web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 11
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 14
Total: 14

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 12  (อ่าน 1362 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 12
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:45:01 »
ตอนที่ 12

นิมารู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากเสร็จงานประจำวัน ร้านปิดไปได้สักพักใหญ่ๆ แต่เธอก็ยังคงนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย และความคิดก็กลับมาวนเวียนอยู่ที่เรื่องของคนที่เข้ามาในชีวิตของเธอในไม่กี่วันมานี้ แต่เธอคนนี้ก็ทำให้นิมาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา

“ว่างไม่ได้เลยนะ นิมา เลิกนึกถึงบ้างก็ได้” นิมาบ่นกับตัวเองเมื่อกำลังนั่งนึกถึงผู้หญิงที่ชื่อทองทิพย์ ซึ่งกำลังทำให้เธอยิ้มได้อยู่ในเวลาที่รู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าจากงาน

หลังจากอาบน้ำร่างกายก็รู้สึกสดชื่นขึ้น นิมาพร้อมแล้วสำหรับการพักผ่อนแต่ก็ยังคงมีบางเรื่องที่ตั้งใจไว้ ซึ่งยังไม่ได้ทำและคิดว่าบางทีเพื่อนรักของเธอกำลังรอการติดต่อไปของเธอก็เป็นได้ โทรศัพท์ที่วางอยู่ที่โต๊ะหัวเตียงจึงถูกหยิบมากดโทรออกในทันที

“สวัสดี แม่ค้าขนม” พุทธชาดทักทายเพื่อนรักของเธอในทันที

“สวัสดี พุด โทรมากวนเวลาพักผ่อนหรือเปล่า” นิมาทักทายเพื่อนของเธอเช่นกัน

“รออยู่ จะโทรไปก็เกรงใจ ก็เลยคิดว่ารอนิ่มสะดวกน่าจะดีกว่า ตกลงเป็นอย่างไรมาอย่างไร เรื่องสาวสวยหุ่นดีคนนั้น” พุทธชาดเริ่มเข้าประเด็นเรื่องที่อยากให้เพื่อนของเธอเล่ารายละเอียด

นิมาจึงเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับทองทิพย์ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ามาที่ร้านจนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าหลังจากที่พุทธชาดกลับไปแล้ว นิมาเล่าแม้กระทั่งเรื่องอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นและรวมถึงความกวนของตัวเธอเอง เธอก็เล่าบอกเพื่อนรักไปเกือบทั้งหมด

“ร้ายนะ เพื่อนฉัน นี่ถ้านิ่มไม่เล่าเองนะ พุดไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเพื่อนรักของพุดก็แสบไม่เบา” พุทธชาดหัวเราะเมื่อนึกถึงเรื่องที่เพื่อนของเธอเล่าให้ฟัง

“ถือเป็นคำชมก็แล้วกันนะ พุด ที่ว่าแสบน่ะ” นิมาอมยิ้ม

“ว่าแต่ว่า ไอ้ตอนสุดท้ายสัมผัสไปขนาดนั้น อดใจไหวได้อย่างไรกัน เป็นพุดละก็มีหวัง คุณทองทิพย์ของนิ่มคงโดนถอดเสื้อผ้าหมดแน่ๆ” พุทธชาดหัวเราะเสียงดังขึ้นกว่าครั้งแรก

“อยากแกล้งเขามากกว่า แต่เอาเข้าจริงก็เกือบลืมตัวไปเหมือนกัน ถึงต้องรีบหยุดก่อน” นิมาบอกความรู้สึกของเธอให้เพื่อนได้รับรู้

“ถามจริง ชอบเขาใช่ไหม” พุทธชาดอยากรู้ เพราะปกติไม่ค่อยจะมีใครได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดนิมามากนัก เพื่อนรักของเธอจัดอยู่ในประเภท ถ้าหากไม่ใช่ก็ไม่มีใครได้โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดขนาดนี้แน่ๆ

“มากอยู่เหมือนกันพุด ทิพย์เข้ามาในชีวิตนิ่มอย่างรวดเร็ว ทำให้นิ่มรู้สึกดีดีด้วยได้ในชั่วข้ามวัน แต่ก็ทำให้หวาดกลัวได้ในเวลาอันสั้นเช่นกัน ถึงได้ให้พุดช่วยเมื่อตอนเช้านั่นแหละ” นิมาบอกเล่าความรู้สึกของเธอ

