web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 62
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 145
Total: 145

ผู้เขียน หัวข้อ: Queen's tales Chapter 6 : Goddess or Nymph (เทพธิดาหรือนางภูติ)  (อ่าน 2937 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Queen's tales Chapter 6 : Goddess or Nymph (เทพธิดาหรือนางภูติ)
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:03:39 »


Chapter 6 : Goddess or Nymph (เทพธิดาหรือนางภูติ)
ขาเรียวหยุดกึกเมื่อนึกได้ว่า ยิ่งวิ่งเธอก็เหมือนจะยิ่งหลงทาง ดวงตาคมกวาดมองไปมารอบด้านตัวเอง อิสซาเบลล่าเม้มปากขัดใจ “หายไปได้ยังไงเนี่ย” เธอสบถคิ้วขมวด รู้สึกเหมือนตัวเองงี่เง่า วิ่งตามผีป่ามาหรือยังไง..

“บ้าชะมัด!” สบถอีกครั้งเมื่อเธอไม่เห็นอะไรมากไปกว่าบรรดาต้นไม้เล็กใหญ่และเถาวัลย์ บนสองข้างทางของถนนสายเล็กๆนั้นที่เป็นได้แค่ทางคนเดินหรือทางม้าวิ่ง และที่เธอรู้ ป่าแห่งนี้ไม่มีผีสางที่ไหน แล้วมันก็กลางวันด้วย ผีที่ไหนจะมี..

ผีบ้าโจรป่าก๊กอื่นหรือเปล่าน่ะ แต่จะว่าไป มันก็ใกล้ค่ำแล้ว...

เด็กสาวคิดอย่างเคืองใจ กระนั้นยังพยายามตั้งสมาธิตามที่บิดาเคยสอนยามออกล่าสัตว์ด้วย เธอปิดตาลง ทัดเส้นผมยาวสีบลอนด์ทองไว้ข้างหู เงี่ยฟังสรรพเสียงต่างๆ กดหัวคิ้วน้อยๆ ขณะพยายามจำแนกเสียงที่ได้ยิน สักพักก็เปิดตาตกใจ

เธอได้ยินเสียงม้าวิ่ง มันควบเข้ามาเร็วมาก..

และพอเธอได้เห็นมันจริงๆ ดวงตาคมก็เบิกค้าง มันยิ่งกว่าตกใจ..

“เป.. เปกาซัส!” เด็กสาวอุทานเสียงหลง เมื่อเธอหลบจากวิถีการวิ่งพุ่งเข้ามาของเจ้าสัตว์ประหลาดแสนวิเศษนั้นได้ กระนั้นหัวใจยังตื่นเต้นไม่หยุด ใครจะไปรู้ว่า เธอจะได้เจอมัน ใครจะไปคิดว่ามันจะมีอยู่จริง..

ก็เคยเห็นแต่ในหนังสือ!

และถึงจะตกใจจนใจสั่น เธอยังอยากจะสัมผัสเจ้าสัตว์วิเศษที่ยืนทำเท่อยู่ไม่ห่างสายตา อิสซาเบลล่าคิดหาวิธีที่จะเข้าไปหามัน แต่เธอยังกล้าๆกลัวๆ กลัวจะโดนฝ่าเท้าอันทรงพลังของมาเตะซี่โครงหัก หรือโดนปีกใหญ่ๆนั่นโบกจนปลิวไปอีกเมือง หากแต่ขณะที่กำลังคิดวิเคราะห์ หูไวๆของเธอก็ได้ยินอีกเสียงดังแทรกเข้ามา

มันเป็นเสียงฝีเท้าคน..

และเสียงผู้หญิงที่ไพเราะดังเสียงสวรรค์..

“โอเอซิส.!”

และเสียงนั้นเองที่ดึงความสนใจของเธอไปทั้งหมด จากนั้นอิสซาเบลล่าก็พบว่าตัวเองต้องมนตร์คาถาอะไรสักอย่าง ดวงตาเธอเลื่อนลอยมองดูผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ แต่หล่อนไม่ได้เดินมาหาเธอ หล่อนไปหาเจ้าม้ามีปีกตัวนั้น และที่มันแปลกก็คือ เจ้าเปกาซัสก้มหัวของมันให้หล่อน!

เจ้าสัตว์วิเศษจอมหยิ่งผยองนั่น ก้มหัวให้มนุษย์งั้นเหรอ.?

มันเป็นไปไม่ได้ !

แต่แน่ใจหรือว่า..นั่นคือมนุษย์..

