web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 138
Total: 138

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 5  (อ่าน 1542 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 5
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:00:05 »
ตอนที่ 5

จีรธรตื่นแต่เช้าตรู่ ตั้งใจว่าจะลงมาเตรียมอาหารอ่อนๆ สำหรับคนป่วยแต่ก็ช้าไปกว่าน้าสาวทั้งสองของเธอ เพราะกลิ่นข้าวต้มกุ้งโชยมาแต่ไกล จีรธรเดินยิ้มเข้าไปในครัว ก็เห็นน้าสาวทั้งสองกำลังจัดเตรียมอาหารและผลไม้สำหรับเยี่ยมไข้ไว้ให้เกือบจะเสร็จแล้ว

“จี๊ดว่าตื่นเช้าแล้วนะคะ แต่ก็สายกว่าน้าบัวกับน้าบุษ ทำอาหารเยี่ยมคนป่วยเสร็จแล้ว” จีรธรยิ้มและชื่นชมในความมีน้ำใจของบุษบาและปทุมมาศ

“ก็ช่วยกัน น้าสองคนทำ จี๊ดเป็นคนนำไปเยี่ยมคนป่วย ยุติธรรมดีแล้วละ” บุษบายิ้มให้หลานสาวของเธอ

“ขอบคุณค่ะ มิน่าคนที่นี่ถึงได้รักน้าบัวกับน้าบุษ ต่อไปนี้จี๊ดจะมาช่วยดู แลอีกแรงค่ะ” จีรธรพูดขึ้น

“หมายความว่าอย่างไรยายจี๊ด” คำพูดของจีรธรทำให้น้าสาวทั้งสองมองมาที่เธอพร้อมๆ กันเพื่อรอคำตอบและคำอธิบาย

“จ้องกันเขม็งเลยค่ะ ก็จี๊ดอยากอยู่ที่นี่ ดูแลรีสอร์ทช่วยน้าบัวกับน้าบุษค่ะ” จีรธรอมยิ้มเมื่อพูดจบ แต่น้าสาวทั้งสองของเธอดูจะเป็นกังวล

“แม่เราคงจะยอมหรอกนะ” บุษบาพูดขึ้นแล้วหันไปสบตากับปทุมมาศซึ่งท่าทางทั้งสองคนมีคำถามเดียวกันสำหรับจีรธร

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ จี๊ดจัดการเองค่ะ” จีรธรพูดและรับแก้วนมสดอุ่นๆ ที่ปทุมมาศส่งให้ไปดื่มช้าๆ

“แล้วโรงแรมที่กรุงเทพล่ะ ใครจะดูแล” บุษบาถามหลานสาวของเธอ

“แม่เป็นหลักค่ะ จี๊ดเป็นผู้ช่วยแต่ขอใช้ที่นี่เป็นสำนักงานสำหรับจี๊ด สัญญาค่ะว่าจี๊ดจะทำงานให้ดีที่สุด ให้จี๊ดอยู่ด้วยนะคะ น้าบัว” จีรธรหันไปอ้อนปทุมมาศแทนเมื่อเห็นหน้าดุดุของบุษบา

“ถามผิดคนแล้วค่ะ ต้องไปถามคนโน้น น้าทำได้แค่เอาใจช่วยเท่านั้นค่ะ” ปทุมมาศนึกขำเมื่อเห็นหน้าตาเหยเกของจีรธร

“คุยกันแม่ไว้บ้างหรือยังเรา” บุษบาถามด้วยความเป็นห่วง

“คุยไปบ้างแล้วค่ะ แม่บอกว่าจี๊ดอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็ขอกลับไปอยู่กรุงเทพเอง” จีรธรบอกกับบุษบา

“ก็น่าจะจริงเหมือนที่แม่เราว่า” บุษบาพูดขึ้น

“น้าบุษเป็นพวกเดียวกับแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ” จีรธรถามหน้าง้ำ

