กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงดังของนาฬิกาปลุกทำให้ผู้คนภายในห้องตกใจตื่น นี่มันเช้าแล้วเหรอนี่ จำได้ว่าพึ่งกลับมาเมื่อกี้เอง ที่นอนยังไม่ทันอุ่นต้องตื่นซะล่ะ เฮ้ย..........นี่ล่ะน้ามนุษย์เงินเดือน แถมเมื่อคืนยังเจอกับยัยบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ปรื้นนนนนน....คือแล้วขนลุก ขออย่าได้เจอกันอีกเลย ครั้งเดียวก็เกินพอ
“ เป็นไงบ้างเรา เมื่อคืนท่าทางหนักไปหน่อยนะพี่ว่า ”
น้ำเสียงห่วยใยผสมผสานกับการเตือนของพี่สาวบ่งบอกให้รุ้ได้เลยว่าตอนนี้พี่สาวเธอไม่ปลื้มซะแล้ว เมื่อรู้ชะตากรรม การขอตัวเพื่อจะไปทำงานจึงเป็นสิ่งที่กีรดาป้องกันตัวเองจากเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อไปไม่อย่างนั้นหูคงชาแน่ๆ เฮ้ย...เพราะยัยบ้านั่นคนเดียวทำให้เธอเกือบถูกด่า ทั้งที่เมื่อคืนตั้งใจจะไปบอกเพื่อนที่โต๊ะว่าจะกลับก่อน แต่ดันนนนไป........ปรื้นนน.....ขนลุกอีกล่ะ นี่ถ้าใครมาอยู่ใกล้เธอตอนนี้คงคิดว่าเธอปวดท้องแน่ๆ
“ ไงกี เมื่อคืนหายไปไหนมา พวกเราตามหากันให้ทั่ว แต่ก็ไม่เจอ ”
เสียงเพื่อนตัวดีของเธอดังมาทักทายแต่ไกล ดูท่าทางอารมณ์ดีจริงนะพวกแก
“ แน่ใจนะว่าพวกแกตามหาฉัน ”
กีรดาเค้นถามออกมา ทั้งที่ในใจมันมีคำตอบอยู่แล้ว พวกนี้ไม่ได้ตามหาเธอแน่ๆ ไม่งั้นคงต้องมาช่วยเธอจากเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้ และความเชื่อนี้ไม่ได้เป็นการคิดไปเองฝ่ายเดียว เพราะหากตามหาจริงก็คงเจอเพราะอะไรนะเหรอ? ก็สถานที่ที่เกิดเรื่องเมื่อคืนมันอยู่มุมทางเลี้ยวเข้าห้องน้ำนี่เอง แม่..รงงงงงง เมื่อคืนไม่คิดจะปวดฉี่สักคนเลยเหรอค่ะคุณเพื่อน ~ ~
“ เอ่อ...มันต้องผิดพลาดแน่ๆเพื่อนฉันว่า แฮ่ๆ ”
เพื่อนตัวดียิ้มออกมาเหมือนเป็นคำตอบของทุกสิ่ง นี่หน้าแกยอมรับแต่ปากแกนี่ยังจะมาแก้ตัวอีก นี่ถ้าไม่ได้คบกันมานานเธอก็คงจะโมโหคนตรงหน้ามากยิ่งกว่านี้ ไม่ได้โมโหที่ทิ้งกันหรอกแต่โมโหที่ดันมานัดไปเที่ยว ทำให้เธอซวย ซวย แล้วก็ซวย ไม่มีอะไรจะซวยขนาดนี้อีกแล้วววววว กีรดาคิดในใจ
“ นี่เธอรู้มั้ยว่าบริษัทของเรากำลังจะมีการเปลื่ยนผู้บริหารคนใหม่ ”
เสียงซุบซิบของพนักงานที่คุยกันเหมือนว่าโลกใบนี้มีแต่เราสองคน เพราะไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องได้ยินกันเป็นแถว
“ จริงดิ เธอไปเอามาจากไหน ”
สีหน้าและน้ำเสียงช่างสอดคล้องกันแทบจะทุกคน แสดงถึงความอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด ทำให้คนที่นำเรื่องมาบอกยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจในความแสนรู้ เฮ้ย!!! ความรอบรู้ของตัวเอง
“ นี่เป็นข่าววงในเชียวนะ รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ ”
พนักงานสาวไม่พูดเปล่าแต่ทำท่าทางที่ทำให้ผู้คนที่พบเห็นอดขำไม่ได้ อยากจะบอกเหลือเกินว่าข่าววงในของคุณเธอมันกลายเป็นวงนอกไปแล้ว ก็คุณเธอทั้งสองเล่นคุยกันเสียงดังขนาดนี้คนบ้าที่ไหนจะไม่ได้ยิน และแล้วการสนทนาที่มีประเดนว่า ผู้บริหารคนใหม่ของโรงแรมแห่งนี้คือบุคคลผู้ใด หญิงหรือชาย แก่หรือหนุ่ม ที่สำคัญพลาดไม่ได้เลยจะว่าเป็นหัวข้อเด็ดเลยก็ว่าได้ ผู้บริหารคนใหม่จะโสดหรือเปล่าน้า......
