web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 147
Total: 147

ผู้เขียน หัวข้อ: Vampire Hunter season3- ความเดิม & บทนำ  (อ่าน 3997 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Vampire Hunter season3- ความเดิม & บทนำ
« เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014 เวลา 16:46:52 »



ความเดิม & บทนำ



ความเดิม :


   การต่อสู้แย่งชิงเด็กสาวลูกผสมดำเนินมาจนถึงขีดสุด  แผนอันชาญฉลาดถูกนำมาใช้พร้อมด้วยมนตราคาถามากมาย  แก๊งค์ของฟลอเรนตอนนี้ไม่ได้มีแค่แวมไพร์ ตัวโคลนนิ่งและแม่มดเพียงเท่านั้น แต่เผ่าพันธุ์ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกันมาช้านาน  ก็กลับต้องมาร่วมมือกันในสงครามย่อยครั้งนี้  ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นได้  ความสามัคคีระหว่างพวกหน้าขนกับพวกตัวซีด หรือมันจะ..

   เด็กคนเดียว..

   เด็กหญิงลูกผสมที่เชื่อมโยงสองเผ่าพันธุ์เอาไว้ด้วยสายเลือดในตัว..

   และเรื่องราวในซีซั่นสามนี้ ก็จะเป็นเรื่องราวของเธอ ฮันเตอร์สาว แม่มด แอนด์เดอะแก๊งค์ที่ก็คงจำเป็นต้องเกาะติดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

   เพราะสงครามมันยังไม่สิ้นสุด  มันแค่หยุดพักเท่านั้นเอง..

   แต่สิ่งหนึ่งที่เธอยังสงสัย..

   พ่อกับแม่  คิดจะฆ่าเธอจริงๆหรือ.?

   
หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการส่วนตัวของผู้เขียน ตัวละครทั้งหมดและเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้มีอยู่จริง...










บทนำ


ดวงตาสีม่วงครามมองสอดส่ายไปมาอย่างไม่ไว้ใจ  นอกจากจะเป็นสถานที่แปลกใหม่แล้ว  คนแถวนี้ก็ยังแปลกมาก  นับหัวได้เลยว่า  มีใครบ้างที่ไม่ได้มองเธอกับคนข้างๆ  นี่เหรอที่หล่อนบอกว่า ‘ไม่จำเป็นต้องกลัว’

ไม่กลัวกับผีสิ  คนพวกนี้ไว้ใจได้ที่ไหน!

“แอชลี่..  เธอจะพักที่นี่จริงเหรอ.?”  กระซิบถามอย่างไม่มั่นใจ  คนที่แบกเป้ใบใหญ่อยู่ด้านหลังก็หันมาพยักหน้ารับ  ให้ตาย  เธอไม่ชอบรอยยิ้มนี้ของหล่อนเลย  คิดผิดใช่ไหมที่ยอมทำตามคำขอ  ยอมให้หล่อนได้ใจ

“แต่ว่า....”

“จะแต่อะไรอีกล่ะ  อย่าบอกนะว่ากลัว  เธอใช่คนที่ไหน.?” 

เมแกนเม้มปาก  เธออยากตบปากเจ้าตัวปากดีนี่เหลือเกิน  ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดที่ยอมมาด้วย  ถ้าไม่คิดว่ามาแล้วจะเคลียร์ปัญหาได้  ให้ตายก็ไม่มา  ยิ่งเข้าใกล้สถานที่นั้นมากขึ้นเท่าไหร่  อากาศก็ยิ่งทำให้กระอักกระอ่วน  จะอยู่ได้ถึงตอนนั้นหรือนี่  แข็งตายก่อนไหม.?