“ไม่ได้เป็นพวกอะไร ก็แค่เป็นห่วง ที่นี่มันไม่ได้สะดวกสบายนักหรอกนะ”

“จี๊ดทราบค่ะน้าบุษ แต่จี๊ดมั่นใจว่าอยู่ที่นี่ได้ โดยเฉพาะมีสาวสวยน่ารักอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลตั้งสองคน” จีรธรยิ้มหวานให้ปทุมมาศ

“ปากหวานนะคะ ท่าทางน้าบุษจะใจอ่อนแล้วละค่ะ ไปอ้อนต่ออีกนิดค่ะ ใกล้สำเร็จแล้ว” ปทุมมาศยิ้มให้บุษบาที่ยืนทำหน้านิ่งๆ

“ถ้าอ้อนจะได้ผลจริงๆ นะคะ น้าบัว” จีรธรกระซิบถาม

“ค่ะ น้าเคยใช้มาแล้ว รับรองได้ค่ะ” ปทุมมาศแกล้งทำเป็นกระซิบกับจีรธร ก่อนที่จะยิ้มสวยๆ ให้บุษบาที่ยืนอมยิ้มกับความน่ารักของทั้ง
สองสาวที่อยู่ในหัวใจของเธอทั้งสองคน

จีรธรเริ่มเข้าไปกอดบุษบาและคลอเคลียจนน้าสาวของเธอยิ้มออก จีรธรหันไปยักคิ้วหลิ่วตากับปทุมมาศเจ้าของความคิด ก่อนที่จะหอมแก้มของบุษบาเสียงดังฟอดใหญ่ ซึ่งน้าสาวของเธอที่โดนหอมแก้มก็แกล้งตีหลานสาวเบาๆ

“น้าบุษ รักจี๊ดไหมคะ” จีรธรถามขึ้นแต่ก็ยังโอบกอดบุษบาไว้

“มีเธอเป็นหลานคนเดียว ก็ต้องรักอยู่แล้ว น้าไม่มีโอกาสเลือกนี่คะ” บุษบายิ้มๆ เมื่อเห็นหน้าจ๋อยๆ ของหลานสาว

“หมดกัน ไอ้เราก็คิดว่าน้าบัวกับน้าบุษรักเสียอีก” จีรธรบ่นพึมพำเล็กน้อยแต่ก็กระชับอ้อมกอดที่กอดบุษบาแน่นขึ้น

“น้าหายใจไม่ออกแล้ว ยายจี๊ด”

“น้าบุษเชื่อใจจี๊ดสักครั้งนะคะ จี๊ดจะไม่ทำให้น้าบัวกับน้าบุษและแม่เสียใจเลยค่ะ จี๊ดจะตั้งใจทำงานและจะทำให้ดีที่สุด ถึงแม้จะได้ไม่ดี
เท่าน้าบัวกับน้าบุษก็ตาม นะคะ เชื่อจี๊ดสักครั้งนะ หลานสาวคนนี้โตขึ้นมากแล้วนะคะ” จีรธรทำสายตาอ้อนวอนบุษบา

“ถ้าแม่เราไม่ว่าอะไร น้าก็ไม่มีปัญหา แต่อย่าลืมสัญญานะ” บุษบากำชับกับหลานสาวของเธอ

“สัญญาค่ะ” พูดจบเธอก็โผเข้ากอดปทุมมาศซึ่งยิ้มเมื่อเห็นความน่ารักของสองน้าหลาน

“อ้อนเก่งเหมือนกันนะคะ” ปทุมมาศพูดกับจีรธรที่กำลังกอดเธออยู่

“ใช้ได้ผลจริงๆ ด้วยค่ะ ว่าแต่ว่าน้าบัวอ้อนน้าบุษ หรือน้าบุษอ้อนน้าบัวกันแน่คะ จี๊ดอยากรู้จริงๆ เวลาน้าบัวอ้อนไม่ค่อยน่าแปลกใจ แต่ถ้าน้าบุษเป็นคนอ้อนนี่ซิคงน่าแปลกใจ ถามจริงๆ นะคะ น้าบัว ตกลงว่าน้าบุษเคยอ้อนน้าบัวบ้างหรือเปล่าคะ” จีรธรถามขึ้น ทำเอาปทุมมาศยิ้มแก้มแดงมองไปทางบุษบาที่ยืนอยู่ไม่ห่างมากนัก

