Chapter 2 : คนสวยตาสีน้ำเงิน
“ไปกับฉันเดี๋ยวนี้.!”
ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้างอย่างตกใจกับเสียงคำสั่ง มากกว่านั้นเธอยังพบตัวเองโดนลากถูลู่ถูกังตามหลังคนตัวสูงมา
หล่อนเป็นใคร เรื่องอะไรมาทำกับเธอแบบนี้ รู้ไหมว่าเธอเป็นใคร..
แล้วเป็นใครล่ะ.?
“จะพาฉันไปไหน!” สาวตัวเล็กกว่าถามเสียงดัง อีกคนชะงักไปนิดนึง หันมามองหน้า เธอเกือบจะดีใจได้ที่หล่อนเหมือนจะปล่อยมือเธอ หากมันก็แค่ความหวัง เพราะความจริงผู้หญิงประหลาดกลับส่ายหน้าและลากแขนเธอไปด้วยกันอีกรอบ
“นี่คุณ!”
“หยุด! อย่าเพิ่งถามเลยน่า ตามมาก่อน!”
สาวที่ถูกลากทำได้แค่ร้องหวี้ดว๊าย ร่างกายปลิวตามแรงคนลากไปทั้งไม่ตั้งใจ ก็คนบ้าอะไรแรงเยอะจริงๆ ทั้งที่หล่อนเป็นผู้หญิงเหมือนเธอแท้ๆ แต่หรือจะเพราะหล่อนตัวสูงมากขนาดนี้ เธอที่ว่าสูงแล้วก็ยังดูเตี้ยไปเลยเมื่อเจอหล่อน
อย่างนี้พวกแมวมองต้องอยากได้ไปเป็นนางแบบแน่ๆ..
พูดถึงนางแบบ.. ฉันว่าหล่อนดูคุ้นๆนะ.!
ดวงตาสีน้ำเงินลอบมองคนที่ดึงมือตัวเองอย่างสนใจ คนถูกมองก็เหมือนจะรู้ตัวจึงหันมาทั้งที่กำลังวิ่ง อดใจไม่ได้เลยถาม
“ถามจริง.. กำลังหนีใครอยู่” ถามแล้วก็หันไปมองที่ด้านหลัง เธอไม่ได้ตาฝาดไปแน่ที่มีหลายคนวิ่งตามมา
ท่าจะไม่ดีแล้วสิ ถ้าฉันถูกจับไปด้วยล่ะ..
หญิงสาวคิดฟุ้งซ่านตามประสาคนที่ทำอะไรผิดมาเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงหาคำมาพูด หาทางเอาตัวรอด เธอต้องรอดให้ได้.!
“นี่ฉันไม่รู้หรอกนะว่า คุณกำลังหนีใคร แต่ในฐานะที่คุณให้ฉันลงเรือลำเดียวกันมาด้วย ทั้งที่ฉันไม่เต็มใจ ฉันมีข้อเสนอ” เธอพูดเร็วแทรกเสียงฝีเท้าวิ่งของตัวเองและอีกคน หากมันคงจะดังพอให้สาวแปลกหน้าได้ยินหล่อนจึงหันมาทำหน้าตาสงสัย
“ฉันรู้จักที่นี่ดีกว่าคุณแน่ ให้ฉันนำทาง” ยื่นข้อเสนออีกครั้ง อีกฝ่ายท่าทางไม่มั่นใจ หากพอหล่อนมองไปด้านหลัง กลับรีบพยักหน้ารับทันที ไม่ใช่เรื่องปกติเสียแล้ว หรือว่า...
โอ้..หน้าตาดีๆแบบนี้ไม่น่าเป็นโจร..
“นี่เธอจะพาไปไหนก็รีบหน่อยสิ เห็นไหมพวกนั้นตามหลังมาจะทันอยู่แล้ว ฉันไม่น่าพาเธอมาด้วยเลย ให้ตายเถอะ!”
เจอเข้าแบบนี้ ที่คิดว่าจะช่วยด้วยความหวังดี เธอก็คิดไปอีกอย่าง ท่าทางไม่ใช่คนญี่ปุ่นและไม่คุ้นทางแบบนี้ พาไปขายให้ยากูซ่าเสียดีไหม..
