web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 39
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 23
Total: 23

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ 8  (อ่าน 3453 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
ตอนที่ 8
« เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 18:48:38 »
ตอนที่ 8

   หญิงสาวตัวเล็กยืนสั่นเทาอยู่ข้างเต็นท์ก่อนจะหันไปเห็นภาพบาดตาของภาสกรกับอรวรรณละอองดาวรีบหันหน้าหนีทันทีเพราะเกรงว่าจะไม่สามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้หากยังจ้องคนทั้งคู่อยู่
   “อุ๊ย!”
   ละอองดาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็มีคนเอาผ้ามาคลุมให้หญิงสาวหันไปมองหน้าคนข้างหลังก่อนจะกระชับผ้าให้แน่นขึ้น
   “ขอบใจ”
   รวิกานต์ยิ้มออกมาน้อยๆกับประโยคที่ช่างสวนทางกับใบหน้าที่แสนบูดบึ้งของคนพูดก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็ก
   “ผลักพี่อรลงเขาเลยดีมั้ย”
   “พูดอะไรบ้าๆ”
   “แต่ถ้าทำได้ก็ดีใช่มั้ยล่ะ”
   “ฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น”
   คนตัวเล็กเอ่ยออกมาก่อนจะหันไปมองยังชายหญิงที่ตกเป็นประเด็นในตอนนี้
   “แค่จับมัดแล้วเอาไปทิ้งกลางเขาก็พอตอนเช้าค่อยไปเก็บ”
   คนฟังอึ้งไปชั่วขณะจากนั้นจึงหันไปมองยังเหยื่อที่ถูกกระทำทางความคิดงานนี้ไม่รู้ใครโหดกว่าใครแต่ก็ยังดีที่คนข้างๆยังมีความคิดที่จะไปเก็บอรวรรณกลับตอนเช้า…ใจดีจริงๆ

   และแล้วงานเลี้ยงเล็กๆก็ถูกจัดขึ้นโดยภาสกรเป็นหัวเรือใหญ่เพราะงานที่เร่งรีบและความขยันของทุกคนจึงทำให้งานออกมาดีตรงตามเวลาที่กำหนดเขาจึงอยากจัดงานเลี้ยงให้ได้ผ่อนคลายกันบ้างหลังจากเหน็ดเหนื่อยมานาน
   “เต็มที่เลยนะทุกคนขอบคุณมากที่เต็มที่กับงาน”
   ภาสกรเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับมานั่งโต๊ะของตัวเอง
   “เป็นไงบ้างคะกร”
   อรวรรณเอ่ยถามชายหนุ่มที่เพิ่งเดินมานั่งที่โต๊ะ
   “ก็ดีครับคนงานสนุกสนานกันใหญ่”
   “มีผู้บริหารดีๆแบบนี้ใครได้ทำงานด้วยก็มีความสุขทั้งนั้นแหละค่ะ”
   คนพูดเอื้อมมือไปแตะที่มือชายหนุ่มเบาๆทำเอาภาสกรตกใจอยู่ไม่น้อยแต่เขาก็ไม่ได้ดึงมือออกเพราะเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาทส่วนละอองดาวก็ได้แต่ทำหน้าบูดกับภาพที่เห็นเธอไม่น่าเกิดใจอ่อนเลิกคิดจะจับยัยนี่ไปทิ้งไว้กลางป่าเลยจริงๆ
   “อิจฉาเค้าล่ะสิ”
   เสียงของพรายกระซิบที่นั่งข้างๆทำเอาคนฟังอารมณ์เสียเพิ่มมากขึ้นจนเธอต้องยกแก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นมาดื่มจนหมดทำเอารวิกานต์ถึงกับอ้าปากค้าง…ไม่อยากจะเชื่อสายตา
   “เบาๆหน่อยสิคุณ”
   “เรื่องของฉัน”
   คนตัวเล็กที่เริ่มมีน้ำเสียงเปลี่ยนไปเอ่ยออกมาจนรวิกานต์ต้องยกมือขึ้นโบกผ่านหน้าไปมา
   “นี่กี่นิ้ว”
   “อย่ามาเล่นเป็นเด็ก”
   “ไม่ได้เล่นเอาจริงๆนี่กี่นิ้ว”
   ละอองดาวจับมือที่โบกผ่านหน้าไปมาเอาไว้ก่อนจะหันมาตอบตามที่คนข้างๆถาม
   “ไม่มีซักนิ้ว”
   “ผิด!เมาแล้วจริงๆด้วย”
   “เปล่า”
   “ตาลายจนตอบผิดขนาดนี้ยังจะเถียงอีก”
   “ใครว่าฉันตอบผิด”
   “ก็ตะกี้คุณตอบว่าไม่มีทั้งๆที่ฉันชูตั้ง4นิ้ว”
   รวิกานต์เอ่ยออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นประกอบ
   “ฉันตอบถูก”
   “ยังจะมาเถียงอีก”
   “เห็นมีดหั่นหมูมั้ย”
   คนพูดชี้ไปยังมีดอันใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ๆคนงานกำลังย่างหมูเป็นตัวอยู่จากนั้นจึงหันมาจ้องที่นิ้วมือของคนตัวสูงเท่านั้นแหละรวิกานต์รีบดึงมือไปซ่อนทันทีเพราะพอจะเข้าใจในสิ่งที่คนข้างๆพูดแล้ว
   “ยัยโหด”
   “ว่าอะไรนะ”
   “บอกว่าเหล้านี่ก็อร่อยดีนะ”
   คนพูดยกเหล้าเข้าปากอย่างเร็วก่อนจะสำลักออกมาทันที
   “เด็กน้อย…”
   คนสำลักรีบคว้าน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มก่อนจะหันไปมองคนที่ใช้คำพูดและน้ำเสียงดูถูกเธอ
   “ฉันแค่ไม่ได้ตั้งตัว”
   รวิกานต์แก้ตัวทันทีเมื่ออาการสำลักเริ่มดีขึ้นแต่กลับถูกคนข้างๆทำหน้าล้อเลียนใส่จนเธอต้องยกแก้วที่เป็นต้นเหตุของเรื่องขึ้นมากระดกจนหมดก่อนจะคว่ำแก้วลงอย่างแรง
   “เก่งนะ”
   เป็นประโยคชมเชยแต่คนฟังอย่างรวิกานต์กลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด…เธอว่ามันไม่ใช่คำชมหากแต่มันคือประโยคท้าทายที่อีกคนส่งมาต่างหากแล้วเราจะได้เห็นดีกัน!
   
