อากาศวันนี้ดูจะร้อนกว่าทุกวันที่ผ่านมาหรืออาจเพราะการต้องออกมาดูงานข้างนอกทำให้ร่างกายได้ลิ้มรสกับแสงแดดแบบเต็มๆ
กนต์รพีมองไปยังคนตัวเล็กที่ดูไม่น่าจะสู้หรืออดทนกับสภาวะลำบากได้ขนาดนี้และดูท่าทางธัญวรัตน์จะคล่องตัวพอสมควรถึงได้เดินไปสั่งงานทางนั้นทีทางนี้ทีได้อย่างไม่มีติดขัดแถมยังไม่ปริปากบ่นเลยสักนิด
“สวัสดีครับคุณพี”
หัวหน้าช่างซึ่งเป็นคนควบคุมการก่อสร้างเดินมาทางกนต์รพีหลังจากที่เสร็จจากการพูดคุยกับธัญวรัตน์เป็นที่เรียบร้อย
“สวัสดีค่ะ”
“เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปดูข้างในแต่คงต้องขอไปเคลียร์งานทางนู้นก่อน”
“ค่ะแล้วคุณธัญว่ายังไงบ้างคะ”
“คุณธัญก็ไม่ได้ว่าอะไรครับเธอบอกรอได้”
“ไม่อยากจะเชื่อ”
กนต์รพีต้องรีบหัวเราะกลบเกลื่อนเมื่อเผลอพูดนินทาเจ้านายออกมาแต่ดูเหมือนนายช่างใหญ่ก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะตัวเขาก็กำลังหัวเราะออกมาเช่นกัน
“เห็นตัวเล็กแบบนั้นนะครับเธอใจเด็ดสู้งานยิ่งกว่าผู้ชายตัวโตๆเสียอีก”
“คะ”
กนต์รพีทำหน้าสงสัยก่อนจะหันไปมองตาสายตาที่คนพูดกำลังจ้องมองไป
“เจ้านายสาวของเรานี่ล่ะครับถ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่มีใครเชื่อ”
“เห็นกับตาก็ไม่อยากจะเชื่อค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวมาพิสูจน์กันครับแต่ก่อนอื่นผมต้องขอไปเคลียร์งานซักครู่”
“อ๋อค่ะ ตามสบาย”
“แล้วมาดูกันนะครับ”
คนพูดเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปทำงานของตัวเองสักทีส่วนกนต์รพีก็ยังอยู่ในช่วงใช้ความคิดเพราะเธอไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างธัญวรัตน์จะทำงานหนักๆแบบนี้ได้ถ้าให้ไปเดิน ห้างหรือหว่านเสน่ห์แบบนั้นน่าจะเข้าทางอีกฝ่ายมากกว่า
พอถึงเวลาเดินสำรวจการก่อสร้างธัญวรัตน์ทำได้ดีมากอย่างที่มีคนคุยไว้จริงๆ
ท่าทางเอาจริงเอาจังบวกกับความตั้งใจในการทำงานทำให้คนที่แอบมองอยู่อดที่จะทึ่งไม่ได้
หัวใจของกนต์รพีเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆยิ่งมองหน้าและท่าทางของผู้หญิงคนนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกราวกับโลกจะหยุดหมุนท่าทางแบบนี้ทำให้ธัญวรัตน์ดูน่าสนใจจนทำให้คนที่มองไม่อาจละสายตาไปได้
ให้ตายสิเธอกำลังถูกยัยแม่มดร่ายมนต์ใส่อยู่ใช่มั้ย!
เมิ่อคิดได้ดังนั้นกนต์รพีจึงรีบดึงสายตาไปที่จุดอื่นขืนยังจ้องแบบนี้มันอาจทำให้เธอจิตหลุดได้แต่ทันทีที่เงยขึ้นไปมองข้างบนภาพวัตถุที่กำลังหล่นลงมาก็ทำให้กนต์รพีชะงักแต่แล้วเท้าทั้งสองข้างของเธอก็รีบวิ่งอย่างเร็วเมื่อจุดที่ของหล่นคือที่ที่ธัญวรัตน์กำลังยืนอยู่
“ระวัง!”
เสียงตะโกนทำให้ธัญวรัตน์ต้องหันไปมองทางเจ้าของเสียงก่อนจะต้องพบกับความตกใจเมื่อกนต์รพีโถมตัวเข้าใส่ตัวเองจนล้มลงและเพียงไม่นานก็มีบางสิ่งหล่นลงมาทับตรงที่ๆเธอยืนเมื่อสักครู่
ธัญวรัตน์มองถุงปูนที่จู่ๆก็หล่นลงมาด้วยความตกใจเพราะเธอเกือบโดนเจ้าสิ่งนี้ทับตายแล้วดีที่ได้…
“คุณธัญไม่เป็นไรนะคะ”
ประโยคเอ่ยถามจากคนเบี้องล่างทำให้ธัญวรัตน์ต้องค่อยๆหันกลับมามองยังคนที่ช่วยตัวเองไว้
“ไม่เป็นไร”
เป็นประโยคคำตอบที่ถูกเอ่ยออกมาอย่างลอยๆก่อนที่คนพูดจะบังเอิญเห็นสีแดงๆติดที่เสื้อของตัวเอง
“เลือด!”
