เสียงเอะอะโวยวายจากหน้าบ้านทำให้หทัยภัทรต้องเดินออกมาดูก็พบเข้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ดูเหมือนวันนี้อีกฝ่ายตั้งใจมาหาเธอโดยเฉพาะ
“ถ้ายังอาละวาดไม่เลิกฉันจะให้คนงานมาโยนเธอออกไปนะ”
“ออกมาแล้วเหรอ ดีมาคุยกันให้รู้เรื่อง”
กมลเนตรเดินเข้าไปหาเจ้าของบ้านอย่างรวดเร็วก่อนจะหยุดยืนจ้องหน้าหาเรื่องอย่างท้าทาย
“ฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับเธอ”
“ที่จริงเนตรก็ไม่อยากจะคุยอะไรหรอกนะถ้าคุณไม่คิดจะกินไก่วัด”
“อะไรของเธอพูดไม่รู้เรื่องกลับไป”
“กินอยู่กับปากเนตรคงไม่ต้องอธิบายอะไรมั้งคะ”
“กมลเนตรระวังคำพูดด้วยอย่าลืมว่าฉันอายุมากกว่าเธอ”
คนฟังหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะมองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มองอะไร!”
“เปล่าค่ะแค่เห็นด้วยกับที่คุณหทัยพูด”
“เธอนี่ท่าทางจะเพี้ยนนะออกไปจากไร่ฉันได้แล้ว”
“ก็ได้ค่ะแต่ก่อนไปฝากความคิดถึงให้มัทด้วยนะคะ ออ…เนตรเชื่อนะคะว่าของสดๆยังไงก็ดีกว่าของแก่ๆเหี่ยวๆคุณหทัยภัทรว่ามัทเค้าจะคิดแบบเดียวกันกับเนตรมั้ยคะ”
พูดจบกมลเนตรก็เดินหัวเราะออกไปอย่างอารมณ์ดีโดยมีคนหน้าบูดมองตามอย่างหมั่นไส้
“ว๊า…มาไม่ทันคุณเนตรเลยอะ”
หทัยภัทรตวัดสายตามองคนพูดครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่นด้วยความไม่พอใจ
“คุณหทัยน่าจะเรียกมัทซักคำ”
“อยากเจอก็ไปที่บ้านเองสิ อย่ามาดึงฉันเข้าไปเกี่ยว”
พูดจบหทัยภัทรก็เดินกลับเข้าบ้านทันทีโดยมีคนอารมณ์ดีวิ่งตามมาติดๆ
“เป็นความคิดที่ดีนะคะ เอาไว้จะทำตามก็แล้วกัน”
“อยากทำอะไรก็เชิญ!”
“ค่ะ”
คนโมโหหยุดเดินก่อนจะหันไปมองคนที่เดินตามตัวเองอย่างรำคาญ
“ค่ะก็ไปสิ”
“ไปแน่ค่ะ แต่อยากคุยเรื่องของเราก่อน”
“อย่างนี้นี่เองคงอยากจะไปจนตัวสั่นเลยสินะ”
มัทนามองคนที่เอาแต่พูดประชดประชันไม่ยอมหยุดก่อนจะนึกสงสัยอะไรบางอย่าง
“ถ้าตอบว่าใช่…คุณจะปล่อยมัทไปมั้ยล่ะคะ”
คนฟังถึงกับทำหน้าไม่ถูกทั้งๆที่พยายามปฏิเสธความต้องการบางอย่างในหัวใจแต่ก็ต้องยอมรับว่าเพียงคำพูดสั้นๆของคนๆนี้ก็ทำให้เธอร้าวลึกมากจริงๆทำไมหัวใจของเธอถึงไม่รักดีแบบนี้นะ
รอยยิ้มของคนพูดค่อยๆจางหายไปเมื่อจู่ๆดวงตาว่างเปล่ากลับคลอไปด้วยน้ำตาจนมัทนาถึงกับใจหายก่อนจะเอื้อมมือหวังจะช่วยเช็ดให้คนตรงหน้าแต่กลับถูกปัดมือออกอย่างแรงจากนั้นหทัยภัทรก็เดินตรงเข้าบ้านอีกครั้งแต่เพียงไม่นานร่างกายของเธอก็ถูกพันธนาการด้วยอ้อมแขนของคนที่กำลังจะเดินหนี
“ถ้ามัทพูดอะไรผิดก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่จำเป็น”
มัทนามองด้านหลังของคนเสียงแข็งด้วยความรู้สึกสับสนถึงเธอจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอรู้ตัวเองดีว่าไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลยสักนิด
“คุยกันดีๆนะคะ”
“ฉันจะคุยแบบนี้แต่ถ้าอยากคุยดีก็ไปคุยกับผู้หญิงของตัวเองสิ”
ประโยคประชดประชันอีกแล้วไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่แต่จะเข้าข้างตัวเองไปมั้ยนะถ้าเธอกำลังเข้าใจว่าคนพูดกำลังหึงเธอ…หึง! ไม่จริงล่ะมั้งก็หทัยภัทรเกลียดขี้หน้าเธอจะตาย
“จะปล่อยได้หรือยัง”
“ยังค่ะ”
“มัทนาอย่าทำเหมือนฉันเป็นของเล่นสิที่นึกอยากจะกอดจะทำอะไรก็ได้ฉันเป็นคนนะมีเลือดเนื้อมีหัวใจ”
น้ำเสียงเศร้าๆของคนพูดทำให้มัทนาต้องคลายอ้อมกอดออกหลวมๆก่อนจะจับตัวคนพูดให้หันหน้ามาหาตัวเอง
“ถ้าอยากเล่นมากก็ไปทำกับผู้หญิงของเธอไม่ใช่ฉัน!”
