Chapter 15 : เธอ และสาวๆสุดที่รัก เวลากลางคืนมาถึงจนได้และงานเลี้ยงฉลองวันคริสมาสต์ก็เริ่มต้นขึ้นที่บ้านแมคคอลลี่ สถานที่ที่เหมาะที่สุดแล้วสำหรับงานเลี้ยงแค่ในครอบครัวและเพื่อนสนิท ความจริงบ้านเธอไม่ได้เล็กเลยนะ หากพอมีคนมารวมตัวกันมากๆกลับกลายเป็นแคบไปเสียได้ ทั้งที่เมื่อก่อนสองแฝดจะวิ่งรอบบ้านทีก็ใช้เวลาหลายนาทีอยู่ แต่คืนนี้พวกเขากลับวิ่งชนคนเสียแล้ว
หรือคนต่างหากที่เยอะเกินกว่าที่สถานที่จะรองรับได้ไหว แต่งานแบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยหรอกน่า ฉันคงไม่ต้องย้ายไปอยู่คฤหาสน์หรอกนะ
ใช่..แค่นี้ก็จะวิ่งตามลูกไม่ไหวแล้ว!
“แอนเดรีย.. อมีเลีย.. อย่าวิ่งลูก เดี๋ยวชนคุณอาคุณลุงแล้วเจ็บตัวนะ!” นิโคลตะโกนบอกลูกสาวฝาแฝดแทรกเสียงเพลงในงานที่ดังน่าดูชม ใครเป็นคนเปิดเพลงเนี่ย ต้องโดนกันหน่อย!
“ราเชล คุณเบาเสียงเพลงหน่อยได้ไหม.? ถ้าไม่ได้ฉันจะไปทำเอง!” หันไปเจอตัวคนคุมเพลงก็ใส่หล่อนไม่ยั้ง ราเชลถึงจะไม่ใช่ประเภทกลัวใครที่ไหน หากหล่อนยังเกรงใจเธอเสมอ หล่อนจึงรีบทำไม้ทำมือขอโทษขอโพยกลับมา เธอพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเข้าไปดึงคอเสื้อด้านหลังของคนบางคนที่เอาแต่เมาน้ำลายกับเพื่อนๆที่มาร่วมงาน ก็นานๆได้เจอกันที เพื่อนสมัยเรียนทั้งนั้น ถึงอย่างนั้นเรื่องคุยจะสำคัญกว่าลูกสาวได้ยังไงล่ะ
"ดาเรน.. ให้ลูกกินอะไรมา ทำไมคึกนักคะ.?”
ดวงตาสีช็อคโกแลตมองหน้าคนถามงงๆ ว่าจะย้อนถามกลับไปว่าทำไมต้องโมโหถึงกับต้องใช้กำลังกับเธอ ดึงคอเสื้อเลยเหรอ.. แต่พอสายตาเห็นสองคนตัวน้อยๆวิ่งอยู่ในสนามหญ้าและมีอีกคนที่ตัวน้อยกว่าพยายามจะวิ่งไล่ตามก็เริ่มจะเข้าใจ และมือที่ดึงคอเสื้อเมื่อครู่ก็กำลังช่วยจัดมันใหม่ให้ เธอจึงเห็นใจหล่อนมากกว่า ท่าทางวันนี้คงเหนื่อยมากเกินไป
“คงเห็นคนเยอะน่ะค่ะ เดี๋ยวจัดการให้นะ อย่าอารมณ์เสียสิ” ดาเรนพยายามยิ้มเอาใจคุณภรรยาที่คิ้วขมวด จากนั้นก็ยกมือสวยๆของหล่อนขึ้นมาจูบเบาๆ คุณแม่ยังสาวค่อยยิ้มออกหน่อย นิโคลยังคงเป็นคนชอบถูกเอาใจอยู่เหมือนเดิม และเธอไม่เคยลืมข้อนี้
“เดี๋ยวมานะคะ นิกกี้ไปพักก่อนก็ได้” ร่างสูงกำลังจะเดินไปทำตามคำสั่ง หากชะงักกับเสียงที่หูได้ยินแทรกเสียงเพลงคริสมาสต์ เสียงนั้นหงุดหงิดและอ่อนใจ..