“มีค่ะ น่ารักด้วยค่ะ” ปทุมมาศกระซิบบอกจีรธร

“อิอิ เอาไว้เดี๋ยวตอนเย็นๆ ค่อยกลับมาล้วงความลับน้าบุษดีกว่า” บุษบาส่ายหัวกับความทะเล้นแต่ก็น่ารักของหลานสาวของเธอ

ปานวาดขับรถมาส่งรสาที่โรงพยาบาลเหมือนทุกๆ วัน แต่วันนี้คุณหมอท่า ทางดูสดชื่น ต่างกับเมื่อเย็นวานอาจจะเพราะได้นอนหลับเต็ม
ที่

“ท่าทางเช้านี้คุณหมออารมณ์ดีนะคะ เห็นฮัมเพลงตั้งแต่ตอนอาบน้ำ จนตอนนี้จะถึงโรงพยาบาลแล้วก็ยังฮัมเพลงอยู่เลยค่ะ” ปานวาดหันมายิ้มให้รสาที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ก็ต้องมีความสุขซิคะ ก็คุณหมอคนนี้มีแฟนน่ารักจะตายไป รู้หรือเปล่าคะ คุณปลัด” เมื่อพูดจบรสาก็อมยิ้ม

“ใครกันนะเป็นแฟนคุณหมอ ชักอยากจะเห็นคนน่ารักเสียแล้วค่ะ” ปานวาดหัวเราะเล็กๆ เมื่อรสาชี้ให้มองที่กระจกหน้ารถ

“ปานเห็นหรือยัง นอกจากจะน่ารัก แถมยังสวยมากด้วยนะคะ ที่สำคัญเซ็กซี่สุดๆ” รสาหัวเราะเสียงดังเมื่อพูดประโยคท้ายแล้วคนฟังทำ
หน้าตาแปลกๆ

“พูดจริงเหรอคะ เรื่องเซ็กซี่” ปานวาดแกล้งถาม

“มากเลย แต่”

“แต่อะไรคะ คุณหมอ” ปานวาดถาม

“แต่ว่าเห็นได้เฉพาะสาคนเดียวนะคะ นะ นะ” รสาทำสายตาทะเล้น

“อยากกอดจังเลย เวลาเห็นสายตาทะเล้นๆ แบบนี้ น่ากอดแน่นๆ นะคะ” ปานวาดรู้สึกหมั่นเขี้ยว

“ก็รู้ว่ากอดไม่ได้ไง ก็เลยแกล้งแหย่ ขอบคุณนะคะ ที่ดูแลเอาใจใส่สาเป็นอย่างดี” รสาหันมองซ้ายมองขวาๆ ไม่เห็นมีรถผ่านมาเธอจึง
หอมแก้มของคนที่ขับรถอยู่เสียงดังฟอด

“หอมแบบนี้ทุกวันก็ดีซิคะ คิดเป็นค่าโดยสารแล้วกันเนอะ” ปานวาดอมยิ้มแก้มเริ่มเป็นสีชมพู

“สาก็หอมปานอยู่ทุกวันอยู่แล้ว แต่ก็ได้ถ้าอย่างนั้นทุกเช้าที่ปานขับรถมาส่ง สาจะหอมแก้มแทนคำขอบคุณดีไหมคะ”

“ฝากประจำ สามร้อยหกสิบห้าครั้งต่อปี ไม่รวมเวลาอื่นๆ แค่คิดก็ชื่นใจแล้วนะคะ คุณหมอ” ปานวาดยิ้มทะเล้น

