เสียงเปิดประตูเสียงดังทำให้คนที่นอนอยู่ถึงกับสะดุ้งลืมตาหันไปจ้องยังแขกที่มาเยี่ยมยามวิกาลและเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ทำให้มัทนารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีจุดประสงค์มาเยี่ยมเธออย่างแน่นอน
“สำออย”
ปะโยคทักทายแรกก็ทำเอาเจ้าของห้องอึ้งไปเลยทีเดียวแต่มัทนาก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรปล่อยให้คนหาเรื่องเดินสำรวจห้องต่อไปอย่างเงียบๆ
“วันนี้ท่าจะเหงาแย่ไม่มีนางพยาบาลมาเฝ้าซักคน”
ปาลิตาเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงก่อนจะใช้สายตาสำรวจคนเจ็บอย่างสมเพช
“โดนแค่นี้ทำมาเป็นเจ็บนาน พรุ่งนี้ก็ควรจะทำงานได้แล้วนะไม่ใช่เอาแต่อยู่เฉยๆกินแรงคนอื่น”
น้ำเสียงไม่เป็นมิตรดังขึ้นอีกครั้งและคนฟังก็รู้ได้ทันทีว่าคนพูดไม่ได้แค่จะมาพูดเฉยๆแต่จากน้ำเสียงและแววตามันคือการมาออกคำสั่งชัดๆ
“ทำไมมองหน้าแบบนี้จะหาเรื่องฉันหรือไง”
“เปล่าค่ะ”
“งั้นก็คงเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“เข้าใจง่ายกว่าที่คิดนะ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องอธิบายให้เปลืองน้ำลาย”
ปาลิตายกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปปัดที่คอเสื้อของคนที่นอนอยู่เบาๆ
“เศษฝุ่นติดอยู่น่ะไม่รู้ว่าปลิวมาจากไหนแต่สุดท้ายมันก็ต้องถูกกำจัดออกไปอยู่ดี”
และแล้วความอดทนของมัทนาก็ถึงขีดสุดอาจเพราะอาการเจ็บป่วยหรือฤทธิ์ยาที่ทำให้เธอหมดความอดกลั้นได้อย่างง่ายดาย เจ้าของห้องปัดมือของคนตรงหน้าออกก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นช้าๆ
“กล้าดียังไงมาปัดมือฉัน”
“มัทอยากพักผ่อนเชิญคุณปาลิตาออกไปเถอะค่ะ”
“คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาไล่ฉัน”
ไม่พูดเปล่าแต่ปาลิตากลับกระโจนเข้าไปดึงคอเสื้อของคนบนเตียงรวบเข้าหากันจนคนที่นอนอยู่เริ่มหายใจไม่ออกและมัทนาก็รู้ตัวเองดีว่าตอนนี้ร่างกายของเธอไม่สมบูรณ์จึงทำให้ตกเป็นรองอีกฝ่ายอยู่แบบนี้
“ฉันถามว่าแกกล้าดียังไงห๊า!”
ปาลิตาดึงคอเสื้อที่จับอยู่ให้แน่นขึ้นจากนั้นก็กระแทกหัวของคนเจ็บที่เตียงแรงๆด้วยอารมณ์โกรธสุดขีดที่จริงเรื่องเมื่อสักครู่ไม่ได้ทำให้เธอโกรธขนาดนี้หรอกแต่เพียงแค่เห็นหน้าอีกฝ่ายก็ทำให้ความเกลียดปะทุออกมาได้อย่างง่ายดายและตอนนี้มีโอกาสคนอย่างปาลิตาจึงไม่มีวันปล่อยให้มันหลุดลอยไปอย่างแน่นอน
“หยุดนะ!”
เจ้าของเสียงวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระชากตัวคนก่อเรื่องให้ปลิวไปทางอื่น
“เป็นไงบ้าง”
หทัยภัทรเอ่ยออกมาอย่างร้อนใจพร้อมกับสำรวจดูแผลที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาน้อยๆจากนั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรอีกแล้วเพราะสิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการทำแผลให้คนเจ็บเป็นอันดับแรก
“พี่หทัยคะ”
“ไม่ต้องพูดเดี๋ยวเรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน”
“พี่หทัยคะ”
การเรียกชื่อเป็นรอบที่สองทำให้คนที่กำลังทำแผลถึงกับถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของเสียง หทัยภัทรถึงกับตาค้างเมื่อมองเห็นคนที่เรียกชื่อเธอมีเลือดออกที่มือ
“ตาคือพี่…”
ปาลิตาถึงกับน้ำตาคลอก่อนจะฝืนยิ้มส่งให้กับคนตรงหน้า
“มือตาไม่เป็นอะไรหรอกค่ะไม่เจ็บเลยซักนิดแปลกนะคะส่วนที่เจ็บมันกลับอยู่ในนี้”
คนพูดเอามือที่เปื้อนเลือดแตะที่อกด้านซ้ายของตัวเอง
“ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ตาจะไม่สนับสนุนการแก้แค้นนี้เลย!”
