุมสะกำหรอก  อย่าให้ได้ยินเชียว”  คุณหมอทำตาโตใส่คนแอบเหน็บ  แล้วก้มลงหอมแก้มลูกสาวตัวเองที่นั่งบนตักก่อนเงยหน้ามองอีกคน  “ของฉันมีแค่สาวน้อยคนนี้กับเธอเท่านั้นเอง”

เพนนีส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อแต่ก็เลือกจะไม่เถียงอะไร  เธอกำลังจะเดินจากไปแล้ว  หากเสียงเดิมๆก็รั้งเอาไว้อีก

“เพนนี..  ห้ามดื่มกาแฟ  และของที่ฉันเคยจดเอาไว้ให้นะ”

คนโดนสั่งกลอกตาเซ็ง  หันกลับมาตะเบ๊ะให้อย่างขี้เกียจเถียงกัน  รู้อยู่แล้วว่า  เถียงก็ไม่ชนะ  แต่ก็ใช่ว่าจะทำตามทั้งหมดนะ  รู้จักฉันน้อยไปเจส!

ร่างบางเดินมาถึงโต๊ะอาหารตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านรอคนมาเยี่ยมชม  เห็นทีไรยังอดคิดไม่ได้ว่า  บ้านแมคคอลลี่เป็นโรงแรมที่จัดงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ทุกวัน  แต่มันก็ของชอบของเธอไม่ใช่หรือไง  จะว่าไปนิโคลก็ช่างจดจำจริงๆ  รู้หมดว่าใครชอบกินอะไร  หรือเพราะหล่อนทำแบบนี้มานาน  ความจริงก็น่าจะทำร้านอาหารมากกว่าเป็นอินทีเรียน่ะเนี่ย..

“เฮ้..  เพนนีเดินออกจากบ้านได้แล้วเหรอ!”

เสียงนี้ที่จำได้พาให้หันไปยิ้มรับ  อีกสาวโผเข้ามากอดกัน  หล่อนจูบแก้มซ้ายขวาทักทายราวคิดถึงกันมาก  แต่ถ้าจะพัฒนาปากด้วยก็เยี่ยม.. 

“โอ้ย..  ตัวเล็กเหมือนเดิมอีกแล้ว อะไรๆก็เล็กหมดเลยเพนนี  โดนเจสซี่เล่นงานหนักหรือไง  หรือหมอเจส!”

เพนนีกลอกตาระอากับเพื่อนสาวที่เล่นทักกันเสียไม่กลัวเพื่อนอาย  ใครๆที่นี่พากันมองมาทางเธอเป็นตาเดียวแล้ว  เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องอายกว่านี้  จึงดึงหล่อนหลบฉากจากคนอื่นๆมา  “มานี่เลยยัยเพื่อนจอมยุ่ง!”

“อะไรกันเล่า  คุณหมอสอนให้เธอต้อนรับเพื่อนรักแบบนี้หรือไง  แบบนี้ต้องโดนหน่อยแล้ว  ฝากเอาไว้แล้วนะเนี่ย”  โซเฟียบ่นอุบพร้อมสะลัดมือคนที่จับแขนออก  เพื่อนสาวกลอกตาอีกรอบ  เธอยิ้มพอใจ  “โธ่ไม่แกล้งก็ได้  ไหนเจสซี่.?”

“นู่น..  อยู่กับคุณหมอคนดีของเธอไง”  คุณแม่หน้าใสประชดเสียงขุ่น  กอดอกมองไปทางลูกสาวที่ถูกอุ้มด้วยคนตัวขาวเผือกหัวแดง 

จะว่าไปคนตัวน้อยนั่นก็ดูจะเหมือนคนที่อุ้มย่อส่วนจริงๆ ทั้งสีผิว  สีผม  แถมสีตาด้วย  เฮ้ย..ลูกฉันป่าวเนี่ย! 

