บทที่ 3
สาวนัยน์ตาเข้มละสายตาจากหน้าจอ เธอบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ ก่อนจะมองดูนาฬิกาข้อมือ นี่สามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย หล่อนคิด การมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ แถมเพื่อนร่วมห้องก็เป็นใจ ฟังเพลงเงียบๆ ไม่รบกวนหรือชวนคุยอีก
ปองกานต์คิดถึงแม่ขึ้นมาวูบหนึ่ง ป่านนี้แม่คงนั่งทำงานอยู่ในบ้านเช่นเคย เธอนึกภาพของแม่ได้ชัดเจน เพราะเห็นภาพนั้นมาตลอดทั้งชีวิต หล่อนคิดว่าเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้จะกลับไปหาแม่ คนตากลมโตยิ้มออกมาเมื่อคิดว่าตัวเองกลายเป็นเด็กติดแม่ซะแล้ว ห่างแค่สองวันก็คิดถึง
“ยิ้มอะไร” น้ำหวานมองไปยังสาวเปรี้ยวกางเกงสั้นโดยที่รอยยิ้มยังคงไม่หายไป
“เปล่า” หล่อนตั้งใจกวนอีกฝ่าย รู้สึกหมั่นไส้ท่าทางไม่แยแสของคนตรงหน้าขึ้นมา
ปอไม่ตอบ ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงเล็กน้อยเหมือนกับกำลังคิดพิจารณาบางอย่างอยู่ และรอยยิ้มลึกลับก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปากหนา
หญิงสาวไม่เห็นอีกฝ่ายว่าอะไรอีกจึงเดินไปหยิบสบู่และยาสีฟันที่ซุกไว้ในตู้เสื้อผ้า เธออยากจะอาบน้ำให้สดชื่นเสียหน่อยก่อนจะทำงานต่ออีกนิดแล้วเข้านอน
“ไปอาบน้ำเหรอ” เสียงติดแหบถามอีกครั้ง เพื่อนสาวมีท่าทีกระตือรือร้นเล็กน้อย
“อือใช่” เธอตอบรับขณะกำลังจะเดินออกจากห้อง
“ไปด้วย” นิ้วยาวนั้นดึงหูฟังออกแล้วหยิบของส่วนตัวของตัวเองอย่างรวดเร็ว หล่อนมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจนัก เดาการกระทำของคนตรงหน้าไม่ออกเลยจริงๆ แถมไม่ถามกันสักคำว่าอยากให้ไปอาบด้วยไหม แม้ว่าจริงๆ จะไม่ค่อยต่างกันก็ตาม เพราะที่นี่ถึงจะเป็นห้องน้ำรวมแต่ก็มีห้องให้อาบแยก มีผนังกั้นเป็นสัดส่วน
“ไปสิ” อีกฝ่ายเร่งเร้าเมื่อเห็นเธอยืนนิ่ง
“น่าจะมีที่ทำน้ำอุ่นนะ” สาวทรงเสน่ห์บ่นเบาๆ ปองกานต์อดยิ้มไม่ได้ คนตรงหน้าคงคุ้นชินกับความสะดวกสบายมากกว่านี้ พอมาเจอแบบนี้เลยไม่ถูกใจ ส่วนตัวหล่อนเองรู้สึกเฉยๆ มากกว่า อยู่ที่บ้านก็แบบนี้ ไม่เคยได้อาบน้ำอุ่นยกเว้นแต่เวลาไปแข่งประกวดงานต่างๆ แล้วได้นอนที่โรงแรม
“วันหลังก็อาบตั้งแต่เย็นๆ สิ จะได้ไม่หนาวมาก” คนผมยาวแนะนำ
น้ำหวานกำลังใช้ยางรัดผมรวบและมัดผมยาวหยักศกของตัวเอง เพื่อไม่ให้เปียกน้ำเวลาอาบ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปจึงหันไปมอง และพบว่าเพื่อนร่วมห้องกำลังยืนอย่างสบายอารมณ์พิงประตูห้องน้ำแล้วมองมาที่เธอ