หรือนางฟ้ากันแน่.?

รูปร่างสูงโปร่ง ไม่ใช่สิ สูงมาก.. แต่มีทุกอย่างที่สาวงามพึงมี ใบหน้างดงาม ดวงตาคมกริบสีเขียวน้ำทะเล หล่อนมีเส้นผมสีบลอนด์ประกายเงิน..

โอ้..ประเดี๋ยวนะ ผมสีเงินใช่ไหม.?

เช่นนั้นลำแสงสีเงินที่ว่า มาจากหล่อนหรือเปล่า.. เด็กสาวคิดอย่างฟุ้งซ่าน จนลืมระวังตัวไปสิ้น กระทั่งได้ยินเสียงไพเราะเพราะพริ้งแทรกความเงียบเข้ามา

“ขอบใจนะ ที่ดูแลม้าให้เรา”

อิสซาเบลล่ากระพริบตาปริบๆ แล้วชี้หน้าตัวเองเหมือนคนเป็นใบ้ พูดไม่ออก เห็นผู้หญิงแปลกหน้าพยักหน้าให้ซ้ำส่งยิ้มหวาน หัวใจยิ่งเต้นแรงเหมือนใครเอากลองมาตีรัวข้างใน แปลกใจตัวเองที่สุด ก็ไม่เคยเป็น..

หรือข้าจะโดนผีสางเล่นงานเข้าจริงๆ..

“เจ้าชื่ออะไร.. เป็นคนที่นี่หรือ.?”

เสียงไพเราะนั่นพูดขึ้นอีกครั้ง เด็กสาวพยายามตั้งสติ เห็นรอยยิ้มเป็นมิตร ก็เริ่มลดความระแวงลง กระนั้นก็ยังไม่ปริปากพูด ปล่อยให้อีกคนพูดคนเดียว

“จะกลัวไปไย เราไม่ใช่ผีสางที่ไหนสักหน่อย หรือจะลองพิสูจน์ดู” คนพูดเดินมาใกล้ คนฟังกลับถอยหลังอย่างหวาดๆ คาร่าหัวเราะน้อยๆ “เจ้ากลัวม้าของเราสินะ ไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่กัด ถึงจะมีฟัน ไม่ตีไม่เตะเจ้าด้วย มันเป็นม้านิสัยดี..”

“มันไม่ใช่ม้า.. มันคือเปกาซัส!” อิสซาเบลล่าเถียงเสียงแข็ง แต่แทนที่อีกคนจะตกใจ สาวแปลกหน้าผมสีเงินกลับยิ้มโปรยเสน่ห์

บ้าชะมัด นี่มันผู้หญิงไม่ใช่เหรอ.. ทำไมข้าจึงรู้สึก.... ประหลาด...

หัวใจเต้นแรงเกินไปแล้ว..

“เจ้าพูดได้ ไม่ได้เป็นใบ้นี่นา” คาร่าพูดขำๆ คนฟังมองค้อนขวับ แต่เธอไม่สนใจ พยายามใส่หน้ากากนางฟ้าแสนดีเอาไว้อย่าให้หลุด เพราะข้าแน่ใจ เจ้าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก..เจ้าหญิงแห่งฝูงโจรที่เลื่องลือ..

ในเมื่อมือเจ้ามีธนูและงดงามเกินกว่าจะเป็นแค่เด็กสาวชาวป่าธรรมดาๆ..

และข้าจะจับเจ้าให้ได้...

“ในเมื่อเจ้าพูดได้ เจ้าจะไม่บอกข้าหน่อยหรือว่า เจ้าชื่ออะไร..”

“แล้วเจ้าล่ะ เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นด้วย!” เด็กสาวถามกระแทกเสียง มือชี้ไปที่เปกาซัส และเพราะเสียงเธอดัง มันจึงหันมาทำท่าฟึดฟัดราวจะโจมตี

“อย่านะ เจ้าม้าบ้า!” อิสซาเบลล่าร้องเสียงหลง ถอยหลังกรูดด้วยความหวาดกลัวซี่โครงตัวเองจะหักเพราะท่อนขาแข็งแรงของเจ้าสัตว์หน้าขน หากแต่ต่อมาก็แปลกใจที่เจ้าสัตว์วิเศษที่สวยงามแต่น่ากลัวกลับเข้าไปเล่นกับผู้หญิงตัวสูงผมสีเงินนั่นแทนที่จะเข้ามาทำร้ายเธอ

“ใจเย็น..โอเอซิส.. นางแค่ตกใจกลัวเจ้าเท่านั้น”

“ข้าไม่ได้กลัว!” เด็กสาวสวนทันที คาร่าหันไปยิ้มอ่อนโยน บอกตามตรงว่า เด็กสาวคนนี้ทำให้เธอนึกถึงไอซิสตอนที่ยังแก่นแก้ว ว่าแล้วข้าก็คิดถึงเจ้ายิ่งนัก

ไอซิสของข้า...