ปาลิตาตะโกนออกมาเสียงดังก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มทะลักออกมา ครั้งนี้หัวใจของเธอเจ็บมากจนไม่อาจกดมันเอาไว้ได้ จากที่พี่สาวไม่เคยตวาด เอ็ดหรือแม้แต่ทำเสียงแข็งใส่เธอสักครั้งตั้งแต่ได้ใช้คำว่าพี่น้องแต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพราะ…เพราะคนบางคนที่ไม่ควรเข้ามาในไร่นี้ตั้งแต่แรกและเธอก็ไม่มีวันยอมเสียพี่สาวที่ตัวเองรักไปให้ใครโดยเฉพาะไอ้คนที่มีพ่อสารเลวแบบนั้น!
ท่าทางหนักใจของคนอยู่ตรงหน้าทำให้มัทนารู้สึกกังวลใจอยู่ไม่น้อยเพราะเรื่องราวทั้งหมดมีเธอเป็นต้นเหตุหลัก นึกย้อนไปถึงใบหน้าโกรธแค้นของคนที่เพิ่งวิ่งออกไปก็ทำให้เธอใจหายอยู่ไม่น้อยไม่คิดว่าปาลิตาจะเกลียดเธอได้มากมายขนาดนั้น
“มัทของโทษนะคะ”
หทัยภัทรตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเสียงและตัวของคนพูดดังเหมือนอยู่ไม่ไกลจากตัวเธอและก็เป็นจริงเมื่อเธอหันหน้ามาก็พบมัทนายืนอยู่ใกล้ๆ
“ขอโทษฉันเรื่องอะไร”
“เรื่องที่ทำให้คุณกับคุณปาลิตาทะเลาะกัน”
“มันไม่เกี่ยวกับเธอ”
“แต่คุณปาลิตาเธอกำลังเข้าใจผิด”
“มันไม่เกี่ยวกับเธอไปพักซะ เรื่องครอบครัวฉันจัดการเองได้”
พูดจบหทัยภัทรก็เดินออกไปจากห้องทันทีทิ้งความหนักอึ้งไว้ให้กับเจ้าของห้องที่ได้แต่ยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังบางจนลับสายตา
มัทนาล้มลงนอนที่เตียงก่อนจะหลับตาลงช้าๆเธอว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเจอเข้ากับพายุอารมณ์ของใครบางคนเข้าให้แล้วและคงยากที่จะเลี่ยงไปทางอื่นได้
เช้าวันต่อมานรีรัตน์ต้องรีบวางข้าวต้มที่ยกมาลงก่อนจะรีบวิ่งไปหาคนที่กำลังจะเดินออกจากห้อง
“ไปไหน”
คำถามจากเสียงที่คุ้นเคยทำให้มัทนาอดไม่ได้ที่จะหันมาส่งยิ้มให้
“ยิ้มแต่ไม่ตอบ”
“กำลังจะตอบค่ะ”
“ตอบว่า…”
“ไปทำงานค่ะ”
พูดจบมัทนาก็เดินออกไปหน้าบ้านทันทีแต่พอนึกอะไรขึ้นได้เจ้าตัวก็เดินกลับมาหาคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“คุณนรีคะ”
“มีอะไร”
คนถูกเรียกเอ่ยออกมาอย่างระแวงเพราะคนพูดกำลังส่งสายตาอ้อนวอนเหมือนกับคราวก่อนที่ขอโทรกลับบ้านแล้ววันนี้จะขออะไรอีกล่ะเนี้ย
นรีรัตน์มองคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างนึกห่วงแต่เธอก็ไม่สามารถบังคับอะไรอีกฝ่ายได้เมื่อคนเจ็บยืนยันจะทำเธอก็คงไปห้ามอะไรไม่ได้ที่ทำได้ก็เพียงการมาเฝ้าอยู่ห่างๆแบบนี้
หญิงสาวหันไปมองมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่ตอนนี้เธอจำใจยกให้เป็นพาหนะของมัทนาโดยสมบูรณ์เพราะการขอร้อง อ้อนวอนเมื่อตอนเช้าทำให้เธอใจอ่อนทำตามคำขออย่างง่ายดายแต่มาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกันเพราะต่อไปนี้มัทนาจะได้ไม่ต้องไปรบกวนพี่สาวของเธออีกแล้วที่สำคัญเธอจะได้มีข้ออ้างมาด้วยได้
“พอใจหรือยัง”
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็ที่ได้มาทำงานสมใจไง”
มัทนายิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเดินไปหาคนที่ยืนตะโกนคุยกับเธอ
“เหม็นจัง”
คนพูดเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อคนล้างขี้หมูเดินเข้ามาใกล้แต่การกระทำกลับสวนทางเมื่อนรีรัตน์ล้วงผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้คนตรงหน้าแต่จู่ๆหญิงสาวก็ดึงกลับก่อนจะลงมือเช็ดเหงื่อและสิ่งสกปรกบนใบหน้าให้อีกฝ่ายเอง