“มีอะไรเหรอ” คนน่ารักสงสัย
“เปล่า” คำพูดกับดวงตาช่างขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง แต่ปองกานต์ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ยิ่งดึกน้ำยิ่งเย็น หล่อนจึงคว้าของใช้แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำข้างในสุดที่ติดกับกำแพง
น้ำหวานอาบน้ำเสร็จปอไม่นานนัก เธอยืนรออีกฝ่ายที่อ่างล้างหน้า ไม่อยากจะเสียมารยาทด้วยการกลับไปห้องคนเดียว
เมื่อเข้ามาในห้องต่างฝ่ายต่างเริ่มผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นอีกครั้งที่อดมองรูปร่างของเพื่อนร่วมห้องไม่ได้ คนข้างๆ รูปร่างดีแบบนักกีฬา เอวไม่คอดมากนักแต่มีส่วนโค้งเว้า เธอเห็นหน้าท้องอยู่หลายครั้งมันเรียบสวย และมีซิกแพคจางๆ ไม่ดูน่ากลัวเหมือนผู้หญิงที่เล่นกล้ามอย่างในโทรทัศน์ที่หญิงสาวเคยดู ไม่รู้ว่าปอนั้นเล่นกีฬาอะไรรึเปล่าถึงได้มีรูปร่างแบบนี้
เธอนั้นแตกต่าง ไม่ได้มีกล้ามสวยเลยแม้แต่นิด หล่อนไม่ค่อยชอบออกกำลังกายสักเท่าไหร่ อะไรที่เป็นเรื่องใช้กำลังเธอจะรู้สึกเหนื่อยและไม่ค่อยสนใจ
หลังจากใส่ชุดนอนซึ่งเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแค่เข่าเรียบร้อย หล่อนก็ออกไปยืนสูดอากาศที่ระเบียงเล็กๆ หลังห้อง อากาศค่อนข้างเย็นเล็กน้อยไม่ร้อนเหมือนตอนกลางวัน
“ยุงเข้า” เสียงเพื่อนร่วมห้องดังลอดออกมา
“ขอโทษ” เธอเอ่ย ลืมไปเสียสนิทเพราะปกติที่บ้านนั้นจะเปิดทั้งประตูหน้าต่างตลอดเวลา จะปิดก็ต่อเมื่อจะเข้านอนเท่านั้น แม่ของเธอยังนอนแบบใช้มุ้งอยู่เลย จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องยุงสักเท่าไหร่นัก
ขณะที่คนผมยาวกำลังจะปิดประตูนั้น ที่เท้าหล่อนรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างจึงก้มลงไปมอง และพบว่าปีเตอร์น้อยได้ไต่ขึ้นมาที่ข้อเท้า
“ว้าย” เธอสะดุ้ง พยายามขยับขาเพื่อไล่แมลงสาบ
“นิ่งๆ” เสียงของปอดังขึ้นแต่หล่อนไม่อาจทำตามได้ ปองกานต์ทนความรู้สึกและความคิดที่ว่ามีเพื่อนตัวน้อยไต่อยู่บนผิวหนังของตัวเองไม่ไหว มันให้ความรู้สึกขยะแขยงจนขนลุก
“มันเข้ามาแล้ว” หล่อนร้องเสียงหลง เพราะเพื่อนตัวน้อยได้วิ่งเข้ามาในกางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่
หญิงสาวตัดสินใจถอดออกทันที เธอรู้สึกขยะแขยงเต็มทน ขายังไม่หยุดขยับเพื่อสะบัดแมลงสีน้ำตาลอ่อนให้หลุดออกไป น้ำหวานไม่กล้าจับตัวมัน จึงหันรีหันขวางมองหาอะไรสักอย่างที่จะเอามันออกไปจากตัวของตัวเองได้
