Chapter 1 : ไอดอลผู้หายตัวได้“โอ้..โชว์คราวนี้จัดอลังการดีนะเนี่ย..”
เสียงใสๆจากคนข้างกายเอ่ยชมก็จริง หากผู้หญิงตาสีมรกตกลับพ่นลมหายใจฮึดฮัดราวไม่พอใจอะไรสักอย่าง
“ใช่..อลังการสิ ก็เด็กฉันอยู่บนนั้นซะอย่าง” พูดแล้วก็ยิ้มมุมปากให้กับคนที่หันมาเลิกคิ้วให้ แล้วต่างคนจะต่างหันไปมองหลายชีวิตบนเวทีตรงหน้าแทน
โชว์กำลังดำเนินอยู่ และมันจะหยุดลงไม่ได้แค่ใครคนหนึ่งหายไป...
ไม่ว่ายัยตัวแสบนั่นจะหายไป!
“เพราะฉันมีตัวสำรอง” รีเบคก้ากัดฟันกรอดขณะมองจ้องไปบนเวทีอย่างโมโห เธอไม่มีวันหายโกรธเรื่องนี้แน่ ครั้งนี้มันเกินไปแล้ว นี่มันงานสำคัญใช่ไหม.?
แต่หล่อนก็หายไปจนได้ เลวที่สุด!
ดวงตาสีมรกตทอแสงเป็นประกายร้ายกาจท่ามกลางความสลัวในบรรยากาศของห้องแสดงโชว์ บนเวทีมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนเวียนกันมายืนโพสท่าอยู่บริเวณส่วนด้านหน้าสุดของมัน แต่ละคนก็ต่างมีวิธีนำเสนอสิ่งที่อยู่บนร่างกายของพวกหล่อนได้แตกต่างกัน โดยจุดประสงค์มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือการทำอย่างไรก็ได้ให้เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ดูดีที่สุด
เมื่ออยู่บน..แคทวอล์ก..
พวกหล่อนเหมือนนางแมวที่กำลังล่อหลอกให้คนหลงเพ้อไปกับความงดงามในฉากหน้านี้ หากอันที่จริงถ้าใครไปด้านหลังเวทีจะพบกับความชุลมุนวุ่นวายที่แทบจะไม่อยากเชื่อว่า มันเป็นสถานที่เดียวกัน เธอเองกว่าจะลากนางแบบในสังกัดออกมาอวดโฉมอย่างคนอื่นได้ ก็แทบตายทั้งๆที่หล่อนเป็นไอดอลแท้ๆ
ไอดอลที่ไม่มีความรับผิดชอบ!
“คุณคริสตินสวยสุดยอดเลยเนอะ ฉันรอดูเค้าเดินชุดสุดท้ายอยู่”
คนข้างเธอพูดแทรกแสงแฟลชเสียงดนตรีเข้าหูมา รีเบคก้าหันไปยิ้มพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ ก็ไม่อยากให้หล่อนผิดหวังหากรู้ความจริงที่เธอซ่อนเอาไว้ พอหล่อนหันไปทางอื่น เธอก็หันไปข่มฟันกรอดๆ ใจจริงอยากจะเต้นเร่าๆอยู่ตรงนี้หากไม่อายคนและไม่กลัวคนรู้ความลับ สมองหวนคิดกลับไปยังห้องแต่งตัวด้านหลังเวทีเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว...
“หมายความว่ายังไงนะ ยัยนั่นหายไปเหรอ!” รีเบคก้าตวาดแว๊ดใส่คนตรงหน้าทั้งที่หล่อนอุตส่าห์คาบข่าวสำคัญมาบอก และเพราะเสียงอันดังของเธอเอง คนทั้งหมดในห้องนี้จึงหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียว แม้พวกเขาจะกำลังวุ่นวายกันอยู่
“เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีอะไร..” ผู้จัดการสาวรีบปฏิเสธยิ้มแหยๆให้บรรดาเจ้าของสายตาพวกนั้น พอพวกเขาหันจากไปทำเรื่องของตัวเองต่อ เธอก็หันกลับมาทำตาเขียวปั๊ดใส่ผู้หญิงคนเดิมและลากหล่อนให้เดินไปด้วยกันยังห้องแต่งตัวนางแบบพิเศษที่ความจริงเธอกับใครบางคนควรจะอยู่ในนั้นนานแล้ว..
แค่หล่อนไม่มาเท่านั้น !
