web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 146
Total: 146

ผู้เขียน หัวข้อ: แพร่งหัวใจ บทที่ 8  (อ่าน 3222 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อาพัทธ์ อันธการ

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 74
แพร่งหัวใจ บทที่ 8
« เมื่อ: 07 เมษายน 2014 เวลา 20:59:28 »








บทที่ 8


   หล่อนเปิดประตูห้องด้วยรอยยิ้ม เธอเกือบจะกลับถึงหอพักไม่ทันเวลาปิดประตู ปองกานต์คิดว่าต้นก็ไม่เลวนัก คนผมยาวรู้สึกสนุกมากทีเดียว

   ตาสีน้ำตาลอ่อนของเพื่อนร่วมห้องมองมาเหมือนต้องการจะถามว่าทำไมถึงกลับดึก แต่ปากหนานั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เธอวางกระเป๋าเป้ลงบนโต๊ะ ก่อนจะเปิดพัดลม และนั่งบนเตียง

   สาวจมูกรั้นหาวเล็กน้อย วันนี้ทั้งวันเธอรู้สึกเหมือนใช้พลังงานไปเยอะมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย หล่อนบิดตัวและเริ่มถอดชุดออกจนเหลือแต่ชั้นใน แล้วพันด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ เตรียมพร้อมไปอาบน้ำ

   ปองกานต์มองไปที่ปารย์ด้วยหางตา อีกฝ่ายอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ท่าทางไม่สนใจโลกอีกตามเคย ไม่รู้ว่าวันแรกที่ไปเรียนจะหาเพื่อนได้สักคนไหม



   “วันนี้เป็นไงบ้าง” หวานเอ่ยถามออกไป ขณะกำลังเช็ดผมให้แห้ง

   “งั้นๆ” คำตอบที่ได้กลับกำกวม

   “ดีๆ สิ” เธอหันไปมองรอคำตอบที่ฟังรู้เรื่องมากกว่านี้

   “น่าเบื่อ ถามทำไม” เสียงแหบห้วนบ่งบอกอารมณ์ของคนพูดได้เป็นอย่างดี

   “ถามไปงั้นแหละ อยากรู้ว่ามีเพื่อนใหม่บ้างรึเปล่า”

   “ทำไมต้องมี อยู่คนเดียวก็สบายดี” ความคิดของอีกฝ่ายขวางโลกตามเคย หล่อนถอนหายใจขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับคนตรงหน้า

   “ยังง่วงอยู่อีกเหรอ” แค่เพียงคำถามก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนพูดหมายความว่าอย่างไร

   “อือ เหนื่อยอยากพัก” เธอตอบตามตรง

   “วันนี้ยกให้วันหนึ่งละกัน” อาจเพราะปอเองก็ไม่อยู่ในอารมณ์นั้นสักเท่าไหร่จึงไม่เซ้าซี้หรือใช้เล่ห์กลเหมือนเคย

   บางครั้งปองกานต์ก็รู้สึกแปลกๆ วินาทีหนึ่งร่างกายแทบติดกันจนแทบแยกไม่ออก แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งเราสองคนก็ต่างแปลกหน้ากัน โดยเฉพาะเวลาที่เธอไปถึงปลายทาง เป็นช่วงเวลาที่คนตาโตทำตัวไม่ถูกที่สุด จะกอดก่ายก็เหมือนจะผูกพันมากเกินไป จะลุกไปก็แปลกๆ แต่คงเป็นที่เธอคนเดียว ไม่เห็นเพื่อนร่วมห้องจะแสดงอย่างอื่นนอกจากความเฉยชา

   “นอนแล้วปิดไปด้วยล่ะ” หญิงสาวหาวซ้ำอีกครั้ง ตาของคนหน้ารูปหัวใจหนักอึ้งจนแทบลืมไม่ขึ้น

   “อือ” เสียงปอเอ่ยขึ้นพอให้ได้ยิน แล้วเธอก็หลับไป



   ในหมอกอันเลือนรางที่ไม่สามารถรบอกได้ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหน ปองกานต์ฝันถึงพ่อ หล่อนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา 6 ปีกว่าแล้วที่เธอเก็บความรักที่มีต่อพ่อไว้ในใจ เก็บความทรงจำทุกอย่างไว้โดยแทบไม่เคยนึกถึง เด็กสาวกลัว กลัวว่าตัวเองจะยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้มันจะนานแล้วก็ตาม