“มัทไม่เคยเห็นคุณหทัยเป็นของเล่นนะคะ”
“แล้วที่ทำอยู่มันคืออะไร อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าลับหลังเธอพูดอะไรบ้าง”
มัทนาถอนหายใจออกมาน้อยๆไม่เข้าใจประเด็นในการสนทนาเลยสักนิดทั้งๆที่ตั้งใจมาเคลียร์เรื่องให้จบแต่ก็ดันมีเรื่องใหม่มาให้ปวดหัวอีกจนได้
“โอเคค่ะ ถ้าคุณไม่ชอบให้มัทกอดมันก็จะไม่ทำ ถ้าไม่อยากให้มัทจูบมัทก็สัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเอาเป็นว่าต่อไปนี้มัทจะไม่แตะต้องคุณอีก”
มัทนาเอ่ยพร้อมกับการปล่อยตัวคนตรงหน้าให้เป็นอิสระจากนั้นก็เดินถอยห่างออกมาเพราะจู่ๆความน้อยใจก็วิ่งวนเข้ามาในหัวใจของตัวเองจนอยากไปให้พ้นๆจากที่ตรงนี้
“ขอตัวก่อน”
คนพูดเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดเดินเพราะคนที่ยืนอยู่ข้างหลังยังไม่หยุดที่จะหาเรื่องเธอ
“จะไปหายัยนั่นใช่มั้ย ฉันไม่ให้ไป”
หทัยภัทรเดินมาคว้าข้อมือของคนที่กำลังจะเดินไปเอาไว้ก่อนจะลากเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล
“อะไรของคุณอีก”
“ฉันไม่ให้เธอไป!”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามมัท”
“แต่เธอได้ทุกอย่างจากฉันไปแล้วจะไม่รับผิดชอบหรือไง”
“คุณก็รู้ว่ามันไม่ใช่ความจริง”
“จะจริงหรือไม่จริงฉันก็ไม่ให้เธอไป”
พูดจบหทัยภัทรก็สวมกอดคนตรงหน้าโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้วและก็หวังว่าวิธีนี้จะรั้งไม่ให้มัทนาจากไปได้และก็ได้ผลเมื่อมัทนาค่อยๆกอดตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวคนที่ยืนตัวสั่นในอ้อมกอดของเธอ
หทัยภัทรกำลังร้องไห้เธอมั่นใจเพราะตอนนี้เสื้อของเธอกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของผู้หญิงคนนี้
เป็นเวลานานที่คนทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาทำให้ตอนนี้มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ไหลวนอยู่รอบๆ มัทนามองคนที่เอาแต่นั่งเหม่อไม่พูดไม่จาด้วยความรู้สึกเป็นห่วงก่อนจะเอื้อมมือไปจูงมือคนเงียบให้เดินตามเธอมา
เมื่อเดินมาถึงจุดหมายมัทนาก็ค่อยๆปล่อยมือที่จับจูงอีกฝ่ายออกก่อนจะยิ้มบางๆออกมาจนคนที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ยิ้มอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะแค่แปลกใจที่คุณหทัยยอมตามมาง่ายๆ”
“นั่นสินะแต่ถ้าฉันไม่มาเธอก็จะไปหาคนอื่น”
น้ำเสียงสั่นๆบวกกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความกลัวอย่างชัดเจนทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะดึงคนพูดเข้ามากอดแบบหลวมๆ
“ไหนบอกจะไม่กอด”
“ก็…”
มัทนานึกเหตุผลอยู่นานจนในที่สุดก็นึกข้อเท็จจริงบางอย่างขึ้นมาได้
“ก็อะไร! ไม่อยากกอดก็ไม่ต้องมากอด”
“งั้นถ้าอยากกอดก็อนุญาตใช่มั้ยคะ”
หทัยภัทรเงยหน้าขึ้นสบตากับคนพูดครู่หนึ่งก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่นเพราะหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ว่าไงคะ ถ้ามัทอยากกอดคุณหทัยจะอนุญาตใช่มั้ยคะ”
“ทำหยั่งกับทุกครั้งเคยขอ”
“จริงด้วย”
คำตอบรับบวกกับใบหน้าเปลี่ยนสีของมัทนาทำให้คนมองถึงกับเผลอใช้สองแขนโอบรอบคอคนหน้าแดงก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่ของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว ส่วนมัทนาก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าควรถามเอาคำตอบอีกดีหรือเปล่าแล้วตกลงหทัยภัทรยอมให้เธอกอดหรือเปล่านะ