“ข้าชื่อเบลล่า แล้วเจ้าล่ะ เจ้านั่นด้วย!” อิสซาเบลล่าบอกและถามในคราวเดียวกัน เธอเลือกบอกชื่อสั้นๆของตัวเองแทนชื่อเต็ม เพราะรู้สึกว่า ชื่อเต็มของเธอมันช่างแสนเชยและไม่เหมาะกับตัวเธอเลยสักนิด คราวนี้ก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าเผยยิ้มที่เธอเกลียดแต่ชอบมองนั่นอีกครั้ง

ที่เกลียดก็เพราะมันทำให้เธอใจสั่นจนจะทำอะไรไม่ถูกต่างหาก !

“เราชื่อคาร่า.. แล้วนี่..” คาร่ายิ้มแนะนำตัว แล้วหันไปลูบหน้ายาวของม้ามีปีกเบาๆ “นี่คือ..โอเอซิส เพื่อนเราเอง” บอกแล้วก็สังเกตดูท่าทางอีกสาว อยากจะดูพิรุธหล่อนเพิ่มแต่ยังคิดวิธีไม่ออก เด็กสาวท่าทางเหมือนกำลังมึนอะไรสักอย่างอยู่อย่างนั้น หรือว่าเธอน่ากลัวจริง..

“เราเป็นนักเดินทางผ่านมา และรู้สึกว่าจะหลงป่านี้เสียแล้ว เจ้าจะว่าอะไรหรือไม่ หากเราอยากได้ความช่วยเหลือจากเจ้าสักหน่อย”

“ข้าไม่ว่าง ข้ามีงานต้องทำ” อิสซาเบลล่าพูดอย่างไร้เยื่อไย เตรียมจะหันจากไปแต่เสียงด้านหลังก็รั้งเธอ

“เรามีค่าจ้างให้เจ้านะสาวชาวป่า หากเจ้าพาเรากลับไปยังกองคาราวานที่เราผลัดหลงมาได้ เราจะให้ทองคำเจ้าเป็นรางวัล” ราชินียื่นเสนอ ร่างบางที่แบกคันธนูอยู่จึงหันมาทำท่าสนใจ พระองค์ยิ้มอย่างรู้ทัน

“เราจะให้เจ้านั่งบนหลังโอเอซิสด้วย ตกลงไหม.?” พระองค์ยืนรออย่างอดทน รอให้อีกคนได้คิด ให้เวลาหล่อน จากนั้นก็ยิ้มพอใจเมื่อเด็กสาวหน้าสวยแต่แสนบึ้งพยักหน้ารับ “เช่นนั้นก็ไปกันสิ”

“ข้ามีข้อแม้หนึ่งอย่างด้วย!” เด็กสาวคนสวยตะโกนขึ้นมากะทันหัน คนที่จะหันหลังให้กันก็หันกลับมาเลิกคิ้วถาม อิสซาเบลล่าฉีกยิ้มไร้เดียงสา “เจ้าต้องให้ข้าควบม้าตัวนั้น” เธอยื่นเงื่อนไขไปภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์และแผนที่วางเอาไว้ เห็นคาร่าพยักหน้าตกลงก็ยิ่งยิ้มกว้าง มองตามหลังร่างสูงที่เดินไปพาม้าตัวใหญ่มีปีกมาหา และแอบคิดในใจ

ข้าจะปล้นทั้งของทั้งม้านี่แหละ ขอบใจนะที่มาให้ปล้นถึงที่แม่นางคนสวย..

เด็กสาวตามอีกคนขึ้นไปบนหลังเปกาซัสอย่างกระหยิ่มใจในความคิดตัวเอง ที่คิดว่าสำเร็จแน่และไม่มีใครตามทัน นั่นเพราะเธอคิดไม่ทันคนเจ้าเล่ห์กว่าที่ขึ้นมานั่งด้านหลัง และเพราะอยู่ด้านหลัง เธอจึงไม่เห็นว่า สาวสวยคนที่ว่ามีรอยยิ้มร้ายกาจฉาบอยู่บนเรียวปากสีชมพูงดงาม

และตัวเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นอันตราย ไม่ใช่พระนางแน่นอน...