“แล้วรู้ไหมว่าหล่อนไปไหน.!” กระซิบกระซาบถามราวกลัวใครจะได้ยินทั้งที่อยู่ในห้องส่วนตัว ก็กลัวคนมาแอบฟัง สาวร่างสูงกว่ามองหน้าซีดกลับมา ส่ายหน้าให้เธอถอนหายใจเฮือก
“รีเบคก้า.. ฉันขอโทษแทนพี่ด้วย แต่ช่วยไม่ได้นะ เค้าหายไปจริงๆ” อิงกริดจับมือเล็กมากุมไว้คล้ายจะปลอบ หากคำปลอบของเธอคงไม่เป็นผลสำเร็จ อีกคนยังดูกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่ ไม่รู้จะทำยังไงดี จึงหลุดปากพูด
“มีอะไรให้ช่วยไหมล่ะ ฉันจะไถ่โทษให้เค้า..”
หญิงสาวเบื้องหน้าทำตาวาวอย่างที่เธอรู้สึกได้ถึงสัญญาณไม่ดี อิงกริดเริ่มเหงื่อตก “นี่เธอคงไม่คิดที่จะ.....”
ในใจเธอภาวนาให้หล่อนไม่พยักหน้ารับข้อเสนอ หากพระผู้เป็นเจ้าคงไม่รับฟัง รีเบคก้าชี้มือไปที่ชุดที่แขวนอยู่ในห้อง มันกำลังอ้าแขนรอบางคนมาสวมใส่ตั้งนานแล้ว แต่นั่นคงไม่ใช่เธอใช่ไหม...
“ถอดเสื้อผ้าออกอิงกริด เดี๋ยวนี้!”
“อะไรรีเบคก้า อย่านะ!” อิงกริดฉุดตัวเองกลับมาจากการถูกกระชากเสื้อผ้าออกจากตัว เธอไม่เห็นด้วยกับผู้จัดการหัวใส และเพราะแรงแย่งยื้อกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่มีใครยอมแพ้ใคร สุดท้ายพวกเธอทั้งคู่ก็ลงไปกองทับกันกับพื้น โดยมีสาวตัวเล็กกว่านั่งทับเธอทั้งตัว หัวใจเธอสั่นกับตำแหน่งอันตรายนี้ หากผู้หญิงอีกคนกลับมองไม่เห็นมัน หล่อนยิ้มร้ายกาจและพูดลอดไรฟันออกมา
“ถ้าไม่อยากให้เราโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายจนหมดตัว ช่วยใช้ความเป็นแฝดของพวกเธอให้เป็นประโยชน์ด้วย..อิงกริด โมเลย์ ไม่ใช่สิ.. คริสติน..”
........................................
“นี่คุณผู้จัดการคิดอะไรอยู่คะ.?”
รีเบคก้ากระพริบตาดึงสติกลับมาสู่ปัจจุบัน แล้วหันไปส่ายหน้าให้กับคนถาม “นิดหน่อยค่ะ ไม่มีอะไรสำคัญ”
“อ้อค่ะ งั้นดูโชว์กันต่อนะ”
“ค่ะ” ผู้จัดการสาวถอนหายใจโล่งเมื่อแก้ตัวได้สำเร็จ กระพริบตาอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่าโชว์ชุดสุดท้ายกำลังจะเริ่ม เธอมองไปทันเวลาพอดี
“ว้าว.. คุณคริสตินสวยมากจริงๆด้วย!” สาวข้างตัวคนเดิมตะโกนปลาบปลื้ม เธอยิ้มให้หล่อนแต่ไม่ลืมความจริง และไม่ลืมมองไปรอบๆตัว
จะมีใครสักคนไหมที่เอะใจว่า นางแบบในชุดฟินนาเล่ตรงหน้า ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิม หล่อนไม่ใช่..คริสติน..
ไม่ใช่ไอดอลที่แท้จริงของพวกเขา!
แล้วหล่อนไปไหนกันยะ!
.................................................
ฉันไม่ใช่หุ่นเชิดของเธอ.. จำไว้ด้วยนะ..ยัยผู้จัดการตัวแสบ..
ริมฝีปากสวยสีชมพูอ่อนๆตามธรรมชาติเผยยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ใบหน้าขาวปราศจากเครื่องสำอางที่บางครั้งก็คันเพราะแพ้ เพราะลืมเอาของตัวเองไปด้วยเวลาที่ต้องใช้มัน แต่ตอนนี้ก็ช่างมันเถอะ เธอกำลังปลอดโปร่ง..
