web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 11
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 7
Total: 7

ผู้เขียน หัวข้อ: สัญญาวิวาห์กำมะลอ ตอนที่ 4  (อ่าน 2570 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
สัญญาวิวาห์กำมะลอ ตอนที่ 4
« เมื่อ: 31 ธันวาคม 2013 เวลา 23:40:02 »

ตอนที่ 4
      เช้าวันนี้เป็นวันแรกที่บ้านเอกอมรกุล มีสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่ถึงบ้านจะใหญ่โตแต่มันก็ยังดูน่าอึดอัดสำหรับอาศิราอยู่ดีแล้วไหนจะคำว่าเมียและลูกที่จู่ๆก็มีแบบไม่ตั้งตัวนั่นอีกคิดเพียงเท่านี้ก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
   “แล้วนั่นเสียงอะไรน่ะ”
   อาศิราเดินไปยังต้นเสียงก็พบเข้ากับคนแปลกหน้าที่กำลังเอะอะโวยวายเหมือนคนบ้า
   “ทำอะไรกันแล้วพวกคุณเป็นใคร”
   ผู้ชายแปลกหน้าหันมาจ้องหน้าคนพูดก่อนจะเดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้ออาศิราเอาไว้
   “แกใช่มั้ย!”
   อาศิราทั้งตกใจและงงงวยกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นหากแต่ตอนนี้การหายใจของเขาเริ่มติดขัดเมื่อผู้ชายคนดังกล่าวเปลี่ยนจากจับที่คอเสื้อเป็นบีบคอแทน
   “แกมันสารเลวอย่างอยู่เลย”
   คนพูดออกแรงบีบให้มากขึ้น มากขึ้นและก็เกือบทำสำเร็จแต่จู่ๆก็มีเสียงตะโกนบอกให้หยุด
   “พ่อหยุดเดี๋ยวนี้นะ”
   แพรวรุ่งวิ่งหน้าตาตื่นออกมาก่อนจะเดินเข้าไปแยกพ่อของตัวเองออกจากชายหนุ่มเจ้าของบ้าน
   “แกจะมาห้ามพ่อทำไมคนแบบนี้จะเก็บไว้ทำไมให้รกโลก”
   “แล้วพ่ออยากติดคุกหรือไง”
   คนฟังถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของบ้านด้วยความแค้นใจ
   “แล้วนี่พ่อมาทำไม”
   “พวกเราเป็นห่วงรุ้งกลับบ้านกันเถอะนะอย่างอยู่ที่นี่เลย”
   จู่ๆ ชายหนุ่มที่มาด้วยก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนจะเดินมาจับมือแพรวรุ่งเอาไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนพูดด้วยแววตาเศร้าเช่นกันแต่แพรวรุ่งก็ต้องตัดใจค่อยๆดึงมือของตัวเองออก
   “ไม่ได้หรอก”
   “ทำไม”
   “พี่กรก็รู้ว่าทำไม”
   แพรวรุ่งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆก่อนจะเดินไปกอดพ่อของเธอเอาไว้
   “พ่อไม่ต้องห่วงรุ้งนะคะที่นี่ทุกคนดีกับรุ้งมาก”
   คนพูดรีบเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลอย่างเร็วเพราะเกรงว่าจะทำให้คนที่มาเกิดความเป็นห่วงมากขึ้น
   “หายห่วงนะคะพ่อ”
   อายุธมองหน้าลูกสาวอย่างชั่งใจก่อนจะหันไปมองตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องนี้แบบไม่ไว้ใจ
   “ถ้าแกทำลูกฉันเสียใจอีกฉันไม่เอาแกไว้แน่”
   “วางใจได้ครับผมรับปากจะดูแลลูกสาวคุณเป็นอย่างดี”
   น้ำเสียงหนักแน่แต่หาได้มาจากปากของอาศิราแต่กลับเป็นของบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม
   “คุณพ่อ”
   “ก็ใช่น่ะสิแล้วมัวแต่ทำอะไรไม่เชิงพ่อตาแกเข้าไปในบ้านล่ะ”
