web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 27
Total: 27

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil vol.1 Chapter 18.5 : ก้าวสั้นๆของฉันและเธอ  (อ่าน 3898 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
My little sweet devil vol.1 Chapter 18.5 : ก้าวสั้นๆของฉันและเธอ
« เมื่อ: 24 มีนาคม 2014 เวลา 22:11:11 »



Chapter  18.5 :  ก้าวสั้นๆของฉันและเธอ



สองมือขาวประคองแก้วเซรามิกในมืออย่างระวัง  ก้มลงเป่าไอขาวๆที่บอกถึงอุณหภูมิของสิ่งที่อยู่ในแก้วออกให้จางลง  ก่อนบรรจงจิบมันช้าๆ  นมอุ่นๆสักแก้วคงทำให้หลับสบายขึ้น  แต่ว่า...

ฉันจะหลับลงได้ไง  มีคนบ้านอนอยู่ที่โซฟาเนี่ย!

มิกิถอนหายใจแผ่ว  หล่อนเกเรได้เรื่องจริงๆเหมือนที่เมเนเจอร์ตัวเล็กว่า  อุตส่าห์บอกว่าดึกแล้วไม่ต้องมาส่งก็ได้  บ้านก็ไกลกันยังจะดื้อมาให้ได้อีก  แล้วดึกขนาดนี้จะปล่อยให้กลับไปได้ยังไง  หล่อนอาจจะตัวใหญ่  แต่ยังไงก็เป็นผู้หญิง  แถมยังสวยมากขนาดนี้  รวยและดังมากอีกต่างหาก  ถ้าหล่อนเป็นอะไรไป  เธอจะรับผิดชอบไว้เหรอ  พรุ่งนี้มีเข้าฉากด้วยกันด้วยสิ  ขืนบัดดี้ของเธอไม่ไปเข้าฉาก  ระเบิดคงลงกองถ่ายตายกันหมดทั้งกอง  และเธอนี่แหละที่จะโดนก่อนใคร  คู่จิ้นไม่ใช่หรือไงล่ะ  นักข่าวต้องพุ่งมาที่เธอก่อนแน่  คิดแล้วก็เพลีย  เพิ่งรู้ว่าชีวิตดารามันลำบากและวุ่นวายมากขนาดนี้ก็ตอนนี้แหละ

แต่เพราะมันไม่ใช่เหรอที่ทำให้ฉันได้เจอคุณ..

แต่ถึงอย่างนั้น...

“มาทำแบบนี้ทำไม..  หรือเห็นฉันยังเสียใจไม่พอ..”  เสียงหวานกระซิบอยู่ใต้ลมหายใจ  เธอวางแก้วลงกับเคาท์เตอร์บาร์  สั่นหัวน้อยๆเธอหมดปัญญาจะเข้าไปนอนต่อได้  ทั้งที่เป็นคนจัดแจงให้หล่อนนอนตรงนี้เองก็กลับเป็นห่วงเองจนนอนไม่ได้  น่าอิจฉาคานาเดะ  ป่านนี้คงหลับสบายคร้อกฟี้ไปแล้ว  ช่างเถอะ  ถึงหล่อนตื่นอยู่ก็คงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้

ทำไมต้องรักคนพรรค์นี้ขนาดนี้ด้วยนะ  แค่อยากจะเล่นสนุกไม่ใช่เหรอ.?

ผ้าห่มที่หอบมากองไว้ที่โซฟาเดี่ยวนานแล้วแต่ยังไม่เอามาใช้  ถูกจับขึ้นในที่สุด  เธอเอามันมาห่มให้คนที่นอนซุกหมอนอิงหลับสนิทอยู่  ไม่รู้ทำไมขี้เซานัก ทำไมนอนได้สบายแบบนี้  ไม่หนักใจอะไรเหมือนเธอเลยเหรอ..

ใช่สิ  ก็คุณแค่อยากจะป่วนฉันให้คลั่งเท่านั้น..