เพราะครานี้..องค์ราชินีจะจับโจรเอง...

........................................................

ไคล่าขบฟันแน่น แทบอยากจะยกมือขึ้นตบหัวทหารที่เข้ามารายงานข่าวสำคัญ แต่ที่ทำคือออกคำสั่งเสียงดังแทน “ออกตามหาให้ทั่วทุกอณูป่า หากไม่เจอน้องข้า พวกเจ้าไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็น ไปซะ!”

เสียงตวาดจากผู้ที่มีอำนาจล้นมือพาให้เหล่าทหารหลายนายในคราบหนุ่มชาวบ้านธรรมดากลัวจนไม่กล้าเงยหน้ามองหน้าคนสั่ง พวกเขาก้มหน้างุดแล้วรีบไปขึ้นม้าของตัวเอง เร่งออกไปจากที่หยุดกองคาราวาน เพราะต่างก็รู้ตัวว่าผิดกันทุกนาย

จะไม่ผิดได้อย่างไร.. พวกมันปล่อยให้น้องข้าหายไปจากขบวน.!

สับเพร่ายิ่งนัก !

“พระองค์หญิงเพคะ”

แต่เสียงเรียกอ่อนหวานนี้ก็พาให้คนคิ้วขมวดสีหน้าอ่อนลงได้ ไคล่ายิ้มกับหญิงสาวที่เปิดผ้าคลุมหน้าออกเมื่อก้าวเข้ามาตรงหน้า “เจ้าช่างรู้ใจข้านะโรซาลี”

“หม่อมฉันเพียงไม่ต้องการเห็นพระองค์ทรงเครียดขึงเพคะ จะทรงเสียสุขภาพได้” โรซาลีก้มหน้าพูด หากแต่ริมฝีปากยิ้มอยู่ รู้ดีว่าจะเจอกับอะไรต่อไป และเธอแน่ใจด้วยว่า อยากเจอกับมันเหมือนกัน หลายคืนแล้วที่ไม่ถูกเรียกใช้จากเจ้านาย เธอคล้ายต้องการจะถูกใช้..

ข้าคงจะเสพติดรสชาติแห่งความใคร่จากพวกท่านสองฝาแฝดไปเสียแล้ว..

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ช่วยคลายเครียดให้ข้าสิ แต่อย่าช้านักนะ ข้ามีงานอื่นต้องทำ” คนเจ้าชู้บอกเสียงหวาน ดวงตายิ่งหวานฉ่ำ เห็นนางในคนสวยยิ้มเอาใจจึงไม่รอช้า รั้งแขนหล่อนมาใกล้แล้วลากเข้าไปในกระโจมที่กางไว้เป็นที่พักพิงยามค่ำคืนของตนในคืนนี้ ก็มันหมดแล้วนี่เวลาสำหรับการเดินทางเมื่อตะวันตกดินไป..

และไอซิส.. พี่รู้ว่าเจ้าเก่งพอจะเอาตัวรอดได้ ดังนั้น...

“พระองค์เพคะ” เสียงหญิงสาวเรียก คนเผลอเหม่อก็หันกลับมายิ้ม แล้วจับคนเรียกมาจับปากจูบอย่างกระหายคล้ายจะระบายความร้อนในอกออก สองมืองามปะป่ายไปตามสัดส่วนเต็มตึงของนางในที่ไม่เสียทีเลยที่เอาติดมาด้วยในขบวน

ไคล่าครวญเสียงสะท้านเมื่อสาวเจ้านำอกอวบอิ่มมาแนบเบียดอกเธออย่างรู้งาน จากนั้นอารมณ์ใคร่ก็เตลิดจนกู่ไม่กลับ จับหล่อนนอนลงแล้วทาบร่างลงแนบติด ดูดกินความหวานหอมของสาววัยใส จำได้ว่าโรซาลีเพิ่งจะสิบเจ็ดเท่านั้น อ่อนเยาว์กว่าน้องสาวเธอเสียอีก ถึงจะรสชาติไม่อาจเทียบกันได้ มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย..

และข้าไม่เคยจะยอมเหี่ยวเฉาตามลำพังหรอก.. ข้าต้องการชีวิตชีวา..