ปานวาดตั้งใจว่าจะแวะเยี่ยมหญิงชราที่รสาพามาส่งโรงพยาบาลเมื่อวาน เพราะรสาต้องไปตรวจอาการของหญิงชราตอนเช้านี้อยู่แล้ว ปานวาดจึงถือโอกาสแวะไปเยี่ยมเยียนด้วยเสียเลย

“อีกหน่อยคงมีคนรักคุณปลัดเยอะแน่ๆ ค่ะ ดูแลประชาชนดีขนาดนี้” รสาพูดขึ้น

“แค่สาคนเดียวก็พอแล้ว ใครจะรักปานไม่รู้แต่อยากให้สารู้ว่าปานรักสานะ” ปานวาดกระซิบบอกขณะที่กำลังเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วย

จีรธรกำลังจัดเตรียมข้าวต้มกุ้งที่เตรียมมาสำหรับคนป่วย หญิงชราพนมมือไหว้ด้วยความขอบคุณ น้ำตาเอ่อล้นด้วยความปลื้มปิติที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากจีรธร

“ยายคะ ไม่ต้องไหว้จี๊ดแล้วนะคะ เดี๋ยวจี๊ดก็อายุสั้นกันพอดี”

“คุณช่างใจดีเหมือน คุณน้าทั้งสองเลยนะคะ” หญิงชรายิ้มให้จีรธร

“ขอบคุณค่ะ ทานข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะได้ทานยา” จีรธรพยุงหญิงชราลุกขึ้นนั่ง ระหว่างที่หญิงชรารับประทานอาหารจีรธรก็ชวนคุย
เรื่องโน้นเรื่องนี้ จนดูเหมือนอาการเจ็บป่วยของหญิงชราทุเลาลงไปบ้าง เพราะตอนนี้ปานวาดซึ่งยืนดูอยู่สักครู่มองเห็นรอยยิ้มสดใสของหญิงชราเมื่อได้คุยกับจีรธร

รสาเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ปานวาด เธอมองตามสายตาของปานวาดก็ได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของสองสาวต่างวัย ดูจะคุยกันสนุกสนานและตอนนี้คนไข้ของเธอดูอาการจะดีขึ้นกว่าที่คิดไว้

“สวัสดีค่ะ คุณยาย ได้ยินเสียงหัวเราะดังไปถึงข้างนอกเลยนะคะ” รสาทัก ทายคนป่วยในการดูแลของเธอ

“สวัสดีค่ะ คุณหมอ” หญิงชราพนมมือไหว้รสา ซึ่งรีบรับไหว้ทันที

“สวัสดีค่ะ คุณจี๊ด” รสาทักทายและปานวาดก็ยิ้มทักทายกับจีรธร

“สวัสดีค่ะ คุณสา แล้วก็คุณปลัด” รสาหันไปยิ้มกับปานวาดเมื่อได้ยินจีรธรเรียกปานวาดว่าคุณปลัด

“ขอหมอตรวจอาการหน่อยนะคะ คุณยาย แต่ท่าทางคงจะแข็งแรงขึ้นแล้ว เพราะเสียงหัวเราะดังไปถึงข้างนอกเลยค่ะ” หญิงชรายิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่รสาพูด

“คุณจี๊ดมาแต่เช้าเลยนะคะ” ปานวาดถามจีรธร

“ค่ะ พอดีน้าบุษกับน้าบัวทำข้าวต้มกุ้งค่ะ เลยฝากมาให้คุณยาย”

“หลานสาวก็น่ารักไม่ต่างจากคุณน้าทั้งสองเลยนะคะ” ปานวาดพูดแต่ไม่ได้มองที่คนฟัง เธอมองไปที่รสาซึ่งกำลังตรวจอาการของหญิงชราอยู่ สักครู่เสียงหมอหนุ่มก็เดินมาทักทายปานวาด