มือสวยเผลอลดลงไปลูบหน้าท้องตัวเอง  ความรู้สึกที่ถูกสัมผัสตอนนั้นมันยังไม่ไปไหน  ปลายนิ้วที่ลากไล้ถึงจะผ่านเนื้อผ้า  มันก็ยังรู้สึกเสียววูบวาบ  เธอคงจะครางแน่ๆ ถ้าไม่หยุดมันเอาไว้  ร่างกายของเธอ  ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร  มันรุ่มร้อนทุกครั้งที่อยู่ใกล้หล่อน  เกิดมายี่สิบสองปีแล้ว  ไม่เคยเจอใครที่ทำให้รู้สึกแบบนี้มาก่อน  ใช่ว่าเธอตายด้านจนไม่รู้สึกถึงอารมณ์เซ็กซี่ๆแบบนั้น  แต่คงเพราะเธอยังไม่เคยเจอใครที่ให้ความรู้สึกว่า ‘ใช่’ เลยสักคน 

คนคนนี้แค่จูบเบาๆก็แทบจะลอยละล่องไม่ติดพื้นแล้ว   ผู้ชายหน้าไหนก็เทียบไม่ติด   ใช่สิ..เธอเคยจูบมาก่อน  จูบตอนเล่นละคร  จูบเพราะมันเป็นงาน 

อายุป่านนี้แล้ว  ไม่ต้องหวังหรอกนะ  เรื่องจะเหลือเฟิร์สคิสให้ใครได้อีก  แต่เฟิร์สเลิฟ..  เธอยังมีสิทธิ์นั้นอยู่   และเธอรู้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นแล้ว  ดันมาเกิดกับคนที่ไม่ควรจะเกิดเสียด้วย  เป็นผู้หญิง  แถมยังกวนประสาท  อยากจะกระชากคอมาเขย่าให้หายทึ่มสักที   แล้วที่มานอนอยู่ตรงนี้  หายทึ่มแล้วหรือยัง.?

“ฉันไม่อยากยอมรับเลยนะว่ารักคุณ..”   มิกิกระซิบเสียงเบา  ห้ามใจตัวเองไม่ไหวจนได้  หลังมือเธอไล้แก้มใสของคนที่หลับสนิทอยู่ช้าๆ 

ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มลืมตัว  ผิวเนียนนุ่มที่สุด  ไม่มีหนวดสากๆให้เคืองใจ  ไม่เหมือนดาราชายพวกนั้นที่ไม่ว่าจะโกนหนวดมาเนี้ยบแล้วก็ยังทำให้สะดุ้งทุกทีที่ต้องเลิฟซีนกัน  แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอหันมาชอบผู้หญิงด้วยกันหรอก

แคร์ที่ไหนล่ะว่าจะเพศไหน   แค่รู้สึก ‘ใช่’ เรื่องนั้นก็เล็กน้อยไปทันที..

“แล้วคุณล่ะคริส..  คุณรู้สึกเหมือนฉันไหม..  คุณรับรักฉันไม่ได้เพราะฉันเป็นผู้หญิงเหรอ..  ใช่สิ  คุณไม่ใช่อิงกริดนี่นา..”  พึมพำเสียงน้อยใจ  ดวงตาคู่งามเริ่มมีน้ำใสๆมาปิดบังให้มองอะไรไม่ชัด  ถึงอย่างนั้นเป้าหมายที่เล็งไว้ก็ไม่พลาด 

ริมฝีปากเต็มกดลงกับอีกเรียวปากที่เผยอออกราวจะเชื้อเชิญกันอยู่ในที  ที่สุดเธอก็ฝืนตัวเองไม่ไหว  จากที่แค่จะจูบเบาๆกลับกดความรู้สึกไปเต็มที่  หัวใจมันคงจะโหยหาสัมผัสแบบนี้มาแสนนาน  และปากผู้หญิงมันทั้งนุ่มทั้งหวานอย่าบอกใคร  เกินกว่าที่เธอจะถอนตัวจากไปตอนนี้  ถึงจะไม่มีใครตอบสนองกลับมา

ไม่สิ  ปากคริสตินเริ่มขยับตอบรับ  เรียวปากสวยที่เธอครอบครองมันอยู่  เคลื่อนไหวเป็นจังหวะเดียวกัน  และจากที่ก้มจูบหล่อน  แขนยาวของคนนอนก็คว้าเอวเธอให้ลงไปหา  กลายเป็นเธอที่นอนคร่อมตัวหล่อนในท่าที่ล่อแหลม  ใครมาเห็นจะว่ายังไง  แต่ใครจะสนใจกันล่ะ  ในเมื่อฉันต้องการ...