“เอ่อ…”
เสียงจากบุคคลที่สามทำให้ทั้งสองสาวต้องผละออกจากกันอย่างอายๆก่อนจะเป็นมัทนาที่เดินเข้าไปหาคนที่เข้ามาหลังจากคุยกันอยู่ตรู่หนึ่งหญิงสาวก็รับอะไรบางอย่างก่อนที่ชายสูงวัยจะเดินออกไป
“นั่นอะไร”
มัทนามองของในมือก่อนจะรีบเดินเข้าไปใกล้คนถามแล้วกางสิ่งที่อยู่ในมือออก
“ไปเอามาจากไหนเนี้ย”
“ลุงชัยทำให้ค่ะ น่ารักดีนะคะ”
“ลุงชัยทำเป็นด้วยเหรอฉันไม่ยักกะรู้”
“มัทไม่รู้เหมือนกันค่ะคงต้องลองปล่อยดูจะได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า”
คนพูดดึงมือคนขี้สงสัยมาจับโคมคนละมุมกับตัวเองก่อนจะล้วงไฟแช็คออกมาจากกระเป๋า
“เธอจะบ้าเหรอจุดที่นี่ได้ยังไง”
“ทำไมล่ะคะ ที่โล่งแบบนี้น่าจะเหมาะที่สุด”
“เหมาะยังไงก็ไม่ควรถ้าเกิดตกแล้วไฟไหม้ขึ้นมาจะทำยังไง”
“ไม่หรอกค่ะ มัทเชื่อใจลุงชัย”
“เธอนี่ดื้อจริงๆเลย”
มัทนาหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะมองไปยังใบหน้างอๆของคนขี้กลัว
“เชื่อใจมัทนะคะถ้าเกิดอะไรมัทยินดีรับผิดชอบ”
ไม่รู้ทำไมประโยคนี้ถึงได้ทำให้คนฟังรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้า หทัยภัทรรีบดึงสายตาที่ประสานกับคนพูดออกก่อนจะทำทีเป็นสนใจโคมที่อยู่ในมือแทน ให้ตายเถอะมัทนากำลังเป่ามนต์สะกดเธออยู่ใช่มั้ยถึงได้ทำให้หัวใจและร่างกายของเธอร้อนรุ่มไปหมดแบบนี้
“คุณหทัยค่ะ คุณหทัย”
เสียงเรียกทำให้คนที่เริ่มฟุ้งซ่านต้องรีบสลัดความคิดหมกมุ่นของตัวเองออกก่อนจะรีบเก๊กหน้าขรึมหันมาหาคนเรียก
“เรียกทำไมเสียงดังอยู่ใกล้กันแค่นี้”
“มัทเรียกตั้งนานแล้วนะคะแต่ก็ช่างเถอะตอนนี้เราควรจะปล่อยมือกันได้แล้วเพราะโคมกำลังจะไหม้”
จบประโยคคนฟังก็รีบปล่อยมืออย่างตกใจก่อนจะหันไปส่งค้อนวงใหญ่ให้คนที่กำลังหัวเราะเธอจากนั้นไม่นานมือน้อยๆก็ตามมาฟาดที่แขนของคนที่เอาแต่หัวเราะแต่ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเมื่อเจ้าของไร่คนสวยทำด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ว๊าว! สวยจัง”
มัทนาเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นโคมของตัวเองลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็ไม่ลืมที่จะแบ่งความตระการตาให้คนข้างๆได้ชื่อชมด้วย หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็กจากนั้นก็ใช้วงแขนรวบเอวอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเมื่อเห็นว่าหทัยภัทรไม่ได้เอ่ยปากห้ามแต่อย่างใดคนฉวยโอกาสก็ค่อยๆเปลี่ยนจากการโอบเอวเป็นกอดจากด้านหลังแทน
หทัยภัทรสัมผัสทุกการกระทำด้วยหัวใจที่เต้นแรง รอยยิ้มคลี่ออกมาอย่างไม่อาจปิดกั้นเอาไว้ได้และเธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าอ้อมกอดของคนๆนี้อบอุ่น น่าหลงใหลจนเธอรู้สึกหัวเสียทุกครั้งที่มีคนคิดจะมาแย่ง
การที่คนในอ้อมกอดใช้มือจับแขนของเธอเอาไว้ทำให้มัทนาถึงกับต้องอมยิ้มออกมา ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องที่ดูจะร้ายแรงและเหมือนจะหาคำตอบไม่ได้ต้องมาจบลงแบบนี้ทุกทีแล้วนี่ตกลงเธอกำลังจะมาเคลียร์เรื่องอะไรกันนะ…เริ่มจำไม่ได้แล้วสิ
นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 ไออุ่นรัก
http://www.yuriread.com/index.php?board=117.0 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