   กำธรส่ายหน้าให้กับความไม่เอาไหนของบุตรชายก่อนจะเดินเข้าไปหาพ่อของแพรวรุ่งด้วยรอยยิ้ม
   “ทางเราทำผิดจริงๆยังไงผมก็ต้องขอโทษพวกคุณด้วยอยากให้เรารับผิดชอบอะไรก็บอกมาได้นะครับ”
   “ผมไม่ต้องการอะไรหรอกแค่สงสารลูกที่ต้องได้คนแบบลูกชายคุณมาเป็นผัว”
   คนฟังถึงกับสะอึกโดยเฉพาะอาศิราที่ถูกพาดพิงโดยตรงถึงกับควันออกหู
   “แบบผมคือยังไง”
   อาศิราหมดความอดทนจนต้องเดินเข้าไปหาคนที่ว่าให้ตัวเองอย่างลืมตัว
   “คนที่ควรจะเสียใจน่าจะเป็นผมมากกว่าลูกสาวคุณมีอะไรดีถึงกล้าจะมาเป็นสะใภ้เอกอมรกุล”   
   คนพูดชายตามองไปยังหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า
   “ถ้าอยากเอากลับไปนักก็เชิญ! ผมไม่ห้ามแล้วเดี๋ยวจะแถมเงินให้ก้อนหนึ่งเอาให้อยู่สบายๆแบบไม่ต้องทำงานทั้งชาติก็ยังได้”
   เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือของแพรวรุ่งที่ฟาดลงไปยังใบหน้าของคนพูดอย่างแรงทำเอาใบหน้าของอาศิราถึงกับเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
   “คุณว่าให้ฉันได้ ก้าวร้าวใส่ฉันได้แต่ห้ามมาแตะต้องพ่อของฉัน!”
   หญิงสาวตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มเสียงดังก่อนที่น้ำใสๆจะค่อยๆไหลออกมาอาบสองแก้ม
   “นี่เธอ!”
   อาศิราเดินเข้าไปหาคนที่ตบหน้าเขาด้วยความโกรธแต่ก็ต้องชะงักก่อนจะหันมามองมือที่จับแขนเขาไว้
   “เลิกก่อเรื่องซะที”
   น้ำเสียงนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยอำนาจทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดการกระทำทุกอย่างลงก่อนจะเดินถอยกลับมายังจุดเดิม
   “อาศิรา”
   กำธรเรียกชื่อบุตรชายด้วยน้ำเสียงเย็นๆทำเอาเจ้าของชื่อถึงกับขนลุกไปทั้งตัวจากนั้นเพียงไม่นานอาศิราก็สามารถปรับอารมณ์ให้เป็นปกติก่อนจะก้าวเดินไปหาคู่พ่อลูกที่ยืนอยู่ตรงหน้า
   ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้อายุธอย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปจ้องหน้าแพรวรุ่งด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
   “ผมขอโทษครับทุกอย่างเป็นความผิดของผมเองให้โอกาสครอบครัวเอกอมรกุลได้ลูกแลลูกสาวคุณเถอะนะครับ”
   “ผมจะมั่นใจได้ยังไงตะกี้คุณยังเกือบจะทำร้ายลูกผม”
   “นั่นสิพวกเราไม่ไว้ใจคุณ”
   พงศกรเดินเข้ามาขว้างทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้แพรวรุ่งอย่างเบามือ
   “ผมไม่มีคำแก้ตัวแต่อยากให้พวกคุณรู้ว่าผมสำนึกผิดจริงๆ”
   “พอเถอะค่ะเอาเป็นว่ารุ้งจะอยู่ที่นี่”
   แพรวรุ่งหันไปมองหน้าพ่อของเธอก่อนจะฝืนยิ้มออกมา
   “รุ้งอยากให้ลูกมีพ่อไม่อยากให้แกเกิดมาในสภาพแบบเดียวกับรุ้ง พ่อเข้าใจรุ้งใช่มั้ยคะ”
   อายุธพยักหน้าช้าๆก่อนจะเข้าไปกอดลูกสาวตัวเล็กเอาไว้ไม่นึกเลยว่าคนในอ้อมกอดจะมีชะตาชีวิตที่โชคร้ายขนาดนี้ ตอนเด็กก็ขาดแม่ โตมาก็ยังต้องท้องกับคนที่ไม่ได้รักอีก…มันเป็นเวรกรรมอะไรกันนะ

