บทนำ ภายในสเตเดียมโรงยิมที่สามารถบรรจุคนได้เป็นพันๆคน ซึ่งสายตาทุกคู่กำลังรอลุ้นผลคะแนนการแข่งขันแบดมินตันระดับจังหวัด ในวินาทีก่อนหน้ากรรมการได้ตัดสินให้มีการ
เพิ่มลูกพิเศษเนื่องจากนักกีฬาทั้งคู่มีคะแนนไล่เลี่ยกันอีกทั้งยังทราบข่าวอีกว่าทางฝ่ายคู่แข่งหน้าใหม่คนนั้นมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว เพราะไม่เคยมีใครเลยที่จะสามารถทำคะแนนได้ไล่
เลี่ยกับเธอได้ ‘เวย์’ สาวสวยคม สุดเท่ห์ขวัญใจของหนุ่มๆและสาวๆทั้งโรงเรียนเพราะเป็นเด็กกิจกรรมเด่น หน้าตาดี เรียนระดับดี ไม่เคยมีวีรกรรมด้านชกต่อยกับใคร(ดูเหมือนจะโหด
เกินไปมั๊ย)สรุป เธอสวย เก่งแต่จะสวยขึ้นมากๆถ้าหากว่าบนใบหน้ามีรอยยิ้มโอเคป่ะ…..
ตอนนี้ใบหน้าคนที่กำลังเริ่มเล่นเซตใหม่ซึ่งจะต้องเล่นอีกสองลูกเพราะฉะนั้นแล้วความกังวลใจทั้งหมดก็ตกมาอยู่ที่เธอคนเดียวแถมยังทำให้ผู้เป็นเพื่อนที่ตามมาเชียร์ถึงขอบสนามก็อด
ที่จะเครียดแทนเพื่อนสาวเท่ห์คนนั้นไม่ได้..
“งานนี้ฉันว่ายัยเวย์ต้องกดดันหนักแน่” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนึงในกลุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่สังเกตเห็นอาการที่ดูเครียดๆบนใบหน้าของเพื่อนมานานแล้ว
“คนอย่างยัยเวย์ แกก็น่าจะรู้ดีนะว่ามันแสดงได้แค่สองหน้าเท่านั้นแกจะไปห่วงมันทำไม” แต่ผิดกับเพื่อนสาวอีกคน
“แกไม่เป็นฉันแกไม่รู้หรอก” สาวหน้าตาจิ้มลิ้มยังอดห่วงเพื่อนที่อยู่ในสนามไม่ได้
“เออนะ ดูโน่นสิเริ่มแล้วไง” เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นสาวที่เป็นเพื่อนของคนที่กำลังแข่งอยู่ในสนามก็เริ่มหันไปให้ความสนใจและส่งกำลังใจไปให้อีกครั้ง
“เอาล่ะ เราสองคนมาส่งกำลังใจให้ยัยเวย์ไปพร้อมๆกัน”
ตอนนี้จุดสนใจของทุกคนกำลังเบี่ยงเบนไปทางจุดศูนย์กลางของสเตเดียมแห่งนี้พร้อมกับการตีโต้ลูกขนไก่นั่นสองถึงสามครั้งและแล้วผลสรุปก็ออกมาจนได้…สาวเท่ห์ชนะไป
กริ๊ด!!!!!!!!!!!!! เสียงโห่ร้องซึ่งแสดงถึงความยินดี ดีใจให้กับผู้ที่ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ใช่แล้วเธอชนะอย่างเฉียดฉิวเลยแหละ
“เห็นมั๊ยล่ะยัยดิพ ฉันคิดแล้วว่ายัยเวย์ต้องชนะ” เพื่อนสาวที่รอลุ้นผลอยู่ข้างสนาม ก็หันมาพูดขึ้นพร้อมกันส่งเสียงกริ๊ดกร้าดกลับไปให้คนที่ชนะอยู่สนาม
“อืม ฉันว่ารอให้ยัยเวย์รับเหรียญเสร็จเราไปฉลองกันดีกว่า” พูดเสร็จสาวที่ชื่อว่า ‘ดิพ’ ก็ลากเพื่อนที่ส่งเสียงกริ๊ดไม่หยุดให้เดินไปตามแรงลากแกมดึงของเธอ
“เบาๆ หน่อยสิยัยบ้า” คนที่ตัวสูงกว่าร้องด่าเพื่อนสาวที่ลากเธออย่างกับจะหนีระเบิดสามชายแดนนั่นแหละ
