เช้าวันแรกของคำว่าอิสรภาพทำให้มัทนาเหมือนกับได้รับการปลดปล่อยและยังสัมผัสได้ถึงคำว่าชีวิตที่เป็นของตัวเองอีกครั้งแต่เรื่องทุกอย่างก็ยังไม่เรียบร้อยเมื่อมีปัญหาใหม่เข้ามาและดูท่าทางจะหนักซะยิ่งกว่าคำว่าเป็นลูกหนี้เสียอีก
มัทนาเดินไปที่บ้านหลังใหญ่หลังจากที่เดินไปส่งพ่อของตัวเองขึ้นรถแถมก่อนจะไปก็ได้รับประโยคกดดันแทนคำร่ำลาทำให้เธอต้องตรงดิ่งมาตามคำสั่งที่ได้รับทันทีแต่แล้วการก้าวเดินก็ต้องหยุดชะงักเพราะใครอีกคนที่กำลังมองมา
“คุณนรีคะ”
เหมือนขาจะแข็งไปชั่วขณะเมื่อนรีรัตน์มองเห็นคนนิสัยเสียกำลังเดินมาทางตัวเองแต่พอได้สติหญิงสาวก็ก้าวเท้าเดินหนีอีกฝ่ายทันทีแต่เธอก็ยังเร็วไม่พอทำให้ถูกคนที่เดินตามมาจับแขนเอาไว้
“จะไปไหนคะ”
“เรื่องของฉัน”
คนพูดเอ่ยออกมาเสียงแข็งก่อนจะมองมือที่จับแขนของตัวเองด้วยความไม่พอใจ นั่นจึงทำให้มัทนาต้องค่อยๆคลายมือออกด้วยความรู้สึกผิด
“มัทขอโทษค่ะ”
น้ำเสียงสำนึกผิดบวกกับใบหน้าเศร้าๆทำให้คนที่แอบมองอดที่จะสงสารไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ทำให้ใจที่เริ่มอ่อนกลับมาแข็งได้อีกครั้ง
“ฉันไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดคืออะไรแต่หวังว่าเธอจะไม่ทำให้พี่สาวฉันเสียใจไม่งั้นฉันจะเกลียดเธอ”
“คุณนรี”
“หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังเป็นครั้งที่สองนะ”
คนพูดเตรียมเดินเข้าบ้านแต่กลับถูกคนที่คุยด้วยเดินเข้ามาขวางเอาไว้อีกครั้ง
“คุยกันก่อนสิคะ”
“ฉันไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด”
“ไม่ทันแล้วล่ะค่ะเพราะทุกคนเข้าใจผิดกันไปแล้วรวมทั้งคุณด้วย”
“พูดอะไรของเธอ”
มัทนาหยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพูดความจริงออกมา
“ความจริงเรื่องมัทกับพี่สาวของคุณ”
“สำหรับเรื่องนั้นฉันว่าแค่สิ่งที่ฉันเห็นมันก็มากเกินพอแล้ว”
นรีรัตน์กำลังจะเดินไปแต่ก็ถูกคนพูดไม่รู้เรื่องคว้าแขนเอาไว้เพราะในตอนนี้มัทนาอยากให้มีใครสักคนที่เข้าใจและเชื่อใจในตัวเธอบ้าง
“มัทกับคุณหทัยเราไม่ได้มีอะไรกัน”
ทันทีที่พูดจบใบหน้าของคนพูดก็หันไปตามแรงเหวี่ยงฝ่ามือของคนตรงหน้าทันทีก่อนจะตามมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“อย่าพูดให้พี่สาวฉันต้องเสียหายอีก”
“แต่คุณต้องเชื่อมัท”
“ฉันอยากเชื่อเธอนะมัทนาแต่สิ่งที่เธอทำเมื่อคืนมันคือคำตอบที่เธอไม่ควรจะมาแก้ตัวอีก”
“แต่ว่า…”
“อย่าพูดอะไรให้ฉันต้องเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้เลยนะ แค่นี้…ฉันก็เจ็บมากแล้ว”
พูดจบนรีรัตน์ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้แม้เสียงสะอึ้นจะแผ่วเบาแต่ก็ไม่อาจหลบซ่อนคนที่มองอยู่ได้ มัทนาประคองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาให้เงยขึ้นก่อนจะค่อยๆใช้หลังมือเช็ดให้
“มัทเสียใจที่ทำให้คุณร้องไห้”
“ฉันอ่อนแอเองแหละไม่เกี่ยวกับเธอ”
คนพูดดันตัวออกห่างจากคนตรงหน้าเพราะเกรงว่าตัวเองจะเผลอลืมตัวตอบรับสัมผัสอ่อนโยนจากอีกฝ่าย
“ฉันเสียใจไม่เป็นไรแต่เธออย่าทำให้พี่สาวฉันเสียใจก็แล้วกันพี่หทัยเจ็บปวดมาทั้งชีวิตหวังว่าครั้งนี้เธอจะไม่ทำร้ายพี่สาวฉันอีก”
“มัท…”
“สัญญากับฉันได้มั้ยถือว่าเป็นคำขอร้องจาก…เพื่อน”