“เจ้ารสชาติดีเสียจริงโรซาลี” เจ้าหญิงรัชทายาทกระซิบชม สาวเบื้องล่างยิ้มรับคำชมอย่างยินดี แล้วผู้หญิงที่เริ่มเป็นงานแล้วก็คว้าประคองใบหน้าเธอมาจูบปากครางรับอารมณ์สวาทที่เธอมอบให้

ไคล่าลืมทุกอย่างภายนอกสิ้นแล้ว เมื่อความใคร่ครอบงำร่างกาย นิ้วยาวสอดใส่เข้าไปในความสาวสะพรั่งของอีกสาว หล่อนกระตุกสะโพกรับอย่างยินดีปรีดา ราวว่าต้องการมันมาแสนนาน สองเต้าขนาดพอเหมาะส่ายสั่นไปกับจังหวะของร่างกายที่เคลื่อนไหว มือใหญ่จึงขยำขยี้มันอย่างเหลืออด ริมฝีปากตนจับปลายถันมาดูดดื่มรสชาติ หล่อนหอมหวานด้วยความสดใหม่ ไม่เหมือนนางในที่ใช้มาจนเบื่อแล้ว

และเจ้าก็หัวไว เรียนรู้ได้เร็วว่าข้าชื่นชอบสิ่งใดด้วย !

โรซาลีเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ด้านบนบ้าง หากแต่หล่อนก็กลายเป็นสาวควบม้าที่ช่ำชองอย่างไม่ต้องสอนงานอีกต่อไป ร่างบอบบางกระแทกลงมาอย่างไม่สนใจว่าน้ำหนักตัวจะทำให้เธอเจ็บหรือจุกแต่อารมณ์นี้หรือเธอจะเอ่ยปากบ่นว่า ออกจะชอบ..

สับเปลี่ยนตำแหน่งกันไปมาจนเหนื่อยล้ากันแล้วทั้งคู่ ประตูสวรรค์ก็ถูกเคาะไปไม่รู้กี่รอบ จึงนอนหอบอยู่เคียงกัน ไคล่าพยายามสูดหายใจเข้าปอด หลับตาอย่างผ่อนคลาย หายเครียดไปได้นิดนึง..

มีแรงใหม่อีกครั้งแล้วพี่จะไปตามหาเจ้านะไอซิส..

พี่รู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งพอ..น้องสาวที่รัก...

“พระองค์.. ไม่ทรงรีบแล้วหรือเพคะ” โรซาลีถามเสียงอ่อนพลางค่อยๆลากนิ้วเรียวไปตามพื้นที่เหนือเนินอกอีกคนที่นอนกกกอดกันราวคนรัก บอกตามตรงว่าชอบแฝดน้องคนนี้มากกว่า เพราะหากนี่เป็นองค์ราชินีแล้วล่ะก็ จะไม่ปล่อยให้เธอได้นอนแนบกาย เสร็จกิจแล้วพระองค์จะทิ้งเธอไว้ให้นอนหนาวตามลำพังบนเตียงหลังใหญ่ที่ใหญ่มากเวลานอนคนเดียว แต่เจ้าหญิงรัชทายาทคล้ายจะเป็นกันเองมากกว่า หรือเพราะพระองค์ไม่ใช่ราชินีจึงไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองให้มากความ..

อา..อันที่จริงข้าควรจะเอาใจองค์ราชินีมากกว่า หากต้องการจะเป็นพระสนมคนแรกของพระองค์ แต่ทว่า...

“ข้าคิดว่า ข้าควรปล่อยให้น้องสาวได้เผชิญชีวิตด้วยตัวเค้าเองบ้าง และที่สำคัญ ตอนนี้ข้าเองก็....” ไคล่าตอบแต่ไม่จบประโยคเพราะใช้การกระทำต่อมันแทน ร่างงดงามขึ้นมาทาบทับร่างที่บางกว่าอีกครั้ง และกดจูบลงแนบกับปากรูปกระจับที่เชิญชวน หญิงสาวเบื้องล่างครวญสุขสม จากนั้นพวกเธอก็จมลงสู่ห้วงนทีแห่งสวาทอีกครั้ง และนั่นเองที่ทำให้นางในคนใหม่เข้าใจตัวเองเลยว่า เหตุใดจึงชื่นชอบการอยู่กับฝาแฝดองค์น้องมากกว่า

เพราะพระองค์ไม่ทรงเย็นชาเหมือนองค์ราชินีนั่นไง...

........................................

“เลมมี่.. เจ้าเห็นคนพวกนั้นหรือไม่” ไอซิสถามเสียงเบา ขณะซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ เธอกึ่งยืนกึ่งนั่ง หวังหลบให้พ้นจากรัศมีของการถูกมองเห็นจากคนที่ไม่ต้องการ ก็ข้างหน้ามันเป็นหมู่บ้านอะไรก็ไม่รู้...