หยดน้ำใสๆที่รินอยู่ไหลลงจากหางตาในที่สุดเมื่อเธอปิดเปลือกตาเพื่อขอรับรู้สัมผัสจากอีกฝ่ายที่ไม่แน่ใจเลยว่า  รู้สึกตัวแล้วหรือเคลื่อนไหวแบบนี้เพราะสัญชาตญาณสั่ง  หญิงสาวครางสะท้านอยู่ในจูบ  ลูบคลำใบหน้าของคนด้านล่างอย่างแสนรัก  เธอรู้สึกกึ่งอยู่ในฝันกึ่งอยู่ในความจริง  กระทั่งปลายนิ้วหล่อนมาไล้แก้มช้าๆราวจะปาดน้ำตาให้  ดวงตาสีน้ำเงินก็เปิดขึ้นอย่างตกใจกับตาสีฟ้าที่ปรือตามอง  เธอกระเด้งออกจากตัวหล่อนทันที  อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน   ทำไปได้ยังไงกับคนหลับแบบนั้น  แต่แทนที่จะได้วิ่งหนีเข้าห้อง  เอวกลับถูกล็อคเอาไว้ด้วยแขนยาวแข็งแรงที่คว้าเอาไว้ได้ทัน 

ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากเธอทั้งคู่อยู่นาน  คริสตินทำแค่ซุกหน้าอยู่กับหลังเธอที่ยืนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง และใครล่ะที่จะพูดก่อนถ้าไม่ใช่เธอ ก็เธอเริ่มมัน

“ฉันขอโทษ..”  น้ำตาเริ่มคลอเบ้าอีกระลอก  เธอหลับตาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึก  ควบคุมอารมณ์ใหม่  เตรียมใจรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อ 

เตรียมรับความเสียใจ...

“คุณจะลืมมันไปก็ได้นะ  ฉันก็แค่----”

“แค่อยากจูบคนพร่ำเพรื่อแล้วไม่รับผิดชอบน่ะเหรอ.?”

น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจพาให้คนใจอ่อนอยู่เป็นทุนเดิมค่อยๆหันไปหาเจ้าของมัน  เห็นดวงตาแสนรักน้ำตาคลอไม่ต่างจากเธอก็ใจหาย  ที่ผ่านมาเธอคิดเสมอว่า  หล่อนสนุกมากที่ทำให้หัวใจเธอไม่ปกติ  หวุดหวิดจะอาละวาดทุกคนได้วันละหลายรอบแล้ว  พักนี้เธอเครียดมากจริงๆ  และสาเหตุนั้นก็คงไม่พ้น

ความรัก..

“รับผิดชอบอะไรล่ะ  ก็ฉัน...”

“เป็นแฟนกันสิ” 

หล่อนตอบออกมาง่ายๆ หากดวงตาสีสวยที่มีน้ำมาคลอบอกอารมณ์มาหลายอย่าง  และคนตกใจอย่างเธอก็กลัวว่าจะหูเฝื่อน  คิดเรื่อยเปื่อยไปลำพัง  แล้วอยู่ๆก็โดนดึงลงมานั่งตักหล่อนเสียอย่างนั้น  คนบ้านี่ไม่ยอมปล่อยเธอไป

และเธอก็เริ่มจะหมั่นไส้หล่อนอีกแล้ว!

อารมณ์เปลี่ยนง่ายเหมือนสาววัยทองเลยนะ  เพิ่งยี่สิบสองเอง..

