web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 87
Total: 87

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 10  (อ่าน 1497 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 10
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:09:53 »
ตอนที่ 10

หลังจากที่รสาได้คุยกันปานวาด ทั้งสองสาวได้ตกลงใจที่จะพักอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณน้าทั้งสองของจีรธร เพราะรสามาเล่าเรื่องที่จีรธรได้บอกกับเธอเกี่ยวกับเรื่องเล่าของความรักของคุณน้าทั้งสอง ซึ่งทำให้รสากับปานวาดตัดสินใจที่จะพักที่บ้านหลังนี้

“ถ้าอย่างนั้นมื้อเย็นวันนี้ เราสองคนทำอาหารให้ทานดีกว่านะคะ แทนคำขอบคุณสำหรับความเมตตาของคุณน้าทั้งสอง และมิตรภาพที่แสนดีของคุณจี๊ดด้วยค่ะ” รสาอาสาที่จะทำอาหารเย็นสำหรับทุกคน

“คุณสาทำละก็พอได้ แต่ถ้าคุณปลัดทำ ไม่รู้จะแอบใส่ยาถ่ายให้จี๊ดทานหรือเปล่านะคะ ยังไงก็ฝากคุณสาเฝ้าระวังให้ด้วยนะคะ” จีรธรพูดจบก็หัวเราะ

“ไอ้เราก็ชอบแหย่เหลือเกินนะ แทนที่จะขอบคุณ” บุษบาเอ็ดหลานสาวคนเดียวของเธอที่ยังคงนั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ

“สามคนดีกว่าค่ะ จะได้เสร็จเร็วหน่อย” ปทุมมาศพูดขึ้น

“ใครอีกคนคะ น้าบัว”

“ยังจะมาถามอีก ก็เรานั่นแหละยายจี๊ด ไปเป็นลูกมือให้หนูปานกับหนูสา” บุษบานึกขำกับท่าทางทำตาโตของหลานสาวของเธอ

“อ้าว ทำไมต้องเป็นจี๊ดล่ะคะ”

“เรานั่นแหละดีแล้ว พูดมากเหลือเกิน น้าสองคนจะได้พักหูบ้างนะ” บุษบาอมยิ้มแล้วหันไปมองที่ปทุมมาศที่ยิ้มๆ อยู่เช่นกัน

“ให้น้าช่วยไหมคะ” ปทุมมาศถาม

“ไม่เป็นไรค่ะ ในฐานะเจ้าบ้านลำดับที่สอง จี๊ดจัดการได้ค่ะ”

“ขอบคุณนะคะ คุณจี๊ด” ปานวาดแกล้งแหย่

“ช่วยคุณสาคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับคุณปลัดสักหน่อย” จีรธรอมยิ้ม

“ขอบคุณค่ะ คุณจี๊ด” รสาบอกขอบคุณ

“ยินดีค่ะ คุณสา” จีรธรยิ้มให้รสาอย่างมีไมตรี

“ลำเอียง” ปานวาดรำพึงเบาๆ

“เปล่าลำเอียงสักหน่อย แค่แยกให้เห็นว่าชอบ กับไม่ชอบมันเป็นอย่างไร ถามจริงๆ คุณปลัดยังไม่รู้ตัวอีกหรือนี่” จีรธรไม่ยอมลดราวาศอก จนผู้ใหญ่ทั้งสองท่านส่ายหน้ากับความแสบของหลานสาว

“ปานก็ชอบไปแหย่ คุณจี๊ด” รสาแกล้งทำเสียงดุดุปานวาดที่นั่งอมยิ้มอยู่

“มีหวังอาหารคงอร่อยแน่ ถ้าเราเข้าครัวพร้อมกับ คุณจี๊ด” ปานวาดหัวเราะเล็กๆ มองสบตากับจีรธรที่ทำเป็นไม่เห็นเมื่อปานวาดยิ้มให้

