รัก...นอกกรอบ ตอนที่๒๓
ความเจ็บช้ำจากการกระทำของแม่เลี้ยงยังไม่หายดี ภาพที่ถูกแอบถ่ายตอนที่อครินพยายามปลุกให้นับดาวฟื้นจากการถูกโปะยาสลบ ก็ถูกพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยชื่อของทั้งคู่โดยตรง แต่จากการเขียนข่าวที่ระบุว่าเป็นพระเอกกับนางเอกคู่ขวัญที่กำลังโด่งดังที่สุดในตอนนี้
‘หวานกันในจอยังไม่พอ ยังแอบไปทำหวานกันในรถ ทำให้มดแถวนั้นเป็นเบาหวานกันทั้งรัง’ ชาวบ้านร้านช่องที่ไหนอ่านก็รู้ว่าเป็นนับดาวกับอคริน
"ดาวขอโทษพี่รินด้วยนะคะ เลยต้องพลอยมาเป็นข่าวเสียๆ หายๆ กับดาวไปด้วย" นับดาวขอโทษอครินอย่างรู้สึกผิด หลังจากได้อ่านข่าวนั้นแล้ว
"ไม่เป็นไรเลยจ๊ะ ดีจะตายได้เป็นข่าวกับนักร้องดังอย่างนับดาว" อครินบอกยิ้มๆ ให้นับดาวคลายความกังวล
"เฮ้อ...ดาวนะดาวโชคร้ายจริงๆ ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก แต่อย่าคิดมากไปเลยนะจ๊ะ คิดซะว่าทำให้ละครของเราดังมากยิ่งขึ้นก็แล้วกัน" รุ้งระวีที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่างแล้ว ให้กำลังใจนับดาว
"ขอบคุณค่ะพี่รุ้ง ดาวก็พยายามคิดแบบนั้นเหมือนกัน ห่วงก็แต่พี่รินนะแหล่ะ สาวๆ ของพี่จะมีปัญหาหรือเปล่า"
“สบายใจได้ พี่เคลียร์ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ดีเราเป็นแฟนกันจริงๆ ดีไหม” อครินพูดยิ้มๆ ไม่ทุกข์ร้อนอะไร เหลือบมองเพลินพิณว่าจะมีอาการอย่างไร
"จะดีเหรอคะ ดาวกลัวจะโดนสาดน้ำกรดเอาสิ" นับดาวแกล้งว่าพร้อมรอยยิ้ม ทำให้ทุกคนโล่งใจ ที่เธอไม่จมอยู่กับความทุกข์ เพลินพิณขยับตัวเล็กน้อย อครินอมยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นอาการนั้น
ข่าวนั้นยิ่งสร้างกระแสให้นับดาวกับอครินดังมากยิ่งขึ้น แฟนคลับเชียร์ให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริงๆ ยอดคนดูละครก็เพิ่มมากขึ้นอย่างที่รุ้งระวีบอกไว้ไม่มีผิด ทำให้มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งถ่ายปกหนังสือและงานเปิดตัวสินค้า วันนี้นับดาวกับอครินต้องไปโชว์ตัวคู่กัน ก่อนจะมีการถ่ายทำโฆษณาน้ำผลไม้ยี่ห้อหนึ่ง
"ดาวไปเจอกันที่งานเลยนะครับ" อครินเดินเข้ามาบอกนับดาวหลังจากที่เพลินพิณสั่งพักกองแล้ว
"อ้าว...ดาวคิดว่าจะไปพร้อมกันซะอีก ตอนเย็นเราก็ต้องกลับมากองถ่ายด้วยกันอยู่แล้ว" นับดาวถามเสียงอ่อย
"อ๋อ...พอดีพี่มีนัดเจอเพื่อนก่อน รับรองไปทันอยู่แล้ว ไปเจอกันที่โน่นนะจ๊ะ พี่ไปก่อนล่ะ" อครินรีบขอตัวออกไปอย่างรีบร้อน