เมนส์จะมาล่ะมั้ง   อารมณ์ถึงพุ่งพล่านยังไงบอกไม่ถูก  เฮ้อ...

“แค่จูบแค่นี้  จะให้เป็นแฟนเลย..  ถ้างั้นฉันคงเป็นกับใครหลายคนแล้ว”   แกล้งพูดไปอย่างนั้น  อยากลองดูปฏิกิริยาอีกคนว่าจะทำหน้ายังไง  เป็นครั้งแรกที่เห็นหล่อนค้อนตาแทบกลับ  จากที่เศร้าๆอยู่เมื่อครู่  หลุดหัวเราะออกมาจนได้  จนอีกฝ่ายเริ่มตาขวางและรัดตัวเธอแน่นขึ้น

“คริส.. ฉันอึดอัดนะ”

“หัวเราะเยาะฉันทำไมล่ะ”   

ดวงตาสองสีหันมาเจอกัน  ครั้งนี้เธอทั้งคู่นิ่งไป  มิกิเหลียวมาตรงๆแต่ยังคงไม่กล้าหันมาทั้งตัว  เพราะท่านั่งของเธอคงจะล่อแหลมและเสี่ยงมากเกินไป  ซ้ำชุดที่เธอใส่อยู่ก็แค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงนอนตัวบางเท่านั้น  เสื้อคลุมก็ดันหยิบออกมา  เสื้อผ้าแค่นี้  ถอดง่ายถอดดายจะตายไป  ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอมากกว่าจูบเมื่อกี้  คงไม่ใช่เรื่องดี  ถึงเธอจะอยากให้เป็น 

เธออาจจะรักหล่อน  แต่เธอก็รักเวอร์จิ้นเธอมากกว่า..

ใช่.. ฟังไม่ผิดหรอก  เธอยังไม่เคยนอนกับใคร  ไม่ได้รักนวลสงวนตัวขนาดนั้น  แค่ไม่อยากผิดพลาด  และงานของเธอก็ทำให้ลำบากที่จะขยับตัวไปกับใครได้   เรื่องความสัมพันธ์ทำนองนั้น  คงจะเป็นเรื่องรองจากงาน

และถ้าเธอจะมีความสัมพันธ์กับใครขนาดนั้น  สำหรับตอนนี้แล้ว  ก็คงจะต้องเลือกกันสักนิด  ถึงนอนกับผู้หญิงจะไม่ทำให้เธอป่องก่อนแต่ง  แต่มันจะดีกว่าไหม  ถ้าเธอจะเสียครั้งแรกนี้ให้กับคนที่วางใจได้ว่า  จะรับผิดชอบกัน..

แค่รับผิดชอบหัวใจฉันก็พอ...

“คุณเป็นอะไรคริส.?”  ที่สุดก็เป็นเธอเหมือนทุกครั้งที่เปิดปากถามก่อน  หล่อนจ้องหน้าเธอสักพัก  แล้วดวงตาคมสีสวยก็เลื่อนลอยพร้อมกับปลายนิ้วที่มาไล้เบาๆที่ใต้ริมฝีปากล่าง หัวใจเธอกระตุกรุนแรง  ในอกเธออัดแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่ยังไม่อยากให้มีตอนนี้ 

ผู้หญิงที่ยอมอะไรง่ายไป  มักจะไม่มีค่า  เธอเชื่อแบบนั้น..

อย่างน้อยก็ทำให้รู้ก่อนสิว่า..รัก..

“ฉันกลัว..”

ดวงตาสีน้ำเงินมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา  เธอเลิกคิ้วถามย้ำ  หน้าตาแบบนี้น่ะหรือที่จะกลัวอะไร  หรือกลัวเธอ..  ไม่หรอกน่า..