“ดาเรนรู้ไหม.. วันนี้ฉันอยากตีพวกเค้าจริงๆ”
ดาเรนเดินกลับมาหาภรรยาและดึงหล่อนมากอดปลอบ “พวกเค้ายังเด็กอยู่นะคะนิกกี้”
“รู้ค่ะ แต่ดาเรนเห็นไหม พวกเค้าซนจนเหมือนไม่ใช่ลูกคน” นิโคลบ่นสายตาก็มองตามเด็กๆของเธอที่ยังวิ่งไปวิ่งมารอบสนามหญ้า ทักคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เกรงกลัวใคร
นี่หากไม่ใช่ในบ้านของเธอเอง เธอคงไม่ปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้แน่ กลัวลูกถูกมิจฉาชีพขโมยไปเป็นขอทานหรือส่งออกไปขายนอกประเทศ เหตุการณ์แบบนั้นแม้จะไม่เคยเห็นในเมืองนี้ที่ครอบครัวเธออยู่ แต่แค่ดูในข่าว เห็นมันเกิดขึ้นกับที่อื่นและคนอื่น เธอก็แทบจะใจสลาย ถ้าเป็นฝาแฝดตัวน้อย เธอต้องฆ่าตัวตายแน่นอน พวกเขาเหมือนชีวิตของเธอ
เลือดเนื้อเชื้อไข...
“ถ้าไม่ใช่ลูกคน แล้วคนนี้ใช่คนหรือเปล่าคะ.?”
เสียงหยอกจากคนตรงหน้าพาให้คนอารมณ์หงุดหงิดหันไปหรี่ตามอง อยากจะตอกหน้าหล่อนกลับว่าตัวอารมณ์ไม่ดี หากรอยยิ้มใจดีที่มาพร้อมสายตาเป็นห่วงเป็นใยก็ทำให้ใจอ่อนอย่างทุกครั้ง เธอถอนหายใจปลงๆ
“โอเคค่ะ ฉันยอมแพ้ แต่ดาเรนต้องจับสองแสบนั่นมาให้ได้นะคะ เพราะถ้าขืนเล่นมากๆแบบนี้ คืนนี้ต้องฝันร้ายกันแน่นอน แล้วดาเรนก็รู้นะว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกเค้าฝันร้าย”
นิโคลเลิกคิ้วให้คนฟังที่มองกลับมาอย่างรู้ทันความหมายที่เธอต้องการจะสื่อ ดาเรนรีบพยักหน้าหงึกๆและรีบเดินจากไป แล้วมหกรรมวิ่งไล่จับลูกสาวฝาแฝดของหล่อนก็ทำให้อดหัวเราะไม่ได้ หากเสียงแซวที่แว่วเข้าหูมาก็พาอารมณ์เปลี่ยน
“ฉันดีใจที่เบลล์ไม่เหมือนเธอ”
คุณแม่ลูกแฝดหันไปหาคนแซว เธอกอดอกมองหล่อนหน้านิ่งขณะที่หล่อนยิ้มขี้เล่น ราเชลก็เป็นแบบนี้เสมอ ชอบกวนใจ ขัดจิตแต่ไม่จริงจัง “รู้ไหม.. ฉันอยากบอกเหมือนกันว่า ถ้าดาเรนเป็นแบบคุณ ฉันคงไม่หนีงานแต่งตั้งห้าครั้งกลับมาหา”
“ว้าว.. ฉันเพิ่งได้ฟังเรื่องนี้จากปากเธอเองเลยนะ จริงๆหรือไง.?” สาวจากแดนไกลทำใจกล้าเข้ามาโอบตัวกอดคนที่ตนแซวแม้หล่อนจะเริ่มตาขวาง ยังคิดอยู่ว่าเสน่ห์ของตัวเองพอใช้ได้ มันได้ผลนิโคลยิ้มออกแต่แน่นอนต้องเหน็บคืน
“ฉันเชื่อแอนเดรียแล้วว่าคุณชอบแกล้งเค้า”
“เพราะเค้าน่ารักมากๆไงล่ะ เหมือนเธอ”
คนถูกชมตรงๆส่ายหน้าหัวเราะ “ไม่ต้องมาเอาใจฉันหรอกราเชล เก็บเอาไว้อ้อนเบลล์ดีกว่ามุขนี้” คนโดนย้อนหัวเราะในลำคอก่อนหันไปมองหาภรรยาตัวเอง แอนนาเบลล์ก็กำลังวิ่งไล่จับลูกลิงตัวเล็กๆอยู่เหมือนดาเรน
“อิซซี่ก็ซนเหมือนกันนะเนี่ย”
“ซนน่ะดีแล้ว จะได้พาแม่เค้าออกกำลังกายบ้าง”
“ก็ใช่.. ถูกของคุณ แต่คุณรู้ไหม.. แม่ๆอย่างเรา ต้องเหนื่อยหลายอย่าง มากกว่าที่พวกคุณบรรดาสามีคิด” นิโคลชี้ตามความจริง ผู้หญิงอีกคนทำหน้าราวอยากให้เธออธิบาย “โอ้..ง่ายๆเลยนะราเชล ดูอย่างเบลล์สิ นอกจากจะต้องเอาใจลูกแล้ว เค้าต้องทำอะไรอีก เอาใจคุณด้วยใช่ไหมล่ะ.?”