“ก็น่าแปลก เป็นน้องพี่นาแล้วทำไม พี่นาก็ท่าทางไม่รู้จักกับคุณทองทิพย์มาก่อนเท่าที่ฟังจากนิ่มเล่า แล้วนิ่มจะทำอย่างไรต่อ ไล่เหมือนเมื่อเช้า หรือจะกอดไว้เหมือนตอนสายๆ” พุทธชาดรู้ว่าเพื่อนรักของเธอรู้สึกอย่างไร และก็รู้ด้วยว่าคำตอบน่าจะเป็นแบบไหน แต่ที่ถามไปอยากเพียงแค่จะแหย่เพื่อนให้ยิ้มได้เท่านั้น

“ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อเช้าที่ให้พุดช่วยก็คิดว่าถ้าตัดได้ก็อยากตัดไปเลย แต่พอมาอ้อนๆ ก็แอบใจอ่อน แย่เนอะ แต่บางทีเขาอาจจะหายไปอย่างที่เขาพูดก็ได้นะ นิ่มก็คงไม่ต้องโทรมาเล่าเรื่องไม่เป็นเรื่องให้พุดฟังอีก”

“คงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะถ้าคุณทองทิพย์จะไปจริงๆ ก็น่าจะไปตั้งแต่เห็นนิ่มจูบปากพุดแล้วนะ ก็เอาอย่างนี้ รอดูท่าทีไปก่อน เรื่องพี่นาบางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เธออาจจะหวงพี่ชายก็แค่นั้น เลยไม่ชอบพี่นา เอาเป็นว่าถ้านิ่มมีใจพุดว่าก็ไม่เห็นต้องหยุด คนที่มาทำให้นิ่มรู้สึกดีดีได้แบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยๆ ครั้งแรกที่พุดเห็นก็ตอนเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ไม่เห็นมีใครมาทำให้นิ่มหวั่นไหวได้ขนาดนี้ ถ้ารู้สึกว่าใช่ก็อย่าเพิ่งถอดใจ ลองดูสักตั้ง ความแสบก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่นี่ จากที่เล่ามา เชื่อเลยเพื่อนฉันเห็นนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ได้นิ่มเหมือนชื่อเลยนะ” พุทธชาดอมยิ้มหลังจากพูดจบ

“ชมกันอีกแล้ว อย่าชมบ่อยนักนะ ชักรู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองเป็นสาวแสบ อุตส่าห์สร้างภาพเป็นสาวแสนดีมาตั้งนาน” นิมาหัวเราะ รู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยก็มีเพื่อนรักของเธอคนนี้ที่เข้าใจ

“ก็ยังแสนดีสำหรับพุดอยู่เหมือนเดิมนะ ไม่เคยเปลี่ยน ตอนนี้แม่ค้าคนสวยไปนอนได้แล้วนะ เสียงหาวดังมาถึงนี่เลย ฝันดีแม่ค้าคนสวย” พุทธชาดอมยิ้มเมื่อนึกถึงความน่ารักของเพื่อนรักของเธอ

“ฝันดี ไม่ต้องเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้คุณรักฟังล่ะ เดี๋ยวจะแอบเคืองไม่มาสั่งขนมร้านนิ่ม” นิมาหัวเราะ

“เสียใจด้วย เล่าไปหมดแล้ว คุณรักบอกว่าอยากเห็นคุณทองทิพย์ของนิ่ม ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ถึงมาทำให้สาวน่ารักของพวกเราหวั่นไหวได้ ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ” พุทธชาดบอกสิ่งที่รักษาซึ่งเป็นคนรักของเธอพูดถึงเรื่องราวของนิมา

“ก็ดีนะ คุณรักรับทราบแล้ว วันหลังจะได้ยืมคุณพุดของคุณรักมาควงบ้างท่าจะดี” นิมาหัวเราะเล็กๆ

“ได้เลย เมื่อไหร่จะยั่วคุณทองทิพย์อีกละก็บอก ชอบสนุกดี ว่าแต่ว่าไม่สงสารเธอหรอกหรือ” พุทธชาดแอบถาม

“ตกลงอยู่ข้างไหนกันแน่คะ คุณพุด” นิมาแอบยิ้ม

“คุณทองทิพย์สวยนะ อยากย้ายข้าง” พุทธชาดหัวเราะเสียงดัง

“ใจร้ายกับเพื่อน แค่ได้เจอคนสวยก็ทิ้งเพื่อนเสียใจ”