“กลัวฉัน.?”  ถามอีกรอบ  คำตอบที่ได้ทำให้ตะลึง  หล่อนพยักหน้า  เธอพยายามจะขำ  แต่กลับขำไม่ออก  นั่นเพราะมือหล่อนที่มาคว้ามือเธอไปจรดจูบที่หลังมือ  ความรู้สึกตอนนี้ไม่ใช่เสียวซ่านอย่างที่เคยเป็น  แต่กลับมีความอบอุ่นแผ่ขยายมาจากสัมผัสนั้นพุ่งมาสู่หัวใจ  มันดีกว่าจูบเมื่อครู่เสียอีก 

ไม่ใช่สิ  มันต่างกัน...

ความเร่าร้อน  กับ  ความอบอุ่น  มันคนละเรื่อง..

แต่ถ้าทั้งสองอย่างมาควบคู่กันได้  ก็คงจะดี..  มากๆเลย..

“คริส.?”

ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสที่เธอหลงรักตั้งแต่แรกเห็นแม้จะเป็นผ่านในหน้าหนังสือนิตยสารครั้งนั้น  ตอนนี้กำลังทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ  มันทั้งหวาดกลัวและออดอ้อนอยู่ในที   ใจเธอจะละลายเสียให้ได้

อา...ฉันควรจะทำยังไงกับคุณดีคะ.?

“คริส.. พูดกับฉันสิ  ถ้าคุณไม่พูด  ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ  ฉันไม่ใช่รีเบคก้าซังที่จะรู้ใจคุณทุกอย่าง”  เอ่ยถามติดประชดไม่รู้ตัว  ดวงตาคู่คมจ้องเธออย่างตกใจ 

ดาราสาวถอนหายใจหนัก  “ฉันพอรู้มาบ้าง  เรื่องคุณกับเค้า”  ในที่สุดก็หลุดปากออกไปจนได้  อีกฝ่ายผละมือออกไปทันที  ก้มหน้าหลบสายตาราวเด็กโดนจับผิด
งั้นก็เรื่องจริงสินะ  ไม่ต้องถามต่อแล้ว..

มิกิกลอกตาเบื่อๆ เธอเกือบจะลุกเดินหนีเข้าห้องนอน  แต่กลับยกมือขึ้นลูบหัวคนที่ไม่กล้าสู้หน้ากันตรงนี้แทน  แปลกนะ  ตอนนี้คนตัวใหญ่นี่กลับเหมือนกลายเป็นเด็กไปเสียแล้ว 

อืม..ก็น่ารักดี..  ผมนุ่มดีด้วยสิ  เผลอๆก็ลูบเพลินไปเสียแล้ว  ยิ่งอีกฝ่ายทำตัวเหมือนแมวน้อยขี้กลัว  เธอก็ยิ่งอยากเอ็นดู  ไม่รู้ทำไม..

เพราะรักใช่หรือเปล่า.?

จะเรียกแบบนั้นได้แล้วหรือ.? เริ่มไม่แน่ใจตัวเองแล้วสิ  ตอนนี้ไม่รู้สึกอยากจะเป็นแฟนหล่อนแล้ว  อยากเป็นมากกว่านั้น  แฟนบางทีไม่สำคัญเท่ากับคนรู้ใจหรอกนะ  หรือไม่จริง..

ฉันสู้ผู้จัดการบาร์บี้ไม่ได้เลย..  รู้ตั้งนานแล้ว..

“ฉันไม่เคยมีแฟนหรอกนะคริส  แต่พอจะเข้าใจอยู่บ้าง  เวลาอกหัก  มันก็แบบนี้แหละ”  พูดออกไปอย่างนั้น  เพราะไม่รู้จะพูดอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ได้ยังไง  แปลกใจกับอีกคนที่เธอยังจับหัวหล่อนอยู่   หล่อนเงยหน้าขึ้นมา  ดวงตาสีสวยแต่ตอนนี้สาบานเลยว่า  มันสุดจะเศร้า  กำลังมองเธอมา  และเธอทำอะไรไม่ถูกแล้ว

เคยเป็นศิราณีให้ใครที่ไหนกันล่ะ  เธอไม่มีเพื่อนสักคนที่สนิทแบบนั้น  นอกจากคานาเดะ  แถมรายนั้นก็ไม่เห็นจะมีเรื่องทำนองนี้มาปรึกษาสักที  ผู้หญิงคนนั้นคงไม่เคยมีความรักมั้ง  หรือมีแต่เธอไม่รู้  เฮ้อ..เธอรู้อะไรบ้างล่ะ..