อันที่จริงกีรดาก็ไม่ได้สนอกสนใจหรอกว่าใครจะเข้าจะออก แต่นี่เล่นถึงกับเปลื่ยนตัวผู้บริหารกันเลย อย่างนี้ไม่ใช่เล่นๆซะแล้ว ดีนะที่ไม่เปลื่ยนพนักงานยกชุดไปพร้อมกับผู้บริหารคนเก่าไม่งั้น เธอแย่แน่ - - แต่ก็อดคิดไปตามที่สองสาวนั้นพูดไม่ได้ ไม่รู้ผู้บริหารคนใหม่จะรู้มั้ยนะว่าพนักงานแถวนี้หลายๆคนตื่นเต้นแทบไม่เป็นอันทำงาน เพราะอยากจะพบตัวเป็นๆของคนที่พวกเธอจะเรียกว่าเจ้านาย นี่ถ้ารู้เข้ามีหวังโดนไล่ออกกันเป็นแถว โทษฐานไม่ทำงานเอาแต่เมาท์ แต่ก็นั้นแหละนะคงจะไม่มีใครใจร้ายขนาดนั้นหรอก แต่เอ๊ะ..มีสิถ้าเป็นยัยนั้น เฮ้ยๆๆๆจะคิดถึงยัยนั้นให้ขนลุกทำไมนะเรา
“ แกไม่สบายหรือเปล่า หนาวหรือว่าปวดท้องหนักห๊าเพื่อน ”
น้ำเสียงห่วงใยของเพื่อนสาวโต๊ะข้างๆดังมาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ ก็เห็นกีรดานั่งขนลุกอยุ่ตั้งนานไปห้องน้ำก็ไม่ไปเธอเลยอดเป็นห่วงไม่ได้จึงได้เอ่ยถามออกมา
“ เปล่าฉันไม่เป็นไร ฉันแค่........ฉันแค่นึกถึงเรื่องที่น่ากลัวต่างหากเลยอดขนลุกไม่ได้ ”
“ โถ ไอ้เราก็คิดว่าเป็นอะไร ว่าแต่ว่ามันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ”
น้ำค้างกลืนน้ำลายลงคอ เรื่องอะไรนะที่ทำให้เพื่อนของเธอขนลุกได้ขนาดนี้
“ แกอยากฟังมั้ยล่ะ ”
กีรดาทำเสียงแหบและสั่นพร้อมกับทำไม้ทำมือเพื่อหลอกคนตรงหน้า ขืนไม่ทำอย่างนี้มีหวังโดนยัยน้ำหลอกล่อให้พูดแน่ๆ ก็คนมันอายนี่นา ปกติไม่เค๊ย ไม่เคยกลัวใคร แต่พอมาเจอกับยัยบ้านั้นก็ถึงกับเข่าอ่อน ทำไรไม่ถูกกันเลยทีเดียว ฮ่าฮ่า นี่หรือกีรดา ช่างน่าสมเพชจริงๆ ฝ่ายน้ำค้างก็คิดไปต่างๆนาๆ จนกลัวและเอ่ยปากบอกกีรดาว่าไม่ต้องเล่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก ไม่งั้นเลิกคบ > < สำเร็จนี่ล่ะจุดอ่อนน้ำค้างที่เธอมักจะดึงมาใช้ประจำหากมีเหตุจำเป็น ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะเพื่อนแต่ฉันก็ต้องทำ ความคิดสำนึกผิดกับสีหน้าที่แอบอมยิ้มออกมามันช่างไม่เข้ากันเลยนะกีรดา ^-^
วันนี้เป็นวันที่ดูที่ทำงานของเธฮคึกคักเป็นพิเศษ พนักงานทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้เจอใครบ้างคนที่ได้มีการพูดถึงเป็นอันดับต้นๆของพนักงานแต่ละคน เพราะหากเดินผ่านกันพวกเธอก็จะขุดเรื่องนี้ออกมาพูดแม้การเดินผ่านกันจะใช้เวลาเดินผ่านแค่ 0.5 วินาทีก็ตาม นี่ล่ะค่ะ ความสามารถพิเศษของพนักงานโรงแรมแห่งนี้ นี่ถ้าเจ้าของโรงแรมรู้คงต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แน่...เคยได้ยินมั้ยน้ำตาไหลขึ้นหน้าผากอะ นั้นล่ะที่เจ้าของโรงแรมที่เป็น - -