อาหารมื้อเย็นกำลังถูกตระเตรียมด้วยเจ้าบ้านลำดับที่สอง แทนที่จะเป็นแขกทั้งสอง คือ รสาและปานวาดที่อาสา ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงแค่ลูกมือเท่านั้น ปานวาดยืนดูท่าทางของจีรธร แล้วแทบจะไม่เชื่อสายตาเลยว่า จะใช่คนที่ชอบพูดจากวนโมโหเธออยู่บ่อยๆ ท่าทางคล่องแคล้วในการทำอาหาร ทำเอาทั้งรสาและตัวเธอเองรู้สึกทึ่งในสิ่งที่กำลังเห็นอยู่

“คุณจี๊ดนี่เก่งรอบตัวจริงๆ นะคะ” รสาพูดขึ้น

“ชมหรือติคะ คุณสา” จีรธรยิ้มๆ อยู่หน้าเตา

“ชมซิคะ เก่งทุกเรื่องแบบนี้ อีกหน่อยสากับปานคงได้เห็นชายหนุ่มผู้โชคดีแน่ๆ เลย” รสาพูดยิ้มๆ

“กลัวจะเป็นหนุ่มผู้โชคร้ายเสียมากกว่าค่ะ ที่เห็นๆ อยู่นี่เป็นการสร้างภาพค่ะ คุณสา” จีรธรหัวเราะเล็กๆ

“อย่าเพิ่งชมไปค่ะ สา อร่อยหรือเปล่ายังไม่รู้เลย อาจจะท่าดีทีเหลวก็ได้นะ” ปานวาดหัวเราะขึ้น เมื่อเห็นแม่ครัวหันมาค้อนเข้าให้

“ปาน เดี๋ยวก็อดข้าวหรอกนะ สาไม่ช่วยนะคะ ตัวใครตัวมันนะ”

“อ้าว ท่าจะไปเป็นพวกคุณจี๊ดจริงเสียแล้วนะคะ สา แย่จัง ปานก็หัวเดียวกระเทียมลีบละซิ” ปานวาดแกล้งพูดเสียงอ่อยๆ

“คุณปลัดคะ คุณน้าทั้งสองของจี๊ด เทใจให้คุณปลัดไปหมดแล้ว จนจะลืมไปแล้วว่าหลานในไส้คือ จี๊ด ไม่ใช่คุณปลัด ยังคิดว่าตัวเองหัว
เดียวกระเทียบลีบอยู่อีกหรือ คงเป็นจี๊ดต่างหาก ดูซิถูกแย่งคุณน้าไปทีเดียวสองคนเลย” จีรธรยืนอมยิ้มอยู่หน้าเตา หันหลังให้ทั้งปานวาดและรสา สิ่งที่เธอพูดปานวาดเข้าใจความหมายดีว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง อย่างน้อยคนที่บ้านนี้ก็มีไมตรีให้ ปานวาดอมยิ้ม

“ขอบคุณนะคะ” ปานวาดพูดขึ้นแล้วหันไปยิ้มกับรสา

“เรื่องอะไรกันคะ คุณปลัด” จีรธรแกล้งถามเสียงเข้ม

“ทุกเรื่องค่ะ”

“โอ้โห นางเอกมากค่ะ คุณปลัด โดนว่าอยู่แท้ๆ ยังจะมาขอบคุณ ดูละครมากไปหรือเปล่านี่” เสียงหัวเราะของสามสาวดังจากครัวที่อยู่
ใต้ถุนบ้านได้ยินไปถึงข้างบน ซึ่งทำให้ปทุมมาศและบุษบานั่งอมยิ้มกับสาวๆ ที่กำลังทำกับข้าวอยู่