“เธอไม่ยอมเป็นแฟนฉัน.?”

มิกิกระพริบตาปริบๆ คำถามนี้ย้อนกลับมาได้ยังไง  ก็เมื่อกี้ยัง...

ช่างเถอะ..

“ฉันเคยอยากเป็น..  แต่ตอนนี้ ‘ไม่’ แล้วล่ะ”  คำตอบของเธอดูเหมือนจะคล้ายใครเอาอะไรไปปาหน้าอีกฝ่ายให้แหลกยับอย่างนั้น  หล่อนก้มหน้าลงและหัวเราะขื่นๆ บ่ากว้างไหวสั่น 

“นี่.. อย่าบอกนะว่าร้องไห้  ฉันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก..”  มิกิเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีที่อีกคนยังคงอยู่ท่านั้นหลายนาทีแล้ว   อย่าบอกนะว่าร้องไห้จริงๆ.? 

เธอไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้หล่อนเป็นอะไรไปได้  ไม่ว่าจะเป็นที่แอบลูบคลำเธอที่งานนั่น  หรือตามมาส่งที่นี่  หรือจูบเมื่อกี้  มันก็แค่อารมณ์วูบวาบเท่านั้น  ไม่ใช่อะไรพิเศษอย่างที่เธอหวังแน่ๆ  ถึงอย่างนั้นมันก็....

เป็นห่วงนะ..

มิกิก้มหน้าลงมองเจ้าของตักที่ยังรั้งเอวเธอไว้ไม่เลิก  คริสตินตอนนี้เหมือนเด็กที่กำลังขาดความอบอุ่นมากกว่าผู้ใหญ่ตัวโตที่ต้องการเรื่องอย่างว่านั่น  ท่าทางหล่อนจะมีปัญหาจริงๆ  ถึงว่าล่ะ..

เอาแต่ใจชะมัดเลย!

“คริส..  จะให้ฉันทำยังไง  บอกแล้วนะว่า  ฉันไม่รู้หรอก  ฉันไม่ใช่---”

“ฉันรู้แล้ว!”  ผู้ใหญ่งอแงตวาดเสียงแข็งกลับมาจากนั้นก็ทำหน้ารู้สึกผิด  เมื่อถูกมองด้วยสายตาผิดหวัง  “มิกิ..  ขอกอดหน่อยนะ”

คนถูกขอทำหน้างง  ไม่เข้าใจอารมณ์ขึ้นๆลงๆของอีกฝ่ายเลยจริงๆ  ก็ว่าเธออารมณ์แปรปรวนง่ายแล้ว  หล่อนยิ่งกว่า  ยังกับพายุไซโคลน  ท่าทางจะถูกตามใจเสียจนเคยตัว  คุณหนูจอมแสบอย่างเธอเลยเหมือนเป็นคุณหนูธรรมดาไปทันที  แต่คราวนี้จะทำยังไงต่อล่ะ  ตามใจงั้นเหรอ.?

“ขี้งก..  ใจร้าย!”

มิกิกดหัวคิ้วลงน้อยๆ ไม่แน่ใจว่าได้ยินอะไร  แต่สองมือที่เกาะเอวเธออยู่มันเพิ่มแรงกดมากขึ้นจนเริ่มอึดอัด  อ้าปากจะถามความ  ฝ่ายนั้นดันตอบมาก่อน

“ทีตอนนั้นเธอขอนอนห้องฉัน  นอนทับฉัน  ฉันยังไม่ว่าอะไรเลยนะ  ไหนจะเมื่อกี้อีก  เมื่อกี้ก็จะแอบลักหลับฉัน  เธอมีแต่ได้กับได้  กอดแค่นี้ทำเป็นหวง!”