"พี่เพลินไปกับดาวนะคะ" หันมาออดอ้อน เมื่ออครินเดินออกไปแล้ว
"น้ำตาลไม่มารับเหรอคะ" หันมาถามอย่างไม่ทันได้คิดอะไร
"เค้าบอกให้ดาวไปพร้อมกับพี่รินค่ะ เห็นว่าเจ้านายเรียกเข้าไปบริษัท คงจะเรื่องข่าวของดาวนั่นแหล่ะ พี่ไม่ว่างเหรอคะ งั้นดาวไปเองก็ได้" เสียงอ่อยในตอนท้าย
"ใครว่าล่ะ พี่แค่ถามดูเฉยๆ ใครจะปล่อยให้ที่รักไปคนเดียวได้ล่ะ พี่ไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณอีกเด็ดขาด" บอกยิ้มๆ
"พี่เพลินน่ารักที่สุดเลยค่ะ" บอกอย่างรู้สึกดี ยิ้มกริ่มกับคำว่า ”ที่รัก” ที่ได้ยิน
"น่ารักก็รักมากๆ นะคะ"
"รักหมดใจไปแล้วค่ะ"
"ขอบคุณนะคะที่รักพี่ ไปกันเถอะจะได้หาอะไรกินก่อนที่คุณจะทำงาน เดี๋ยวพอทำงานแล้วคุณก็จะไม่มีเวลา พี่ไม่อยากเห็นคุณปวดท้อง" บอกอย่างห่วงใยพลางโยกศีรษะนับดาวอย่างเอ็นดู ทำให้หญิงสาวรู้สึกเต็มตื้นกับความรักความห่วงใยที่เพลินพิณมีต่อเธอ ถ้าอยู่ในที่ส่วนตัวเธอคงกระโดดกอดและให้รางวัลให้สมกับความน่ารักของเพลินพิณไปแล้ว
ใช้เวลาไม่นานนัก เพลินพิณกับนับดาวก็มาเดินอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ๆ นับดาวต้องมาทำงาน แต่ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานั้น ทั้งคู่เลยใช้เวลาเดินหาร้านอาหาร ขณะที่กำลังเดินเลือกร้านอยู่นั้น มีแม่ลูกคู่หนึ่งเดินสวนมา หนูน้อยวัย5 ขวบมองนับดาวอย่างจำได้ ก่อนจะเข้ามายืนขวางทางเงยหน้าจ้องมองนับดาวเขม็ง นับดาวส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดูในความน่ารักของหนูน้อย แล้วโดยไม่มีใครคาดคิด หนูน้อยยกมือชี้หน้านับดาวพร้อมกับคำพูดที่ขุ่นเคือง"หนูเกลียดคุณ” นับดาวรู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพลินพิณรีบนั่งลงจับไหล่คุยกับหนูน้อยคนนั้นทันที
“หนูจ๋า...หนูจำคนผิดหรือเปล่าคะ ?”
“ไม่ผิด หนูจำได้เค้าเป็นดารา เป็นคนเอาคุณพ่อหนูไป แล้วไม่ยอมให้คุณพ่อกลับบ้าน หนูเกลียดเค้า” หนูน้อยยังยืนยันคำเดิม พร้อมกับสายตาเกลียดชังที่จ้องมองไปยังนับดาว
“แพร หนูอย่าพูดแบบนั้นนะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ สงสัยจะดูละครกับพี่เลี้ยงมากไปหน่อยเลยจำมาน่ะค่ะ” คนเป็นแม่รีบเข้ามาห้าม พร้อมกับขอโทษขอโพยนับดาว ก่อนจะลากลูกสาวตัวน้อยออกไป แต่เสียงโต้ตอบกันของสองแม่ลูกก็ยังดังมาให้ได้ยิน
“แพรทำไมทำแบบนั้นลูก ไม่น่ารักเลยนะคะ”