   “แม่หนูได้ที่ 1 ของชั้นอีกแล้ว” เด็กสาวผมสั้นเพียงติ่งหูเอ่ย รอยยิ้มสดใส

   “ลูกแม่เก่งอยู่แล้ว เดี๋ยวเย็นนี้แม่ทำของโปรดให้เอาไหม” น้ำเสียงอ่อนโยนถามอย่างมีความสุข หล่อนในวัยเด็กพยักหน้า

   “พ่ออยู่ไหนคะ หนูจะไปอวดพ่อ”

   “ไปซ่อมหลังคาให้บ้านตาหมานนู่น ป่านนี้ยังไม่กลับเลย” น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนความวิตกกังวลซ่อนอยู่ แม่มักเป็นห่วงพ่ออย่างนี้เสมอ

   “หนูช่วยแม่ทำกับข้าวดีกว่า เดี๋ยวพ่อกลับมาจะได้กินกันเลย” หล่อนเปลี่ยนเรื่อง

   “เรื่องใหญ่ๆ” เสียงตาหมานดังขึ้น ร่างกายที่แทบจะมีแต่หนังหุ้มกระดูกยุบเข้ายุบออกตามจังหวะการหายใจ

   “เรื่องใหญ่อะไรกัน” แม่ของเธอมีสีหน้าตกใจ ปองกานต์เองก็หัวใจเต้นรัว กลัวเหลือเกินว่าคำพูดหลังจากนี้จะมีแต่เรื่องเลวร้าย

   “ลุงหมาน” เสียงเล็กๆ ของเด็กสาวเรียกคนที่ยังคงเหนื่อยเกินกว่าจะพูด

   “พ่อเอ็ง...พ่อเอ็งตกจากหลังคา” สิ่งที่ได้ยินทำให้แม่ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงบนพื้น เธอบอกแม่ว่าให้รอตรงนี้ ก่อนที่จะวิ่งไปตามซอยเล็กๆ อย่างชำนาญ ในใจกรีดร้อง หวาดกลัว

   ภาพที่เห็นทำให้มือเล็กๆ สั่น น้ำหวานคุกเข่าลงบนพื้นที่มีแต่เลือดสีแดงเปียกอยู่

   “พ่อ” เสียงแหบแห้งดังลอดออกมาจากริมฝีปาก

   “ใครก็ได้...ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที” น้ำเสียงของหล่อนทั้งสิ้นหวัง เจ็บปวด ปองกานต์รู้สึกว่าหัวใจเล็กๆ ในอกแหลกสลาย



   คนผมยาวลืมตาตื่นอย่างกะทันหัน เหงื่อพรายผุดทั่วร่างกาย น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมา เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงฝันเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะช่วงนี้อารมณ์ต่างๆ สับสนไปหมด หล่อนเลยอ่อนแอ

   หลังจากวันเผาศพของพ่อแล้วสาวนัยน์ตาเข้มพยายามทำตัวเข้มแข็ง และเป็นเสาหลักของครอบครัวแทนพ่อที่จากไป เธอไม่มีเวลามาอ่อนแอ แต่จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นความคิดที่ผิดก็ได้ การพยายามเข้มแข็งในเวลาอันรวดเร็วหมายความว่าเด็กสาวไม่มีเวลาเยียวยาความรู้สึกตัวเอง ความร้าวรานนั้นทับทบเหมือนใบไม้ จนวันนี้ถึงได้ผลิแตกออกมา

   ปองกานต์ถอนหายใจในความมืด นาฬิกาจากโทรศัพท์ตกรุ่นบอกเวลาเกือบตีสาม ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง สาวจมูกรั้นไม่อาจนอนหลับได้อีกต่อไป



   คาบแรกของวันเป็นวิชาเลือกที่เธอเรียนเพียงคนเดียว เพื่อนใหม่ทั้งสี่คนต่างก็แยกย้ายไปเรียนวิชาอื่นตามแต่ความสนใจส่วนตัว หล่อนชอบกฎหมายและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกฎหมายเบื้องต้น