สาวหน้าหวานตาค้าง  ปกติถ้าเป็นคนอื่นมาพูดปาวๆเสียงดังใส่หน้าเธอแบบนี้ก็คงจะโดนผลักกระเด็นไปแล้ว  แต่จะว่าไปแล้ว  นั่นมันก็นานมาแล้วที่เธอทำแบบนั้น   ตั้งแต่มาเข้าวงการ  สถานภาพของเธอก็บังคับให้ต้องสงบเสงี่ยมเรียบร้อย  สดใสและน่ารัก  เธอถึงได้เป็นเจ้าหญิงในสายตาของทุกคน  แต่หล่อน  หล่อนเห็นเธอเป็นอะไร..  แค่ที่ระบายอารมณ์  หรือที่พึ่งพากันล่ะ.?

“พูดไม่เพราะ”  สมองเธอสั่งการให้พูดประโยคนี้ออกไป  อีกฝ่ายสตั๊นไปหลายวิตามที่คาด  เธอพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้  ก่อนใช้มือบีบปลายคางหล่อนเบาๆพอให้รู้สึก 

จะว่าไปนะ  อารมณ์ตอนนี้มันช่างแตกต่างจากตอนที่เธอนอนไม่หลับแล้วออกมาเวิ่นเว้อเมื่อกี้เลย  แต่แน่นอน  มันดีกว่าเยอะเลยล่ะ  เธอไม่ต้องร้องไห้  ถึงจะไม่มีอะไรหวานๆอย่างที่ชอบ  และหวังเอาไว้  แค่ได้คุยกันก็พอ  ก็เผื่อเราจะรู้จักกันมากขึ้น  ฉันอยากรู้จักคุณ 

“เอาสิ  อยากให้คนอื่นทำอะไรให้  ต้องหัดพูดเพราะๆนะคะ”  ได้ทีก็จัดให้อีกสักดอก  อีกฝ่ายกลอกตาแถมค้อนขวับ  ทำท่าจะสะบัดหน้าออกจากมือเธอ  นึกหรือว่าจะง่าย  ฉันแข็งแรงนะ  ขอบอก!

“คริส..”  พูดเสียงนิ่งดูราบเรียบ  หากคนฟังกลับรู้สึกสะท้านไปทั้งใจ  หรือเพราสายตาของดวงตาสีน้ำเงินอันทรงพลัง  ในที่สุดก็ต้องถอดใจจนได้..

“ขอกอดหน่อยนะคะคนดี”  แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้น  เจ้าของคำพูดไม่อยากจะเชื่อเลยว่า มันจะได้ผล  ริมฝีปากอิ่มน่ารักคลี่ยิ้มบางๆ  ดวงตากลมโตเป็นประกายวิบวับ

พระเจ้า..  ช่างน่ารักเหลือเกิน..

“พูดแบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อยนะคะ”  มิกิยิ้มหวานและเข้าไปจุ๊บที่ปลายจมูกโด่งๆเบาๆ อีกสาวหน้าแดงจัด  หล่อนดูเคอะเขินอย่างที่เธอชอบ  แขนเรียวจึงเข้าไปโอบรอบคอคนตัวใหญ่เป็นการให้รางวัล  แต่เพราะระดับการนั่งที่ทำให้อยู่สูงกว่าเมื่ออยู่บนตักหล่อน  ใบหน้าคมเลยซุกเข้าหาอกเธออย่างไม่ตั้งใจ 

หญิงสาวเกือบจะหลุดปากส่งเสียงน่าอายเมื่อลมหายใจร้อนๆเป่ารดทรวงอก  ถึงมันจะผ่านเสื้อนอนแต่เนื้อผ้าบางๆก็ช่วยอะไรไม่ได้  หากเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะยั่วอารมณ์กัน  หล่อนแค่ซุกนิ่งๆและรวบตัวเธอไว้ด้วยสองแขนยาว  จึงพยายามข่มความรู้สึกเอาไว้  คริสตินนิ่งสนิทไปเหมือนหลับไปแล้ว  ไม่รู้หล่อนเห็นอกเธอเป็นอกแม่หรือไม่ถึงได้ดูสงบนัก  แต่ครั้นจะปล่อยให้อยู่ท่านี้กันทั้งคืนก็คงจะเมื่อยแย่  เธอคงต้องสะกิดคนหน้ามึนนี้ให้รู้ตัวเสียหน่อย