“ผู้หญิงคนนั้นทำให้คุณพ่อไม่กลับมาหาหนูกับคุณแม่จริงๆ นี่ค่ะ”
“คุณพ่อไปทำงานต่างหาก เดี๋ยวเราก็จะเจอกับคุณพ่อแล้วนี่ไง ถ้าแพรไม่เชื่อฟังแม่นะ แม่จะฟ้องคุณพ่อ”
“อย่านะคะ คุณแม่อย่าฟ้องคุณพ่อนะคะ” เสียงของสองคนแม่ลูกลับหายไปจากมุมตึก นับดาวรีบเดินตามอย่างสงสัยบางอย่าง
“คุณจะไปไหนคะ” เพลินพิณรีบตามมาดึงมือไว้
“ดาวจะตามไปดูหน้าพ่อของยายหนูนั่นค่ะ ดาวสงสัยว่าเด็กคนนั้นเค้าไม่ได้ดูละครของดาวเหมือนที่แม่เค้าบอกหรอกค่ะ ละครของเราไม่มีเรื่องแย่งพ่อของใครสักหน่อย” บอกอย่างสงสัยพลางดึงให้เพลินพิณรีบเดินตามสองคนแม่ลูกนั้นไป จนเห็นสองคนนั้นหายเข้าไปในร้านอาหารที่ดูเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีผู้คนมากเท่าไหร่นัก นับดาวรีบเดินตามเข้าไปทันที
ภายในร้านอาหาร สองคนแม่ลูกเดินเข้าไปมุมในสุดของร้าน
“คุณพ่อ” เสียงร้องอย่างดีใจของเด็กหญิงแพร ทำให้นับดาวไม่รอช้า รีบเดินตามไปยังเสียงนั้นทันที โดยไม่ฟังเสียงร้องห้ามของเพลินพิณ ภาพที่นับดาวเห็น เด็กน้อยถลาเข้าไปหาผู้ชายที่รีบลุกขึ้นมารับอย่างดีใจไม่แพ้กัน
“พี่ริน...!” นับดาวร้องอย่างตกใจที่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นชัดเจน
“ดาว...พี่เพลิน...!” อครินหันมาตามเสียงของนับดาว สีหน้าตกใจเช่นกัน
“นี่มันอะไรกันคะ” นับดาวถามอย่างแปลกใจ มองดูทั้งสามคน ก่อนจะปะติดปะต่อเรื่องราวที่หนูน้อยชี้หน้าว่าเธอเมื่อสักครู่ ได้อย่างกระจ่าง
“อ๋อ...ดาวเข้าใจล่ะ เพราะแบบนี้ใช่ไหมคะ ที่สาวน้อยคนนี้ต่อว่าดาวเมื่อกี้นี้” นับดาวหันไปถามแม่ของหนูน้อย อครินมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ
“เอ่อ...ต้องขอโทษคุณดาวอีกทีนะคะ น้องแพรเค้าไปต่อว่าคุณดาวว่าแย่งคุณพ่อเค้าน่ะ” พันนิภาหันไปบอกอครินให้เข้าใจ
“คุณแม่...! ไหนว่าจะไม่บอกคุณพ่อไงคะ” เสียงหนูน้อยร้องถามอย่างตกใจ พร้อมกับหลบสายตาผู้เป็นพ่ออย่างเกรงกลัว
“พี่เพลิน...ดาว นั่งก่อนครับ” อครินรีบเชิญให้ทั้งคู่นั่งร่วมโต๊ะเกรงว่าจะเป็นที่สนใจของคนอื่นๆ
“ก่อนอื่นพี่ขอแนะนำให้รู้จักกันก่อนนะจ๊ะ นี่พันนิภาเป็นภรรยาพี่ ภาจ๊ะนี่พี่เพลินเป็นผู้กำกับและก็นับดาวคงรู้จักดีแล้ว” หลังจากนับดาวกับเพลินพิณนั่งเรียบร้อยแล้ว อครินก็แนะนำให้ทั้งหมดได้รู้จักกัน
“ภรรยา...!!!” เพลินพิณกับนับดาวอุทานขึ้นพร้อมกันอย่างแปลกใจ
“ครับผม แล้วก็นี่เจ้าแพรจอมยุ่ง ลูกสาวผมเองครับ”
