Chapter 8 : ความสับสน
มันเป็นครั้งแรกที่เธอลืมตาขึ้นมาและพบว่า ตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของใครคนหนึ่งซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นจนไม่ต้องการจะลุกขึ้นและลาจาก หากแต่คงจะเป็นไปไม่ได้ในเมื่อชีวิตมีเรื่องตั้งมากมายที่จะต้องไปทำ
ดิออนค่อยๆขยับตัวอย่างระมัดระวัง หวังไม่ให้ไปปลุกใครอีกคนที่ยังหลับอยู่ตรงนี้อย่างสงบ ค่อยๆปลดท่อนแขนที่โอบเอวเธออยู่ออกไป และถอนหายใจอย่างโล่งใจเมื่อสำเร็จกับการปลดตัวเองออกมาจากคนตัวใหญ่กว่านั่นโดยที่ไม่ทำให้เขาตื่น เพราะไม่แน่ใจว่าพอตื่นขึ้นมาคราวนี้ เธอกับหล่อนจะต้องถกเถียงอะไรกันอีก เพราะมันเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่อยู่ลำพังด้วยกัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรมันถึงเป็นเช่นนั้นไปได้ อาจจะเป็นเพราะว่า นิสัยเข้ากันไม่ได้หรือเปล่านะ นั่นสิ..แล้วจะอยู่กันยืดเหรอ..?
ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียง หลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสตัวคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงนั้น แต่ก็ห้ามใจไม่ได้ไม่ให้หันกลับไปมองและเธอก็ยิ้มออกมาไม่รู้ตัว หล่อนสวยมากจริงๆเสียด้วย เหมือนนางฟ้ามาจุติไม่มีผิด แต่..ทำไมตอนนั้นหล่อนถึงเหมือนซาตานไปได้ล่ะ
ดิออนสั่นศีรษะเพื่อสลัดความคิดนี้ออกไปและเข้าไปจัดการสำรวจตัวเองในห้องน้ำ สองตาสีมรกตเบิกกว้าง เมื่อภาพสะท้อนในกระจกเงาบอกออกมาว่า เธอดูเหมือนคนบ้า ผมเผ้ายุ่งเหยิง มือเล็กสองข้างพยายามจะสางเส้นผมสีเข้มที่มีความยาวจรดกลางหลังให้เป็นระเบียบ แต่ในเวลานั้นเองเธอก็ได้เห็นอีกอย่างที่ทำให้ตกใจ รอยดูดเกิดขึ้นลำคอที่จุดที่มองเห็นได้เด่นชัด ดิออนรีบปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแบบผู้หญิงที่ตัวเองใส่อยู่เพื่อจะมองดูสิ่งที่เธออาจจะไม่เห็นมันอีก และมันก็ใช่จริงๆ มีรอยแดงแบบเดียวกันอยู่ตรงเนินอกของเธอ ไม่เท่านั้น ริมฝีปาก ปากเธอแตก
ไฟแห่งความโมโหลุกโหมขึ้นในใจ ไม่เคยมีใครทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้ และเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ดีได้แบบนั้น เขากำลังหลับอย่างที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่า เธอเป็นอะไรบ้าง...
ฉันเกลียดเธอ..แคลลี่.. ยัยบ้า.. ฉันจะฆ่าเธอ..
แต่เมื่อภาพยามหลับตาของผู้หญิงคนนั้นมาผุดขึ้นในสมอง เธอก็ต้องสั่นศีรษะเพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาขัดแย้งในใจ
ดิออนปลดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นเพราะคิดว่า เธอน่าจะไปอาบน้ำใหม่ เพื่อชำระล้างอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกไม่สบายตัวตรงบริเวณหว่างขา เธอรู้ดีว่ามันคืออะไร มันเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่เธอดูหนังที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ มันคือสิ่งที่บ่งชี้ว่า เธอมีความต้องการทางเพศ..