แม้เพียงไม่กี่ชั่วโมง อาจไม่ถึงชั่วโมงที่ได้อยู่แบบนี้ก็ยังดีกว่าไม่มีเวลาแบบนี้เลย พอเถอะ เลิกคิดถึงมัน
ถึงตอนกลับไปจะโดนยัยตัวเล็กนั่นยำเละก็ยอม..
หญิงสาวถอนหายใจพยายามผ่อนคลายอารมณ์ตัวเอง ดวงตาคู่สวยมองผ่านเลนส์สีเข้มของแว่นบนใบหน้า หวังมองหาจุดหมายที่ใจต้องการ
อากาศที่นี่ดีจริงๆ.. เธอรำพึงในใจอย่างมีความสุข ตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่โตเกียวยังไม่เคยได้มาเดินเล่นตรงนี้เลย ก็เคยว่างซะที่ไหน ยัยบ้านั่นหางานให้ฉันทำตลอดเวลา.. เห็นฉันเป็นเครื่องจักรหรือไงนะ
ร่างสูงโปร่งส่ายหน้าไปมาพยายามสะลัดความคิดที่ทำให้อารมณ์เสียออกไปจากหัว มืองามยกขึ้นกระชับหมวกไหมพรมบนศีรษะ ขยับแว่นกันแดดให้เข้าที่ วันนี้เธอแน่ใจว่า แต่งตัวได้ไม่ให้เป็นจุดสนใจมากแล้ว ก็แค่เสื้อวอร์มสวมทับเสื้อยืด กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ และก็มีผ้าพันคอเพิ่มเข้ามาเพราะอากาศมันหนาว หรือเพราะเธอตัวสูงผิดปกติผู้หญิงญี่ปุ่น..
ก็ฉันไม่ใช่ญี่ปุ่นไงเล่า..
มิน่าล่ะ ว่าแล้ว.. หลายคนจึงมองเธอด้วยสายตาประหลาด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน แล้วจะเอายังไงดี..
ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสหรี่ลงอย่างข่มใจไม่ให้กลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด เธอมองผ่านเลนส์แว่นดำไปยังพวกเขาเหล่านั้นที่ยังมองอยู่ บางคนเดินผ่านเธอมาและหยุดมองจนเธอเดินผ่านไป บางคนผ่านเธอไปแล้วก็ยังเหลียวหลังมามอง ชักไม่ใช่สัญญาณที่ดีเสียแล้ว แถมผู้หญิงที่ยืนกันเป็นกลุ่มก็ซุบซิบบางอย่างกันเสียอีก โทษทีเถอะแม่คุณ.. ฉันไม่ใช่ตัวประหลาดนะ!
ถอนหายใจอีกครั้งยาวๆ หญิงสาวรีบเดินจ้ำออกจากสวนสาธารณะที่ว่าจะมาเดินเล่นพักผ่อนนี้ทันที บางทีวันนี้อาจจะไม่ใช่วันของเธอที่นี่..
แต่ถึงอย่างนั้น...
อิงกริด.. โชคดีนะตอนที่พี่ไม่อยู่แบบนี้...
เพราะพี่จะไปที่อื่นแล้วล่ะน้องสาว...
...........................
งานแสดงโชว์บนแคทวอล์กจบลงไปด้วยดีโดยนางแบบที่เธอหามาแทนตัวจริงไม่ได้ตกส้นสูงหัวทิ่มคะมำหงายบนเวทีให้อายคนดู
ก็ใช่สิ นี่ไม่ใช่งานแรกที่หล่อนทำแทนพี่สาวสักหน่อย..
“โชว์จบแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” รีเบคก้าโค้งศีรษะอย่างสุภาพให้คนที่คุยกับเธอมาตลอดงาน แม้จะเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่นี่ เธอก็ไม่ลืมใช้วัฒนธรรมของพวกเขา หญิงสาวผู้นั้นโค้งให้เธอกลับมาตามมารยาทเหมือนกัน และพอเดินลับหลังหล่อนมาได้ เธอก็แทบจะกรี๊ดอยู่คนเดียว
“สำเร็จๆ ฉันทำสำเร็จไปอีกงาน!” ร่างบางรีบจ้ำไปหลังเวที เธอต้องไปรับผู้หญิงคนนั้นให้ทัน และก็เจอหล่อนหน้าหงิกลงมาพอดี
“ฉันไปเปลี่ยนชุดนะ” อิงกริดเมินหน้าหนี เธอคิดจะเอาตัวรอดจากที่นี่ทันทีที่จบงาน ร่างโปร่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอกำลังจะเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าอย่างสบายใจ และคงสบายใจกว่านี้หากไม่มีบางคนที่ยืนเกาะประตูห้องมอง “มองอะไรแบบนั้น ฉันทำไม่ดีหรือไง.?”