   “สวัสดีครับ พี่ขอนั่งข้างๆ ได้ไหม” พี่ดลยิ้มส่งสายตา

   “ค่ะ” น้ำหวานตอบรับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ

   “เรียนเป็นวิชาเลือกเหรอครับ” เขาถามด้วยสีหน้าสนใจใคร่รู้

   “ค่ะพี่” เด็กสาวตอบ

   “วิชาเลือกน่าจะเอาไว้เรียนปีสูงๆ นะครับ เอามาเรียนปีแรกเนี่ยพอปีสามปีสี่จะเหนื่อย” หญิงสาวพอจะเข้าใจที่ชายหนุ่มพูดถึง พออยู่ปีสูงขึ้นเนื้อหาที่เรียนก็จะยากขึ้นและเฉพาะทางมากขึ้น แต่เธอไม่กลัวเพราะได้วางแผนการเรียนไว้เรียบร้อยแล้ว และคิดว่าไม่น่าจะเกินความสามารถของตัวเอง

   “ขอบคุณค่ะพี่ดลที่บอก แต่หวานลงเรียนไปแล้วไม่อยากจะดร็อปให้เสียประวัติน่ะค่ะ” หล่อนให้เหตุผลอื่น เพราะไม่ต้องการเปิดเผยความคิดบางอย่างออกไป

   “ครับ ถ้าวิชาไหนไม่ได้ถามพี่ละกัน” เขาเอ่ยอย่างใจดี ปองกานต์ยิ้ม เมื่อมองดวงตาของชายหนุ่ม

   “จบแล้วพี่ดลจะทำอะไรเหรอคะ” จู่ๆ หญิงสาวก็เกิดอยากรู้ความคิดของรุ่นพี่คนนี้ขึ้นมา

   “พี่คงทำงานกับบริษัทที่บ้าน” ภัทรพลยิ้มอบอุ่น

   “บ้านพี่ดลทำเกี่ยวกับอะไรเหรอคะ” คนผมยาวถามเจาะลึกมากขึ้น พยายามเก็บความรู้สึกทางสีหน้าให้มากที่สุด ไม่อยากแสดงออกให้รู้ว่าเธอสนใจมากแค่ไหน

   “อ้อ บ้านพี่ทำพวกน้ำสมุนไพรน่ะ ส่งขายตามมินิมาร์ท” เธอพยักหน้ารับรู้

   “แล้วน้องน้ำหวานล่ะครับ” เขาถามกลับ

   “ยังไม่แน่ใจค่ะ หวานสนใจหลายอย่างเลย ยังตัดสินใจไม่ได้เลยค่ะว่าจะทำอะไรกันแน่” ปองกานต์ตอบตามตรง หล่อนอยากทำหลายอย่าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเงินและหน้าตา

   “ครับ ยังมีเวลาอีกหลายปี ค่อยๆ ตัดสินใจ”

   “พี่ดลคะ” คนผมยาวเอ่ยเรียก

   “ครับ” เขาทำหน้าสงสัย

   “หวานรู้สึกว่าตาพี่แปลกจัง ไม่รู้ทำไม” เธอแหย่ อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยายังไง อยากรู้ว่าสิ่งที่คิดถูกต้องรึเปล่า

   “แปลกยังไงเหรอครับ” ชายหนุ่มพูดเหมือนไม่รู้ แต่การหลบตาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นไม่ได้รอดพ้นสายตาของคนน่ารักไปได้

   “ไม่รู้สิคะ หวานว่าแววตาพี่มีบางอย่าง” สาวน้อยเจ้าวางแผนไม่ยอมปล่อย

   “พี่...” เขาอ้ำอึ้ง คล้ายกับกำลังเถียงกับตัวเองอยู่อย่างไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรออกไปดี

   “คะ” หล่อนทำสีหน้าอย่างคนรอคอยคำตอบด้วยใจจดจ่อ กดดันให้คนข้างๆ ลำบากใจมากขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 เมษายน 2014 เวลา 22:18:24 อาพัทธ์ อันธการ »



email+facebook : N.Rattanawadikant@gmail.com
fanpage : www.facebook.com/อาพัทธ์-อันธการ/107884562739822

ออฟไลน์ si

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 42
Re: แพร่งหัวใจ บทที่ 8
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 09 เมษายน 2014 เวลา 22:30:58 »
ขออีกตอน :61:

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.