อาหารมื้อเย็นกับแขกทั้งสองท่าน สร้างรอยยิ้มให้กับทั้งเจ้าของบ้านและผู้มาเยือน เสียงหัวเราะดังอยู่เป็นระยะๆ จีรธรยิ้มเมื่อได้เห็นทั้ง
รสาและปานวาดยิ้มได้ จีรธรมองดูน้าสาวของเธอที่พูดคุยกับทั้งรสาและปานวาดอย่างมีความสุข ก็ยิ่งสร้างรอยยิ้มให้ตัวเธอเองด้วย ความรักและความผูกผันมักสร้างสรรค์สิ่งดีดีให้เกิดขึ้นในหัวใจ เหมือนดังเช่นผู้หญิงทั้งสองคู่ที่กำลังรับประทานอาหารร่วมกันเธอ คู่หนึ่งได้สมหวังกับความรักที่มีให้กันมานานแสนนาน แต่ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ก็คงต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย ส่วนอีกคู่หนึ่งเหมือนกำลังจะโดนบททดสอบของความรักว่ามีให้กันมากเพียงพอที่จะเกิดความมั่นคงให้กับชีวิตหรือไม่ จีรธรยิ้มกับตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องราวของความรักของผู้หญิงทั้งสี่คนที่รวมโต๊ะอาหารกับเธออยู่ในตอนนี้

“ยิ้มอะไรยายจี๊ด” บุษบานั่งสังเกตหลานสาวอยู่ได้สักครู่ก่อนที่จะถามขึ้น

“คิดอะไรเพลินๆ ไปค่ะ น้าบุษ ว่าแต่ฝีมือจี๊ดเป็นอย่างไรบ้างคะ”

“ก็พอได้นะ” บุษบาพูดยิ้มๆ

“อร่อยมากค่ะ บุษชอบก็บอกหลานไปซิคะ” ปทุมมาศทำเสียงดุบุษบา

“พอได้ของน้าบุษ ก็คือคำชมแล้วค่ะ น้าบัว ปลื้มใจจริงๆ” จีรธรยิ้มทะเล้นมองดูรสากับปานวาดที่กำลังมองและยิ้มมาที่เธอ

“อร่อยมากค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณจี๊ด” ปานวาดบอกแล้วหันไปยิ้มกับรสา

“น่าเสียดายที่สาจะต้องกลับกรุงเทพ ไม่อย่างนั้นจะขออาสามาเป็นลูกศิษย์ คุณจี๊ดสักคน” รสายิ้มให้จีรธร

“จี๊ดว่า ให้คุณปลัดทำให้ทานสบายกว่าคุณสา” จีรธรยิ้มทะเล้นให้ปานวาด

“ยินดีมากค่ะ ไว้คราวหน้าจะมาทำให้คุณจี๊ดกับคุณน้าทั้งสองทานบ้าง”

“ยังไม่วาย วกเข้าไปแหย่คุณปลัดจนได้นะ ยายจี๊ด” บุษบาพูดยิ้มๆ

“ทำกับข้าวก็แล้ว เป็นหลานแสนดีก็แล้ว ก็ยังไม่วายที่จะโดนดุจนได้ ต้องทำอย่างไรนะ คุณน้าที่รักถึงจะเห็นความน่ารักในตัวหลานสาวคนนี้” จีรธรอมยิ้มเมื่อพูดจบ

“เคยว่าหรือไร ว่าไม่น่ารัก” บุษบาพูดยิ้มๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลานสาวของเธอเอง

“ก็รู้ตัวอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าน่ารัก หรือเปล่าคะ น้าบัว” จีรธรถามน้าสาวอีกคนที่มักจะเป็นพวกของเธอเสมอ

“รักซิคะ ใครไม่รักก็ช่างเขานะคะ แต่น้ารักจี๊ดนะ” ปทุมมาศยิ้มๆ ที่ได้แหย่บุษบาร่วมกับจีรธร ปทุมมาศกุมมือบุษบาที่วางอยู่บนตักไว้ อีกฝ่ายก็ยิ้มให้

“คุณจี๊ด ทำให้น้าบัวกับน้าบุษยิ้มได้ตลอดเลยนะคะ” รสาพูดขึ้น

“ก็มีปวดหัวบ้างนะคะ หนูสา แต่รวมๆ แล้วก็น่ารักใช้ได้อยู่” บุษบาพูด

“โอ้โห เย็นนี้ได้รับคำชม เดี๋ยวทานมื้อเย็นเสร็จ จี๊ดนวดให้นะคะ น้าบุษ”