“สวัสดีครับ ปาน” เสียงทุ้มๆ นั้นทำให้สองสาวหันไปมองพร้อมๆ กัน

“สวัสดีค่ะ พี่หมอ” ปานวาดทักทายพีรพลเจ้าของเสียงนุ่มๆ ทุ้มๆ นั้น ซึ่งกำลังหันไปยิ้มให้จีรธร

“สวัสดีค่ะ พี่พีท” รสาเดินเข้ามาทักทายคุณหมอหนุ่มซึ่งเป็นรุ่นพี่ของเธอสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์

“สวัสดี คุณหมอคนขยัน” พีรพลทักทายรสา

“อ้อ นี่คุณจี๊ดหลานสาวคุณน้าบัวกับคุณน้าบุษค่ะ” รสาแนะนำจีรธรให้รู้ จักกับพีรพล

“สวัสดีค่ะ” จีรธรพนมมือไหว้ทักทาย

“คุณจี๊ดคะ คุณหมอพีรพล แต่เรียกพี่หมอพีทคงจะง่ายกว่านะคะ”

“สวัสดีครับ คุณจี๊ด คุณน้าทั้งสองสบายดีนะครับ เห็นสาบอกคุณน้ามาตรวจสุขภาพเมื่อวาน พอดีผมออกไปตรวจคนไข้ข้างนอกเลยไม่
ได้เจอท่านเลยครับ ฝากกราบท่านด้วยนะครับ”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวจี๊ดจะบอกน้าบัวกับน้าบุษให้นะคะ”

“วันนี้พี่พีทพูดเยอะนะคะ ปกติจะถามคำตอบคำนี่คะ” รสายิ้มๆ เมื่อเห็นท่าทางอายๆ ของพีรพล

“พี่ขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่า อยู่นานเดี๋ยวโดนแซวหนักแน่ๆ” พีรพลขอตัวออกมาจากวงสนทนาของสาวๆ ซึ่งรสาก็ขอตัวไปทำงานเช่น
กัน

“คุณจี๊ดจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ” ปานวาดถามขึ้น

“ค่ะ แต่วันนี้จี๊ดขับรถมาเอง” จีรธรบอก

“ทำไมคะ รำคาญเหรอที่ต้องนั่งรถไปกับปาน” ปานวาดอยากแหย่คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เธอ

“ถามจริงๆ ค่ะ คุณปลัดกวนโมโหกับทุกคนแบบนี้ หรือกับเฉพาะจี๊ดกันคะ” จีรธรถามเสียงขุ่นๆ

“ล้อเล่นนิดเดียวเองค่ะ อย่าโกรธเลยนะคะ ปานแค่อยากจะขอตามไปคุยกับคุณน้าที่บ้านเท่านั้นเองค่ะ อยากจะขอความช่วยเหลือคุณน้าบางเรื่องค่ะ อย่าอารมณ์เสียเลยนะคะ ปานขอโทษ”

“ปลัดก็ขับไปเองซิ ก็รู้ทางดีอยู่แล้ว” จีรธรพูดขึ้นเธอรู้สึกรำคาญขึ้นมาเล็กๆ

“ขอโทษจริงๆ นะคะ คุณจี๊ด อย่าโกรธเลยนะ ปานจะไม่ยั่วโมโหคุณจี๊ดอีก"

“จี๊ดขอตัวดีกว่าค่ะ” จีรธรบอกกับปานวาดที่ยืนหน้าจ๋อย ก่อนกลับเธอเดินไปลาหญิงชราที่นอนป่วยอยู่

“ยายคะ จี๊ดกลับก่อนนะคะ แล้วจะมาเยี่ยมยายใหม่ อย่าลืมที่เราตกลงกันไว้นะคะยาย” จีรธรพนมมือไหว้หญิงชรา

“คุณปลัดเป็นคนดีนะคะ คุณ แต่อาจจะขี้เล่นไปหน่อย อย่าถือสาแกเลยนะคะ” หญิงชราบอกกับจีรธรก่อนที่หันไปยิ้มกับปานวาดที่ยืน
ยิ้มอยู่ไม่ห่างมากนัก




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.