“โซเฟีย..  เธอบอกได้ไหมว่า  นั่นลูกฉัน”

คนฟังอมยิ้มส่ายหัวไปส่ายหัวมาขำเพื่อน  “แล้วเธอท้องหรือเปล่าล่ะ  เธอคลอดเค้าออกมาไหม..  ถ้าใช่  ก็ลูกเธอนั่นแหละ”

“แต่เค้าเหมือนเจสมากกว่าฉัน  เหมือนกันยังกับฝาแฝด  ยัยหมอนั่นจะต้องทำอะไรตอนผสมเทียมแน่ๆ”  เพนนีขมวดคิ้วพูด  เพิ่งจะรู้สึกว่าลูกเหมือนอีกคนมากกว่าเธอมากๆตอนที่มองพวกเขาเปรียบเทียบกัน  ใจฟุ้งซ่านคิดไปว่า  หล่อนทำอะไรแปลกๆตอนที่จัดการผสมผสานสร้างตัวอ่อนขึ้นมา  หากเพื่อนสาวตรงหน้ากลับไม่เห็นด้วย

“เธอจะบ้าหรือไงเพนนี   คุณหมอเค้าจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ไง”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ  หัวไบร์ทขนาดนั้น  แถมฉันยังเคยเห็นเค้าแนะนำคนไข้ที่มาปรึกษาว่า  จะเลือกลูกที่ออกมาหน้าตาเหมือนใครมากกว่าก็ได้  บางทีเค้าอาจจะไม่อยากให้ลูกเหมือนฉันเลยก็ได้นี่!”  จินตนาการในหัวเริ่มออกเดินทาง  คนคิดมากหันไปมองบุคคลที่สามอย่างเคืองๆ  ร้อนถึงอีกคนที่มองตามไป 

ยัยนี่ท่าจะเพี้ยนไปแล้ว.. 

“เพนนี.. เธอคิดมากไปแล้ว”  โซเฟียส่ายหน้าไม่เห็นด้วย  ถึงอย่างนั้นยังไม่วายจะกวนใจกัน  ก็มันสนุก..  “เฮ้..  ความจริงถ้าเจสซี่เหมือนคุณหมอมากกว่า  ก็เชื่อได้เลยนะว่า  จะฉลาดและสวยมากๆแน่”

“ใช่..  ฉันก็คิดอย่างนั้น”  เพนนีพึมพำ  จากนั้นก็ตากระตุกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆ  “เฮ้..  นี่เธอว่าฉันนี่โซเฟีย!”  มือบางคว้าไหล่เพื่อนให้หันมา  หล่อนกลับพยายามปัดมือเธอออก

“เฮ้ย..  ฉันว่าอะไรเธอเล่าเพนนี..  ไม่เห็นรู้เรื่อง” 

คุณแม่หน้าใสทำตาเคืองๆใส่เพื่อนสาว  หันกลับมากอดอกฮึดฮัดที่ไม่สามารถทำอะไรหล่อนได้  และเบนหน้าไปทางอื่น  “ใช่สิ  ฉันมันไม่มีดีอะไรหรอก”

โซเฟียถอนหายใจ  อมยิ้มน้อยๆกับบทสาวน้อยแสนงอนของเพื่อนสนิท  เห็นแล้วก็ทำให้คิดถึงตอนยังเป็นรูมเมทกัน 

“เธอรู้ไหม..  เรื่องนี้ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะเพนนี..  หมอเค้าเห็นอะไรดีจากเธอ  ถึงได้แต่งงานด้วย  จำได้ว่า  เธอไล่ตีหัวเค้าตั้งแต่แรกที่เจอกันแล้ว”

“ยัยนั่นเป็นมาโซมั้ง” 

ฟังเพื่อนสาวพูดก็กลั้นขำแทบไม่อยู่  ก่อนจะถูกทำให้สะดุ้งเล็กๆด้วยมือบางคนที่มาสะกิดบ่า  หันมาเจอก็ปิดปากแทบไม่ทันเกือบจะกรี๊ดออกมาแล้ว  แต่แล้วต่อมาเธอกลับยิ้มและรับบางสิ่งที่ถูกส่งต่อมาให้  อมยิ้มถูกใจกับคนที่ขยิบตาให้อย่างขี้เล่น  เธอทำมือโอเคกลับไปก่อนจะถอยห่างจากเพื่อนไปดูเหตุการณ์ต่อในระยะไกลแทน 

แหม..มีสามีน่ารักขนาดนี้  ยังไม่ดีอีกหรือไง..  ยัยเพนนีไม้ที..