มัทนามองคนพูดอย่างลำบากใจก่อนจะพยักหน้ารับคำเพราะไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรแต่ก่อนที่นรีรัตน์จะเดินไปหญิงสาวก็หันกลับมาหาคนก่อเรื่องอีกครั้งก่อนจะเงยหน้าสบตากับมัทนาเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ฉันขออะไรเธออีกอย่างได้มั้ย”
“ได้สิคะสำหรับคุณนรีจะขอกี่เรื่องก็ได้”
นรีรัตน์ชั่งใจอยู่นานก่อนจะเอ่ยคำบางคำที่ทำให้คนฟังรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยแต่เพียงไม่นานคำขอของหญิงสาวตัวเล็กก็เป็นผล
คนทั้งคู่ยืนกอดกันอยู่นานก่อนที่นรีรัตน์จะเป็นฝ่ายดันตัวออกแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ มัทนามองสายน้ำที่ไหลรินออกมาจากดวงตาของคนที่จากไปด้วยความรู้สึกสงสารไม่คิดเลยว่ามิตรภาพที่ตัวเองพยายามสร้างขึ้นจะทำร้ายใครอีกคนได้มากมายขนาดนี้
มัทนาแทบจะหัวขม่ำเมื่อจู่ๆก็ถูกมือลึกลับกระชากหูจนเกือบหลุดแต่เมื่อหันไปมองคนที่ทำร้ายตัวเองหญิงสาวก็ถึงกับเอือมระอาเพราะคนที่ทำไม่ใช่ใครที่ไหน
“ไม่เอามีดมาฟันไปเลยล่ะคะ”
“หาไม่ทันไว้คราวหน้าก่อน”
“คุยกันดีๆบ้างได้มั้ยคะ”
“แล้วใครใช้ให้เธอเริ่มก่อนล่ะ”
หทัยภัทรเอ่ยหน้ามุ่ยก่อนจะเดินหนีคนที่ทำให้ตัวเองอารมณ์เสียไปทางอื่น
“เดี่ยวก่อนสิคะ”
มัทนาเดินตามคนขี้โมโหไปติดๆก่อนจะรีบเดินไปขวางทางเพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเดินหนีไปไหนได้
“หลีกไป”
“ไม่ค่ะ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ”
“แต่เราควรจะเคลียร์กันให้รู้เรื่องนะคะ อีกอย่างถ้าเป็นแบบนี้คนที่เสียก็คือคุณไม่ใช่มัท”
เป็นประโยคแรกที่ทำให้หทัยภัทรนิ่งคิดก่อนจะหันหน้ามาคุยกับมัทนาอย่างจริงจังมากขึ้น
“รีบๆพูดฉันมีเวลาไม่มาก”
“มัทรู้ค่ะเอาเป็นว่าคุณควรจะบอกทุกคนว่าเรื่องของเราไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด”
“ยังไง”
“ก็เรา เราเอ่อ เรายัง…”
มัทนารู้สึกอายขึ้นมาเมื่อต้องพูดแบบนี้ออกมาถึงมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆแต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเขินเวลาพูด
“เราอะไร เอ่อ อาอยู่ได้”
น้ำเสียงแข็งๆบ่นความรำคาญทำให้คนฟังรู้สึกใจหายเล็กน้อยเมื่อคิดว่าความรู้สึกที่เขินอายเกิดขึ้นแค่กับตัวเองเท่านั้น
“เรา เรายังไม่มีอะไรกันไงคะทุกคนจะได้เลิกเข้าใจผิดซะที”
“ทุกคนโดยเฉพาะยัยนรีใช่มั้ย”
มัทนามองคนพูดประชดประชันอย่างไม่ใส่ใจนักเพราะตอนนี้เป้าหมายของเธอคือการตอบตกลงที่จะแก้ข่าวของคนตรงหน้าแต่เหมือนจะไม่ได้ผลเมื่อจู่ๆคนที่เหมือนจะเข้าใจกลับสะบัดหน้าเดินเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็วจนมัทนาได้แต่ยืนอึ้งเพราะไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่ายแต่พอจะวิ่งตามเข้าไปก็ถูกคนที่ยืมมองอยู่เข้ามาขวางไว้
“บ้านนี้ไม่ต้อนรับแก! ”
ปาลิตาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่ดุดันก่อนจะกางแขนปิดช่องโหว่เพื่อกันไม่ให้ใครเข้าไปได้
“คุณคนเดียวละมั้งที่คิดแบบนี้อย่าลืมสิว่าใครเป็นคนรั้งมัทไม่ให้ไปจากที่นี่”
มัทนาแทบจะตบปากตัวเองที่พลั้งปากพูดแบบนี้ออกมาเพราะแทนที่จะทำให้เรื่องเบาบางลงกลับยิ่งทำให้เรื่องบานปลายมากขึ้นกว่าเดิม
“พี่หทัยกำลังหลงผิดแต่ไม่นานหรอกแกจะต้องกระเด็นออกจากไร่”
“นี่คุณปาลิตาถ้าคุณอยากให้เรื่องจบก็ให้มัทคุยกับพี่ของคุณสิ”
“ไม่มีทาง”
“’งั้นคุณคงต้องทนเห็นหน้ามัทต่อไป”
“หน้าด้านคนเค้าไล่ยังไม่ไปอีกนี่คงคิดจะปอกลอกพี่หทัยล่ะสิ เลวได้พ่อจริงๆ”
“ปาลิตา!”