“แอบปันใจ ชักอยากปะทะคารมกับคุณทองทิพย์ของนิ่มบ้างเสียแล้ว คงได้เจอกันวันงานแต่งพี่นา ฝันดีนะนิ่ม” พุทธชาดยิ้มๆ และยื่นโทรศัพท์ให้รักษาคนรักของ
เธอที่นั่งฟังอยู่ด้วยข้างๆ

“ฝันดีนะคะ คุณนิ่ม” รักษายิ้มเมื่อได้พูดกับเพื่อนรักของพุทธชาด

“ขอบคุณค่ะ ฝันดีเช่นกันค่ะ คุณรัก ฝากหอมแก้มเพื่อนนิ่มก่อนนอนด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ” นิมาอมยิ้มเมื่อนึกถึงความรักของพุทธชาดเพื่อนรักของเธอ

“ยินดีค่ะ สวัสดีค่ะ” รักษายิ้มกับสิ่งที่นิมาบอกฝากก่อนที่จะวางสายไป

อีกสองวันก็จะถึงวันแต่งงานของนาริน นิมายังคงเปิดร้านของเธอปกติก่อนวันงานหนึ่งวันถึงจะปิดร้านและเธอก็แจ้งลูกค้าประจำให้ทราบเรียบร้อย พี่สาวของเธอตื่นเต้นมาก นิมาเองก็ตื่นเต้นไปกับพี่สาวของเธอด้วยและดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นพี่สาวของเธอมีความสุข

“อย่าตื่นเต้นมากนะคะ เจ้าสาว ถ้านอนไม่หลับขึ้นมาเดี๋ยววันงานจะไม่สวยนะคะ” นิมาพูดแหย่พี่สาวของเธอ

“ไว้นิ่มได้เป็นเจ้าสาวบ้างก็คงจะรู้ว่ามันตื่นเต้นมากแค่ไหน”

“คงไม่มีโอกาสแน่ค่ะ พี่นา” นิมาอมยิ้มมองสบตาพี่สาวของเธอ และแอบนึกถึงใครบางคนที่หายไปสองอาทิตย์กว่าๆ โดยไม่มีข่าวคราวอะไรเลย หลังจากที่กอดเธอครั้งสุดท้ายและพูดเหมือนจะไม่มาเจอกันอีก

“พี่ก็เคยคิดแบบนิ่มนะ จนกระทั่งมาเจอกับทัด”

“ก็พี่นาโชคดี ถึงได้เจอคนที่ใช่ แต่นิ่มคงไม่โชคดีเหมือนพี่นาหรอกค่ะ”

“นิ่ม ถ้าใครได้ใกล้ชิดนิ่มแล้วไม่หลงรัก พี่ว่าแปลกนะ เราน่ะน่ารักจะตายไป ลูกค้าแอบชมให้พี่ฟังบ่อยๆ มันขึ้นอยู่กับตัวนิ่มเองมากกว่าที่จะเปิดโอกาสให้คนอื่นได้มาศึกษาดูใจเราหรือเปล่า” นารินยิ้มให้น้องสาวของเธอและเข้าสวมกอดด้วย ความรัก

“นิ่มรักพี่นานะ” นิมาบอกกับพี่สาวของเธอ

“พี่ก็รักนิ่ม ขอบคุณที่ช่วยเตรียมทุกๆ อย่างสำหรับงานแต่งงานของพี่ และขอบคุณมากๆ ที่ยอมย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ตึกเล็ก คุณพี่เขยของนิ่มดีใจมากรู้ไหม”

“พี่ทัดบอกเหมือนกันค่ะ ดีใจที่จะมีของอร่อยๆ ทานทุกวัน ตกลงชวนนิ่มไปเป็นแม่ครัวหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ” นิมาหัวเราะเล็กๆ

“พี่กับพี่ทัดจะไปร้านคุณรักษา ไปดูเรื่องรายการอาหาร นิ่มจะไปด้วยไหม” นารินถามน้องสาวของเธอ เพราะรักษาก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งของนิมา

“ไม่ดีกว่าค่ะ ค่อยไปทีเดียววันงานเลย ร้านพุทธรักษาเหมาะมากสำหรับจัดงานแต่งงาน เพราะเป็นร้านของคนสองคนที่รักกัน พุทธชาดกับรักษา คิดแล้วก็อิจฉายายพุด” นิมาพูดเหมือนบ่น

“พี่ถึงได้เลือกร้านยายพุด จัดงานแต่งงาน พี่ทัดก็ชอบร้านของคุณรักเหมือน กัน พูดถึงก็มาพอดีเลย” ทองทัดกำลังเดินตรงมาที่สองสาวที่ส่งยิ้มให้พร้อมๆ กัน