ก็ใช่..แต่ฉันรับไม่ได้ ถ้าจะนอนกับเขาตอนนี้
เด็กสาวถอนหายใจออกมาอีกครั้งและก้าวเข้าไปอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำจากฝักบัวไหลรดร่างกายที่ปราศจากสิ่งใดของเธอ แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอเริ่มลูบไล้ร่างกายเพื่อถูกสบู่เหลว ความรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่ไหลออกมาจากตรงจุดนั้นก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ใช่..เธอยังคงรู้สึกต้องการ แต่คงจะต้องจัดการเรื่องนี้เองเสียแล้ว ในเมื่อเธอยังไม่อยากให้เป็นหล่อนที่ได้แตะต้องตัวเธอ เธอไม่ไว้ใจ
แคลไว้ใจไม่ได้.. ฉันไม่ไว้ใจเธอ...
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีที่จะรู้เรื่องนี้ เรื่องที่เราจะจัดการกับตัวเองยังไง ไม่ให้ต้องเดือดร้อนใครมารับผิดชอบกับความรู้สึกที่ร่างกายมันปฏิเสธไม่ได้ และเธอก็ทำมัน
ดิออนหอบหายใจและใช้มือข้างหนึ่งค้ำยันตัวเองไว้กับผนังห้องน้ำ ยืนนิ่งค้างอยู่แบบนั้นประมาณห้านาที รอเวลาที่ร่างกายจะกลับคืนมาเป็นปกติ และจากนั้นเธอก็รู้สึกดีขึ้น เธอได้ปลดปล่อย แม้จะทำในแบบที่หากใครมารู้เข้า เขาก็จะต้องคิดว่าเธอเป็นบ้าไปแล้ว
นี่ฉันทำอะไรลงไป..เสียงในหัวของเธอถามขึ้นมาระหว่างเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดที่จะใส่ใหม่ และลืมไปว่าไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียวอีกต่อไปแล้ว มันทำให้เธอสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนจากด้านหลัง
“ฉันขอใช้ห้องน้ำได้มั้ย..”
ใบหน้าขาวคมค่อยๆเหลียวไปมองเจ้าของเสียง และเพียงเห็นดวงตาสีแดงนั่นก็รีบดึงผ้าขนหนูที่เกือบจะหลุดออกจากตัวให้ขึ้นมาปกปิดร่างกายให้แน่นหนา เพราะรู้ดีว่า หากสายตาที่ซุกซนนั่นได้เห็นอะไรในตัวเธอแบบนี้ มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ เธอยังไม่พร้อมจะต่อกรกับหล่อนในตอนนี้ ขนาดเวลาปกติ เธอยังสู้เขาไม่ได้ นับประสาอะไรกับเวลาที่แข้งขาของเธออ่อนแรงอย่างตอนนี้กันล่ะ เธอคงไม่โชคดีอีกครั้งแน่ๆ
“อื้ม..ตามสบาย..” เธอกลั้นใจพูดออกไป จากนั้นก็สามารถผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจ เมื่อแคลแค่ส่งยิ้มขอบคุณออกมาและพาร่างสูงผิดมนุษย์ผู้หญิงปกติหายเข้าไปในห้องน้ำที่เธอเพิ่งใช้
ดิออนรีบจัดการแต่งตัวให้เร็วกว่าที่เคยทำ เพราะไม่อยากคิดว่า หากแคลออกมาก่อนแล้วเขาจะทำอย่างไรกับเธอ หากเธออยู่ในสภาพที่ยั่วยวนอย่างไม่ตั้งใจแบบนั้น แต่ขณะที่ติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย ความตกใจก็เข้ามาหาเธออีก
“ดิออน.. ขอโทษนะ.. ช่วยหยิบผ้าขนหนูให้หน่อยได้รึเปล่า”
เธอนิ่งไปประมาณสองนาที ก่อนจะกะพริบตาได้และตอบกลับไป “เดี๋ยวนะ..” แต่เธอก็ไม่ประสบความสำเร็จในการหาของเพียงเท่านั้นให้เขา คงเพราะมือตัวเองสั่นเทาเกินไป หรือสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือกระเป๋าสัมภาระของแคลยังไม่ได้ถูกส่งขึ้นมาบนห้องของเธอ
“ดิออน.. ทำไมช้าจัง.. ฉันหนาว..”