“ใช่นั่นแหละชื่อฉันจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าถ้ามีฉันอยู่แกไม่มีทางหลอกพี่สาวฉันได้สำเร็จ”
มัทนาถึงกับอ่อนใจกับความดื้อด้านของคนที่ขวางทางและในเมื่อไม่คิดจะยอมให้กันเธอก็จะไม่ยอมถอยให้อีกแล้ว
“สำเร็จไม่สำเร็จฉันก็ยังอยู่ที่นี่ คุณน่าจะยอมรับได้แล้วนะว่าพี่สาวคุณเลือกฉัน”
“ไม่จริง! ฉันเชื่อว่าพี่หทัยมีเหตุผลที่ดีแต่ไม่ใช่เพราะพิศวาสคนอย่างแก”
“ไม่พิศวาสงั้นเหรอ ลืมไปหรือเปล่าว่าฉันกับพี่คุณไปถึงขั้นไหนต่อไหนกันแล้วเอ…ถ้าไม่เชื่อคืนนี้ก็ลองมาแอบอยู่ใต้เตียงสิเผื่อจะได้ตาสว่างขึ้น”
“หยุดพูดเดี่ยวนี้นะ!”
ปาลิตาตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับการก้าวเท้าเข้าไปหาคนตรงหน้าด้วยความโมโหแต่ครั้งนี้มัทนาไม่ได้ก้าวถอยหนีดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อตอนนี้สถานะของเธอไม่ใช่ลูกหนี้อีกต่อไปแล้วเรื่องอะไรเธอต้องปล่อยให้คนแบบนี้มาทำร้ายเธอได้ฝ่ายเดียว
“ฉันจะช่วยเอาเลือดชั่วๆของแกออกให้”
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูแต่อย่าลืมนะว่าตอนนี้ใครเป็นต่อ อีกอย่างถ้ามีเรื่องตอนนี้ใคร…จะกลายเป็นหมาหัวเน่า”
คำพูดสุดท้ายทำให้คนฟังถึงกับน้ำตาซึมเพราะปาลิตารู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองเป็นยิ่งกว่าที่คนตรงหน้าพูดอีก
“ขอโทษด้วยที่ต้องพูดๆแรง”
มัทนาเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเดินเข้าบ้านไปช้าๆแต่การก้าวเดินก็ต้องหยุดชะงักเพราะใบน้านิ่งๆที่มองมายังเธอของหทัยภัทรพร้อมกับการเดินเข้าไปปลอบปาลิตาที่ยืนปาดน้ำตาอยู่
หทัยภัทรกอดปลอบน้องสาวตัวเองอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะประคองปาลิตาให้เดินเข้าบ้านโดยไม่แม้แต่จะหันมามองคนก่อเรื่องจนทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับต้องเดินคอตกกลับที่พักตัวเอง
มัทนาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีเธอรู้สึกสับสนไปหมดยิ่งเห็นแววตาที่ว่างเปล่าของเจ้าของบ้านเธอก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก…ครั้งนี้เธอคงทำให้หทัยภัทรโกรธจริงๆแต่จะแคร์ทำไมล่ะเมื่อถึงที่สุด…เธอก็จะสามารถไปจากไร่นี้ได้ซะที
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 ไออุ่นรัก
http://www.yuriread.com/index.php?board=117.0 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