“สวัสดีค่ะ พี่ทัด เหมือนรู้นะคะ ว่ากำลังโดนนินทาอยู่เลย” นิมาทักทายว่าที่พี่เขยของเธอที่ยิ้มทักทายนิมาเช่นกัน

“สวัสดีครับ น้องนิ่ม”

“เป็นอะไรไป คิ้วจะชนกันอยู่แล้ว มีอะไรหรือเปล่าคะ” นารินถามทองทัด เพราะดูท่าทางว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเหมือนมีกังวลกับอะไรบางอย่าง

“เรื่องยายทิพย์ น้องสาวทัด” ทองทัดพูดเพียงเท่านั้น และแอบถอนใจเล็กๆ แต่คนที่กำลังตั้งใจฟังอย่างใจจ่อกลับเป็นนิมา

“คุณทิพย์” นารินพูดชื่อของทองทิพย์ขึ้น นั่นทำให้นิมารู้สึกว่าหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นแค่เพียงได้ยินชื่อที่พี่สาวของเธอและทองทัดเอ่ยขึ้น

“ไม่รับโทรศัพท์ ไม่โทรกลับ ไม่รู้มันหายไปไหน มะรืนก็เป็นวันแต่งงานแล้ว แต่น้องสาวคนเดียวเหมือนไม่ได้สนใจงานแต่งงานพี่ชายคนเดียวสักเท่าไหร่” ทองทัดพูดเหมือนน้อยใจน้องสาว

“ใจเย็นๆ ค่ะ เดี๋ยวเธอคงติดต่อกลับมา พี่ชายคนเดียวแต่งงานอย่างไรเสียเธอก็ต้องมาแน่นอนค่ะ เชื่อนานะคะ” นารินปลอบใจทองทัดซึ่งไม่ค่อยแน่ใจนักว่าน้องสาวคนเดียวของเขาจะมาหรือไม่

“หายไปไหนของเขานะ” นิมารำพึงเบาๆ

หลังจากที่ทองทัดกับนารินได้ออกไปดูสถานที่จัดงานแต่งงาน นิมาจึงกลับเข้ามาในห้องทำงานเพื่อตรวจสอบบัญชี วันนี้ลูกค้ามีไม่มากนักอาจจะเป็นเพราะเธอแจ้งว่าร้านจะหยุดในวันสองวันนี้ก็เป็นได้ นิมาจึงเลือกที่จะเข้ามาทำงานในห้องนี้ แทนที่จะเป็นที่หน้าร้านเหมือนเช่นทุกๆ วันที่ลูกค้าเดินเข้าออกทั้งวัน เสียงเคาะประตูดังขึ้น หลังจากที่เธอบอกอนุญาตให้คนเคาะประตูเข้ามาได้ พนักงานก็มารายงานให้เธอทราบกับบางเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ที่ด้านหน้าร้าน

“พี่นิ่มคะ คุณทิพย์มาค่ะ” พนักงานของร้านที่คุ้นเคยกับทองทิพย์อยู่บ้างเข้ามารายงานให้เธอทราบ นิมานิ่งเงียบอยู่สักครู่ ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรแต่หัวใจมันเต้นแปลกๆ เหมือนเวลามีเรื่องตื่นเต้นดีใจอะไรทำนองนั้น แต่เธอก็พยายามควบคุมหัวใจของเธอไม่ให้แสดงอาการอะไรออกมา

“มาทานขนม ก็จัดขนมพร้อมชาตามที่เธอสั่งเลยค่ะ” นิมาบอกกับพนักงานของเธอที่ยืนยิ้มเจื่อนๆ ให้หลังจากได้ยินสิ่งที่นิมาพูด

“จัดเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่พี่นิ่มออกไปดูหน่อยดีกว่านะคะ คุณทิพย์ดูหน้าซีดๆ เหมือนคนป่วย แล้วก็เงียบมากไม่ค่อยพูดคุยเหมือนปกติ ที่สำคัญหายไปสองอาทิตย์กว่าๆ แต่ดูซูบไปมากเลยนะคะ” พนักงานของนิมาบอกรายละเอียดจนทำเอาคนที่นั่งอยู่แทบจะนั่งไม่ติด แต่เธอก็ยังคงนั่งนิ่งๆ อยู่เหมือนเดิม