แต่ว่า..หล่อนพูดญี่ปุ่นนะ แล้วเหมือนจะฟังเธอเข้าใจทุกคำด้วยนี่นา.. เป็นใครกันแน่..
“เฮ้.. ถ้าเธอยังช้าแบบนี้ เราแยกทางกันตรงนี้เถอะ ฉันหาทางกลับเองได้ บ๊าย..บาย..” คริสตินเตรียมจะปล่อยมืออีกสาวออกไป ทั้งๆที่เสียดายนานๆจะได้เจอสาวตาสีน้ำเงินสวยขนาดนี้ แบบไม่ใช้คอนแท็คเลนส์ในแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้เสียด้วย
แต่ถ้าเจอคนสวยแล้วซวย ฉันขอบาย.. ฉันไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก..
“เดี๋ยวสิคุณ ฉันยัง---” หญิงสาวชะงักกึกเมื่ออีกคนหยุดวิ่งและหันมาจุ๊บแก้มเธอ สมองเธอเบลอไปกะทันหัน แต่ยังอุตส่าห์ได้ยินเสียงกระซิบ
“ถ้าโชคดีได้เจอกันอีก ฉันชื่อคริสตินนะ” เจ้าของชื่อถอดแว่นดำออกให้อีกคนมองเห็นดวงตาสีสวยของตัวเอง ขยิบตาขี้เล่นให้สาวเจ้าก่อนจะดันแว่นกลับและวิ่งหายลับไปต่อหน้าต่อตาเจ้าหล่อน
ฉันจะไม่ยอมเสียทีโดนจับได้เพราะผู้หญิงหรอก ไม่มีทาง!
...................................................
อิงกริด.. เธอเจ๋งสมกับเป็นเด็กปั้นของฉันจริงๆ..
รอยยิ้มที่หาได้ยากปรากฏบนเรียวปากสวยของสาวที่ยืนกอดอกอยู่ตามลำพัง ผู้จัดการสาวดวงตาวาวเป็นประกายมุ่งมั่น มันสว่างแข่งกับแสงแฟลชในการถ่ายแบบตรงหน้าเสียอีก และพอดวงตาสองสีมาเจอกัน เธอก็ยกนิ้วโป้งชูให้หล่อนไปเป็นการให้กำลังใจ
อิงกริดทำได้ดีเสมอ ไม่เว้นกระทั่งตอนโพสท่าถ่ายภาพนิ่ง สมแล้วที่มีสายเลือดเดียวกันกับคริสติน ฝาแฝดแทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน นอกจากสีตา หากคงไม่มีใครมานั่งจ้องตานางแบบของเธอขนาดนั้น บางทีพวกเขาอาจคิดว่า คริสตินที่ตาสีฟ้าไอริส จะใส่คอนแท็คเลนส์ให้ตาสีน้ำเงินเข้มแบบนี้ หากเป็นแฟนคลับของคริสตินจริงๆ พวกเขาจะเคยอ่านสัมภาษณ์ของคริสตินในครั้งหนึ่งว่า หล่อนอยากมีดวงตาสีน้ำเงินเหมือนคุณพ่อ แต่ดันได้ตาสีนี้มาจากแม่ เพราะฉะนั้น การที่มีสีตาเป็นสีน้ำเงินของอิงกริดจึงไม่ได้เป็นปัญหากับการทำงานสักนิด ก็คิดว่า เป็นคริสตินที่อยากตาสีน้ำเงิน...
เฮ้อ.. มันช่างเป็นอะไรที่เข้าข้างฝ่ายเธอไปเสียหมด หวังว่า คงไม่มีอุปสรรคอะไรให้หนักใจกว่านี้หรอกนะ อย่างไรซะ ชื่อของคริสตินก็ยังขายได้...
แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับอิงกริด มันต้องยอกันหน่อย เพราะหากไม่ได้หล่อน ชีวิตการทำงานในวงการนี้ของเธอคงจะสั่นคลอนแน่ และมันก็หมายถึงเงินในกระเป๋าสตางค์ของเธอก็จะน้อยลงตามไป
ฉันไม่มีทางยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอก ไม่ว่าเธอจะไม่มีความรับผิดชอบเลย.. คริสติน โมเล่ย์!
นั่นสิ ทำไมเธอจะต้องให้ฉันกับน้องแฝดของเธอต้องคอยรับกรรมเรื่องที่เธอก่อไว้ทุกที แบบนี้มันยุติธรรมหรือไง..