“เปล่าๆ ดีมากต่างหาก เธอเจ๋งสุดๆ” รีเบคก้าเข้ามาจูบแก้มสาวที่นั่งหน้ากระจก ลากเก้าอี้อีกตัวมาช่วยหล่อน หากก็ถูกมองหน้าอย่างสงสัยคล้ายคนมองกำลังระแวง
“มองอะไรล่ะ ก็แค่อยากช่วย” ผู้จัดการสาวใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเครื่องสำอางมาปาดบนใบหน้าเนียนของสาวในสังกัด พยายามทำมันอย่างตั้งใจและเหมือนไม่มีอะไรแอบแฝง น่าเสียดายที่คนที่รู้จักกันมาแสนนานไม่เชื่อเธอ หล่อนมองอย่างระแวงตลอดเวลา สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้
“โอเค.. เรายังมีงานอื่นต่อ”
“งานอื่น!” อิงกริดทำหน้าช็อค อีกสาวยิ้มแห้งๆกลับมาก่อนเข้ามาคล้องคอกอด ออดอ้อนตามแบบฉบับตัวเองที่มักจะทำให้เธอใจอ่อนเสมอ
“เฮ้อ.. ฉันเหนื่อยแล้วนะ”
“เอาน่าๆ คิดว่าทำเพื่อเราก็ได้ นะๆอิงกริด” รีเบคก้าพยายาม มองตาอีกสาวราวลูกสุนัขขี้อ้อน เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพยักหน้าให้อย่างเสียไม่ได้ แต่ถึงหล่อนจะไม่เต็มใจ เธอก็จะให้รางวัล..
“โอเค.. งั้นให้จุ๊บหนึ่งที แลกกัน”
“งั้นค่อยน่าทำให้หน่อย..” นางแบบจำเป็นหัวเราะก่อนเป็นฝ่ายถูกปิดปากด้วยจูบเร็วๆจากผู้จัดการส่วนตัวร่างเล็กที่ชอบทำเป็นเล่นกับเธอเรื่องนี้เสมอ รีเบคก้าชอบใช้มารยาเวลาอยากจะได้อะไรสักอย่าง แต่เธอก็หลงกลหล่อนอยู่เรื่อยเหมือนกัน ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรต่อ หล่อนก็ลุกพรวดเดินหนีไปคว้ามือถือขึ้นมาคุยซ้ำหันหลังให้
อิงกริดถอนหายใจส่ายหน้า ยิ้มบางๆให้กับคนบ้างานตรงมุมห้อง และหันมองกระจกเงาตรงหน้าอีกครั้ง เธอรำพึง..
“ฉันไม่น่าเกิดมาหน้าเหมือนเธอเลย ให้ตายเถอะคริสติน”
.........................................
...ป่านนี้อิงกริดจะโดนอะไรบ้างนะ...
ดวงตาสีฟ้าไอริสมองเหม่ออย่างว่างเปล่า แม้ว่าทิศทางเบื้องหน้าของเธอจะมีความสวยงามของบ่อน้ำพุอยู่ตรงจุดนั้น หรือจะเพราะเธอยังมีเรื่องให้ห่วงใยภายในใจอยู่ หรือกำลังรู้สึกผิดที่..หนีงาน
“แต่ช่างเถอะ ยัยเด็กนั่นคงจะยอมอ่อนข้อให้เธอบ้างล่ะน่า.. พวกเธอสนิทกันนี่..” เสียงนุ่มๆพึมพำออกมาเบาๆ มือเรียวขยับแว่นซึ่งมีเลนส์สีดำเข้มเล่นไปมาในอากาศ ร่างโปร่งนั่งบนเก้าอี้ไม้มองนู่นมองนี่ไปเรื่อยๆ ในที่สุดเธอก็ได้จุดที่สามารถนั่งเล่นได้อย่างสงบเสียที หวังว่าคงไม่มีใครมากวนใจอีกนะ
ขี้เกียจจะหนีแล้ว..
คริสตินมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง เมื่อไม่เห็นว่ามีคนสนใจมองมาทางเธอแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก มืออีกข้างที่ว่างหยิบหมวกไหมพรมออกจากศีรษะ ให้อิสระกับเส้นผมยาวๆซึ่งถูกกักเก็บเอาไว้ มันอึดอัดสิ้นดี หากในที่สุดเวลานี้ มันก็มีโอกาสได้ออกมาโชว์สู่สายตาคน เส้นผมสีบลอนด์ประกายเงินสยายพลิ้วไปตามแรงลมเป็นประกายรับกับแสงตะวันยามสาย เจ้าของมันรู้สึกสบายใจขึ้น มันโล่งหัวที่สุด แต่จะได้นานสักเท่าใด
เพราะสวรรค์ไม่เคยเข้าข้างเธอ จึงได้เจอกับเสียงที่ดังแว่วมาเข้าหู..
“เฮ้..เธอ.. เห็นผู้หญิงคนนั้นมั้ย.. ฉันว่าคุ้นๆนะ ผมสีเงินด้วย!”
ความรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายสบายใจของเธอถูกหยุดเพียงเท่านั้น คริสตินรีบดันแว่นดำกลับเข้าใบหน้า พร้อมด้วยหมวกที่เพิ่งถอดไปก็จับกลับมาใส่หัว ดวงตาสีฟ้าไอริสมองผู้หญิงคู่นั้นที่มองตนอยู่ไม่ละสายตาเพราะเธอรู้ว่าพวกหล่อนพูดอะไร ถึงไม่ใช่คนญี่ปุ่น ความอยู่มานานก็ทำให้เธอเข้าใจความหมาย เธอกำลังจะโดนจับได้แล้ว
ร่างโปร่งลุกพรวดจากเก้าอี้ไม้และกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากจุดเสี่ยงนั่นทันที ไม่มีเหลียวหลังไปมองอีก หากความรีบร้อนกลัวว่าคนจะจับได้ ก็ทำให้เธอสร้างปัญหาให้ตัวเองเพิ่มเมื่อเดินไปชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง ฝ่ายนั้นกระเด็นลงไปนั่งก้นจ้ำกับพื้น ร้องโอดโอย..
“โอ้ยอะไรกันเนี่ย..”
และเสียงสำเนียงประหลาดที่ไม่ใช่แบบที่เธอได้ยินประจำในโตเกียวก็ทำให้หญิงสาวชะงัก และเธอเห็นดวงตาของหล่อนตอนที่แว่นดำอันใหญ่ใบหน้าหล่นลงมาที่ปลายจมูกโด่งๆ หล่อนตาสีน้ำเงิน สวยเหลือเกิน..
หากเธอก็ไม่มีเวลาสนใจความงามนั้นนานนัก แว่วหูได้ยินเสียงโวยวายตามหลังมา คริสตินรีบคว้ามือหญิงสาวที่นั่งกับพื้นให้วิ่งไปด้วยกัน
“เดี๋ยวคุณ! เราจะไปไหน!” เจ้าหล่อนโวยขึ้นมาอย่างตกใจ หากเธอก็ตอบไปได้คำเดียว และไม่สนใจอะไรอีกเลย
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันต้องไป และเธอต้องไปด้วย คนสวยตาสีน้ำเงิน!”
..................................................
เปิดตัวนิยายใหม่อีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ :14: :14:
ได้ข่าวว่า เรื่องเก่ายังไม่จบสักเรื่อง แต่ทำไงได้ ก็มันอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างอ่ะค่ะ อิอิ
คือ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรีไรท์มาจากเรื่องที่เป็นฟิคเก่าค่ะ มันเลยอาจจะดูคุ้นๆตาบางคนที่เคยอ่านฟิคของเราบ้าง ก็อยากให้รู้ว่า คนเดียวกันเขียนนะคะ ไม่ได้ก้อปใคร ฮา..
เรื่องนี้เป็นเรื่องในวงการบันเทิงบ้างค่ะ จากที่มีมาหลายวงการแล้ว เหอๆๆ (บางทีก็คิดชื่อนางเอกไม่ค่อยออกแระ หลายเรื่องจัด)
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ และสัญญาว่า จะไม่ทิ้งเรื่องที่เขียนอยู่เก่าหรอก อิอิ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ :70bff581: :70bff581: