web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 153
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 119
Total: 119

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 18 - หยิน และ หยาง  (อ่าน 2750 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 18 - หยิน และ หยาง
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:59:08 »
Chapter  18  :  หยิน และ หยาง

ดิออนยอมรับเลยว่า เธอกำลังสับสนมากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมากจนรับไม่ทันแบบนี้  แต่ถึงจะสับสนและงงยังไง  ตอนนี้เธอก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่ภายในรถยุโรปคันงามกับคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างอีกด้าน  และเขาไม่สนใจเธอเลยสักนิด  ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลแสนสวยของเขามองทอดออกไปนอกหน้าต่าง 

ใบหน้าสวยดูเรียบเฉยอย่างที่ไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่  ดูๆไปเขาก็เหมือนแคลมากเหมือนกัน  เวลานั่งนิ่งๆจะไม่มีใครสามารถอ่านออกได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริง  ผิดแต่ตรงที่แคลจะยิ้มมากกว่าเขา  เขาจะยิ้มก็เฉพาะเวลาที่คุยกับเธอเท่านั้น  และมันก็ดูจะเป็นเพียงรอยยิ้มตามมารยาทเท่านั้นด้วย  ดูคล้ายเขาไม่มีแก่ใจจะยิ้มให้ใครเลยสักคน  แววตาของเขา  ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลแบบนี้ หากจะดูให้ดีมันคล้ายกับก้อนน้ำแข็ง  หนาวไปถึงหัวใจ

แต่แคล..  ดวงตาสีแดงของแคล  เหมือนก้อนเลือด  บางครั้งก็ดูอบอุ่นเหมือนแสงของพระอาทิตย์  แต่บางครั้งก็เหมือนไฟที่แทบจะเผาไหม้ทุกอย่างได้ในพริบตา

เยือกเย็น กับ ร้อนแรง...  ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน  เหมือน  หยินกับหยาง  เลยใช่ไหม..

แล้วทำไมพวกเขาถึงได้เลิกกันล่ะ  ไม่เข้าใจเลย.. 

“สำรวจฉันพอหรือยัง”

ร่างบางสะดุ้งเพราะเสียงที่อยู่ๆก็ดังขึ้นจากคนข้างๆ ดิออนกระพริบตาและเห็นแล้วว่า ดวงตาคมกริบปรายมองเธอจากจุดนั้นที่เธอมองเขาอยู่ นาทีหนึ่งเธอขนลุกเกลียวอย่างบอกไม่ถูกกับสายตาเย็นชาที่มองมาหา  มันหนาวไปถึงหัวใจ น่ากลัวจริงๆ

“เอ่อ..ขอโทษค่ะ  ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เธอว่าละลำละลักและก้มหน้างุดไม่กล้ามองหน้าเขาอีกต่อไป 

ไม่รู้เพราะอะไรเวลาอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้  เธอจะต้องรู้สึกกลัวแปลกๆทุกที  หรือจะเพราะว่า รู้ดีว่าเขาเป็นใคร  หรือจะเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอถึงสิบกว่าปีแบบนี้กันนะ  ไม่รู้สินะ แต่ออร่าจากตัวเขามันไม่เหมือนคนทั่วไปเลย  แม้กระทั่งแคล  เขาทำให้เธอกลัวได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ  อะไรกันนี่  เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ

และตอนนี้ก็ทำให้เธอยิ่งกลัวมากขึ้นอีกแล้ว  เมื่อมือขาวๆของเขาเข้ามาเชยคางเธอขึ้นหา  ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลอันเย็นชากำลังมองหน้าเธออยู่  แต่ถึงจะกลัวจนใจเต้นกระหน่ำอยู่ในอก  เธอก็ตกลงใจว่าจะไม่หลบตาเขา  ไม่ทำให้เขารู้ว่าเธอกลัวจนแทบจะเป็นลมตายอยู่แล้ว  และแล้วเขาก็ยิ้มออกมาจนได้  แม้จะยิ้มแค่มุมปากก็เถอะ

“เก่งนะ ไม่กลัวฉันด้วย  แบบนี้ค่อยสมกับเป็นคู่หมั้นของแคลลี่หน่อย”

พูดจบเขาก็ปล่อยมือออกจากคางของเธออย่างไม่ไยดี  และหันไปหาหน้าต่างอีกครั้ง  นี่มันอะไรกันนี่  แล้วดูสิ  พูดอะไรออกมา คู่หมั้นของแคลลี่เหรอ..?