“กระหม่อมก็ไม่แน่ใจเพคะ” มหาดเล็กคนสนิทตอบด้วยคำติดปาก แล้วรีบปิดปากตัวเองทันใดที่โดนดวงตาสีแดงแวววาวตวัดมาจ้องหน้า “คือว่า--”

“เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ข้าไปดูเองดีกว่า ถามเจ้าก็รังแต่จะเสียเวลา” เจ้าหญิงจอมใจร้อนบอกตัด พลางขยับตัวจะเดินออกไป หากแต่อีกคนกลับจับแขน

“ให้กระหม่อมไปดูก่อนเถอะเพคะ” เลมมี่ยังพูดแบบเดิมอยู่ แต่คราวนี้เหมือนคนฟังจะไม่ได้สนใจ ไอซิสสนใจแต่หมู่บ้านแปลกๆตรงหน้าเท่านั้น

กลุ่มคนที่มุงกันอยู่หน้ากองไฟแม้จะกำลังดื่มกินกัน คุยกันตามปกติ หากแต่มันก็มีบางสิ่งที่น่าติดใจสงสัย พวกเขาไม่ว่าหญิงหรือชายต่างก็พกอาวุธ ดาบและธนูมีอยู่ตามพื้น ในมือ หรือตามฝาบ้านที่สายตาเธอสามารถจะเห็นได้

“ข้าคิดว่า พวกนั้นไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ๆ” ไอซิสกระซิบ ดวงตาสีโลหิตพยายามมองผ่านความสลัวเข้าไปในหมู่บ้านที่ห่างจากที่เธอกับคู่หูซ่อนตัวกันอยู่ไม่ถึงร้อยหลา จะว่าไปมันก็ใกล้มากพอที่เกือบจะได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ถึงอย่างนั้น มันก็ยังไม่ชัดเจนอยู่

“เลมมี่.. ไปดูกันเถอะ” เจ้าหญิงน้อยชวน แต่กลับไม่สนใจคนที่ตัวเองชวนสักนิด ไอซิสยืดร่างสูงโปร่งของตัวเองขึ้นและเดินดุ่มไปยังเป้าหมาย ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินแทรกต้นไม้ใบหญ้าตามมาด้านหลัง มหาดเล็กของเธอคงไม่อยากจะถูกทิ้งอยู่ในป่าตามลำพังแน่ ก็หล่อนปอดแหกไม่สมกับที่เป็นทหารกล้า อันที่จริงก็ไม่น่าจะได้เป็นด้วยซ้ำ หากไม่ได้เป็นลูกสาวแม่ทัพนายกอง

แต่ช่างเถอะ เธอก็ยังได้มีเพื่อนเล่น ไม่ต้องอยู่คนเดียว เลมมี่กับเธอโตมาพร้อมกัน เกิดเวลาไล่เลี่ยกัน และเธอเห็นหล่อนเป็นเพื่อนเสมอ ถึงจะชอบแกล้ง..

ก็แค่ล้อเล่นน่า..

“ข้าว่า ข้าจะไปขอแบ่งอาหารจากพวกเขาบ้าง” อยู่ๆก็พูดขึ้นมา คนที่เดินตามหลังรีบเข้ามาเดินข้างทันที

“ทรงหิวหรือเพคะ” เลมมี่ถามตกใจแต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบ ท้องของตนก็ตอบมันให้ เจ้าหญิงหน้าใสจึงหัวเราะ

“เจ้าก็หิวเหมือนกันแหละ” ไอซิสล้อเพื่อนในวัยเด็ก หล่อนหน้าแดงก่ำ อย่างที่เธอสามารถมองเห็นได้ท่ามกลางแสงสลัวของดวงจันทร์เกือบเต็มใบ ขำจนพอใจแล้วก็ส่ายหน้า เตรียมจะรีบเดินต่อไปยังเป้าหมาย แต่แล้วเสียงของใครบางคนที่ดังแทรกขึ้นมา ก็พาความสนใจของเธอไปจนหมดในทันที ลืมหิวไปเลย..

“ท่านพ่อ ท่านแม่! ข้าเจอนางไม้ ตัวจริงสวยกว่าที่พวกท่านเคยเล่าให้ฟัง!”

โอ้..นางไม้งั้นหรือ.?

หรือเจ้าหมายถึงข้า.? เจ้าคิดได้เช่นไร.?



.............................................



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.