ฝ่ายเพนนีก็รู้สึกแปลกที่ไม่ได้ยินเสียงเพื่อนต่อล้อต่อเถียงหรือแซวอะไรกลับมา  เธอจึงหันมาหวังจะเห็นว่าหล่อนไปไหน  หากก็กดคิ้วลงอย่างไม่เข้าใจ  โซเฟียไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว 

“อ้าว..  ยัยเพี้ยนนั่น  จะรีบไปไหนนะ”  บ่นแล้วจะสะดุ้งเฮือกตกใจกับบางคนที่มากอดจากด้านหลัง  เธอชะงักค้างไปได้ไม่นานก็คิดว่าจะกระทุ้งศอกใส่คนที่กล้าดีมาล้อเล่นแบบนี้  หากฝ่ายนั้นกลับรู้ทันส่งเสียงกระซิบมาก่อน

“ถึงฉันจะเป็นมาโซ   แต่ถ้าเธอจะอ่อนโยนบ้าง  ฉันก็โอเคนะ” 

เพนนีกลอกตาก่อนจะใช้ศอกแหลมกระแทกท้องคนที่เล่นไม่รู้เวลา  หากก็เป็นไปตามคาด  หล่อนทนทายาดเหลือเกิน  ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธออยู่ดี

“เจส..  ปล่อยนะ!”

“เธอก็พูดดีๆกับฉันก่อนสิ” เจสสิก้าต่อรอง  เห็นมารดาลูกสาวกลอกตาอีกรอบก็ยิ้มถูกใจ  การได้แกล้งหล่อนยังเป็นอะไรที่ชื่นชอบของเธอ  “เอาสิคะ  พูดเพราะๆหน่อย  อย่างน้อยฉันจะได้รู้ว่า  เจสซี่จะน่ารักเหมือนเธอ”

“ฉันไม่เคยน่ารัก  ไม่ต้องมาประเหลาะ” 

“แหม..  อย่าพูดแบบนั้นสิคะ  ภรรยาฉันน่ะน่ารักทุกวันอยู่แล้ว”

“โอ้.. อย่าให้ฉันต้องแหวะทั้งที่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะเจส พอเถอะ”  เพนนีถอนหายใจเบื่อๆ  แล้วหันไปถลึงตาใส่โซเฟียที่ล้อเลียนเธออยู่ไกลๆ หล่อนใช้มือน้อยๆของเด็กน้อยผมแดงโบกไปมาอยู่ตรงนั้น  แววตาเธอจึงเปลี่ยนไปเมื่อสบตาลูกสาว  หากกลับต้องเปลี่ยนกลับมาทำตาขวางใส่คนด้านหลังอีกครั้งเพราะเรื่องที่หล่อนพูด

“เธอท้องอีกแล้วเหรอเพนนี..  ฉันจำได้นะว่า  ตั้งแต่เจสซี่คลอด  เรายังไม่ได้อะไรกันเลยนะ”

“เหรอ..  แล้วฉันเคยบอกคุณไหมว่า..   เมนส์ฉันไม่มาอีกแล้ว”  ได้ทีเลยเอาคืนให้หนัก  คุณหมอสุดที่รักตาค้างไปทันตา  ดูเลื่อนลอยจนเธอสามารถแกะมือหล่อนออกไปได้สำเร็จ  แต่ก่อนจะพาตัวเองออกไปจากรัศมีหล่อนได้ก็ถูกคว้าดึงแขนกลับมา  และมือขาวๆนี่ก็บีบแขนเธอแรงชะมัดเลย

“เจส..  ฉันเจ็บ!”

“บอกสิว่า  เธอล้อฉันเล่นเมื่อกี้!” 

เสียงคนถามสั่นจนเธอตกใจ  หน้าตาก็ตื่นตระหนกมากจนน่าสงสาร  หรือเธอเล่นแรงเกินพอดี  เออใช่..  พูดเรื่องนี้กับหมอสูติฯได้ไง  เดี๋ยวก็โดนจับไปตรวจอีกหรอก.. 

โอ้พระเจ้า!  ไม่นะ!     
   
“จะ..  เจส..  คือว่า----”

“พรุ่งนี้ไปตรวจที่โรงพยาบาลกับฉัน  นัดคิวแรกเลย!” 