ก็ใช่  เธออาจจะไม่ใช่คนก็จริง  แต่ความหนาวเย็นระดับทุนดรานั้น  เธอเคยเจอมาก่อนที่ไหน  ว่ากันตามตรง  เธออาจจะตายแค่หายใจเอาอากาศแถบนั้นเข้าปอด  จะไปอึดถึกเหมือนหมาป่าอีกตัวแถวนี้ได้ยังไงกันล่ะ

รู้ว่าเป็นหมา  เธอก็หมา  แต่เชื่อไหม..  ไลเคนไม่ได้ปากหมาแบบนี้เวลาอยู่ในร่างคน  แน่ใจนะว่า  นี่มันราชนิกุลคนเดิม?

“เฮ้..อย่าบอกนะว่าเธอป๊อด  ป๊อดแบบนี้ก็ไม่น่าจะอาสามาแทนตัวจริงนี่นา”  หมาป่าสาวจากแดนหิมะหยอก  วอนให้อีกคนกลอกตาแล้วเงื้อมือมาตบหัวเธอดังป้าบ 

โอย.. ยิ่งอยู่ด้วยกันนานขึ้น  มือหล่อนก็ยิ่งหนักตามไป  ไม่ได้แคร์เลยใช่ไหมว่า  ที่ตบมาเนี่ยน่ะ  มันคือแฟน!

“เมแกน!”

“เงียบเหอะแอช หาที่พักก่อนจะได้ไหมแล้วค่อยหาเรื่อง” เมแกนตัดบท  ไม่สนใจสายตาเคืองๆของหมาป่าสาวที่เดี๋ยวนี้ชักจะงอนอะไรไม่เข้าท่า  แต่คงจะโทษใครไม่ได้  ถึงเวลาจะผ่านมาร่วมปีแล้ว  ภาพเหตุการณ์นั้นก็ยังคงอยู่ 

ใช่..  ความจริงเธออาจจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วถ้าแอชลี่มาไม่ทัน  คอหอยเธอคงจะหลุดติดมือลินเซย์ไปแน่  และเธอควรจะทำดีกับคนที่ช่วยชีวิตเธอสินะ

แต่หล่อนมันกวนบาทาตลอดนี่  จะทำดีด้วยยังไงลง!

คนที่เธอแอบนินทาในใจยังไม่ยอมเลิกทำหน้าหงิกหน้างอ  หล่อนเดินมากระแทกบ่าและชิงพูดก่อนจะถูกด่า  “ถ้าฉันไม่พูดขึ้นมาจริงๆ อย่าเสียใจนะ เหงาไม่รู้ด้วย”

เมแกนร้องเหอะในลำคอก่อนจะกระแทกบ่าอีกฝ่ายคืนไป  แอชลี่เซเพราะคนกระแทกตัวโตกว่าเป็นคืบ  หมายถึงแรงก็เยอะมากกว่าตามไปถึงตนจะไม่ใช่คน  รายนั้นก็ไม่ใช่คนเหมือนกันล่ะ บวกกับน้ำหนักเป้ที่แบกอยู่บนหลังก็ทำให้เซไปกันใหญ่  หากมีหรือที่หมาป่าอย่างหล่อนจะยอมล้มง่ายๆ ร่างเพรียวฮึดขึ้นมาตั้งหลักใหม่มองเคืองๆไปยังคนที่เดินดุ่มนำหน้า 

ให้ตาย  ถ้าไม่รักนะ  กระโดดกัดคอตายไปแล้ว! 

ทำบ่นไปอย่างนั้น  พอมาเดินคู่กันแล้วเห็นใบหน้าจริงจังของคุณแฟนก็เปลี่ยนไปอีกอย่าง  ไม่อยากจะบอกว่า  ดอพเพลแกงเกอร์ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ตัวจริง  แถมเมแกนคนนี้ยังดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเสียด้วย  สเปคสุดๆ

ใช่.. ไม่งั้นก็คงไม่พามาที่นี่หรอก  มาหาพ่อเชียวนะ!