“นิ่งๆ” คราวนี้เสียงแหบของเพื่อนสาวดังที่ข้างหู มืออุ่นๆ นั้นจับตัวเธอให้นิ่ง จากนั้นนิ้วเรียวจึงดีดแมลงไมได้รับเชิญให้กระเด็นออกไป มันวิ่งกลับไปที่หลังห้อง คนผมยาวรีบเอื้อมมือไปปิดประตูทันที เพราะกลัวว่ามันจะเข้ามาในห้องได้
“ก็บอกให้นิ่งๆ” คำพูดนี้เหมือนจะต่อว่ากลายๆ
“ใครจะนิ่งได้เล่า ก็คนมันเกลียดนี่ ปอไม่รู้สึกแหยงมันบ้างเหรอ” หล่อนพยายามทำสีหน้าให้ดูน่ารัก น่าเห็นใจ
“ก็แค่ล้างมือ” พูดแล้วยิ้ม
คำพูดนี้เองที่ทำให้หญิงสาวนึกได้ว่าท่อนล่างของตัวเองเหลือแค่ชั้นในตัวจิ๋ว และเมื่อมองสายตาวิบวับนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเขิน มันน่าอายน้อยซะเมื่อไหร่ถอดกางเกงต่อหน้าคนที่เพิ่งเจอกันได้แค่สองวัน หล่อนอยากจะบ้าจริงๆ มีแต่เรื่องนอกความคาดหมายเต็มไปหมด
เธอคว้าผ้าขนหนูจากในตู้มาห่อท่อนล่างไม่ให้น่าเกลียด จากนั้นจึงใช้นิ้วคีบกางเกงที่อยู่ที่พื้นไปใส่ตะกร้า หล่อนไม่กล้าใส่ซ้ำแน่เมื่อคิดว่าเพิ่งมีแมลงสาบตัวจิ๋วไต่ไปไต่มา
“อาบอีกรอบไหม” ปองกานต์เกลียดยิ้มของคนตรงหน้าจริงๆ เป็นยิ้มที่เหมือนกับว่าขำหล่อนเสียเหลือเกิน สาวตาสีน้ำตาลเข้มคิดในใจ ไม่เจอกับตัวเองบ้างก็แล้วไป
คนหน้ารูปหัวใจไม่ตอบแต่เดินกลับไปยังห้องน้ำอีกรอบ อีกฝ่ายเดินตามมาอย่างไม่รีบเร่ง คงเพราะแค่มาล้างมืออย่างที่เจ้าตัวได้บอกไว้
หล่อนเข้าห้องน้ำได้ก็รีบปลดผ้าเช็ดตัวออก เอาน้ำราดและถูสบู่ทันที เมื่อคิดว่าผิวตรงไหนถูกไต่ถูกขาเล็กๆ สีน้ำตาลนั้นเดินผ่าน ก็อดที่จะส่งเสียง ‘อี๊’ เบาๆ ไม่ได้
ปารย์ถอนหายใจ เห็นผู้หญิงถอดกางเกงต่อหน้าแล้วไม่ได้ทำอะไรนี่ช่างทรมานเสียจริงๆ แม้ว่าจะทำโดยไม่ตั้งใจก็ตามที
ตอนที่สัมผัสผิวเนื้อนุ่มขาวอมชมพู หน้าท้องเธอวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง จิตใจหล่อนไม่ได้อยู่ที่เจ้าแมลงน้อยตัวนั้นเลย
จากที่ดูตอนนี้หญิงสาวคิดว่าบอกได้ยากว่าจะสำเร็จตามที่คิดไว้เมื่อไหร่ บางทีอาจจะพรุ่งนี้ แต่ถ้าคนในห้องน้ำใจแข็งเวลาอาจจะยืดได้เป็นเดือน เธอไม่นิยมการขืนใจ แต่ถ้าต้องเจอแบบนี้ทุกวัน ต้องอดกลั้นกับความต้องการของตัวเองทุกคืน หล่อนจะทนได้ถึงเมื่อไหร่ หรือว่า...
-------------------------------------------------
เจอกันอีกทีปีหน้านะคะ กลางๆ ไม่ก็ปลายเดือนมกราคมเลย คนเขียนขอไปสะสางงานต่อก่อนค่ะ เดี๋ยวกลับมามีเซอร์ไพรส์ด้วย