“ได้เดี๋ยวพี่ตามออกไป ขอบคุณมากนะคะ” นิมายิ้มให้พนักงานของเธอ

ทองทิพย์จิบชาร้อนและมองออกไปทางด้านนอกของตัวร้าน นิมาเดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลังและกำลังคิดว่าควรจะเริ่มพูดคุยกับคนที่กำลังเพลิดเพลินกับการจิบชาด้วยเรื่องอะไรดีที่จะไม่ทำให้ดูเธอจงใจหรือออกอาการตื่นเต้นให้คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ได้เห็นหรือสัมผัสได้ว่าเธอรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นทองทิพย์มานั่งอยู่ตรงนี้

“สวัสดีค่ะ” นิมาทักทายหลังจากนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับทองทิพย์

“สวัสดีค่ะ” ทองทิพย์ทักทายพร้อมรอยยิ้มจางๆ

“สบายดีนะคะ” นิมารู้สึกอึดอัดกับการพูดคุยอย่างไรบอกไม่ถูก สังเกตดูใบ หน้าซีดเซียวของทองทิพย์ก็คิดว่าจริงอย่างที่พนักงานของร้านรีบเข้าไปบอกกับเธอ เกิดอะไรขึ้นทองทิพย์ไปไหนและทำอะไรมา สองอาทิตย์กว่าๆ ดูซูบเซียวมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก

“ก็ดีค่ะ นิ่มสบายดีนะ” ทองทิพย์ยิ้มจางๆ ให้

“ถ้าจะขอละลาบละล้วงถามว่าหายไปไหนมา จะเป็นอะไรไหมคะ” นิมารู้สึกเป็นห่วงคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอในขณะนี้ ทองทิพย์ดูเงียบๆ เหมือนไม่ค่อยอยากพูดคุยกับเธอนัก

“เชียงใหม่ค่ะ” ทองทิพย์พูดเพียงสั้นๆ

“เชียงใหม่ แล้วทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์พี่ทัดเลยคะ” นิมาถาม

“ทิพย์ไม่ได้เปิดโทรศัพท์เลยค่ะ อยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากคุยกับใคร”

“เกิดอะไรขึ้นที่เชียงใหม่ บอกนิ่มได้หรือเปล่า มีอะไรคะ พี่ทัดเป็นห่วงมากรู้ไหม” นิมาพูดน้ำเสียงดุดุ

“นิ่มเป็นห่วงด้วยหรือเปล่า ทิพย์อยากรู้” ทองทิพย์พูดเสียงเรียบๆ

“อยากรู้ก็ตามมาค่ะ” นิมายื่นมือไปให้ทองทิพย์ ซึ่งค่อยๆ ยื่นมาให้นิมาที่ได้กระชับเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยกลัวว่าคนที่หายไปสองอาทิตย์กว่าๆ จะหายไปอีกครั้ง มือนิ่มๆ ของนิมากำลังถ่ายเทความรู้สึกดีดีผ่านสัมผัสจากหัวใจดวงหนึ่งถึงหัวใจอีกดวงหนึ่งด้วยความจริงใจที่มีอยู่เต็มหัวใจของนิมา

บรรยากาศบริเวณสวนสาธารณะซึ่งลมพัดเย็นสบาย นิมาพาทองทิพย์มานั่งลงตรงที่ทั้งสองเคยมานั่งพักหลังจากการวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า ถ้วยกระดาษถูกส่งให้ทองทิพย์ซึ่งยิ้มจางๆ เพราะเธอนึกถึงเมื่อครั้งก่อนที่เธอก็ทำแบบเดียวกันนี้ให้นิมาซึ่งกำลังยิ้มสวยๆ นั่งอยู่ข้างๆ

“ขอบคุณค่ะ” ทองทิพย์รับถ้วยกระดาษมาจากนิมา

“ดื่มให้หมดเลยนะคะ หายไปสองอาทิตย์กว่าๆ เจออีกครั้งผอมมากเลย อดอาหารหรือออกกำลังกายมากเกินไปคะ” นิมาเริ่มคำถามของเธอด้วยความห่วงใยที่มีตั้งแต่แรกเห็นที่ร้านขนม

“ถามเหมือนเป็นห่วงเลยนะคะ” ทองทิพย์พูดขึ้นแต่สายตามองตรงไปข้าง หน้าซึ่งมีต้นไม้สีเขียวๆ ที่กำลังเอนไหวไปตามกระแสลม