“ก็ใช่ แต่ฉันก็เอาใจเค้าเหมือนกันนะ” ราเชลเถียงตามประสาคนไม่เคยยอมลงให้ใครง่ายๆ หากคิดหรือว่าอีกคนจะง่ายฟังเธอพูดโดยไม่มีอะไรโต้กลับ
เข้าใจผิดซะล่ะ นั่นคงไม่ใช่นิกกี้...
“แล้วตอนนี้ล่ะ คุณทำอะไรอยู่ในขณะที่เค้าวิ่งไล่จับลูกลิงของคุณ.?” เธอพูดเสียจนคนที่หันไปคว้าเครื่องดื่มที่โต๊ะใกล้ๆมาดื่มแทบสำลัก และตัวเองก็ต้องเป็นธุระเอื้อมมือไปลูบหลังให้ “โทษทีค่ะ แค่ล้อเล่นน่ะ แต่ขอบคุณนะที่มาให้ฉันซ้อมมือ”
“ซ้อมมือ.?” สาวบลอนด์จากนิวยอร์คทำหน้าช็อค แต่กลับเพิ่มเสียงหัวเราะให้อีกคนเสียได้ “โอ้ขำนะ.. เธอทำให้ฉันกลายเป็นโจ๊กเกอร์ไปแล้ว”
“ก็แก้แค้นแทนลูกสาวฉันไง.. จำไม่ได้เหรอราเชล.?” นิโคลพูดขำๆคนที่ถูกเล่นงานเลยไม่รู้สึกว่าตัวถูกแก้แค้นจริง และพวกเธอจึงเดินไปหาที่ว่างที่พอจะนั่งคุยกันได้อย่างสงบจากผู้คนที่มาร่วมงาน ปล่อยให้ดาเรนกับแอนนาเบลล์จัดการกับพวกลูกลิงทั้งหลายกันเอง
“โอเค.. คราวนี้คุณจะบอกความจริงฉันได้หรือยังว่า ทำไมถึงเลือกมาคริสมาสต์ที่นี่ ทั้งที่มันไกลและปราสาทของคุณก็จัดงานใหญ่โตกว่าที่นี่ บ้านหลังเล็กๆของฉัน” ถามเสียตรงประเด็น คนถูกถามเลยยิ้มแห้งๆกลับมา “ราเชล ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าคุณจะบอกว่า ขี้เกียจปั้นหน้าอยู่กับพวกเซเลบด้วยกัน เพราะฉันยังไม่ไปงานที่บ้านฉันที่รัสเซียเลย”
“โอ้ใช่! ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย แล้วแบบนี้ท่านทูตกับคุณหญิงไม่ว่าเหรอ ไม่ใช่แค่เธอนะ แต่หลานรักสองคนไม่ไปหาท่านด้วยน่ะสิ”
นิโคลยิ้มเจื่อนเหมือนโดนสะกิดต่อมเซ้นส์ซิทีฟ เธอเม้มปากส่ายหน้า คนตรงหน้าเลยทำหน้างง “คุณคงไม่เคยเห็นข่าวการต่อต้านพวกเพศที่สามในบ้านเกิดของฉันสินะ”
ราเชลอึ้งไปอีกรอบหากคราวนี้ปรับตัวได้ดี “ก็ได้ยินมาบ้างนะ แค่ลืมคิดไปว่ามันเกี่ยวกับเธอ”
คุณแม่ยังสาวถอนหายใจ ยิ้มบางๆให้คนอยากรู้ที่ยังตั้งหน้าตั้งตารอฟังเรื่องเล่าจากเธอ “เฮ้อ..มันต้องเกี่ยวอยู่แล้วล่ะ”
“เกี่ยวเหรอ.?”