   กลางห้างใหญ่ของครอบครัวเอกอมรกุล อวิกากำลังเดินตรวจร้านค้าแบบเงียบๆที่จริงก็ไม่ใช่หน้าที่ของเธอหรอกแต่เพราะพี่ชายติดเรื่องบางอย่างทำให้ไม่สามารถมาได้งานทุกอย่างจึงตกมาเป็นของเธอ
   “ที่รัก”
   เสียงของใครบางคนทำให้อวิกาต้องหันไปมองซ้ายทีขวาทีพร้อมกับความแปลกใจว่าใครช่างกล้ามาเรียกกันเสียงดังแบบนี้กลางห้าง
   “ที่รักคะ”
   นั่น! เสียงของผู้หญิงคนเดิมยังคงดังมาอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนว่ามันจะดังมากขึ้นทุกทีจนคนในบริเวณเดียวกับเธอเริ่มให้ความสนใจกับเจ้าของเสียงมากขึ้น
   หญิงสาวส่ายหัวไปมาก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มแก้กระหายแต่ยังไม่ทันได้กลืนลงคออวิกาก็ถึงกับพ่นน้ำออกมาจากปากเมื่อมีใครบางคนมาถามหาที่รักข้างๆหูเธอ
   “ที่รักอะเรียกตั้งนานก็ไม่หันมาชอบแบบใกล้ๆก็ไม่บอก”
   อวิกาหันไปมองต้นเสียงก่อนจะต้องอ้าปากค้างเมื่อมาธวียืนยิ้มหน้าบานอยู่ข้างๆ
   “พี่หมี!”
   คนตกใจรีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อเห็นคนที่เธอเรียกหรี่ตามองมาเหมือนไม่พอใจ
   “พี่…พี่ผึ้ง”
   “เรียกชื่อทำมาติดอ่างได้ยินเต็มสองหูเลยนะคำแรกอะ”
   คนพูดทำหน้างอก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกไปอีกทาง ส่วนอวิกาก็ได้แต่ตบปากตัวเองสองสามาทีจากนั้นก็รีบเดินตามอีกคนไปไม่รู้เมื่อไหร่ชื่อนี้จะหลุดจากปากเธอซะที
   “มาได้ยังไงคะพี่ผึ้ง”
   อวิกาเอ่ยถามออกมาเมื่อเดินตามคนหน้างอได้ทัน
   “ก็นั่งรถมาสิคะถ้าเดินมาป่านี้คงยังไม่พ้นปากซอย”
   คนฟังแทบจะดึงหมีมาอัดแต่ก็คงทำไม่ได้อย่างใจคิดเมื่อสถานการณ์ในตอนนี้เธอและครอบครัวกำลังเป็นรองคนข้างๆมากถึงมากที่สุด
   “พี่ผึ้งก็ตลกเหมือนกันนะคะ”
   “พี่ซีเรียสค่ะ”
   คนฟังหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยทำเอาคนพูดที่กำลังทำหน้างอถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
   “พี่ผึ้งหัวเราะอะไรคะ”
   “น้ำเพชรทำหน้าตลกแล้วจะไม่ให้พี่หัวเราะได้ยังไง”
   คนพูดเอ่ยออกมาพร้อมกับจัดการดึงคนข้างๆเข้ามาใกล้ก่อนจะถือโอกาสควงแขนอีกคนอย่างถือวิสาสะ
   “พาพี่เดินเล่นหน่อยสิ”
   “แต่เพชรกำลังทำงานนะคะ”
   “พูดกับคนรักแบบนี้ได้ยังไง”
   อวิกาถึงกับจุกก่อนจะหันไปมองพนักงานที่เดินตามมา
   “พี่ผึ้งพูดเบาๆก็ได้ค่ะ”
   “ทำไมต้องเบาอายเหรอคะหรือว่ามีกิ๊กซ่อนอยู่ในนี้”
   มาธวียิ่งเพิ่มความดังของเสียงให้มากขึ้นก่อนจะเดินไปจ้องหน้าพนักงานที่เดินตามอวิกาทั้งสามคน
   “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะเอาเป็นว่าพวกคุณกลับไปทำงานต่อเถอะวันนี้พอแค่นี้”
   “เดี๋ยว!”
   มาธวีเอ่ยออกมาพร้อมกับกระชากแขนอวิกากลับมาหาตัวเอง
   “พวกเธอรู้ไว้นะว่าฉันนี่แหละว่าที่เจ้าสาวของคุณอวิกาอย่าให้รู้นะว่ามีคนคิดแทงข้างหลังไม่งั้น…ตาย!”
   คนพูดเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังบวกกับสายตาที่แฝงความโหดร้ายไว้ข้างในทำเอาพนักงานแต่ละคนถึงกับตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
   “ถ้าเข้าใจก็ไปได้แล้ว อ้อ! อย่าลืมไปบอกต่อด้วยนะ”
   พูดจบมาธวีก็จัดการลากแขนอวิกาไปทางอื่นทันที หญิงสาวแอบยิ้มออกมาอย่างสะใจที่ได้มาป่วนคนข้างๆในวันนี้ รู้สึกมีความสุขที่ได้เอาคืน นี่สินะที่เขาบอกว่าการแก้แค้นสิบปีก็ไม่สายและนี่คือการเริ่มต้นที่ทำให้เธอตื่นเต้นเป็นที่สุด
   