“ให้สา นวดให้ซิคะ น้าบุษ น้าบัว สาไปเรียนหลักสูตรระยะสั้นมานิดหน่อย น่าจะช่วยให้สบายตัวขึ้นค่ะ” ปานวาดบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสอง
ท่าน

“ยินดีมากค่ะ ลองดูนะคะ ได้คลายเส้น จะช่วยให้หลับสบายขึ้นค่ะ” รสายิ้มและยินดีกับสิ่งที่ปานวาดได้บอกไปกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน

“ตกกระป๋องอีกตามเคยเรา” จีรธรพูดจบเสียงหัวเราะของวงสนทนาก็ดังขึ้น เสียจนคนพูดยิ้มอายๆ

หลังอาหารเย็น วงสนทนาก็ย้ายมาที่ระเบียงหน้าบ้านซึ่งตอนนี้ความมืดเริ่มเข้ามาครอบคลุมทุกพื้นที่ เสียงพูดคุยของจีรธรเรื่องโน้นเรื่องนี้ได้สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ร่วมวงสนทนาอยู่ตลอดเวลา ปทุมมาศกับบุษบารู้ว่าหลานสาวอยากให้แขกผู้ที่มาพักที่บ้านของพวกเธอมีความสุข นั่นเป็นความน่ารักและความมีน้ำใจของหลานสาวของเธอที่มีให้กับสองสาวที่เป็นแขกของบ้านในค่ำคืนนี้

“น้าบุษคะ ขอยืมตักน้าบัวให้จี๊ดหนุนก่อนนะคะ” จีรธรพูดยิ้มๆ มองสบตากับบุษบาที่กำลังยิ้มให้เธอ

“ต้องขออนุญาตเจ้าของตักเขาถึงจะถูกนะ”

“เจ้าของตักเขาหลงรักจี๊ดตั้งแต่เล็กๆ แล้ว คงอนุญาตแน่อยู่แล้วค่ะ น้าบุษ” จีรธรยิ้มทะเล้นให้น้าสาวทั้งสองของเธอ ไม่รอช้าจีรธร
ค่อยๆ ล้มตัวลงนอนหนุนตักปทุมมาศที่ยิ้มๆ เมื่อจีรธรพูดถึงวัยเด็กของเธอ จริงอย่างที่คนที่นอนหนุนตักบอกว่าเธอรักและเอ็นดูแม่สาวน้อยในตอนนั้น และจนเป็นสาวสวยในตอนนี้เหมือนดังเป็นลูกสาวคนหนึ่งของเธอเอง

“อยากหนุนตักน้าบ้างไหมคะ หนูสา” บุษบายิ้มให้รสา รอยยิ้มอบอุ่นนั้นทำให้รสารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

“ได้หรือคะ” รสาถามมองสบตากับบุษบา

“ได้ซิคะ” บุษบาพูดแล้วยิ้มให้ทั้งปานวาดและรสา ซึ่งฝ่ายหลังก้มลงกราบที่ตักของบุษบาก่อนที่จะล้มตัวลงนอน มือของบุษบาที่ทาบทับและลูบเบาๆ ไปบนศีรษะ ทำให้รสารู้สึกว่า สิ่งที่ทำให้เธอวุ่นวายใจได้หายไปกับความอบอุ่นและความน่ารักของเจ้าบ้านแห่งนี้ แม้จะเพียง
ชั่วเวลาหนึ่งก็ตามที

“น้าบัวคะ เคยทะเลาะแรงๆ กับน้าบุษบ้างไหมคะ” จีรธรเริ่มถามคำถาม

“ขอคิดก่อนนะคะ เท่าที่จำได้ก็ไม่มีนะคะ” ปทุมมาศบอกกับจีรธรแล้วจึงหันไปยิ้มให้บุษบา