ธัญวรัตน์ดันตัวเองลุกขึ้นทันทีพร้อมกับการสำรวจตัวเองอย่างละเอียดเพราะไม่แน่ใจว่าการล้มเมื่อสักครู่จะทำให้เธอบาดเจ็บตรงไหนแต่เมื่อไม่พบร่องรอยเธอก็ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คุณเลือดออก”
เสียงนายช่างที่พามาเดินสำรวจเอ่ยขึ้นทำให้ธัญวรัตน์ต้องหันไปมองและพบว่าเจ้าของเลือดที่เสื้อของเธอก็คือคนที่ช่วยเธอไว้นั่นเอง
“ไม่เป็นไรค่ะแค่ถลอก”
“แต่ผมว่า…”
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะแผลแค่นี้ไกลหัวใจ”
“อวดเก่ง”
ธัญวรัตน์เอ่ยแทรกขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาใกล้คนทั้งคู่พร้อมกับมองไปยังแผลที่เกิดขึ้นโดยมีเธอเป็นต้นเหตุแต่แล้วสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับผ้าที่ใช้พันแผล
เพราะถ้าจำไม่ผิดนั่นมันผ้าของเธอชัดๆและเหมือนกนต์รพีจะมองเห็นสายตาที่จ้องมาทำให้เธอต้องรีบดึงแขนเสื้อลงอย่างเร็ว
“เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้แล้วกันส่วนคุณเตรียมทำรายงานให้ฉันด้วยว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้”
พูดจบธัญวรัตน์ก็เดินกลับไปที่รถทันทีโดยมีกนต์รพีเดินตามไปอย่างเงียบๆและพอถึงรถเจ้านายสาวก็แย่งกุญแจรถจากเธอไปหน้าตาเฉยพร้อมกับออกคำสั่งให้เธอไปนั่งเบาะหลัง
กนต์รพีรู้ว่าธัญวรัตน์รู้ว่าเธอเจ็บจนอาจขับรถไม่ได้และอีกข้อหนึ่งก็คือธัญวรัตน์ยังคงเกลียดและขยะแขยงเธอทุกอณูรูขุมขนจนต้องไล่ให้มานั่งไกลสายตาแบบนี้
เช้าวันหยุดช่างเป็นวันที่แสนสุขสำหรับคนที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์หากเป็นแค่เรื่องงานก็คงไม่ทำให้เธอล้าได้ขนาดนี้
“ตื่นได้แล้วจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน”
บรรยากาศที่แสนสุขถูกปลุกโดยเจ้าของห้อง กนต์รพีลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆก็พบว่าคนที่มาปลุกนั่งอยู่ที่ข้างๆเตียงแล้วและตอนนี้กำลังส่งยิ้มหวานมายังเธอซะด้วย
“ต้องการอะไร”
“แหม๋ทำไมพูดกับเพื่อนไม่น่ารักแบบนี้คนเค้าอุตส่าห์เตรียมข้าวเช้าไว้รอ”
กนต์รพีมองคนที่อยู่ดีๆก็เกิดเพี้ยนลุกขึ้นมาเอาอกเอาใจเธอแล้วไหนจะท่าทางแปลกๆแบบนี้อีกมีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่ามีอะไรแอบแฝง
“จะพูดหรือไม่พูด”
เงียบไร้เสียงใดๆตอบกลับ
“งั้นนอนต่อดีกว่า”
พูดจบกนต์รพีก็ลากผ้าห่มมาคลุมโปงต่อแต่กลับถูกคนที่บอกไม่มีอะไรดึงผ้าห่มออก
“อะไรอีก”
“ฉันอยากไปช้อปปิ้ง”
“แล้วไงก็ไปสิ”
“จะไปได้ยัง…”
กนต์รพีมองหน้าคนที่อยู่ๆก็เงียบพูดไม่จบอย่างสงสัย
“อะไร”
“ขาดคนถือของให้”
“ว่าแล้วเชียว”
“อะไรเล่าเร็วๆเลยรออยู่ข้างนอกนะ”
พูดจบมาริษาก็อมยิ้มออกจากห้องอย่างอารมณ์ดีนานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้ไปไหนมาไหนกับกนต์รพีแบบนี้
จะว่าไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่ใช่แต่ทำไมพักหลังๆมานี้เธอถึงรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษก็ไม่รู้
จริงสิ! ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไปแล้วนี่นา
การมาเดินห้างในวันนี้กนต์รพีรู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่าแต่เหมือนเธอจะรู้สึกว่าถูกคนข้างๆมองอยู่ตลอดเวลาแต่พอเธอหันไปมาริษาก็หันหน้าไปทางอื่น
“ษาแกเข้าผิดร้านหรือเปล่า”
“ไม่นิ”
“แต่แกจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแนวนี้นิ”