“ แหมวันนี้สวยเชียวนะยัยน้ำ ”
กีรดาพูดชมเพื่อนของเธออย่างจริงใจ น้ำค้างเป็นคนสวย คุยเก่ง ยิ้มสวย แต่ทุกอย่างจะดูงดงามอย่างที่เจ้าหล่อนนั่งอยู่กับที่ เพราะหากเธอเดินเมื่อไหร่ บอกได้คำเดียวว่า จ บ ......ไม่มีคำบรรยายต่อ
“ แกก็ใช่ย่อยนะ ไปแอบทำไรมาหรือเปล่า ”
น้ำค้างเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสาวเพื่อนใช้สายตาสำรวจอย่างละเอียด ก็แหม....เมื่อวานเขาพูดกันก็ทำเป็นไม่สนใจแต่พอมาวันนี้ดูเอาเถอะ....เชอะ คนปากไม่ตรงกับใจ
“ ฮ่าฮ่า ก็นะขอนิดหนึ่ง ”
คำตอบขอกีรดาเล่นเอาน้ำค้างหัวเราะก๊ากกกก ออกมาจะให้ว่าอะไรได้ล่ะ กีรดามักเป็นอย่างนี้เสมอ เรียกสั้นๆว่าฟอร์มจัด ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังเหมือนเดิม จนบางครั้งเธอก็คิดว่าไอ้ฟอร์มนี้มันคงไม่มีทางหลุดออกจากตัวกีรดาแน่ๆ
น้ำค้างมองเพื่อนอย่างวิเคราห์ กีรดาเป็นคนน่ารัก ไม่ใช่น่ารักธรรมดานะ น่ารักมาก เรียกได้ว่าใครเห็นก็ต้องมองตามไม่ว่าชายหรือหญิง แต่ติดที่เป็นคนวางฟอร์มจึงยากที่จะมีคนเข้าถึงตัวได้แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ กีรดาซะอย่างไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่เธอก็จัดการได้เสมอ และความเก่งกาจไม่ว่าจะเป็นด้านงานหรือด้านชีวิตส่วนตัวจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
“ แกมองอะไร ”
กีรดาถามออกมาเพราะเห็นคนตรงหน้ามองเธอนานเกินไปแล้ว
“ ก็แหมฉันก็อยากมองอะไรแปลกๆบ้างอะดิ ”
คำตอบของน้ำค้างเล่นเอากีรดาแทบจะหงายหลัง ~ ~
“ยัยบ้าน้ำ นี่เธอกล้าว่าฉันเป็นของแปลกเหรอ ดีวันนี้เธอได้เจอของแปลกอัดแน่ ”
การหยอกล้อของเพื่อนสาวสองคนอยู่ในสายตาของผู้มาใหม่ ที่นี่มันที่ทำงานหรือสนามเด็ดเล่นกันแน่ นี่ล่ะนะที่ทุกอย่างมันต้องเป็นอย่างนี้เพราะคนเก่าบริการไม่ดี แค่เห็นพนักงานก็รู้ได้เลย น่าจะเปลื่ยนทั้งผู้บริหารและพนักงานเลยนะเนื่ย