“เริ่มกวนอีกแล้วนะคะ น่าเป็นห่วงไหมล่ะ หน้าก็ซีดเหมือนคนป่วยขนาดนี้ แต่นิ่มว่าทิพย์คงไม่อยากเล่าอะไรให้นิ่มฟัง ก็ไม่ต้องเล่าก็ได้ค่ะ แต่ขออะไรสักอย่างได้ไหม” นิมาหันมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งกำลังหันมาสบตากับเธอ

“ขออะไรคะ” ทองทิพย์มองด้วยความสงสัย

“ดูแลตัวเอง ทานอาหาร ออกกำลังกาย” นิมายิ้มจางๆ ให้สายตาที่ดูเศร้าๆ ของทองทิพย์

“ขอได้ค่ะ แต่ทำให้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลยนะคะ” ทองทิพย์หันกลับไปมอง ณ จุดเดิมที่เธอละสายตามาเมื่อสักครู่

“ก็ตามใจค่ะ นิ่มเป็นคนอื่น ความห่วงใยที่นิ่มมีมันก็ดูไม่มีค่าอะไร แต่ถ้าเป็นพี่ทัด ทิพย์ก็น่าจะทำให้ได้นะคะ” นิมาพูดเสียงเรียบๆ ไม่ใช่ด้วยเพราะความน้อยอกน้อยใจ หากแต่เป็นความห่วงใยมากกว่า

“ทิพย์อยากพักผ่อนแล้วค่ะ” ทองทิพย์พูดหันมาสบตากับนิมาที่อดแปลกใจไม่ได้กับท่าทีแปลกๆ ของคนที่ดูอ่อนล้ากับชีวิต เกิดอะไรขึ้นที่เชียงใหม่ ทองทิพย์ไปเจออะไรมากถึงได้แปลกไปขนาดนี้

“ให้นิ่มไปส่งนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ” ทองทิพย์ตอบรับแบบง่ายๆ ไม่งอแงเหมือนอย่างที่นิมาแอบคิดอยู่ในใจ

คอนโดมีเนียมอันโอ่อ่าดูสมฐานะของทองทิพย์ ซึ่งนิมาพอทราบมาบ้างจากทองทัดซึ่งกำลังจะมาเป็นพี่เขยของเธอว่ากิจการของครอบครัวทั้งหมดที่มีพี่ชายยกให้น้องสาวทั้งหมด ห้องดูกว้างใหญ่และถูกตกแต่งอย่างดีสนนราคาคงไม่ต้องคิดว่าแม่ค้าขนมอย่างเธอจะมีปัญหาซื้อได้แน่

“นั่งก่อนคะ ดื่มอะไรเย็นๆ สักหน่อยไหม” ทองทิพย์ถาม

“ไม่ล่ะคะ ขอบคุณนะคะ มาส่งแล้วเดี๋ยวนิ่มก็จะกลับ” นิมาบอกทองทิพย์ที่กำลังนั่งลงข้างๆ เธอและล้มตัวลงนอนหนุนตักเธอในทันที

“อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนได้ไหม” ทองทิพย์พูดเสียงงึมงำอยู่ในลำคอและค่อยๆ หลับตาลงทันที

“ชักคิดถึงตอนปะทะฝีปากมากกว่าเสียแล้วสิแบบนี้” นิมารำพึงและมองดวงหน้าของคนที่หลับตาพริ้มนอนหนุนตักเธออยู่

“ทิพย์เหนื่อยนิ่ม” ทองทิพย์ได้ยินสิ่งที่นิมาพูด เธอจึงบอกกับนิมาแบบนี้

“ก็ได้เอาไว้ให้กลับมาเป็นคนเดิมก่อน ค่อยว่ากันใหม่” นิมาอมยิ้มเมื่อเห็นคนที่หลับตาพริ้มมีรอยยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

“ขอบคุณนะคะ” สิ้นเสียงนั้นดูท่าร่างกายของคนที่นอนหนุนตักนิ่มอยู่จะหยุดทำงาน นิมาชะโงกหน้าไปให้เห็นหน้าของทองทิพย์ชัดๆ โบกมือไปมาสองสามครั้งตรงหน้าของทองทิพย์ซึ่งขณะนี้ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร

“ไปเจออะไรมานะ สาวร้ายถึงได้หมดสภาพขนาดนี้คะ” นิมารำพึงเบาๆ ค่อยๆ ใช้มือของเธอลูบเบาๆ ไปที่ศีรษะของทองทิพย์ที่ดูจะหลับไปแล้ว




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.