ไม่เลย..
“เธอหน้าบูดอีกแล้ว ไหนสัญญากันแล้วไง..”
เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆพาให้ใบหน้าบึ้งตึงค่อยๆคลายลง แม้จะยังคงยิ้มได้ไม่เต็มที่กับคนที่มาหา แต่เธอก็พยายามแล้ว..
“เฮ้.. ว่าไง.?” เลี่ยงจะไม่เรียกชื่อกัน เพราะไม่อยากให้ตะขิดตะขวงใจกันให้มากกว่านี้ ก็พอรู้ว่าอิงกริดไม่ชอบให้ถูกเรียกเป็นอีกคน หากไม่ใช่เธอขอแล้วล่ะก็ หล่อนไม่มีทางทาง
บางทีฉันก็เอาเปรียบเธอเกินไปนะ
บางทีฉันน่าจะดันเธอขึ้นมาแทนคริสตินมากกว่า แต่มันคงยังไม่ดี ยังไม่ถึงเวลานั้น หวังว่าเธอคงจะพอเข้าใจ.. ฉันไม่ได้อยากทำ.. ทำร้ายเธอเลย..
อิงกริดยักไหล่ไม่รู้จะบอกยังไงดี ความจริงเธอไม่ได้ชอบงานที่ทำอยู่นี่สักนิด หากไม่ติดว่า พี่สาวเธอชอบสร้างปัญหาอยู่เสมอแล้วล่ะก็ เธอคงจะขอย้ายตัวเองกลับบ้านเกิดที่อังกฤษไปนานแล้ว กลับไปทำงานเหมือนเมื่อก่อน เป็นตากล้อง เปิดแกลลอรี่อย่างที่ฝันไว้ ฝาแฝดอยู่ที่เดียวกัน เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ ยิ่งตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่า เธอกำลังอาศัยชื่อพี่สาวทำมาหากิน
ถูกแล้ว เพราะทุกครั้งที่เธอเป็นคนทำงานแทนคริสติน พี่ไม่เคยขอรายได้จากงานนั้นจากเธอ คริสตินยกให้เธอหมดโดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ของหล่อน หากเป็นคนอื่นแล้วล่ะก็ สำหรับรายได้ของไอดอลดังแบบนี้คงได้มันไปอื้อซ่า แต่พี่ของเธอบอกว่า เธอเป็นคนทำงาน ก็ต้องได้เงินนั้นไป
คริสตินเป็นคนดีนะในความคิดเธอ เสียนิดเดียวที่พี่ติดนิสัยเอาแต่ใจ ชอบทำตามใจตัวเองมากกว่ากฎเกณฑ์ ถึงได้ทะเลาะกับรีเบคก้าจอมเฮี้ยบทุกที คิดแล้วก็สงสัยเหลือเกินว่า จับพลัดจับผลูมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวกันได้ยังไง แต่คิดอีกที ถ้าพี่ไม่มีผู้จัดการแบบรีเบคก้า วันนี้คริสตินคงไม่ได้เป็นไอดอล..
สองคนนี้มีความหลังกันยังไงนะ ชักอยากรู้..
“อิงกริด.?” รีเบคก้ากระซิบเรียกชื่อคนเหม่อเมื่อเธอไม่เห็นใครใกล้ๆ มันนานไปแล้วที่อิงกริดไม่พูดไม่จา ถามอะไรก็ไม่พูด ทำเหมือนไม่ได้ยินอีกต่างหาก
“ฉันรู้นะว่า ฉันกวนเธอมากไป แต่ฉันขอให้เธอนึกถึงอนาคต”
“โอ้..ฉันรู้แล้วน่า” นางแบบจำเป็นตัดบท เธอไม่ต้องการจะฟังคำแก้ตัวของใคร มันก็เหมือนเดิม แต่เธอคงแสดงอาการรำคาญออกไปมากเกิน คนตรงหน้าเลยหน้าเจื่อน มันไม่ดีใช่ไหม...