“ผู้พัน”  ดิออนหลุดปากเรียกเขาออกจนได้  เธอสงสัยจนต้องถามให้ได้เสียแล้ว  แต่เขาดูไม่สนใจเธอเลย  หน้าสวยๆนั่นยังดูเฉยอยู่ขณะฮัมรับคำเรียกชื่อ  นี่หรือคนที่ดูเจ้าชู้มากๆที่เธอเจอในห้องประชุม  คนคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะนี่

“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงกันคะ  เรียกฉันว่าคู่หมั้นของแคลลี่  แล้วคุณล่ะ  คุณน่ะเป็นคนที่แต่งงานกับเค้าไม่ใช่เหรอ  และเค้าก็ใช้นามสกุลคุณอยู่ถึงตอนนี้  คุณน่ะเป็นสามีของเขาไม่ใช่หรือไง”

เอาแล้วไงล่ะดิออน  เธอไปปลุกเสือที่กำลังหลับอยู่ทำไม  สาวตัวใหญ่กว่าเธอสองเท่าหันมามองหน้าอีกครั้ง  คิ้วเรียวสีเงินนั่นขมวดเป็นปม  ดวงตาที่อ่านไม่ออกว่าคิดอะไรกำลังหรี่ตามองเธออยู่  และเป็นอีกครั้งที่เธอหลบไม่ทันปล่อยให้เขาเข้ามาสัมผัสปลายคางเธอจนได้  ใบหน้าสวยก้มมาจนใกล้เธอมากแล้ว  เขาจะทำอะไรเธอ

“ผู้พัน  คุณจะทำอะไรน่ะ”

“ขอฉันชิมหน่อยได้มั้ย..  รสชาติของคนที่ทำให้แคลติดใจน่ะ”

หยาบคาย..  หยาบคายที่สุด..

และโดยไม่รู้ตัวเธอก็เงื้อมือขึ้นฟาดใบหน้าสวยๆของเขาไปเต็มที่จนหน้าของเขาหันไปอีกทาง  แก้มขาวซีดแดงเห่อขึ้นมาเป็นรอยมือ  แต่เขาดูไม่ตกใจเท่าไหร่  ทั้งยังหันหน้ากลับมามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เธอไม่รู้จริงๆว่าคิดอะไรอีกครั้ง จนกระทั่งเขาพูดขึ้น

“เธอรู้มั้ยว่า  คนที่กล้าตบหน้าฉันน่ะ  มันจะเป็นยังไงต่อไป”

ประโยคนี้ยิ่งพาให้หัวใจของเธอเต้นจนลืมจังหวะ  เธอจะทำอย่างไรต่อไป  หากเขาคิดทำอะไรไม่ดี  แค่คิดจะสู้เธอก็แพ้แล้ว  แรงของเธอสู้แคลที่ตัวเล็กกว่าเขายังแทบจะไม่ได้  นับประสาอะไรกับคนที่สูงเกือบสองเมตรคนนี้ล่ะ  แถมคนขับรถคันนี้ก็เป็นคนของเขาด้วย  ใครกันจะช่วยเธอได้  และไหนจะกระจกกั้นระหว่างผู้โดยสารกับคนขับอีกล่ะ  เธอจบแน่ๆ  แต่ก็เอาเถอะ  ตายเป็นตายสิ  ฉันจะสู้  คอยดูต่อไป

“ใครจะสนใจล่ะ  ถ้าคุณทำอะไร  ฉันก็จะสู้แค่ตายเท่านั้น” ดิออนประกาศเสียงแข็ง  แปลกใจจริงๆที่เห็นอีกคนนั่งยิ้มออกมาอย่างพอใจ  ใบหน้างามๆที่มีรอยแดงเห่อเพราะมือเธอหันไปทางอื่นแล้ว  และเขาก็ไม่แตะต้องเธออีก

ทุกอย่างในรถคันนี้นิ่งสนิท  มีแต่ตัวเธอที่นั่งไม่ติดที่และหัวใจเต้นรัว  เธอไม่น่าต้องมาทำหน้าที่เป็นไกด์ทัวร์ให้เขาเลย  ผู้หญิงที่นั่งหน้านิ่งๆไม่สนใจเธออยู่นั่น  แต่พลันหัวคิ้วของเธอก็กระตุกเพราะเสียงนุ่มๆแบบนี้

“แคลสบายดีหรือเปล่า”

คำถามธรรมดาๆแบบนี้กลับทำให้เธอรู้สึกดีกับเขาขึ้นมาได้บ้าง สายตาของเขาในคราวนี้ดูอ่อนโยนขึ้นจนเห็นได้ชัด  นั่นเพราะเขากำลังพูดถึง...  พูดถึงแคลใช่ไหม.. 