“ลูกสาว...!!!” เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองคนอุทานขึ้นพร้อมๆ กัน ด้วยความตกใจ ถึงแม้จะสงสัยอยู่แล้ว
อครินเล่าเรื่องของเขากับพันนิภาให้ทั้งสองคนได้รับรู้อย่างไม่ปิดบัง ก่อนเข้าวงการทั้งอครินและพันนิภาอยู่ด้วยกัน โดยยังไม่ได้แต่งงานเพราะความไม่พร้อมของทั้งคู่ และไม่รู้ว่าพันนิภากำลังตั้งท้องอ่อนๆ พออครินเข้าวงการแล้วถึงได้รู้ แต่แจ๊คกี้คนที่พาอครินเข้าวงการ ได้ขอร้องให้ปิดเป็นความลับไว้ก่อน เนื่องจากตอนนั้นละครเรื่องแรกที่เขาเป็นพระเอกกำลังจะฉาย เกรงว่าจะกระทบกับงานเรื่องมันก็เลยเถิด จนน้องแพรโตมาถึงตอนนี้ และเขาก็กำลังรอที่จะเปิดเผยความจริงอยู่เหมือนกัน
"ผมว่าจบจากละครเรื่องนี้ ผมจะประกาศแต่งงาน พร้อมกับเปิดตัวลูกสาวไปเลย ดาวว่าเก๋ไหมล่ะ" อครินถามหลังจากเล่าเรื่องราวจบลง
"เก๋ที่สุดเลยค่ะพี่ริน ขอแสดงความดีใจด้วยนะคะคุณภา"
"ขอบคุณค่ะ ต้องขอโทษคุณดาวอีกครั้งนะคะที่น้องแพรพูดจาไม่ดีกับคุณ"
"ไม่เป็นไรหรอกคะ สงสัยน้องแพรจะติดละครนะคะ เลยอินว่าดาวจะแย่งพ่อของเค้า" นับดาวบอกยิ้มๆ ไม่ได้ถือสาอะไร
"น้องแพรขอโทษอาดาวก่อนลูก" อครินบอกลูกสาวที่นั่งทานขนมอย่างไม่สนใจใคร แม้ตอนแรกจะทำสีหน้าไม่พอใจที่นับดาวเข้ามานั่งด้วย แต่มีบิดาอยู่ด้วยเลยไม่กล้าออกฤทธิ์
"ขอโทษทำไมคะ?" หันมาถามงงๆ ตามประสาเด็ก
"ก็ที่หนูไปว่าอาเค้าเมื่อกี้ไงคะ"
"หนูพูดความจริงนี่คะ ไม่ได้ว่า" เถียงเสียงอ่อย
"ใครบอกหนูคะ ว่าอาดาวแย่งคุณพ่อ มันไม่ใช่เรื่องจริง พ่อกับอาดาวเราทำงานด้วยกัน มันก็เป็นแค่การแสดงละครนะครับลูก" อครินก้มลงบอกลูกสาวเสียงอ่อนโยน
"พี่น้อมบอกว่าที่คุณพ่อไม่กลับบ้าน เพราะมัวแต่หลงนักร้องคนนี้ เมื่อเช้าพี่น้อมยังเอาหนังสือพิมพ์มาอ่านให้หนูฟังเลย ว่าพระเอกกับนางเอกไปหวานกันในรถ แล้วพี่น้อมยังบอกอีกว่าเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคุณพ่อกับยายนับดาว" น้องแพรวัย 5 ขวบที่กำลังช่างพูดช่างจำ ถ่ายทอดคำพูดของพี่เลี้ยงเสียงแจ้วๆ ทำเอาอครินถึงกับกุมขมับ พร้อมกับหันไปมองภรรยาอย่างหนักใจ
"พี่เลี้ยงตัวดีนี่เอง มันน่าไล่ออกนัก"
"เป็นเพราะภามัวแต่ยุ่งกับร้าน เลยทิ้งให้แกอยู่กับพี่เลี้ยงมากเกินไป สงสัยต้องไปอบรมกันขนานใหญ่แล้วล่ะค่ะ" พันนิภาบอกอย่างรู้สึกผิดไม่ต่างกัน
"คงต้องค่อยๆ สอนแกค่ะ อย่าไปดุเดี๋ยวแกจะยิ่งต่อต้าน" เพลินพิณออกความเห็น ยิ้มอย่างให้กำลังใจทั้งสองคน