อิงกริดถอนหายใจ ยกแขนขึ้นโอบบ่าอีกสาว พยายามยิ้มให้ “โทษที ฉันแค่เหนื่อยน่ะ เราจะกลับบ้านกันได้หรือยัง.?” มองหล่อนอย่างมีความหวัง และต่างคนก็ต่างยิ้มออกเมื่อคุณผู้จัดการพยักหน้ารับ
“โอเค.. แล้วเย็นนี้เธอจะทำอาหารให้ฉันทานไหม.?” ถามลองเชิงไปอย่างนั้น แต่ก็หัวเราะเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมยิ้มขี้เล่น
“ทำสิ แต่ฉันมีให้เธอได้มากกว่าอาหารจานเด็ดอีกนะ สนใจหรือเปล่า”
สาวตัวสูงยิ้มอย่างเข้าใจ ก่อนพากันเดินออกจากสถานที่ทำงานอย่างไม่สนใจคนอื่น แต่แน่นอนว่า มีคนอื่นสนใจพวกเธอ
ไม่แน่ว่า พรุ่งนี้ในข่าวบันเทิงหน้ากอสซิบอาจมีคนมาเขียนซุบซิบเรื่องของเธอกับผู้จัดการส่วนตัว เพียงแค่ข่าวนั้น จะพาดหัวเป็นชื่อ..คริสติน โมเล่ย์ นักแสดงและนางแบบชื่อดังจากอังกฤษ ไม่ใช่เธอ...
.................................................
ก็คิดว่าปลอดภัยแล้วเมื่อมาซ่อนตัวอยู่ในช่องว่างแคบๆระหว่างตึกที่ห่างจากสวนสาธารณะมาพอสมควร คริสตินยิ้มโล่งใจกับตัวเองเมื่อเห็นฝูงชนที่ตามตนมาวิ่งผ่านช่องว่างนั้นไป หญิงสาวคิดจะรอสักพักดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามหาเธอที่นี่แล้วจริงๆเสียก่อนแล้วค่อยออกไป หากยังไม่ทันไร ชายเสื้อด้านหลังเธอก็ถูกกระตุกด้วยใครคนหนึ่งที่มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...
ผีหรือเปล่าเนี่ย!
หันมามองเจ้าของมืออย่างกล้าๆกลัวๆ และตกใจทันทีที่ได้เห็น “เฮ้ย.. เธอมาได้ยังไง ไหนฉันบอกลาเธอแล้ว!”
“ฉันรู้แล้ว แต่ฉันไม่ยอมหรอกนะ ที่จะให้คุณไปง่ายๆแบบนั้น” สาวแปลกหน้าพูดพร้อมตาวาว อีกสาวทำท่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด เธอจึงยิ้มร้ายกาจอย่างเหนือกว่า “เพราะฉันรู้ว่า.. คุณเป็นใคร..”
คริสตินสะอึกไม่นึกว่าหน้าใสๆแบบนี้จะสามารถทำตาเจ้าเล่ห์ได้เหลือหลาย เธอจะต้องมาตกม้าตายเพราะหล่อนอย่างนั้นหรือ ไม่ยุติธรรม อุตส่าห์หนีคนอื่นมาได้แล้ว แต่ทำไมผู้หญิงคนเดียวคนนี้ถึงหนีไม่สำเร็จ
หรือเพราะบุพเพอาละวาด!
แต่ก็นะ หล่อนถอดแว่นต่างดาวนั่นออกแล้ว เห็นหน้าชัดสวยชะมัด น่ากลัวจะเป็นพวกลูกครึ่ง ผมน้ำตาลตาสีน้ำเงิน..
ฉันอยากได้ลูกกะตาเธอเหลือเกิน.. กลมโตขนาดนี้.. ใสซะขนาดนี้...
แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าหวังว่าจะมาข่มฉันง่ายๆนะ!
“ฉันเป็นใครเหรอ.. ไม่เห็นรู้เรื่อง ฉันเป็นคนธรรมดาเดินดิน ไม่ได้เป็นโจรห้าร้อยด้วย ไม่ได้ปล้นธนาคารมา อย่ามากล่าวหามั่วๆนะ เพราะฉันอาจฟ้องเธอได้” ทำเป็นขู่หล่อนไปอย่างนั้น มันก็แค่กลบความกลัวส่วนตัวที่ไม่เคยให้ใครมาข่มขู่ตัวได้ระยะประชิดแบบนี้ เป็นคนดังมันดีตรงไหน มีแต่คนจ้องจะคอยหาประโยชน์ ไม่เว้นกระทั่ง..รีเบคก้า..