ไม่น่าแปลกหรอกที่เขาจะอ่อนโยนแบบนี้ให้กับคนที่เขารัก..  รักเหรอ..?  รักแล้วทำไมถึงเลิกกันล่ะ..  ไม่เข้าใจ...

“ค่ะ  ดูจากภายนอกก็สบายดี  แต่ในใจ..  ฉันคิดว่า  เค้าไม่สบายเท่าไหร่หรอกนะคะ”  ดิออนพูดตามจริง จนได้เห็นผู้หญิงตรงหน้าแสดงอาการวิตกออกมาเป็นครั้งแรก  แต่ไม่กี่นาที  หน้าตาสวยๆนั่นก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง 

ไม่ใช่สินะ ต้องเรียกว่าเย็นชาเหมือนเดิมต่างหาก  ดูสิดู พูดออกมาได้แบบนี้

“อย่างนั้นหรือ  แล้วทำไมเธอไม่ช่วยทำให้เค้าสบายใจขึ้นล่ะ”

น้ำเสียงแบบนี้  หน้าตาไร้อารมณ์แบบนี้  ทำไมกันนะ ถึงทำให้เธอโมโหได้  ใช่สิ..ก็เขาพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไงล่ะ 

ภาพความทรงจำในคืนนั้นที่แคลเพ้อออกมาเพราะพิษไข้  เขาร้องเรียกหาใครล่ะ  ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้  และถ้าไม่รัก จะเพ้อหาทำไม..  ไม่มีทาง..

ไวเท่าความคิด  สองมือบางก็เข้าไปดึงคอเสื้อเชิ้ตที่อีกคนใส่อยู่  ดึงให้เขาหันมาสนใจ  น่าแปลกนักที่เห็นใบหน้าตรงหน้ายังคงนิ่งอยู่และไม่ได้ขัดขืนการทำตัวหยาบคายของเธอ

“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง..ผู้พัน   ฉันจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ  ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงคนใหม่ของเขานี่”

คำย้อนนี้ทำให้เธอสะอึกและต้องกลับมานึกทบทวน  และความเผลอตัวไปเพียงแค่อึดใจ  เธอก็แพ้พ่ายให้กับความไวของคนตัวใหญ่กว่าที่พาร่างของเธอเข้ามานั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา  แขนยาวๆโอบรัดตัวเธอเอาไว้  ไม่มีทางเลยที่เธอจะไปไหนได้  หัวใจเธอแทบจะออกมาเต้นระบำอยู่นอกอก  เมื่อเขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้  มือบางพยายามดันอกของเขาไว้และเมินหน้าหนีพยายามที่จะหลบเลี่ยงการถูกจูบ  แต่มันคงเป็นการตัดสินใจที่ผิดและไม่รู้เท่าทันคนมากประสบการณ์อย่างคนตรงหน้า  เพราะตอนนี้ก็พบว่าตัวเธอกำลังสั่นสะท้านเพราะปลายจมูกโด่งๆที่เข้ามาสัมผัสไปตามลำคอ  เรียวปากร้อนๆพรมจูบไปกับจุดชีพจรของเธอ

“อย่านะผู้พัน  ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ!”