“ฉันหาไม่เจอ.. กระเป๋าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่”
“แล้วของเธอล่ะ”
ดิออนชะงักอีกครั้ง เพราะเรื่องง่ายๆที่เธอคิดไม่ได้ ก่อนจะวิ่งไปที่ตู้เก็บเสื้อผ้าที่คาดว่าผ้าขนหนูจะอยู่ที่นั่น และก็ใช่จริงๆด้วย “เจอแล้---”
แล้วเสียงร้องอย่างดีใจของเธอก็ขาดหายไป เมื่อรู้สึกว่าเธอถูกกอดจากด้านหลังจากใครบางคนที่เปียกชื้น ความตกตะลึงทำให้เธออึ้งนานเกินกว่าพอดี และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเสื้อผ้าชุดใหม่ของเธอได้เปียกอีกครั้ง เธอจึงสะบัดหนี
“ยัยบ้า.. เธอทำชุดฉันเปียก!”
สองตาของเธอเบิกค้างทันทีและไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของเธออีก เพราะสิ่งที่อยู่ในสายตา ไม่ใช่สิ..เพราะนางฟ้าที่ไม่ได้เสื้อผ้ายืนอยู่ตรงหน้าเธอต่างหาก สวยจัง..
“โอ้ย..ยัยบ้า.. ไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้นะ” ผ้าขนหนูในมือเธอถูกปาออกไปใส่ใครคนนั้นอย่างเต็มแรง ดิออนยกมือขึ้นปิดตาและรีบวิ่งออกมาจากห้อง โดยมีเสียงหัวเราะใสๆอย่างพอใจดังตามหลังเธอมา
--The bodyguard--
ดิออนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับเก้าอี้ที่สวนหลังบ้าน เธอพยายามทำตัวเองให้ไม่ว่างด้วยการนำโน้ตบุ้คติดตัวมาด้วย เพื่อทำรายงานที่อาจารย์สั่งมาให้เสร็จ และบางครั้งเธอก็กดปุ่มควานหาสิ่งที่อยู่ในอินเตอร์เนตมาบริโภคเพื่อไม่ให้สมองรู้สึกเครียดจนเกินไป เป็นการพักเป็นระยะระหว่างการทำงานของเธอ แต่สายตาก็เริ่มเหม่อลอยไปถึงใครอีกคนที่ตอนนี้ออกจากบ้านไปแล้ว
แคลลี่ไปทำงานตามปกติแต่ก็ไม่ต้องห่วงเลยว่าเธอจะไปไหนมาไหนอย่างอิสระได้อย่างใจ เพราะเขาส่งพนักงานของบริษัทมาเฝ้าเธอด้วย เป็นคู่หมั้นที่ใช้ได้จริงๆ เธอคิด.. ดีเกินไปมั้ยเนี่ย...
“คนบ้า.. หน้าไม่อาย” เสียงห้าวพึมพำเบาๆระหว่างปล่อยให้ปลายนิ้วชี้คลิกเม้าท์ไปเรื่อยๆให้เกมส์ในอินเตอร์เนตได้เล่นต่อไป ทั้งที่ตอนนี้จิตใจของเธอไม่ได้อยู่กับมัน มันไปอยู่กับเหตุการณ์ที่ทำให้เธอวิ่งหนีออกมาจากห้องนอนของตัวเองต่างหาก
เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้หญิงที่มีร่างกายงดงามขนาดนั้น ไม่ใช่เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้หญิงคนอื่นในชุดวันเกิดมาก่อน เธอเคยเห็นมาแล้วแน่นอนที่ออนเซน แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันไม่เหมือนตอนนี้ เพราะอะไร.. เพราะนี่เป็นแคล.. อย่างนั้นเหรอ..?
“พูดคนเดียวก็ได้ด้วยเหรอเนี่ย..เพื่อนฉัน..”