อืม..  จะว่าไปก็น่ากลัวอยู่  ไม่รู้จะโดนต้อนรับยังไงบ้าง  หวังว่าคงไม่ใช่โดนดักฆ่าระหว่างทางนะ  ท่านคงไม่ใช้วิธีแบบนั้นกับลูกหรอกนะ..เบนจามิน

นึกถึงชื่อพ่อขึ้นมาขนอ่อนในกายก็พร้อมใจกันลุกเกรียว  เสียวสันหลังแปลกๆ  บรรยากาศเวลาโพล้เพล้มันคงจะเป็นใจให้ความหลอนล่ะมั้ง   ดูสิ  ท้องฟ้าสีส้มแดง  มันช่างเหมือนเลือดเสียจริงๆ   

หึ๋ย.. เลิกหลอนตัวเองสักที!

“คอทเทจนี้เป็นไง  พอใช้ได้ไหม.?”  (คอทเทจ คือ บ้านพักท่ามกลางธรรมชาติ ปลูกสร้างติดพื้นดิน บ้านสไตล์คอทเทจจะมีการผสมผสานเอาความเรียบง่าย สีสัน และความเป็นธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์พร้อมของวัสดุ อีกทั้งยังแฝงความหวานแบบวินเทจเข้าไปด้วย สวยงามราวบ้านตุ๊กตา มักพบในประเทศอังกฤษ)

เสียงคำถามดังขึ้นขัดความคิดฟุ้งซ่าน  ดวงตาสีครามมองสำรวจทางเข้าของคอทเทจที่ว่า  มันเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวขนาดย่อมท่ามกลางสวนสวยอยู่หลายหลัง  และแน่นอนมันมีไว้เพื่อเป็นที่เช่าพักของนักท่องเที่ยว  มันอยู่ห่างจากตัวตลาดมาพอสมควร  ทางเข้าดูลึกลับไปสักหน่อย  แต่คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ  คนบริสุทธิ์จะได้ไม่โดนลูกหลงไปด้วย  และช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง High season นักท่องเที่ยวคงไม่มากเท่าไหร่  คงมีประปรายกว่า 

แอชลี่พยักหน้าขึ้นลงกับตัวเอง  ค่อนข้างพอใจกับสเปคการเลือกที่พักของคุณแฟน  แหม..เมแกนทำอะไรก็เห็นดีเห็นงามไปหมดนั่นล่ะ ก็นิดนึงน่า..

“ไม่ถึงกับสวย  ไม่ถึงกับน่าเกลียด  และปล่องไฟนั่นคงทำให้คืนนี้ไม่มีบางคนไม่หนาวตายไปก่อน”

คำตอบที่ได้พาให้คนฟังกลอกตามองฟ้า  ที่หางตายังเห็นคนตอบยิ้มร่าให้ขัดใจอยู่ไม่น้อย  อดไม่ได้ก็กระแทกไหล่ไปสักทีก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปในบ้านหลังแรกที่มีป้ายต้อนรับอย่างชัดเจนอยู่ 

‘ติดต่อห้องพักที่นี่’  ป้ายมันว่าอย่างนั้น..

“อืม..  มีแต่กลิ่นมนุษย์”  คนไม่ใช่มนุษย์พึมพำบอกตอนที่เดินตามมาจนทัน  ได้ยินเสียงฮัมรับรู้ก็อมยิ้มหน่อยๆ อย่างน้อยก็ไม่ได้เย็นชาไปเสียทีเดียว 

เมแกนคงไม่รู้หรอกว่า  หล่อนน่ะแผ่ไอเย็นได้เลเวลใกล้เคียงกับอากาศที่บ้านเธอเลย  โชคดีที่เธอชินกับความหนาว  ไม่งั้นคงแข็งตายไปนานแล้ว 

“จะเข้าไปไหม.?”  คนตัวสูงกว่าหันมาถาม  เรียกสติคนฟุ้งซ่านให้กลับมา  แอชลี่ไหวไหล่ยกยิ้มกวนใจแล้วผายมือให้ด้วยท่าทางกวนสุดๆ