   อรวรรณนั่งจ้องสองสาวตรงหน้าอยู่นานตั้งแต่ภาสกรเดินไปนั่งพูดคุยกับคนงานแล้วตอนแรกเธอก็ออกจะเซ็งๆที่ต้องแยกกันนั่งกับชายหนุ่มแต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกดีที่เหลือกันเพียงแค่นี้เพราะเธอกำลังคิดทำเรื่องสนุกๆอยู่
   “มองอะไรมิทราบ”
   ละอองดาวเอ่ยถามออกมาเมื่อหันไปเจอกับสายตาที่มองมายังเธอ
   “ฉันแค่อยากทำความรู้จักกับคุณดาวมากขึ้น”
   “แต่ฉันไม่ได้อยากรู้จักเธอ”
   ถ้อยคำของบุคคลที่บอกว่าตัวเองไม่ได้เมาถูกเอ่ยออกมาช่างดูเป็นมิตรไม่มีจิตอาฆาตแม้แต่น้อย,,,ซะที่ไหน!หากแต่รวิกานต์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเท่าที่มองทั้งสองสาวมีรัศมีความอำมหิตพอๆกัน
   “ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรงั้นเรามาดื่มด้วยกันใครเมาก่อนคนนั้นแพ้”
   “ทำไมฉันต้องแข่งกับเธอ”
   “ฉันไม่ได้บังคับถ้าคุณดาวไม่กลัว…ก็ไม่น่าจะปฏิเสธ”
   อรวรรณพูดพร้อมกับยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มจนหมด
   “กานต์ว่าเราน่าจะหาอะไรอย่างอื่นทำดีกว่านะคะ”
   รวิกานต์เอ่ยออกมาพร้อมกับแอบสะกิดคนที่นั่งข้างๆไม่ให้หลงคารมเพื่อนพี่ชายแต่มีหรือที่ละอองดาวจะยอมให้ใครมาท้าทายตัวเองเช่นนี้คราวนี้แหละที่เธอจะสั่งสอนผู้หญิงที่กล้ามาอวดดีกับเธอให้ได้รู้ฤทธิ์เสียบ้าง
   “งั้นฉันไปนอนดีกว่าแถวนี้ไม่มีคนจริง,,,เลยซักคน”
   อรวรรณทิ้งระเบิดอีกหนึ่งลูกก่อนจะทำท่าลุกขึ้น
   “เธอเตรียมกลิ้นลงเขาได้เลย”
   ช่างเป็นประโยคตอบรับที่ทำให้รวิกานต์รู้สึกร้อนๆหนาวๆแบบแปลกๆเธอชักจะกังวลขึ้นมาแล้วล่ะสิ
   
   ภาสกรนั่งฟังคนงานคุยกันอย่างออกรสออกชาติการมานั่งอยู่ตรงนี้ก็เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยให้กับคนที่ทำงานด้วยเขาทำแบบนี้เสมอเพราะการที่ได้ฟังแต่ละคนพูดเรื่องต่างๆมันทำให้เขาสามารถวิเคราะห์ปัญหาของทุกคนได้แต่ครั้งนี้มันต่างจากที่ผ่านมาอาจเพราะหญิงสาวตัวเล็กที่มาด้วยก็เป็นได้ที่ดึงความสนใจของเขาจนตอนนี้ชายหนุ่มไม่มีกระจิตกระใจฟังคนที่พูดสักเท่าไหร่
   ชายหนุ่มแอบชำเลืองมองไปยังโต๊ะที่เขานั่งในตอนแรกมันดูอบอุ่นกว่าที่เขาจากมาเพราะตอนนี้ทั้งสามสาวแทบจะนั่งสิงกันอาจเพราะอากาศหนาวที่เริ่มแผ่ปกคลุมหรือเพราะพูดคุยกันถูกคอเขาก็ไม่อาจจะรู้ได้
   “นายครับ…นาย”
   เสียงเรียกจากหนึ่งในคนงานที่นั่งอยู่ดังขึ้นเมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้านายหนุ่มหันไปมองที่กลุ่มสาวๆตลอดเวลา
   “เป็นอะไรหรือเปล่าครับนาย”
   “ไม่มีอะไร”
   “นายไม่เป็นไรหรอกแค่ตอนนี้ตัวกับใจอยู่คนละที่ก็เท่านั้น”
   พูดจบคนทั้งกลุ่มก็เฮรับกันใหญ่อาจเพราะเครื่องดื่มมึนเมาที่เริ่มออกฤทธิ์ทำให้ความเป็นกันเองเพิ่มมากขึ้นและที่สำคัญพวกเขารู้ดีว่าผู้เป็นนายไม่ถือสาเรื่องแบบนี้
   “นายไปนั่งกับเพื่อนก็ได้นะครับพวกเราอยู่ได้”
   ภาสกรมองหน้าคนพูดก่อนจะหันไปมองกลุ่มสาวๆที่หากเขาเดินเข้าไปตอนนี้ไม่รู้จะกลายเป็นส่วนเกินหรือเปล่าชายหนุ่มหันกลับเข้ามาในกลุ่มพร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ
   “อย่าพูดเรื่องอื่นเลยวันนี้เราควรมาฉลองด้วยกันว่าแต่เหล้านี่แรงจังเลยนะ”
   “เหล้าป่าก็อย่างนี้แหละครับนายถ้าไม่แรงจริงอย่าริอาจใช้ชื่อนี้”
   “ใช่ครับถ้ากินเยอะจะร้อนไปทั้งตัว”
   “ขนาดนั้นเลยเหรอ”
   ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นชนกับทุกคนก่อนจะกระดกจนหมดคืนนี้ยังอีกยาวไกลและเวลาของเขากับละอองดาวก็เพิ่งจะเริ่มเท่านั้นยังมีเวลาที่จะเรียนรู้กันอีกนานเพียงแต่ไม่ใช่เวลานี้เท่านั้น

   กลับมาทางด้านหญิงสาวทั้งสามคนที่ตอนนี้เริ่มพูดคุยเสียงดังกันมากขึ้นโดยเฉพาะละอองดาวกับอรวรรณ
   “เธอนี่คอแข็งเหมือนกันนะเนื่ย”
   อรวรรณพูดออกมาก่อนจะบีบแก้มคนข้างๆอย่างแรง
   “เธอก็ใช่ย่อยนะ”
   คราวนี้เป็นละอองดาวบ้างที่เอ่ยชมพร้อมกับเอื้อมมือไปขยุ้มที่หัวคนที่บีบแก้มเธอสองสาวยื้อกันอยู่นานจนคนที่สามอย่างรวิกานต์ต้องรีบเข้าไปห้าม
   “พอกันได้แล้ว!”
   รวิกานต์เข้าแทรกกลางระหว่างสองสาวอย่างรวดเร็วหญิงสาวยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อหยุดการกระทำของคนทั้งคู่ได้แต่เพียงไม่นานร่างสูงก็ถูกฝ่ามือของคนที่เธอเข้าไปห้ามผลักเธอกระเด็นจนตกเก้าอี้
   “สมน้ำหน้า”
   ละอองดาวพูดออกมาอย่างสะใจก่อนจะหันไปแตะมือกับใครอีกคนที่ร่วมการกระทำในครั้งนี้จากนั้นสองสาวก็ยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มจนหมดและแล้วก็ได้เวลาคนแพ้ซะทีเมื่ออรวรรณเริ่มเกิดอาการโลกหมุนรอบตัวจนในที่สุดก็น็อคสลบไป
   รวิกานต์ลุกขึ้นพร้อมกับเดินเอามือไปเขื่ยคนที่อยู่ๆก็หลับกลางอากาศ
   “ตะ…ตายมั้ยเนื่ย”
   “นึกว่าจะแน่”
   คนตัวเล็กเอ่ยออกมาอย่างสะใจก่อนจะเทน้ำในขวดลงแก้วแต่ไม่รู้ทำไมละอองดาวถึงได้รู้สึกว่าน้ำที่ไหลออกมามันช้ามากจนทำให้เธอหงุดหงิดหญิงสาวตัวเล็กจึงเปลี่ยนจากเทลงแก้วมาเป็นเทเข้าปากแทน
   “บ้ากันไปใหญ่แล้ว”
   รวิกานต์เอ่ยออกมาพร้อมกับเข้าไปแย่งขวดเหล้าในมือของคนตัวเล็ก
   “มาแย่งทำไม”
   ละอองดาวเอื้อมมือไปดึงขวดที่ถูกคนข้างๆแย่งไปหากแต่เธอก็ทำไม่สำเร็จเมื่อรวิกานต์ตัดสินใจยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดขวด
   “เห็นแก่กิน”
   คนตัวเล็กพูดขึ้นก่อนจะลุกเซเล็กน้อยจนรวิกานต์ต้องลุกขึ้นไปประคองแต่มันจะช่วยอะไรได้มากเมื่อเธอก็เมาไม่แตกต่างจากอีกคน
   สองสาวประคับประคองกันไปยังที่พักอย่างทุลักทุเลจนในที่สุดก็สามารถเข้าเต็นท์ได้ซะทีรวิกานต์เช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาก่อนจะค่อยๆถอยเสื้อแขนยาวออก
   “ร้อนชะมัด”
   เป็นเพียงคำบ่นเท่านั้นเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆอากาศถึงได้เปลี่ยนจากหนาวกลายเป็นร้อนได้ขนาดนี้ส่วนหญิงสาวตัวเล็กยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะตอนนี้รู้สึกไม่แตกต่างจากคนตัวสูงหน่ำซ้ำยังมากกว่าหลายเท่า

   ละอองดาวลืมตาตื่นช้าๆพร้อมกับยกมือขึ้นบีบที่ขมับเบาๆท่าทางเช้านี้เธอจะโดนพิษน้ำที่ดื่มเมื่อคืนเล่นงานซะแล้ว
   “ปวดหัวชะมัด”
   หญิงสาวตัวเล็กบ่นออกมาเบาๆพร้อมกับความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งที่เธอเพิ่งจะสัมผัสได้และเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากับร่างกายของตัวเองเธอถึงกับชาไปทั้งตัวเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นนี่คือคำถามเพราะเธอจำไม่ได้เลยแต่อะไรจะสำคัญเท่าตอนนี้…ที่เธอตกอยู่ในอ้อมกอดของรวิกานต์ในสภาพที่เรียกได้ว่าเปลือยเปล่ากันทั้งคู่!







 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.