“มีค่ะ” บุษบาพูดขึ้น

“อ้าว ตกลงอย่างไรกันคะ” จีรธรถาม อีกสองสาวก็ตั้งใจฟังอยู่เช่นกัน

“ตอนไหนกันคะ บุษ” ปทุมมาศถามขึ้น

“ก็ตอนที่บัวมาขอเลิกบุษไงคะ”

“มีตอนนั้นด้วยหรือคะ น้าบัว น้าบุษ” จีรธรรีบลุกขึ้นนั่ง รสาก็เช่นกันลุกขึ้นแทบจะพร้อมๆ กับจีรธร

“แม่จี๊ดไปคุยกับน้าบัว ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน น้าบัวไม่เคยเล่าให้น้าฟังเลยถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอก” บุษบามองสบตาคนที่ยิ้มจางๆ ให้เธอ
อยู่

“จริงหรือคะ น้าบัว” จีรธรถาม มันน่าจะสำคัญมากแน่ๆ เพราะทำให้อีกฝ่ายกล้าไปบอกเลิกทั้งๆ ที่ยังรักน้าสาวของเธออยู่ จีรธรนำมือของปทุมมาศมากุมไว้ เธออยากถ่ายทอดความรัก ความเคารพที่มีอยู่เต็มหัวใจของเธอให้กับปทุมมาศ

“ขอบคุณค่ะ หนูจี๊ด” ปทุมมาศยิ้มจางๆ ให้กับจีรธร

“ขอโทษแทนแม่ด้วยนะคะ น้าบัว”

“คุณแม่จี๊ดไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ ทั้งหมดเป็นความรักและความหวังดีของพี่สาวที่มีให้กับน้องสาว น้าดีใจแทนน้าบุษเสียด้วยซ้ำนะคะ ที่มีพี่สาวที่รักมากขนาดนั้น” ปทุมมาศยิ้มให้บุษบา

“ไม่แปลกใจเลย น้าบัวแสนดีขนาดนี้ น้าบุษถึงได้รักจนได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน” จีรธรยิ้มมองไปที่รสากับปานวาด เธออยากให้เรื่องราว
ชีวิตของน้าสาวทั้งสองของเธอเป็นกำลังใจให้กับอีกสองสาวที่น่าจะกำลังเจอมรสุมชีวิตรักคล้ายๆ กับน้าสาวทั้งสองของเธอแน่ๆ

“ความรักจะพาพวกเราผ่านทุกเรื่องไปได้ใช่ไหมคะ น้าบัว น้าบุษ” รสาถามแล้วยิ้มจางๆ ให้กับบุษบาและปทุมมาศ

“มันอาจจะไม่ง่ายนัก เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่เราสองคน แต่สองคนก็ต้องช่วย กันแก้ไขและประคับประคองให้มันผ่านไปให้ได้ ความมั่น
คงที่เรามีคงช่วยให้ผ่านไปได้นะคะ น้าสองคนเอาใจช่วยนะ” บุษบาบอกกับปานวาดและรสา

“จี๊ดอยากรู้ว่าแม่พูดอะไรกับน้าบัว” จีรธรพูดอ้อนๆ ปทุมมาศที่มองสบตากับบุษบา

“ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ตอนนั้นน้าอาจจะยังเด็กอยู่ พอผู้ใหญ่มาพูดอะไรเข้าและมันเป็นสิ่งดีดีสำหรับชีวิตคนที่เรารัก น้าก็เลยตัดสินใจไปแบบนั้น ความหวังดีที่แม่จี๊ดมีให้กับน้าบุษ ทำให้น้าตัดสินใจที่จะเดินออกมาจากชีวิตน้าบุษ”

“น้าบัว ยอมเสียใจเพื่อให้น้าบุษมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างนั้นหรือคะ” จีรธรถาม