“ใช่สิคะคุณอเมริกัน..” นิโคลพูดเหมือนประชด หากเธอแค่ประชดตัวเองมากกว่า หญิงสาวส่ายหน้าเบื่อๆก่อนเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ลูกแฝดคนหนึ่งวิ่งมาหา เธออุ้มเขาขึ้นจุ๊บปากเบาๆแล้วให้นั่งตัก เด็กน้อยไม่ขัดขืนอะไรกลับนั่งอยู่กับเธออย่างดี ท่าทางอมีเลียจะจนแต้มดาเรนแล้วล่ะสิ ส่วนแอนเดรียโดนอุ้มพาดบ่าปะป๊าเรียบร้อย อิซซาเบลตัวน้อยก็ไม่ต่างกัน กลายเป็นลิงน้อยหมดแรงเกาะอยู่กับบ่าหม่ามี๊แอนนาเบลล์ หมดฤทธิ์ซ่ากันแล้วสินะ
“เธอจะบอกว่า มันเป็นเรื่องระดับชาติแล้วใช่ไหม.?”
คุณแม่หน้าใสพยักหน้า เอาคางเกยศีรษะเล็กๆของเด็กบนตักที่กำลังยื่นมือน้อยๆไปรับของกินเติมพลังจากปะป๊าที่ส่งให้อย่างรู้ใจ จะอะไรเสียอีกล่ะ นอกจากนมกล่อง นมจากเต้ากินตอนนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวมะม๊าโป๊โชว์คนอื่น แถมน้ำนมไม่มีแล้วด้วย พวกหนูโตกันแล้วนะคะลูก!
เพราะเห็นคู่สนทนาอยากฟังจริงจัง เธอทั้งที่ไม่อยากจะพูดถึงก็ต้องยอม เป็นกรณีศึกษาให้หล่อนไง ได้บุญ..
“ก็แบบนี้นะคะราเชล.. อย่างที่คุณก็พอรู้ว่า มันเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวกับการไม่ยอมรับของรัฐบาลที่นั่น ถึงพวกบ้านฉันจะไม่ต้องทำวีซ่าอะไรใหม่ให้ยุ่งยากเพราะดาเรนแต่งงานกับฉันแล้ว อย่างถูกกฎหมาย เด็กๆก็เคยไปที่นั่นตอนที่พวกเค้ายังเล็ก เรื่องเข้าออกประเทศนั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะอิทธิพลของพ่อฉัน แต่สำหรับคนที่นั่น ฉันเคยเห็นสายตาที่พวกเค้ามองพวกฉัน ตั้งแต่ตอนนั้นฉันเลยขอพ่อว่า จะยังไม่ไปบ้านถ้าเด็กๆยังไม่โตพอที่จะเข้าใจอะไรๆ”
“โอ้.. แล้วแบบนี้พวกท่านไม่คิดถึงพวกเธอแย่เหรอ เบบี๋สองคนก็น่ารักน่าฟัดเสียด้วยสิ” ราเชลยิ้มกับเด็กน้อยที่เริ่มเอนตัวจะนอนบนตักของมารดาเขา อมีเลียทำตาปรือเหมือนจะหลับเสียให้ได้ ดูๆไปก็เหมือนกันกับลูกสาวตัวที่กินนมทีไรตาพริ้มทุกที ใช่จริงๆ ตอนนี้อิซซี่ของปั๊บปี๊ก็ทำท่าเหมือนพี่อมีเลียอยู่บนตักหม่ามี๊ที่มานั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆเธอ แค่เปลี่ยนจากนมกล่องเป็นนมขวดเท่านั้นเอง
เฮ้อ..เด็กหนอเด็ก.. ยังไงก็ไร้เดียงสา..
“น่ารักก็ถูกของคุณนะราเชล แต่บางครั้งก็น่าตีเหมือนกัน” นิโคลทำดุแต่ไม่จริงจัง แกล้งตีมือเล็กๆที่เอื้อมมาจับหน้าเธอแปะๆ และเด็กน้อยก็หัวเราะทั้งที่ปากคาหลอดนม ห้ามใจไม่ไหวต้องก้มหอมแก้มนิ่มไปสักที
“น่าตีเหรอนั่น.?” สาวอเมริกันแซว คนถูกแซวหันมาสบตาแต่ไม่สนใจ กลับไปพูดเรื่องที่ถูกถามแทน
“พ่อกับแม่ฉัน ท่านก็เข้าใจแล้วบอกว่า จะมาหาพวกฉันเอง หรือบางทีเราก็นัดกันไปเที่ยวบ้างช่วงที่ว่างตรงกัน แต่ช่วงนี้พ่อฉันกับแม่ไม่ว่าง พวกท่านกำลังเตรียมตัวจะย้ายไปประจำที่อื่น ลุ้นกันอยู่ว่า จะเป็นที่นี่หรือเปล่า..”