“แกก็เดินให้มันเร็วๆหน่อยได้มั๊ยยัยวัน” สาวที่ชื่อว่า ‘วัน’ ทำหน้าตาหงุดหงิดชุดใหญ่ใส่สาวที่ลากเธออยู่ข้างกาย
“ฉันเดินเองได้ เร็วๆเข้าเดี๋ยวจะไม่ทันยัยเวย์รับเหรียญหรอก”
ตอนนี้จุดมุ่งหมายของเธอทั้งสองคือห้องส่วนตัวของนักกีฬา ซึ่งเพื่อนสาวสุดเท่ห์ของพวกเธอสองคนเมื่อรับเหรียญเสร็จก็รีบวิ่งมาที่ห้องโดยเร็ว เหตุเพราะเกลียดการขอถ่ายรูปของ
บรรดาหนุ่มๆและสาวๆที่แอบปลื้มเธอนั่นเอง
“อะไรกันเนี่ย น่าเบื่อชิป!!” คนที่วิ่งมาหลบอยู่อีกด้านหนึ่งของสเตเดียมก็พูดอย่างหัวเสียขึ้น พร้อมกับหยุดหายใจถี่จากการวิ่งหนีเมื่อตะกี้
“อันแน๋!! แกมาอยู่นี่เองนะ” จะเป็นใครไปอีกถ้าไม่ใช่สองสาวเมื่อตะกี้ แต่ก็ทำให้คนที่โดนร้องทักสะดุ้งเกือบตลบหลังหาย
“อะไรของพวกแกกันมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะ คนตกใจหมด” คนที่บอกว่าตกใจเรียกขวัญกลับมาเกือบไม่ทัน
“แม้ๆ ทีเมื่อกี้ฉันเห็นนะย่ะว่ามีคนรุมหน้ารุมหลังแกอยู่เลยแล้วทำไมตอนนี้หนีมาอยู่ที่หลังสเตฯแล้วล่ะ” สาวที่ชื่อวันอดหมั่นไส้เพื่อนสาวคนนี้ไม่ได้
“อิจฉาตาร้อนเลยนะยัยวัน หึๆ” แต่คนที่เป็นเพื่อนรู้ทันอาการที่แสดงออกได้ชัดของอีกคน
“ฮ่าๆ ฉันว่าแกน่าจะรู้นิสัยยัยวันมันดีนะ” สาวดิพก็ช่วยกันเสริมทัพ
“เอากันเข้าไป ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะย่ะพวกแกสองคนนี่” สาวที่โดนรุมเดินทำหน้างอนเข้าห้องพักนักกีฬาไปแล้ว
“อีกแล้วฉันว่างานนี้เราสองคนงานเข้าแล้วล่ะ” ดิพหันไปส่งสายตาแกมคำถามใส่เวย์
“ฉันก็ว่างั้น” สาวที่ตอบกลับทำหน้าตาเฉยๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องพักนักกีฬา
ภายในห้องพักนักกีฬาที่มีทั้งกระจกบานใหญ่พร้อมผนังห้องที่โดนทาสีด้วยสีขาวบริสุทธิ์แล้วยังกว้างขวางเอาการแต่ต่างกับคนที่กำลังนั่งปั้นหน้าบึ้งอยู่หน้ากระจกที่ดูยังไงก็กำลังงอน
เพื่อนสองคนเอามากๆ
“ใช่สิ เรามันทำอะไรก็ผิดตลอด” เสียงของสาวขี้งอนที่เดินมาในห้องเป็นคนแรกนั่งบ่นอุบอิบอยู่หน้ากระจกบานใหญ่อยู่คนเดียว ซึ่งมันก็ดันไปเข้าโซนประสาทหูของสาวคนที่สองที่
เดินเข้ามาภายในห้องพอดี
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรแกเลยนะยัยวันทำเป็นอารมณ์เสียไปได้” สาวคนที่สองเดินมาตั้งมือไว้บนบ่าของวันพร้อมกับพูดเพื่อไม่ให้สาวคนนี้คิดไปไกลสุดขั้วโลก
“ใช่แล้วอีกอย่างฉันกับยัยเวย์ก็แค่พูดเล่นๆไปงั้นๆแหละแกอย่าบ้าจี้ตามได้ป่ะ อีกอย่างวันนี้แกเป็นอะไรทำไมถึงได้งอนง่ายอย่างนี้ล่ะ” ดิพเลิกคิ้วถามสาวขี้งอนตรงหน้าหลังจากที่เดิน
เข้ามาในห้องตามๆกับเวย์