คราวนี้คนที่ตกใจก็กลายเป็นเธอบ้าง  เพนนีตาค้างมองอีกคนที่ยังทำหน้าเหมือนหวาดกลัวอะไร  ชำเลืองมองไปที่โซเฟีย  เพื่อนสาวเริ่มดูเครียด  หรือเพราะท่าทางเครียดๆของพวกเธอ

“เอ่อเจส..  ฟังนะ  ฉันไม่ได้---”

“ไม่เป็นไรนะเพนนี   เราจะหาทางออกได้  เราต้องหาได้สิ  หาได้อยู่แล้ว”

เป็นครั้งแรกที่เธอทำอะไรไม่ถูก  เจสสิก้าดูจะไม่ฟังอะไรเธอเลย  หล่อนเหมือนกลัวจนเสียสติ  แล้วตอนนี้จะเอายังไง หันมองไปที่เพื่อนรัก  อยากให้ช่วยเหลือ  โซเฟียก็ส่ายหน้าให้ด้วยท่าทางสิ้นหวัง  เธอเกือบจะถอนใจหมดหวังบ้างแล้ว  แต่นั่นเองที่ทำให้รู้ว่า  นางฟ้ามีอยู่จริง..

หรือซาตาน.?

นิโคลเดินดุ่มเข้ามายืนตรงหน้าและบอกเพียงสั้นๆ “ฉันจัดการเอง”

และเสียงเพี๊ยะก็ดังสนั่น  พาคนทั้งสนามหันมามองเป็นตาเดียว  หากก็ครู่เดียวเท่านั้น  ก็ไม่มีใครมองมาอีกแล้ว   หรือนางฟ้าจะกลายร่างแล้วล่ะ.?

“เดี๋ยวนะ  รออีกแป๊บนึง”  สาวบลอนด์บอกอย่างมั่นใจ  คนฟังพยักหน้ายิ้มแหยๆ แต่รอเวลานั้นมาถึง  ต่อมาไม่ถึงนาที  เธอก็เห็นคุณหมอกระพริบตาปริบๆ ยกมือขึ้นทาบแก้มที่แดงเห่อ  มองพวกเธอทีละคนราวว่าจะหาสาเหตุของความเจ็บชาบนใบหน้างามๆ

“นิกกี้ตบฉันทำไม.?”

“ตบเล่นมั้งคะ”  นิโคลพูดขำๆก่อนเฉลยความจริง  “ตบเรียกสติค่ะ  กลับมาหรือยังล่ะ  หรือจะลองอีกที  หรือไม่แรงพอ.?”  พูดจบก็หัวเราะให้กับคนที่ส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ 

“โอเค..  จัดการต่อกันเองนะ  หมดหน้าที่ฉันแล้ว”   

เจ้าของบ้านเดินจากไปแล้ว  คราวนี้ก็เหลือแค่พวกเธอสองคนที่กลับมามองหน้ากันมึนๆ เพนนีเกือบจะรู้สึกสงสารคุณสามีที่โดนตบไปฉาดๆใหญ่ๆ หากเธอกลับเปลี่ยนใจเมื่อหล่อนอ้าปากมาอีกที

“ตกลงเธอท้องจริงๆเหรอเพนนี?”

เพนนีกลอกตาเซ็งก่อนจะพาหมัดเล็กๆเข้าที่เบ้าตาคนแกล้งบ้าตรงหน้า  แล้วเดินจากไปตอนที่หล่อนร้องโอดโอยกุมดวงตาอย่างเจ็บปวด  เธออมยิ้มเมื่อกลับมาขอตัวลูกสาวไปอุ้มเอง  และหันไปยิ้มสะใจให้กับคนที่บ่นงึมงำในลำคอ

“ฉันเชื่อแล้ว..  คุณหมอเป็นมาโซของจริง  ถึงจะไม่อยากเชื่อเลย”

----Runaway Bride3----

ไม่มีใครสนใจความวุ่นวายของสนามบิน  ของกินที่น่ากินตามร้านต่างๆตามรายทางก็ไม่น่าสนใจ  จิตใจจดจ่อแต่บรรดาแขกที่จะจับเครื่องบินเที่ยวต่อไปนี้กลับบ้าน  ไม่อยากเชื่อเลยว่า  เวลาวันหยุดยาวจะสั้นถึงขนาดนี้ 

คงเพราะช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะสั้นเสมอ...