คนฟังพยักหน้าเข้าใจขณะจิบเครื่องดื่ม ราเชลกลืนมันลงคอเร็วๆอารามอยากจะเม้าท์เต็มที่ เลยถูกคนมือไวด้านหลังตีแขนไปหนึ่งทีให้ต้องหันไปยิ้มหวานใส่ พอแอนนาเบลล์ส่ายหน้าให้อย่างที่เข้าใจว่าไม่ได้โกรธจริงจังเธอก็หันมาคุยต่อ “พูดถึงเรื่องนี้ มันก็เรื่องใหญ่เหมือนกันนะ สังคมส่วนใหญ่ยังรับไม่ได้”
“ใช่ค่ะ ตอนที่เด็กๆจะไปโรงเรียน ฉันกับดาเรนยังเครียดมากๆ” พูดและเงยหน้าขึ้นสบตาอีกคนที่ยืนข้างๆ ดาเรนยิ้มให้กำลังใจเหมือนรู้ว่า เธอต้องการ ร่างสูงค่อยๆนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆเพราะลูกแฝดคนน้องที่อุ้มอยู่หลับปุ๋ยไปเสียแล้ว แอนเดรียหลับง่ายหลับดายเวลาอยู่กับปะป๊าของเขา
ก็พวกเขารักกันมากๆนี่นะ เหมือนเธอกับอมีเลีย..
ลูกพ่อคน.. ลูกแม่คนหรือไงนะ.?
“แต่โชคดีหน่อยที่ท่านผู้อำนวยการท่านใจดี ไม่มีอคติกับพวกเรา แต่อาจเป็นเพราะท่านเคยจ้างบริษัทพวกฉันทำตึกเรียนใหม่ให้ที่โรงเรียน ท่านเคยเห็นฝาแฝดของฉันมาตั้งแต่เล็กๆ เวลาไปตรวจงานที่ไซต์แล้วเจอสาวๆไปหาปะป๊าพอดี” นิโคลอธิบาย เห็นคนนั่งฟังทั้งคู่มองหน้ากันท่าทางไม่สู้ดีก็พอเข้าใจ สงสัยจะคิดถึงตอนที่ลูกตัวเองจะต้องไปโรงเรียนเหมือนกัน
“ได้ข่าวว่า คุณจะไม่ให้อิซซี่ไปโรงเรียนเหรอราเชล มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่นะ ฉันขอแนะนำ”
“ทำไมล่ะก็....” ราเชลพูดไม่ออก ชำเลืองตามองสาวข้างตัว พบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่มองมาก็รู้แล้วว่า เพื่อนสาวของตนยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพราะอะไร
แอนนาเบลล์ขอร้อง!
“เพราะเราคงอยู่กับลูกไปจนชั่วชีวิตเค้าไม่ได้ ถ้าเราไม่สอนให้เค้าช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยเหลือคนอื่นได้ รู้จักสังคม รู้จักคนที่แตกต่างกัน โตขึ้นเค้าจะลำบากมาก ฉันอยากให้คุณคิดดูให้ดี” คุณแม่ผู้มีประสบการณ์พูดจริงจังเสียจนคนฟังอ้าปากปฏิเสธไม่เป็น เธอหันไปสบตาดาเรนก็พอเข้าใจว่า เรื่องนี้ต้องอาศัยเวลาทำใจ ก็ตอนนั้นกว่าหล่อนจะชินกับการส่งลูกไปโรงเรียนก็ลำบากเหมือนกัน ถึงตอนนี้หล่อนก็ยังอิดออดทุกครั้งเวลาจะพาพวกเขาไปส่ง
เฮ้อ..คนหลงลูกมากๆตรงนี้ก็คงจะพอกันนั่นแหละ..