กนต์รพีมองเข้าไปในร้านที่เพื่อนสาวกำลังจะเดินเข้าอย่างสงสัยเพราะข้างในเต็มไปด้วยเสื้อเชิ้ตเสื้อยืดแล้วก็กางเกงขายาวเสียส่วนใหญ่อันที่จริงร้านนี้น่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า
“ทำไมล่ะไม่ใส่แล้วเข้าไม่ได้หรือไง”
มาริษาเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินย้อนมาลากแขนคนขี้สงสัยให้เดินเข้าไปข้างใน
“พีฉันว่าตัวนี้เหมาะกับแกดีนะ”
พูดจบมาริษาก็ทาบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนลงที่ตัวของเพื่อนรักจากนั้นก็พินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเรียกพนักงานให้มาหาไซค์ให้
“แกจะทำอะไร”
“ก็ซื้อเสื้อไง”
“รู้แล้วแต่ฉันไม่ได้อยากได้ฉันว่าเราไปดูของที่แกอยากได้ดีกว่า”
“ก็นี่ไงที่ฉันอยากได้”
“ษา”
มาริษาฉุกคิดเมื่อเจอสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของคนตรงหน้าเธอรู้ว่าการทำแบบนี้มันออกจะแปลกไปหน่อยสำหรับมิตรภาพคำว่าเพื่อนแต่เธอห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ
ไม่รู้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ที่เธออยากทำทุกอย่างที่ทำได้ให้กับเพื่อนคนนี้และการซื้อเสื้อให้ก็เป็นเพราะเธออยากให้ถ้าจะบอกว่าไม่มีเหตุผลมันก็คงจะฟังไม่ขึ้น
“พอดีฉันได้คูปองมาน่ะแล้วไม่รู้จะซื้ออะไร”
“อย่างอื่นมีตั้งเยอะแยะ”
“ก็มันซื้อได้แค่ร้านนี้แล้ววันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วด้วยไม่เชื่อถามพนักงานสิ”
พนักงานที่ถูกโยนเรื่องให้ได้แต่พยักหน้ารับเมื่อคนที่ข้องใจหันมาหาแม้จะรู้เรื่องไม่มาแต่เท่าที่ฟังเธอก็พอจะรู้ว่าควรจะทำแบบไหนและการทำแบบนี้ก็ไม่เสียหายอะไรดีซะอีกในเมื่อมันทำให้ขายของได้
กนต์รพีมองหน้าเพื่อนรักสลับกับพนักงานไปมาก่อนจะพยักหน้าเชื่อในที่สุด
“ของฟรียังจะเล่นตัวอีก”
“ก็ฉันไม่อยากให้แกเปลืองตังค์”
“นี่คิดว่าถ้าเสียเงินฉันจะยอมลงทุนซื้อให้แกเหรอ…ไม่มีทาง”
มาริษาบ่นใส่หน้าเพื่อนรักก่อนจะเดินไปที่เคาร์เตอร์เพื่อรีบไปจัดการกับหลักฐาน
แค่ซื้อเสื้อยังยากขนาดนี้แล้วอย่างอื่นมันจะยากขนาดไหนนะ
สองเพื่อนซี้เดินมาหยุดที่โรงหนังหลังจากที่กนต์รพีเสนอเลี้ยงหนังหนึ่งเรื่องตอบแทนสำหรับเสื้อที่มาริษาซื้อให้แต่อารมณ์ดีใจของมาริษาก็เหมือนถูกกระชากให้หลุดลอยหายไปเมื่อตอนนี้เธอเห็นชื่อเรื่องที่กนต์รพีซื้อมาให้ “บ้านเฮื้อนคืนหลอน”
“น่าสนุกนะว่ามั้ย”
กนต์รพีเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าตื่นเต้นราวกับเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจช่างแตกต่างจากมาริษาที่หวังจะได้ดูอะไรที่ชวนฝันมากกว่าเขย่าประสาทแบบนี้
อันที่จริงก็ผิดที่เธอเองแหละไม่น่าจะหวังมากกับคนทึ่มๆแบบนี้เลย…
เปิดจอง "ลวงรักฉบับร้าย" วันนี้ - 20 มิ.ย 57 ^^
ราคาเล่มละ 350 บาท
ค่าส่งลงทะเบียน 30 บาท
รวมที่ต้องโอน 380 บาท
สำหรับการสั่งซื้อแบบ pdf ราคา 250 บาท
โอนเงินมาได้ที่
ธนาคารกสิกรไทย
สาขาเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่
457-211-232-8
ชื่อบัญชี สมทรัพย์
โอนเสร็จแจ้งวันเวลาการโอนมาได้ที่
Mail
mydestiny_k@hotmail.comTel 087-0591110
Line samakae
facebook
https://www.facebook.com/mea.you.927ถ้าสั่งแบบpdf ให้แจ้งเมล์ที่จะให้จัดส่งไฟล์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ^^