เมแกนขบฟันพยายามไม่หงุดหงิดให้เข้าทางคนกวน  เธอเลือกไม่สนใจและเดินนำเข้าไปก่อน  ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนเดินตามมา  แต่ระหว่างที่กำลังจะเปิดประตูไม้ตรงหน้า  เราสบตากัน  ส่งเสียงกระซิบที่ได้ยินกันแค่สองคน  ไม่เว้นตัวประหลาดที่ไม่ใช่คนแถวนี้ด้วย

“เธอเอาคนซ้ายนะ  ฉันเอาคนขวา”

ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเป็นคำพูด  แค่ต่างคนต่างพุ่งไปยังทางนั้น  เสียงกระดูกคอแตกดังลั่นสองเสียงไล่เลี่ยกัน  สองร่างกลับมายืนที่เดิมหน้าประตูไม้บานเดิม  ยักไหล่ปัดมือสองสามทีแล้วหายเข้าไปในตัวบ้าน  ปล่อยให้สองสโตรกเกอร์ไร้วิญญาณเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าหรือตัวอะไรก็ช่างที่ออกหากินตอนกลางคืนแถวนี้ตามลำพัง


ตัวอย่างคอทเทจ



....................................

ดวงตาเธอจ้องเขม็ง  ร่างกายเกร็งไปทุกส่วน  มันโยกไปมาน้อยๆ ด้วยความประหม่า  สาวน้อยขบฟันพยายามจะไม่ตื่นเต้นจนเกินไป  นั่นมันเด็กนะ  ตัวเล็กกว่าเธอด้วย  เธอปลอบตัวเอง  แต่มันคงจะได้ผล  ถ้าไม่รู้ว่าคนที่กำลังจะปาบอลนั่น  เป็นคนเหมือนเธอ

เอ่อ..  หมายถึงมนุษย์อ่ะนะ..

“เจ็น..  อย่าเกร็งสิ  ดูลูกให้ดี  ตาเธอไวอยู่แล้ว” 

เจ้าของชื่อเม้มปาก  พยายามพยักหน้าให้คนเชียร์ที่ยืนอยู่ในสนามเดียวกันแต่คนละตำแหน่ง  หล่อนขยับหมวกแก็ปบนหัวพลางขยิบตาให้  และส่งสายตาไปยังอีกคนที่ยืนอยู่ตรงเนินดิน  เจ็นนี่มองตามพลางขยับมือและนิ้วที่จับไม้อีกครั้งหวังให้มันกระชับ  กลัวลื่นเพราะเหงื่อตัวเอง  เธอยกแขนสองข้างขึ้นพอดีเวลาที่เห็นเจ้าลูกกลมๆพุ่งมา  ออกแรงเหวี่ยงไปอย่างเต็มที่  เสียงป๊อกดังตามมา  เธอตีลูกถูกผิดคาดที่มันควรจะพลาดไม่ใช่เหรอ  แต่ก็ไม่มีเวลาหรอกที่จะดีใจ  มือบางทิ้งไม้ลงพร้อมสองขาออกวิ่งด้วยสปีดสุดที่มนุษย์จะทำได้  ไม่ได้ใส่ใจว่าบอลลอยอยู่ตรงไหนแล้ว   แค่วิ่งและวิ่งเท่านั้น

แต่ก็นั่นแหละ  จะมีประโยชน์อะไร  เด็กนั่นรับบอลได้แล้ว..

คาริน่าวิ่งเร็วกว่าพายุเสียอีก  เชื่อเลยว่า  คนดูในสนามไม่มีทางดูทัน  นี่มันไม่แฟร์สักนิดเลย  เธอจะไปสู้เด็กลูกผสมนั่นได้ยังไงเล่า!