“ถ้าคนที่น้ารักมีความสุข น้าก็ยอมที่จะเดินจากมา” ปทุมมาศบอกกับจีรธร บุษบามองผู้หญิงที่เธอรักมานานแสนนาน อยากกอดเพื่อปลอบประโลมแต่ตอนนี้เธอก็ทำได้แค่เพียงส่งรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นให้เท่านั้น แต่อีกคนก็คงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อยู่ภายในใจ

“คุณสา คุณปลัด จี๊ดว่า เราสามคนไปเข้านอนดีกว่าค่ะ ปล่อยให้คุณน้าอยู่ด้วยกันตามลำพังดีกว่า ดูจากสายตาที่มองกัน จี๊ดว่าเราสามกันคงมานั่งเกะกะรกหูรกตา ไปค่ะ เดี๋ยวจี๊ดพาไปส่งที่ห้องนอน” ปานวาดกับรสาเดินตามไปเงียบๆ

“ขอบุษกอดหน่อยนะ บัว” บุษบาบอกกับปทุมมาศหลังจากที่เข้ามาให้ห้อง นอนของเธอทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว

“เป็นอะไรไปคะ บุษ” ปทุมมาศถาม

“ขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้บัวเสียใจ” บุษบากระซิบบอก

“ไม่เอาคะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว แต่หัวใจอันมั่นคงของบุษก็ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ไม่ใช่หรือคะ ขอบคุณที่ปกป้อง ขอบคุณที่เผชิญปัญหามาด้วยกันเรามีวันนี้ด้วยกันได้ก็เพราะบุษนะ อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ” ปทุมมาศกอดกระชับบุษบาแนบแน่น

“ถ้าวันนั้น บัวไปจริงๆ วันนี้บุษไม่รู้จะเป็นอย่างไรนะคะ” บุษบาแอบถอนใจ

“อาจจะมีลูกน่ารักๆ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีน้องให้กับหนูจี๊ดหลายคนแล้วก็ได้นะคะ” ปทุมมาศยิ้มมองสบตากับบุษบา

“แค่บัว กับยายจี๊ด บุษก็มีความสุขมากพอแล้ว อ้อกำลังจะได้หลานเพิ่มอีกสองคนซินะ หนูสากับหนูปาน” ปทุมมาศกอดบุษบาไว้
หลวม รู้สึกสุขใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่

“ความสุขของบุษ ก็คือความสุขของบัว” ปทุมมาศรำพึงเบาๆ

“เลยไม่ได้คลายเส้นเลย น่าเสียดายไม่ได้ลองฝีมือหนูสา” บุษบาพูดยิ้มๆ

“เมื่อยหรือคะ ให้บัวนวดให้ไหม”

“ขอบคุณค่ะ แต่ไปอาบน้ำ ตัวหอมๆ มาให้กอดก็พอแล้วค่ะ อยากกอดบัวไว้ทั้งคืนเลยนะ” บุษบาพูดยิ้มๆ กับคนที่ยืนยิ้มอายๆ

“ถ้าอย่างนั้นเปลี่ยนจากนวดเป็นอาบน้ำให้เอาไหมคะ” ปทุมมาศยิ้มทะเล้น

“ก็น่าสนใจดีนะคะ มาให้รางวัลคนน่ารักกันหน่อยดีกว่า” บุษบาหอมแก้มปทุมมาศที่อมยิ้มจนแก้มแดงมองสบตาคนที่เพิ่งหอมแก้มเธอ
ไปเมื่อสักครู่ รอยยิ้มกับดวงตาคู่สวยของบุษบาไม่เคยเปลี่ยนไป จากวันแรกจนถึงวันนี้ สายตายังคงอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนวันแรกที่เธอได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของบุษบาแบบนี้ และวันนี้รอยยิ้มสวยๆ นั้นก็ยังคงสร้างความรู้สึกดีดีให้เกิดขึ้นในหัวใจเธอได้เหมือนเคย

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ บัวรักบุษมากนะ” ปทุมมาศจูบเบาๆ ไปที่ริมฝีปากของบุษบาที่อมยิ้มและจูบตอบด้วยความรักที่มีอยู่เต็มหัวใจ




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.