ฉันไม่อยากคิดเลยนะว่า เธอทำงานกับฉันเพราะแค่ส่วนแบ่งที่ได้จากงานเท่านั้น เธอมันผู้หญิงไร้หัวใจ ยัยผู้จัดการตัวแสบ! ถ้าฉันจะหนีเธอไปนอกโลกได้ ฉันก็จะทำ!
“คุณจะฟ้องฉันเรื่องอะไรคะ ฟ้องแค่ฉันอยากจะขอลายเซ็นไอดอลอย่างนั่นเหรอ.?” สาวหน้าใสตาสีน้ำเงินบอกพร้อมยิ้มหวาน หากมันคงเป็นความหวานที่ผสมยาพิษสำหรับคนฟัง มือสวยล้วงหน้ากระดาษกับปากกาออกมาจากกระเป๋าสะพายและส่งให้สาวตัวสูงที่มองกลับมาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“นะคะ อย่าทำหน้าแบบนี้สิ ฉันเป็นแฟนคลับคุณนะ คริสติน”
คริสตินกระพริบตา มองของที่ส่งมาให้อย่างระแวง “แน่ใจนะว่า เธอไม่มีอะไรแอบแฝง.?”
“จะแอบแฝงอะไรล่ะคะ ฉันแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ” คนตัวเล็กกว่าย้อน คว้ามือขาวนิ่มๆอุ่นๆมารับของจากมือตัวเองไป หัวใจเธอแอบเต้นด้วยความดีใจที่ได้สัมผัสกับไอดอลอย่างใกล้ชิดตามลำพัง ถ้าไปบอกใคร ใครจะเชื่อกันเล่า
ยิ่งถ้าเธอบอกว่า คริสติน โมเล่ย์จูบแก้มเธอแบบนั้น..
โอ้..ฉันน่าจะตั้งตัวทัน เอามือถือมาเทคช็อตสักหน่อย ไม่น่าเลย จะจูบก็ไม่บอกกันบ้าง.. เอาไว้คราวหน้าจะไม่ให้พลาดเลย คอยดู..
ว้าว.. นี่เธอยังกล้าคิดถึงคราวหน้าอีกเหรอเนี่ย!
“ตัวเล็กมากเลยนะเธอน่ะ ฉันเชื่อเลยว่า ฉันไม่เคยเห็นสาวญี่ปุ่นที่ไหนตัวใหญ่และสูงขนาดนี้นอกจากนางแบบหรือพวกนักกีฬา หรือเธอเป็นนักกีฬา เธอเล่นกีฬาอะไร บอกหน่อยสิ” คริสตินถามระหว่างตัดสินใจจะแจกลายเซ็นให้คนขอ แล้วอยู่ๆก็ขำตัวเองที่นึกถามเรื่องแปลกๆกับคนแปลกหน้า หากมันก็แปลกกว่าที่หล่อนตอบมาสั้นๆแต่ชัดเจน
“ฉันเป็นนักเทควันโด้ค่ะ” คนตอบกลั้นหัวเราะกับท่าทางตะลึงของคนฟัง หากพยายามเหลือมันแค่รอยยิ้มใสๆ “ไม่ต้องกลัวค่ะ ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอก และฉันก็เลิกเล่นมานานแล้ว มีงานอื่นต้องทำมากกว่า”
“เอ่อ.. โอเค..” ไอดอลคนดังพูดได้แค่นั้น มันรู้สึกเหลือเชื่อจนคิดอะไรไม่ออก ก็ไม่คิดว่า นักเทควันโด้จะหน้าตาดี ดูน่ารักน่าทะนุถนอมขนาดนี้แม้จะตัวสูงผิดจากสาวคนอื่นที่เคยเห็น นางแบบที่เดินด้วยกันบนเวทีกับเธอหลายคนก็ไม่ได้หน้าตาดีอะไร แค่หุ่นดีสวมเสื้อผ้าสวยเท่านั้น พวกนั้นไม่มีรอยยิ้มใสๆที่ดูจริงใจแบบนี้ด้วย แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ
ครบสูตร.?
ใช่แล้ว.. ใครได้เป็นแฟนเธอคงน่าอิจฉา ถ้าไม่โดนขายาวๆเรียวๆของเธอฟาดหน้าเสียก่อนนะ..