“ฉันก็ไม่ได้เล่นกับเธออยู่นี่..ดิออนจัง  ฉันแค่อยากจะลองของใหม่ของภรรยาของฉันบ้าง  จะเป็นอะไรไปล่ะ”

ภรรยา..?  นี่เขายอมรับแล้วใช่ไหมว่า  เขาจะมาทวงแคลคืนไป..  ทำไมฉันถึงได้โง่แบบนี้นะ

ดิออนกลั้นใจและรวบรวมกำลังของเธอขึ้นใหม่และผลักอกของอีกคนออกไปจนได้  หมั่นไส้รอยยิ้มสะใจของเขาจริงๆจนอยากจะตบหน้าสวยๆนี้อีกสักฉาดเอาให้ปากแตกจนพูดไม่ได้ยิ่งดี  แต่เธอคงจะได้แค่คิด  กับสถานการณ์แบบนี้  เธอมีแต่เสียเปรียบเท่านั้น

“คุณอยากจะได้เค้าคืนไป  คุณก็เชิญเอาไปเลยสิ  ฉันกับเค้ายังไม่ได้มีอะไรกัน”

และอีกครั้งที่เธอได้เห็นแววตาตกใจจากผู้หญิงคนนี้  แต่มันก็เหมือนเดิม  เขากลับมาเย็นชาอีกครั้ง  แต่รอยยิ้มประหลาดที่มุมปากมันหมายความว่ายังไง  เขาคิดอะไรอยู่กันนี่
ดิออนไม่จำเป็นต้องสงสัยเรื่องนี้นานนัก  เมื่อเรียวปากสวยของคนตรงหน้าพูดออกมาพร้อมแววตาที่เธอรู้สึกกว่ากลัวมากกว่าใครในชีวิต  มากกว่าแคลในภาคซาตาน

“งั้นก็ดีสิ  ฉันจะได้ลองชิมเธอก่อน  สกรีนเทสต์ให้สุดที่รักของฉันยังไงล่ะ  อย่าว่ากันเลยนะ..คุณหนู”

และเธอก็ไม่รู้อะไรอีกเลยหลังจากนั้น  โลกทั้งใบมันมืดดำไปหมด....

--The bodyguard--

ปลายนิ้วเรียวสวยไล้ไปเบาๆกับศีรษะของคนที่นอนหนุนตักตัวเองอยู่  แองเจล่านั่งอยู่ภายในรถลิมูซีนคันเดิมแต่บรรยากาศในรถคันนี้เปลี่ยนไป  ตอนนี้เธอนั่งเท้าคางและมองดูใบหน้าที่หลับใหลของเด็กสาวที่นอนหลับตาอยู่บนตักตัวเอง หัวใจกลับมาเต้นในจังหวะปกติ  สมองของเธอผ่อนคลายลง

ไร้เดียงสา..  ไร้เดียงสาจริงๆ  เด็กเอ๋ย..  เธอไม่ควรเลยนะแคล  ที่เอาผ้าขาวบริสุทธิ์ขนาดนี้มาแปดเปื้อนกับเราด้วย  คิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ต้องขยับมือขึ้นมาบีบขมับตัวเองอีกครั้ง  พลางถอนหายใจแรงๆ  ภาพของผู้หญิงตาสีแดงปรากฎขึ้นมาในหัวใจให้ต้องเม้มปากของตนอย่างครุ่นคิด

หรือฉันเองที่เป็นคนผิดที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้กันล่ะ..แคลลี่

โอ้..ไม่ได้สิ  ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะเรื่องของตัวเอง   ฉันมาเพื่อ..................

“แพททริค”  เสียงนุ่มแต่แฝงด้วยอำนาจเอ่ยเรียกชื่อคนขับ  เขาขานรับอย่างแข็งขันกลับมาอย่างทุกครั้ง

“ครับท่าน”

แต่คนเรียกกลับนั่งชั่งใจตัวเองอีกครั้งก่อนจะออกคำสั่งใหม่ไปได้  มันเหมือนมีอะไรที่ทำให้ต้องเป็น  แต่ช่างเถอะ  ช่างมัน..หัวใจฉันมันชาไปหมดแล้ว..

“ไปท่าเรือและติดต่อเรือไปเกาะดารอฟสกี้   เราจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”

“รับทราบครับ..ผู้พัน”

หัวใจกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง  ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลอ่อนโยนลงขณะมองลงยังใบหน้าของเด็กสาวที่หลับตาพริ้มอยู่ที่เดิม  มือสวยปัดปอยผมบนหน้าผากของสาวน้อยผู้หลับใหลก่อนจะก้มหน้าลงไปจรดเรียวปากของตัวเองลง  เสียงนุ่มๆน่าฟังกระซิบแผ่วเบาราวจะเข้าไปในความฝันของคนนอน

“ฝันดีนะคะ  นางฟ้าตัวน้อย  ฉันจะคอยปกป้องเธอเอง  นับจากวันนี้ไป..”




เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.