“ไม่เป็นไรนะคะลูก  เดี๋ยววันหยุด  มะม๊าจะพาพวกหนูไปหาน้อง”  นิโคลปลอบลูกสาวฝาแฝดที่มองตามน้องตัวเล็กอย่างอาลัยอาวรณ์  อิซซาเบลถึงจะแค่ขวบเศษก็เหมือนจะรู้สึกใจหายที่ต้องจากพี่ๆไป  ดวงตาสีฟ้าเหมือนจะร้องไห้เวลาที่ราเชลที่อุ้มอยู่บอกให้โบกมือลา 

“น้องจะร้องไห้ล่ะมะม๊า”  อมีเลียพูดขึ้นระหว่างโบกมือเร็วๆให้น้องสาวที่สนิทและรักราวน้องสาวแท้ๆ  แอนเดรียไม่พูดอะไร  แต่น้ำตาคลอเบ้า  ซุกหน้าอยู่กับบ่าปะป๊าที่อุ้มตัวเอง  โอ้..การจากลามันน่าเศร้าทุกที..

แต่ทุกชีวิตก็พบเพื่อจะจากลา..ใช่ไหม.?

“ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวก็หาย  เดี๋ยวน้องก็ลืม”

“น้องจะลืมอมีเลียกับแอนเดรียเหรอ.?”

ประโยคนี้พาให้เด็กน้อยที่เงียบอยู่นานเงยหน้าขึ้นมาทำหน้าตาตกใจ  จนปะป๊ามะม๊าต้องรีบพูดดักหน้าเสียก่อน  เดี๋ยวเข้าใจผิดจะแย่...

“มะม๊าไม่ได้หมายความอย่างนั้นค่ะลูก  ไม่ได้หมายความว่าน้องจะลืมพวกหนูหรอก”

“ใช่ค่ะ  มะม๊าแค่บอกว่า  น้องจะไม่งอแงแล้ว  น้องจะไม่ร้องไห้  น้องจะเข้าใจว่า  อีกหน่อยเราก็จะได้เจอกันอีก”

“งั้นเหรอ..”  เสียงใสๆถามสะอื้น  นิโคลพยักหน้ารับ  ยกมือน้อยๆของเด็กที่ตนอุ้มอยู่ขึ้นจูบอย่างสงสาร  กับอีกคนเธอเข้ามาจูบศีรษะ

“มะม๊ากับปะป๊าสัญญาค่ะลูก  หนูจะได้เจอน้องอีกแน่ๆ  นิวยอร์คไม่ไกลนักหรอก”

“ใช่ค่ะลูก  แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆ ปะป๊าจะกลัวว่าพวกหนูจะติดเจสซี่จนไม่อยากไปเที่ยวที่อื่นมากกว่า”

“ไม่มีทางหรอก!”  ฝาแฝดตอบพร้อมๆกัน  ปะป๊ามะม๊ามองหน้ากันขำๆ  เพราะรู้ดีว่าสำหรับเด็กอายุแค่นี้  เขาจะมีความเชื่อของเขา และความที่ไม่อยากขัดใจลูกเพราะเห็นว่ายังเศร้าอยู่จึงไม่แย้งอะไร  แค่เปลี่ยนเรื่องคุย

“โอเคค่ะ  ไม่ใช่ก็ไม่ใช่  แต่ตอนนี้มะม๊าว่าเรากลับบ้านกันก่อนดีกว่าค่ะ  เพราะมะม๊าคิดว่า  เรามีการ์ตูนเรื่องใหม่รออยู่ที่บ้าน”  นิโคลบอกระหว่างช่วยกันพาเด็กๆออกมาจากสนามบิน  และคราวนี้เองสองแฝดก็ทำตาโตดีใจจนจะคล้ายลืมไปเลยว่าเมื่อกี้เศร้าแทบตาย  เด็กก็แบบนี้แหละ  เศร้าง่าย  หายง่าย   แต่ก็ดี..