   สองสาวเดินดูของในห้างอยู่นานแต่จู่ๆมาธวีก็ดึงแขนออกจากคนข้างๆอย่างเร็วจนอวิกาต้องหันมามองด้วยความประหลาดใจแต่ไม่นานทุกอย่างก็ถูกเฉลยเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามา
   “ผึ้ง”
   ชายหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งเอ่ยเรียกชื่อมาธวีด้วยน้ำเสียงสนิทสนมก่อนที่คนถูกเรียกจะค่อยๆส่งยิ้มหวานไปให้พร้อมกับเดินเข้าไปกอด
   “มาไทยไม่บอกกันบ้างนะ”
   หญิงสาวต่อว่าทันทีเมื่อคลายอ้อมกอดออกจากกัน ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่อมยิ้มก่อนจะหันไปมองใครบางคนที่เพื่อนสาวเดินมาด้วย
   “กะเซอร์ไพร์น่ะว่าแต่นั่นใครเหรอ”
\   ชายหนุ่มหันไปส่งยิ้มให้กับคนที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังของมาธวีก่อนจะดึงสายตากลับมายังคนตรงหน้าอีกครั้ง
   “เอ่อ…น้องสาวน่ะมานี่เดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก”
   มาธวีจูงมือชายหนุ่มให้เดินตามก่อนจะแนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกัน
   “นี่น้ำเพชรเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทคุณพ่อค่ะ ส่วนนี่เพื่อนพี่ชื่อไมเคิล”
   “สวัสดีค่ะคุณไมเคิล”
   “ออ สวัสดีครับคุณน้ำเพชรชื่อเพราะจังนะครับเรียกผมว่าไมค์ก็ได้ครับกันเองดี”
   “ขอบคุณค่ะคุณไมค์”
   “งั้นไมค์ก็เรียกน้ำเพชรเค้าว่าเพชรเฉยๆก็ได้นะ”
   มาธวีเอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแข็งๆ
   “ทำไมล่ะไมค์ว่าเรียกน้ำเพชรแหละ เพราะดี”
   “ผึ้งบอกให้เรียกแบบไหนก็เรียกเถอะน่ะอย่าขัดได้มั้ย”
   มาธวีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ค่อยชอบที่เพื่อนชายเรียกชื่ออีกคนเช่นเดียวกับเธอ รู้แต่ว่าไม่ชอบที่ชื่อนี้ออกมาจากปากคนอื่นก็เท่านั้น…
   “ก็ได้ครับ โอ๋ๆไมค์ไม่กล้าขัดใจผึ้งหรอก”
   ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเอ็นดูก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวของคนหน้างออย่างเบามือ
   “ดีมากน่ารักที่ซู๊ด…”
   มาธวีพูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่คงเป็นความเคยชินของเธอที่ถูกอีกคนตามใจมาตลอดแต่กับ    อวิกานี่สิถึงกับต้องหันหน้าไปทางอื่นเพราะจู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นส่วนเกินขึ้นมา…
   
  นิยายเรื่องอื่นๆ
   คุณหนูที่รัก yuri            comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=19228
   ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri      comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=18487
   เกมรักสะดุดใจ yuri        comeon-book.com/comeonv3/story.php?SID=18494
   ปีกรัก yuri                   yuriread.thaimeboard.com/index.php/topic,1232.0.html
   สามารถสั่งซื้อได้แล้วนะคะ พร้อมส่งจ้า ^^

   แบบ e-book ก็มีเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
   mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou
   ขอบคุณที่ติดตามจ้า




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.