“เอาเถอะค่ะราเชล.. ฉันก็แค่แนะนำเท่านั้น ที่เหลือก็แล้วแต่คุณกับเบลล์” พูดจบก็อุ้มลูกสาวคนโตที่หลับพับคาอกตัวเองพร้อมยืนขึ้น เตรียมตัวพาเขาไปนอนพร้อมคนน้องที่หลับไม่รู้เรื่องไปนานแล้ว “ขอตัวก่อนนะคะ พาเด็กๆไปนอนแป๊บนึง เดี๋ยวออกมา”
“โอเค.. ตามสบายเถอะ ต้องเอาอิซซี่ไปนอนเหมือนกัน”
“งั้นเดี๋ยวเจอกันค่ะ” หันไปชวนคุณสามีทางสายตา ดาเรนลุกขึ้นเดินนำเข้าบ้านไปก่อน เห็นหล่อนต้องผ่านด่านเพื่อนๆที่เข้ามาดูลูกสาวระหว่างทางเดินเข้าบ้านนั่นก็อมยิ้ม เพราะเดี๋ยวเธอก็จะโดนเหมือนกัน คงต้องเตรียมตัวเก๊กหน้าดุให้ดี เดี๋ยวพวกนั้นจะแกล้งเจ้าตัวแสบตื่น แล้วเธอก็มึนอีกรอบ
เด็กง่วงงอแงอยู่แล้ว แล้วฉันก็จะฆ่าคนที่มาแกล้งเค้าให้หมดเลย!
เธอตั้งใจจะขยับตัวอมีเลียให้อุ้มถนัดขึ้นเพราะเวลาที่เขาหลับน้ำหนักตัวจะมาอยู่ที่เธอคนเดียว หากเสียงบางคนที่ดังขึ้นมาใกล้ๆก็ทำให้หันไปมอง
“ให้ผมช่วยไหม.. ท่าทางจะหนักนะหลานสาวคุณ”
นิโคลยิ้มให้ชายหนุ่มที่ทำเท่ใจดีจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แม้จะเบื่อเล็กน้อยกับคนที่มางานเลี้ยงแต่กลับไม่รู้จักเจ้าของบ้าน ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เขาพูดมาได้ไงว่านี่คือหลานของเธอ หรือว่าฉันสาวเกินกว่าจะมีลูกตัวเท่านี้ล่ะ.?
“ขอบคุณมากค่ะ แต่ไม่เป็นไร ฉันอุ้มเค้าไหว อุ้มมาตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ”
“คุณหมายความว่า.?”
“ลูกสาวฉันค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ สามีรออยู่” คุณแม่ยังสาวตบท้ายคำพูดด้วยรอยยิ้มหวานทรงเสน่ห์ แล้วเดินจากหนุ่มหน้าเหวอไปโดยไม่หันไปมองเขาอีก ถึงอย่างนั้นยังได้ยินเสียงเขาพูดกับเพื่อนเรื่องเธอเหมือนเสียดายที่เธอแต่งงานแล้ว มีลูกแล้วอีกต่างหาก
นิโคลเดินขำหนุ่มคนนั้นมาจนถึงที่ดาเรนรออยู่ในบ้าน หล่อนเลิกคิ้วมองหน้าราวจะถามว่าหัวเราะอะไร เธอก็ยกตัวอมีเลียให้หล่อนอุ้ม ขณะเดียวกันก็เขย่งตัวขึ้นจูบปากหล่อนอย่างไม่สนใจสายตาประชาชีในงานที่อาจจะมองตามมาถึงหน้าประตูเข้าบ้าน รวมถึงหนุ่มที่จะมาขายขนมจีบให้เธอเมื่อครู่ด้วย
แต่นั่นแหละคือสิ่งที่เธอต้องการ...
ที่เธออยากจะประกาศออกไป..
ฉันไม่ไปไหนอีกแล้ว ต่อให้มีราชรถคันหรูหราที่สุดในโลกมาเกย.!
I’m done !
.................................................
ตอนที่ 15 แล้วจ้า.. เหลืออีกห้าตอนเท่านั้นที่จะให้อ่านกันเล่นๆแบบนี้ หวังว่า แฟนคลับเบบี๋ฝาแฝดและสาวๆในเรื่องนี้จะให้การต้อนรับภาคสามนี้กันด้วยนะคะ
คุณมีเวลาอีก 10 วันในการตัดสินใจว่าจะเป็นเจ้าของเรื่องนี้หรือไม่ (เป็นก่อนคนที่ไม่ได้จอง)
หมดเขตจอง วันที่ 15 มกราคมนี้นะคะ กำหนดส่งหนังสือ ปลายเดือนประมาณวันที่ 20 เศษๆค่ะ เผื่อเวลาให้โรงพิมพ์ได้ทำงานนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ในเรื่องนี้ อีกห้าตอนที่เหลือ (แต่ไม่ใช่ตอนจบ) ขอบคุณค่ะ