"น้องแพรฟังพ่อนะลูก พ่อกับอาดาวเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน พ่อเป็นพระเอกแล้วอาดาวก็เป็นนางเอก ที่หนูดูในทีวีไงลูก พ่อต้องทำงานทุกวันกว่าจะเสร็จก็ดึก พ่อเลยไม่ได้กลับบ้านเพราะบ้านเราอยู่ไกล อาดาวไม่ได้มาแย่งพ่อนะคะ คุณแม่ก็รู้ว่าพ่อไปทำงานกับอาดาว ถ้าอาดาวจะแย่งพ่อไปจากแม่และหนูจริงๆ อาดาวไม่กล้ามาเจอคุณแม่กับหนูหรอกนะคะ เชื่อพ่อนะลูก พ่อไม่เคยหลอกหนูใช่ไหม" อครินอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างใจเย็น เพราะลูกสาวยังเล็กนัก คนเป็นพ่ออย่างเขาต้องใช้ความอดทนและความพยายามมากกว่าปกติ
"อายืนยันด้วยอีกคนจ๊ะ เราเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้อาก็เป็นเพื่อนกับคุณแม่ของน้องแพรแล้วด้วย" นับดาวยืนยันอีกคน น้องแพรเม้มปากครุ่นคิด หันไปมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที พันนิภาพยักหน้าให้ น้องแพรยิ้มอย่างเชื่อมั่นในตัวผู้เป็นแม่ ก่อนจะเอ่ยออกมาให้ทุกคนได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกไปตามๆ กัน
"เชื่อก็ได้ค่ะ"
"น่ารักที่สุดเลยลูกสาวของพ่อ" อครินก้มลงหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่ สีหน้ามีความสุข เพราะเขาไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวมองเขาแบบผิดๆ จนกลายเป็นปัญหาฝังใจ
"น้องแพรนี่โตมาสวยเป็นนางเอกได้เลยนะคะ" นับดาวชมอย่างจริงใจ ทำเอาเด็กหญิงแพรยิ้มปลื้ม
"คุณอาก็สวยค่ะ แถมยังร้องเพลงเพราะด้วย หนูอยากร้องเพลงเก่งเหมือนคุณอาจัง" เริ่มพูดคุยกับนับดาวดีขึ้น ลืมเรื่องราวที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็วตามประสาเด็ก
"นั่นแน่...! ที่แท้ก็แอบเป็นแฟนคลับอาดาวนี่เอง" นับดาวแกล้งว่า ทำเอาน้องแพรยิ้มเขินที่ถูกจับได้
"เอาไว้เจอกันคราวหน้า อาจะสอนร้องเพลงนะคะ"
"จริงๆ นะคะ คุณอาสัญญากับหนูแล้วนะคะ" น้องแพรร้องอย่างตื่นเต้น
"อาสัญญาจ๊ะ" นับดาวบอกพลางยื่นนิ้วก้อยให้ น้องแพรรีบยื่นนิ้วเล็กๆ มาเกี่ยวกับนิ้วของนับดาว ยิ้มกว้างอย่างดีใจ เพลินพิณมองสิ่งที่นับดาวทำ พลอยยิ้มอย่างมีความสุขไปด้วย
"พ่อกับพี่ดาวต้องไปทำงานแล้วล่ะ น้องแพรรอคุณพ่ออยู่กับคุณแม่นะคะ พ่อทำงานเสร็จจะรีบมาหา ภาอย่าเพิ่งกลับนะ" บอกลูกสาวก่อนจะหันไปบอกภรรยาเสียงอ่อน
"ค่ะ ไปทำงานเถอะไม่ต้องห่วง เดี๋ยวภาจะเดินเล่นรออยู่แถวนี้แหล่ะ" บอกอครินให้หายกังวล ก่อนจะยิ้มให้นับดาวกับเพลินพิณ อย่างเป็นมิตร