“ก็ฉันอิจฉายัยเวย์นิ” สาวขี้งอนเผยสิ่งที่ทำให้อารมณ์ตัวเองแปรปรวนขึ้น
“อิจฉาฉันเนี่ยนะ” สาวเวย์พูดพร้อมเอานิ้วชี้ไปหาตัวเอง
“ใช่ฉันอิจฉาแก อิจฉาที่ต้นไปขอถ่ายรูปแก อิจฉาที่เค้าเป็นแฟนคลับแก” สาวขี้งอนพูดอย่างมีน้ำโหเมื่อนึกถึงภาพตอนนี้ชายที่ตนแอบชอบไปขอถ่ายรูปเพื่อนสนิทของเธอแล้วยังดู
ชอบเพื่อนเธอเอาการซะด้วยอีก
“ที่แท้ก็เพราะนายต้นคนนั้นนี่เอง” เมื่อสาวที่มีฐานแฟนคลับเยอะนึกขึ้นได้ก็เสยยิ้มแกมอยากให้สาวดิพรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องนี้เองเหรอ
“ไหนแกบอกว่าไม่ชอบเค้าไง” คนที่ชอบล้อเพื่อนเล่นก็อยากที่จะแกล้งคนปากไม่ตรงกับใจสักหน่อย
“ฉันเปล่านะ แค่ตอนนั้นยังไม่รู้ใจตัวเองต่างหาก” ถึงปากจะพูดแบบนี้แต่ในใจไปถึงไหนแล้วไม่รู้ คนที่เป็นเพื่อนคิดในใจ
“อย่างนั้นเองเหรอ แล้วทำไมตอนที่พี่เค้ามาคุยด้วยถึงหลบหน้าล่ะ” สาวมาดนักกีฬาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงล้อๆใส่
“แกไม่ต้องมาจับผิดหรือทำตาลุกลี้ลุกลนใส่ฉันนะ ยัยเวย์แกก็ด้วย” คนขี้งอนเปลี่ยนอารมณ์ให้กลับมาอยู่ในโหมดเดิม
“เพิ่งรู้ใจตัวเองแล้วสิ” ดิพก็พูดขึ้นอย่างรู้สถานการณ์
“ก็…..อืม” แล้วคนที่โดนถามก็ตอบอย่างไม่ต้องคิด
“ดี แต่แกต้องทนไปหน่อยนะเพื่อนเพราะว่านายต้นของแกดันมาปลื้มฉันซะแล้วสิ” สาวเท่พูดอย่างไม่จริงจังพร้อมหันไปหัวเราะเกือบเต็มเสียงกับเพื่อนอีกคนอย่างสนุกเอาการ
“พวกแกสองคนนี่!!!!!!!!!!!!” สาวที่โดนเพื่อนแกล้งตะโกนดังลั่นห้องจนสาวทั้งสองที่หัวเราะอยู่เอามือมาปิดหูแทบไม่ทัน
“จะเสียงดังไปทำไมเนี่ย” สาวที่ชื่อดิพพูดลั่นขึ้นบ้างหลังจากที่โดนมรสุมเสียงแหลมๆของวันมาเกือบค้อนนาที
“อารมณ์แกฉันตามไม่ทันเลยจริงๆ” สาวเท่ห์ใบหน้าคมหวานพูดพร้อมสายหน้าเบาๆ
“เอาหล่ะ คือไหนๆแกก็รักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ได้อีกปีเราไปฉลองกันเถอะ” พอคิดถึงเรื่องกินสาวที่ขี้งอนเมื่อตะกี้เปลี่ยนกลับเข้ามาเป็นสาวเห็นแกกินอีกจนได้
“ฉันเชื่อแกเลยจริงๆ” สาวเท่ห์ ที่สวยคมมองหน้าเพื่อนสาวอย่างเหลืออด
“ฉันว่าเราไปกันเถอะยัยเวย์ และไม่ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล่ะแค่นี้แกก็มีคนกริ๊ดจะแย่อยู่แล้ว” ดิพพูดขึ้นพร้อมกับหน้าตาชื่นชมเพื่อนอย่างชัดแจ้ง
“เออ ไปกันได้ยัง” คนที่กำลังหิวเอามากๆ ถามขึ้นอีกรอบ
“ไปกันวันนี้เป็นวันของฉันฉันเลี้ยงพวกแกเอง” สาวเท่ห์เดินนำหน้าไปแล้วจึงทำให้เพื่อนอีกสองคนเดินตามไปติดๆ
“ลุย!!!!!”
.................แฮะๆวันนี้มาอัพบทนำค่ะพอดีโง่นิดหน่อยเล่นบอร์ดนี้ยังไม่เป็น หึหึ ฝากติดตามสาวเวย์และสาวเคลด้วยนะค่ะ จุ๊บๆๆ