“เรื่องอะไรมะม๊า.?”  เสียงใสๆถามตื่นเต้น  เด็กคนที่ไม่ถามก็ใช่ว่าจะไม่ตื่นเต้นด้วยหรอกนะ  แค่ส่งพี่มาเป็นตัวแทนถามให้เท่านั้น 

“เอ..  เรื่องอะไรนะคะปะป๊า.?” นิโคลแกล้งหันไปถามดาเรน  อีกคนก็ทำเลิกคิ้วขี้เล่นกลับมา  พาให้อมยิ้ม

“ปะป๊า..  เรื่องอะไรคะ.?”  คราวนี้เด็กพูดน้อยขอพูดบ้าง  ก็ปะป๊าที่รักช่างลีลาเหลือเกิน  ไม่ยอมตอบคำถามกันสักที 

ดาเรนทำท่าเหมือนอยากจะแกล้งถ่วงเวลาลูกต่อ  หากก็ถูกมองปรามๆจากคุณภรรยาที่รัก  เดี๋ยวได้เจอแฝดร้องประสานเสียงหรอก..

แต่ถึงอย่างนั้น  ความที่อยากให้ลูกๆได้ลืมความเศร้าจริงๆ สมองไวไวของคุณปะป๊ารูปงามก็พยายามคิดเรื่องแปลกๆให้พวกเขา

“ปะป๊าจะตอบก็ได้  ถ้าหนูๆวิ่งตามปะป๊าทัน  ตกลงไหมเอ่ย.?”

นิโคลส่ายหน้าอมยิ้มกับฝาแฝดที่รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว  อมีเลียขอลงไปยืนเอง  แอนเดรียก็เช่นกัน   ทั้งคู่ตั้งท่าจะเตรียมออกวิ่งแล้ว  แต่...

“มะม๊า..  มะม๊าต้องเป็นกรรมการนะ”  อมีเลียเสนอขึ้นตาวาวพร้อมด้วยน้องสาวที่พยักหน้าเห็นด้วย  ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากัน  และตัดสินใจ

“โอเคค่ะ  งั้นเตรียมตัวเลยนะ”  มะม๊าคนสวยบอก  เด็กน้อยสองคนเตรียมตั้งท่าจะออกวิ่ง  หากพอเอาเข้าจริง  เธอกับดาเรนกลับอุ้มลูกขึ้นคนละคนและวิ่งฝ่าฝูงชนออกไป  ฝาแฝดตกใจในตอนแรกแต่หัวเราะเสียงใสในเวลาต่อมา

พวกเธอมองหน้ากันเมื่อพากันขึ้นรถคันโตเรียบร้อยทุกคน  แต่ดาเรนยังไม่ออกรถในทันที  กลับชี้ให้ฝาแฝดดูเครื่องบินที่กำลังทะยานขึ้นฟ้าและพวกเขาก็มองตามไปอย่างสนใจ

“นั่นไงคะลูก  อิซซี่จะมองพวกหนูจากบนนั้น  แล้วเราจะได้เจอกันอีกแน่นอน”

นิวยอร์คไม่ไกลหรอก..ใกล้นิดเดียว..



.........................................................

ลงถึงตอนที่ 20 ตามที่สัญญากันเอาไว้แล้วนะคะ  ส่วนอีก 10 กว่าตอนที่เหลือ  ต้องอ่านในเล่มเอาน้า  ขออภัย เพราะถ้าลงหมดคงไม่มีใครซื้อหนังสือแน่ๆเลย  :16:

เอาล่ะค่ะ  วันนี้คงต้องจากกันไปแล้วสำหรับนิยายเรื่องนี้ในภาคนี้นะคะ  จะมีภาคต่อไปหรือเปล่า  อันนี้ยังไม่แน่ใจค่ะ  ต้องรอดูฟีดแบคจากคนอื่นก่อน   :23:

ส่วนใครที่เพิ่งนึกได้ว่า  อยากได้แล้วยังไม่ได้จอง  ยังสั่งซื้อได้อยู่นะคะ  แต่อาจจะได้ช้ากว่าคนอื่นค่ะ  เราส่งตามคิว

แล้วเจอกันใหม่ในเรื่องอื่นค่ะ ขอบคุณมาก  :45:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มกราคม 2014 เวลา 18:13:14 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

ออฟไลน์ 19aug

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 8
Re: Runaway Bride vol.3 Chapter 20 : ความรักอยู่ไม่ไกล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 19 มกราคม 2014 เวลา 20:40:36 »
เฮ้อ ถึงเวลาลาจากว่างั้น

เอาน่า อิซซี่ไป ยังเหลือเจซซี่อยู่นะ

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.