เด็กสาวเต๊ะฝุ่นดินอย่างหัวเสีย  หมุนไปหมุนมาอยู่ใกล้ๆเบสที่เธอเหยียบไม่ทันเวลา  เสียงเฮยังดังลั่นทั้งสนามเบสบอลของโรงเรียนที่คนดูมากมายถึงมันจะเป็นแค่แมชของเด็กโนเนมอย่างพวกเธอ  เออ..เพราะเด็กนั่นไง

หันไปดูอีกที  เจ็นนี่เบ้หน้า  เด็กนั่นขี่คอคุณอาตัวสูงที่ดูจะเห่อหลานยิ่งกว่าอะไรดี  น่าหมั่นไส้ชะมัด  ก็รู้อยู่หรอกว่า  มันก็แค่เกมส์  แต่มันก็...

“เฮ้!” 

แค่คำทักทายสั้นๆที่เตือนว่าจะเกิดอะไร  ร่างบางถูกยกลอยขึ้นในอากาศและมาอยู่บนคออีกคนที่หน้าเหมือนอาของเด็กนั่นยังกับแกะ 

“แอล!  ไม่เอาหวาดเสียว!”

“ไม่เป็นไรน่า  ไม่ทำหล่นหรอก”

“บอกให้ปล่อยฉันลงไงเล่า  จะบ้าเหรอ!”

“ปล่อยแน่  แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงดีเจ้าแวมไพร์บ้าก็พาเธอวิ่งรอบสนามในสภาพขี่คออยู่แบบนั้น  กลัวก็กลัวชอบก็ชอบไม่รู้จะว่ายังไง  ยิ่งตอนที่แอลท้าแฝดพี่ที่บนคอมีเด็กพิชเชอร์คนนั้นอยู่มาวิ่งแข่งกัน  เธอกรี๊ดสนั่นยิ่งกว่าตอนเล่นรถไฟตีลังกา  และแม้ว่าจะกลัวขนาดไหน  ยังอุตส่าห์โบกมือให้อีกคนที่สะลัดหมวกออกปล่อยให้แสงแดดส่องกระทบดวงตาสีม่วงครามที่สะท้อนให้เห็นความรักข้างในนั้น  เธอรู้มันเป็นของเธอเสมอ  ไม่เคยเปลี่ยนไปไม่ว่าเค้าจะเป็นอะไรก็ตาม..

ฟลอเรน..  รู้ไหม.. ฉันดีใจแค่ไหนที่พี่กลับมา.. 





............................


TA DA !

มาแล้ว ภาค 3!!! 

รอกันอยู่หรือเปล่าเอ่ย.?  หรือไม่รู้จัก อิอิ

ขอโทษด้วยนะคะ ที่อาจจะไม่มีภาค 1 กับ 2 ให้อ่านกันก่อน  เพราะมันหายไปตอนย้ายเว็บไปเว็บมา ยังไม่ได้รวบรวมเอามาลงเลย  แต่เชื่อว่า ถ้าใคร เคยอ่าน และมีหนังสืออยู่ในมือ ไม่ว่าจะแบบเล่มหรืออีบุ๊ค  คงไปทบทวนกันได้เนอะ  แล้วก็ แนะนำให้อ่าน Vampire Hunter the beginning ด้วยนะคะ เพราะภาค 3 นี้มีเนื้อหาเชื่อมโยงถึงกันค่ะ

แนะนำไปแล้ว  คงพอเข้าใจนะคะ

หวังว่าจะมีโอกาสมาต่อให้อ่านกันอีกเรื่อยๆ ถ้าไม่ติดอะไรเสียก่อน ฮ่าๆๆ

ฝากอีกอย่างด้วยค่ะ

มาเป็นคอลเลคชั่นเลยค่ะ  ถ้ายังไม่มี (ขายของอีกแล้ว ฮ่าๆๆ)   :42:




ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะ  :44:

แล้วก็อย่ากลัวที่จะติชมอะไรนะคะ เราไม่กัดหรอกน่า  งั่ม!!!    :51:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 พฤษภาคม 2014 เวลา 17:51:01 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.