“มือเธอเปื้อนขืนให้เช็ดเองคงจะสกปรกยิ่งกว่าเดิม”
นรีรัตน์เอ่ยออกมาทันทีเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของมัทนา เธอรู้ว่าการกระทำของตัวเองน่าสงสัยแค่ไหนเพราะขนาดตัวเธอเองยังไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะทำอะไรแบบนี้ได้
“เสร็จแล้วดูเป็นคนขึ้นมาหน่อย”
“เป็นคนเลยเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ตะกี้เธอเป็นแม่หมูนี่นา”
คนพูดหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นรีรัตน์เดินถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าวก่อนจะรีบหันหลังเตรียมวิ่งหนีคนที่เธอเพิ่งเรียกว่าแม่หมูแต่ไม่รู้ว่าเพราะขาของเธอสั้นหรือขาของคนที่ตามมายาวจึงทำให้มัทนาเดินเข้ามาประชิดตัวเธอได้ง่ายแบบนี้และไม่ต้องมีการพูดคุยอะไรกันอีกเมื่อคนถูกว่าจัดการรวบเอวบางของคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนจะทำการหมุนเป็นวงกลมทำเอาคนถูกแกล้งถึงกับร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังและต้องเสียงดังยิ่งกว่าเดิมเมื่อคนที่กำลังอุ้มเธออยู่ทำท่าราวกับจะเหวี่ยงตัวเธอทิ้งลงพื้น
“ตุ๊บ!” แน่ล่ะนี่คือเสียงของคนทั้งคู่ที่ล้มลงไปกองกับกองฟางที่พื้นแต่นรีรัตน์รู้สึกไม่เจ็บอะไรเลยเมื่อเธอมีเบาะนุ่มๆอย่างดีรองรับอยู่
“สมน้ำหน้า”
นรีรัตน์เอ่ยออกมาอย่างสะใจเมื่อเห็นหน้าคนที่คิดจะแกล้งเธอแต่ดันพลาดล้มลงมาด้วยแถมยังต้องแปลงร่างเป็นเบาะรองให้เธอนอนทับอีกเห็นแล้วเจ้าตัวก็ถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังแต่แล้วเสียงหัวเราะก็ต้องหยุดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้าเพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ใบหน้าขาวก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีจนมัทนาต้องรีบยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากของคนหน้าแดงด้วยความเป็นห่วง
“ฉันไม่ได้ไม่สบาย”
“แต่คุณนรีหน้าแดงมัทว่าน่าจะหายาทานซะหน่อยนะคะ”
“คิดงั้นเหรอ อืมก็ดีเหมือนกัน”
นรีรัตน์เอ่ยออกมาพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น
“งั้นอยู่นี่ก่อนนะเดี๋ยวมา”
“อย่าลืมทานยานะคะ”
“รู้แล้ว”
พูดจบคนหน้าแดงก็รีบวิ่งไปข้างนอกทันทีเธอไม่ได้ไปหายากินหรอกเพียงแต่จะไปจัดการกับความร้อนวูบวาบที่ไหลไปทั่วทั้งตัวแล้วไหนจะใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงของตัวเองนี่อีกหากไม่ไปจัดการให้เรียบร้อยคงโดนมัทนาจับกินยาเป็นแน่
เปิดจองแล้วน๊าตั้งแต่วันนี้ - 10 กุมภา 14
ราคาเล่มละ 350 บาท
ค่าส่งลงทะเบียน 30 บาท
รวมที่ต้องโอน 380 บาท
สำหรับการสั่งซื้อแบบ pdf ราคา 250 บาท
โอนเงินมาได้ที่
ธนาคารกสิกรไทย
สาขาเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่
457-211-232-8
ชื่อบัญชี สมทรัพย์
โอนเสร็จแจ้งวันเวลาการโอนมาได้ที่
Mail
mydestiny_k@hotmail.com Tel 087-0591110
Line samakae
facebookhttps://www.facebook.com/mea.you.927
ถ้าสั่งแบบpdf ให้แจ้งเมล์ที่จะให้จัดส่งไฟล์ด้วยนะคะ
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