นั่นไงล่ะ มาถึงแล้วไวทันใจกับบริการรับเฝ้าของของบริษัท ZY คอร์เปอร์เรชั่น
ดิออนถอนหายใจออกมาอย่างระอาใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีม่วงอ่อนที่มองเธออย่างขี้เล่น “ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเธอนะไม.. ไหนบอกว่าเป็นวันหยุดไงล่ะ”
ไมทำเหมือนไม่ใส่ใจกับคำถามยอกย้อนนั่น เธอหันไปคว้าเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆเจ้าของบ้าน “ฉันมา.. ก็เพราะเจ้านายที่รักสั่งมา ไม่ได้อยากมาซะหน่อย ไม่ต้องดีใจไปหรอก..เพื่อน” ดิออนเบือนหน้าหันไปทางอื่นทันที และที่ไมสังเกตได้ทันทีเหมือนกัน ก็คือริมฝีปากสวยนั่น แยกเขี้ยวกับมาให้ มันทำให้เธอส่ายหน้าและยิ้มออกมาอย่างบอกไม่ถูก “ไม่รู้เลยนะว่า.. เขารักเธอลงไปได้ยังไงนะ..ยัยดิว ดูทำเข้าสิ”
คำพูดประโยคนี้ไปสะกิดหูคนฟังเหมือนตั้งใจ ดิออนหันขวับกลับมาหาคนพูด “เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ”
ไมทำท่ายิ้มเหมือนรู้ทัน จากนั้นก็ขยับเข้ามาใกล้ๆให้ริมฝีปากของเธออยู่ที่ข้างหูของผู้ฟัง ส่งเสียงกระซิบ “ฉันบอกว่า..เขารักเธอ” และนาทีหนึ่งเธอก็เห็นว่า ดวงตาสีมรกตคู่นั้นเบิกโตขึ้นมา ใบหน้าขาวคมเปลี่ยนสีเป็นแดงก่ำทั้งสองแก้ม เธอแอบหัวเราะ ก่อนที่จะถูกผลักให้ออกไปนั่งห่างๆ
“เขาจ้างให้เธอมาพูดเรื่องนี้เหรอ..ยัยไม ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอก คนเพิ่งจะเจอกันไม่กี่วัน จะมารักกันได้ยังไงง่ายๆ และอีกอย่างนะ ฉันก็ไม่ใช่ผู้ชายด้วย” ดิออนพยายามหาเหตุผลออกมาแย้ง แต่ก็ประหลาดใจที่ได้ยินเสียงหัวเราะจากคนใกล้ตัวจนได้ เธอหันไปมองหน้าไมอย่างสงสัย “อะไรยัยบ้า..”
ไมพยายามหยุดหัวเราะ แต่เธอก็ทำไม่ได้และในที่สุดก็ต้องพูดออกมาทั้งแบบนั้น “เธอนั่นแหละที่บ้า..ยัยดิว เธอก็รู้นี่ว่า..คุณแคลไม่ได้ชอบผู้ชายซะหน่อย เขาชอบผู้หญิง”
ดิออนชะงักกับเหตุผลที่ดีกว่าของเพื่อนตาสีม่วง จนต้องก้มหน้าลงมองจ้องจอโน้ตบุคที่ตรงหน้าแทน “แต่ฉันเปล่านี่”
“เหรอ..?” ไมถามเสียงสูง ทำให้คนก้มหน้าต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เธอยิ้มอย่างรู้ทันเป็นครั้งที่สอง “และที่ฉันเห็นเธอพยายามจะจูบเขาในโรงยิมตอนนั้น.. ฉันตาฝาดไปรึไง อย่ามาทำไก๋ดีกว่าน่า.. สมัยนี้ไม่มีใครว่าหรอก.. ถ้าเธอจะชอบแบบนี้น่ะ อย่าคิดมาก” ไมตบบ่าเพื่อนรักเบาๆแสดงทีท่าเข้าอกเข้าใจ จากนั้นก็ปล่อยให้อีกฝ่ายได้อยู่กับความเงียบตามลำพัง จนกระทั่งเขาเปิดปากพูดขึ้นมา
“เธอรู้ได้ยังไงว่า..เขารักฉัน” ดวงตาสีเขียวไร้ความมั่นใจเวลาที่เอ่ยถามประโยคนี้ แต่ไมก็ยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง “เขาบอกเธอเหรอ”
“เปล่า.. ไม่เคย” ไมตอบหน้าตาเฉย จนได้เห็นสีหน้าตกใจจากอีกคน มันทำให้เธอต้องยกมือขึ้นตบบ่าของเขาอีกครั้ง “เอาน่า.. เอาน่า..ยัยดิว.. เขารักเธอนั่นแหละ เชื่อเหอะ ฉันมองออก” ดิออนมองหน้าเธออย่างไม่ไว้ใจ จนเธอต้องถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ แล้วก็กลับมายิ้ม “เธอไม่เชื่อฉันก็ได้นะ ฉันไม่ว่า แต่เธอก็ดูต่อไปนะว่า ฉันพูดจริง”