“นอนไหม..  ฉันนอนเป็นเพื่อน  ตอบแทนคืนนั้น..”  มิกิชักชวนอ่อนโยน  เห็นว่าอีกคนคงไม่อยากลุกขึ้นไปนอนในห้องเธอแน่ ดูล้าๆเต็มที  โซฟาตัวนี้ก็คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด  ถึงจะไม่นุ่มเท่าเตียงนอน  ก็พอนอนได้ไม่เจ็บหลังและยังใหญ่พอที่คนสองคนที่ตัวไม่เล็กจะนอนได้อย่างไม่ต้องกลัวตก  หวังแค่หล่อนคงไม่ดื้อเกินไปที่จะปฏิเสธความหวังดีจากเธอ       

นาทีต่อมาแม้ไม่มีคำตอบอะไรมาจากปากหล่อนสักคำ  แค่การปฏิบัติที่ไม่ต่อต้านกัน  แม่สาวผมเงินเอนหลังลงบนโซฟา  ดึงเธอให้ลงไปนอนด้วยคน  หล่อนยังกอดเธอ  ซุกหน้าอยู่กับอกแบบเดิม  ซ้ำยังหลับสนิทไปในเวลาอันสั้น  ปล่อยเธอให้นอนมองใบหน้าที่หลับใหลไร้เดียงสาด้วยความรู้สึกหลายอย่าง  ที่สุดเธอก็ถอนหายใจ  กดจูบลงบนศีรษะหล่อนก่อนจะวางคางไว้แทน

แล้วเราก็เป็นแบบนี้ทุกทีสินะ  แต่ช่างเถอะ  ช้าๆแต่มั่นคงก็ดีเหมือนกัน.. 





............................................................


วันนี้มาดึก  เพราะนึกอยู่ว่าจะลงวันนี้หรือพรุ่งนี้ดี  กลัวหมดสต็อกที่ว่าไว้เสียก่อนวันปิดจองอ่ะ อิอิ

แต่นี่ก็ตอนพิเศษนะ  ยังมีต่ออีกสองตอนให้อ่านกันก่อนหนังสือจะมา 

สำหรับตอนที่แล้วเจอคริสหนวดปลาหมึกไป  หลายๆคนชอบเลยล่ะสิ  แต่มาเจอตอนพิเศษนี้  อาจจะหาว่าเรื่องวนลูปเข้าไปอีก  มันไม่ใช่นะคะ  แค่อยากจะเคลียร์ว่า  เคจังมีปัญหาอะไร  ถึงได้ทำตัวซึน  ถึงได้สร้างกำแพงหนามาขวางความรู้สึกตัวเอง  อ่านแล้วคงรู้แล้วเนอะ

ส่วนเจ้าหญิงของเรา  ฮิเมะจังหรือมิกิจัง  เธอไม่ได้เป็นสาวหวานไร้เดียงสานะคะ  บอกไว้ก่อน  มีอะไรอีกเยอะที่คุณๆยังไม่รู้  อ่านต่อๆไปก็รู้ค่ะ  อิอิ

แล้วสำหรับคนที่จองหนังสือกันเข้ามานะคะ  บอกไว้ล่วงหน้าเลยว่า  ส่งพร้อมกันต้นเดือนเมษาค่ะ  ซึ่งก็จะแจ้งให้ทราบทุกคนเมื่อส่งแล้ว 

และอีบุ๊ค  ไม่ได้ขายเป็น pdf. นะคะ แต่จะฝากขายอยู่ใน Mebmarket.com และ ebooks.in.th ค่ะ  วางขายเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ

วันนี้ไปก่อนแล้ว  ขอบคุณทุกท่าน  ทุกๆคอมเม้นท์ด้วยค่ะ   :45:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.