และก่อนที่เธอจะก้าวขาเพื่อเขาไปต่อหน้า เธอก็ถึงกับหน้าถอดสี ก็จะอะไรซะอีกยัยใบ้เมื่อคืนนี่นา แถมดูสิ หึมมมมมม........คอยดูนะเธอตายแน่!!!.....ผู้มาเยื่ยนคอยๆหันหลังกลับอย่างเงียบๆ
การเรียกประชุมในตอนบ่ายนี้เป็นการเรียกประชุมด่วนที่ไม่ว่าใครติดงานอะไรหรือออกไปทำงานข้างนอกก็ต้องกลับเข้ามา เพราะนี่เป็นการเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ให้พนักงานทุกคนได้รับรู้โดยทั่วกัน
“ มาพร้อมหรือยัง ”
เสียงใสของผู้บริหารคนใหม่ดังขึ้น
“ อีกแป๊บได้มั้ยค่ะ รู้สึกว่ายังมาไม่ครบ “
เสียงตอบกลับมาเล่นเอาอารมณ์ที่ไม่ปกติของเธอแล่นปริ้ดสูงขึ้นไปอีก ใครกันนะที่บังอาจให้เธอรอ นี่คงสบายกันเคยตัวล่ะสิ ดีตั้งแต่นี้ต่อไปพวกเธอเจอของจริงแน่
“ ไม่ต้องรอแล้ว เวลาของฉันมีค่ามากกว่าที่จะมารอ เริ่มเลย”
เสียงออกคำสั่งเด็ดขาดออกมาจากปากได้รูป ทำเอาคนรับคำสั่งสั้น เข่าอ่อนไปหมด ไม่น่าเชื่อเห็นน่าตาสวยๆอย่างนี้...แต่ทำไม....ทำไมน่ากลัวจัง ~ ~
“ สวัสดีค่ะทุกท่านฉันชวิตรา ชัยมหาอัครเศรณี พวกคุณคงพอจะได้ยินเรื่องราวมาบ้าง เอาเป็นว่ายินดีที่ได้ร่วมงานและขอให้คุณทำเต็มที่ เพราะฉันจะคอยมองดูคุณอยู่ ไม่สบายหรอกนะค่ะหากทำงานกับฉัน แต่ก็คิดว่าไม่ยากอะไรสำหรับพวกคุณ จริงมั้ย? ”
โอ้วววว.........นี่หรือคือการทักทายแรกเจอ นี่หรือคือผู้บริหารคนใหม่ มันช่างเป็นประโยคที่สั้นและบั่นทอนกำลังใจจริงๆ พนักงานแต่ละคนคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน และบทสรุปของความคิดของแต่ละคนเหมือนกันคือ จะรอดมั้ยฉันนนนนนนนนนนนนนน > <
แต่สำหรับกีรดาคงไม่รอดเป็นแน่แท้ ความซวยเมื่อคืนคงเป็นแค่น้ำจิ้ม วันนี้สินะคือความซวยที่แท้จริง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากย็น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เข้าอ่อนจนแทบจะพยุงตัวให้ลุกขึ้นไม่ได้ ตอนนี้เธอรับรู้ได้เลยว่าใบหน้าเธอคงจะซีดเป็นไก่ต้มกันเลยทีเดียวก็...............ก็..................ผู้บริหารคนใหม่ของโรงแรมที่เธอทำงานก็คือ ยัยยยยยยยยยยยบ้าเมื่อคืนนนนนนนนนนน แถมสายตาที่คุณเธอส่งมาตอนจบประโยคมันทำให้เธอเย็นวาบไปทั้งตัว ขนลุกอีกแล้วครับท่าน ไม่ได้ปวดห้องน้ำแต่..........................................หนักยิ่งกว่านั้น กีรดาเอ้ยจะทำยังไงดีน้า ฮือๆๆๆๆ > < เขากลัวแล้วน้าตัวเอง ยังมาตามหลอกหลอนเขาอีก ~ ~