“ฉันชื่อ “มิกิ” นะ เซ็นแล้วระบุชื่อไปด้วยค่ะ ฉันจะเอาไปอวดเพื่อน”
คริสตินเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูด หัวใจเธอกระตุกในจังหวะแปลกๆกับรอยยิ้มครั้งนี้ หากยังพยายามกลบเกลื่อน เรื่องอะไรจะบอกใครให้รู้ว่า เธอสนใจสาวมากกว่าหนุ่ม โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงเรื่องแฟนหรือคนมาวอร์มเตียงให้อุ่น..
ว่าแต่..นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีสาวตกถึงท้อง.. ก็ตั้งแต่ที่เธอเลิกเข้าห้องนอนผู้จัดการส่วนตัวล่ะมั้ง...
“เธอชื่อเหมือนคนญี่ปุ่นเลยนะ” พูดแล้วก็เซ็นหยิกๆให้เสร็จแล้วส่งคืนให้เจ้าของมัน ไม่วายใจสั่นเมื่อเห็นรอยยิ้มจากผู้หญิงเจ้าเสน่ห์
ถ้าสักครั้งที่ฉันได้จูบเธอก็คงดี.. รู้ไหม..ปากเธอมันน่า...
“ฉันเป็นลูกครึ่งค่ะ คุณแม่เป็นคนไอริส แต่ฉันเกิดญี่ปุ่นนะ” มิกิชี้แจง เก็บของใส่กระเป๋าสะพายด้วยความดีใจ แต่มันคงจะดีกว่า ถ้าฉันได้...
คิดบางอย่างในใจแล้วก็ล้วงกระเป๋าสะพายอีกครั้ง ดึงกระดาษแผ่นเล็กๆขึ้นมาหนึ่งใบ ยื่นให้สาวตัวสูง “ถึงฉันจะไม่ใช่คนโตเกียว แต่ฉันจบไฮสกูลที่นี่ค่ะ ถ้าอยากเที่ยวล่ะก็ ติดต่อมานะ”
“อย่าบอกนะว่า เธอเป็นไกด์.?” นางแบบสาวถามข้องใจ หากอีกคนส่ายหน้ายิ้มหวาน หล่อนขยับเข้ามาใกล้จนใจเธอเต้นรัว เธอจะห้ามตัวเองได้นานแค่ไหนกัน..
และแล้วบางอย่างที่ไม่คาดฝันแต่แอบฝันอยู่ก็เกิดขึ้น สาวลูกครึ่งเงยหน้าขึ้นจุ๊บปากเธอเบาๆ ก่อนผละออกไปหัวเราะใสๆอย่างน่าตี หล่อนถอยออกห่างเธอไปแล้ว หลังจากที่ขโมยจูบเธอไป...
“รอดูหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้นะคริสติน แล้วคุณจะรู้จักฉัน เจอกันค่ะ”
คริสตินยืนตาค้างระหว่างมองอีกคนหายลับไปกับตา มือขาวยกขึ้นแตะปากตัวเองอย่างเผลอตัว หัวใจเธอเต้นรุนแรง นานมาแล้วที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้
โอ้..อย่าบอกนะว่า ฉันตกหลุมรักสาวแปลกหน้าไปแล้ว...
แย่แล้ว.. ฉันเริ่มเห็นลางของความซวยชัดขึ้นทุกทีแล้วสิ!
......................................................................
มาแล้วค่ะมาแล้ว.. ตามคำเรียกร้อง!!!
เพราะคนเขียนมีงานมากมายล้นมือค่า เลยมาไม่ทันใจคนอ่าน (นิยายมีเยอะ อิอิ)
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านและให้กำลังใจกันนะคะ และสำหรับคนที่ทวงถามมาด้วย จะพยายามมาให้บ่อยๆนะคะ ถ้าไม่คิดงานอื่นเสียก่อน
ส่วนใครที่ลุ้นว่าเรื่องนี้มีกี่คู่ ลองดูกันต่อไปนะคะ บางทีอาจมีมากกว่าสอง มั่วดี อิอิ :07baa27a: :07baa27a:
ป.ล. อ่านแล้วเม้นท์แบบนี้ มีกำลังใจเขียนขึ้นเป็นกองเลยค่ะ ชอบคุณจริงๆ :875328cc: :875328cc: