web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 39
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 18
Total: 18

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ 2  (อ่าน 3420 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
ตอนที่ 2
« เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 19:20:43 »
ตอนที่ 2

   หญิงสาวตัวเล็กเปิดม่านที่หน้าต่างรับแสงอาทิตย์ตอนเช้าอย่างอารมณ์ดีก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับเพื่อนบ้านหนุ่มรูปหล่อที่เธอออกอาการปลื้มมากตั้งแต่เจอกันครั้งแรกถือว่าเป็นโชคดีที่สุดที่เธอได้มาอยู่บ้านหลังนี้และเพื่อไม่ให้เสียเวลาละอองดาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูรัดกุมมากยิ่งขึ้นก่อนจะวิ่งลงไปหาเป้าหมาย
   “ตื่นเช้าจังนะคะคุณกร”
   ภาสกรหันไปส่งยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนเกาะขอบรั้วคุยกับเขา
   “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณดาวก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ”
   ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาอีกคน
   “ก็ยังแพ้คุณกรอยู่ดี”
   ละอองดาวกล่าวออกมาอย่างเขินๆเพราะที่จริงแล้วชายหนุ่มตรงหน้าต่างหากที่ทำให้เธอตาสว่างและมายืนอยู่ตรงนี้
   “แล้วนี่หายไปไหนมาครับไม่เห็นตั้งหลายวัน”
   คนถูกถามยิ้มออกมาอย่างดีใจที่อย่างน้อยชายหนุ่มคนนี้ก็ยังสนใจเธออยู่บ้าง
   “คือดาวไปทำธุระที่กรุงเทพมาน่ะค่ะพอเสร็จปุ๊บก็รีบกลับมาเลย”
   “เหรอครับเมื่อวานผมก็ไปรับน้องที่สนามบินน่าเสียดายถ้ารู้ว่าคุณดาวมาเที่ยวไหนจะได้รับกลับพร้อมกัน”
   “ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่คุณกรนึกถึงกันบ้างก็ขอบคุณแล้ว”
   ภาสกรยิ้มให้กับคนพูดเขารู้สึกได้ถึงความรูสึกดีๆบางอย่างที่ส่งผ่านทางคำพูดและสายตาของผู้หญิงตรงหน้ามันดู…
   “หาตั้งนานมาอยู่นี่เอง”
   เสียงจากบุคคลที่สามแทรกเข้ามาทำให้ชายหนุ่มต้องสลัดความคิดก่อนจะหันไปหาคนพูด
   “มาก็ดีแล้วตัวแสบเดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักเพื่อนบ้านของเรา”
   “ค่ะ”
   “คุณดาวครับนี่ยัยกานต์น้องสาวผมเองกานต์นี่คุณดาวเพื่อนบ้านที่น่ารักของเรา”
   ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน
   “สวัสดีค่ะพี่…”
   รวิกานต์จ้องมองเพื่อนบ้านคนใหม่เหมือนกับไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองส่วนละอองดาวที่กำลังจะเอ่ยประโยคทักทายออกมาก็ถึงกลับกลืนคำทักทายลงคอเพราะเธอไม่อยากเชื่อว่าโลกจะกลมขนาดนี้
   “รู้จักกันมาก่อนเหรอครับ”
   “เปล่าค่ะ”
   หญิงสาวตัวสูงเอ่ยออกมาก่อนจะฉีกยิ้มออกมาแบบเหนือกว่า
   “สวัสดีค่ะพี่ดาวยินดีที่ได้เจอกัน”
   รวิกานต์เอ่ยออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คนหน้าซีด
   “ดีใจจังนะคะที่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ”
   ละอองดาวรีบดึงสติกลับมาก่อนจะยิ้มออกมาบ้าง
   “พี่ก็ดีใจนะคะที่ได้เจอน้องกานต์”
   “เหรอคะ”
   “ที่สุดค่ะ”
   ทั้งๆที่สองสาวจ้องหน้ากันด้วยรอยยิ้มแต่ทำไมชายหนุ่มเพียงคนเดียวถึงได้รู้สึกว่าบรรยากาศมันดูวังเวงยังไงพิกล
   “เย็นนี้เราจะทำบาร์บีคิวหน้าบ้านกันเชิญคุณดาวด้วยนะครับ”   
   ภาสกรพูดส่งท้ายก่อนขอตัวเข้าบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงานส่วนคนที่ถูกชวนก็หน้าบานไปตามระเบียบ
   “คิดจะกินพี่ชายฉันเหรอ…ไม่มีทาง!”
   พูดจบรวิกานต์ก็รีบวิ่งตามพี่ชายเข้าบ้านทันทีเพราะเกรงว่าอาจเกิดอันตรายกับตัวเองได้แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะเลี้ยวเข้าประตูก็ยังไม่วายหันมาแลบลิ้นใส่คนที่ยืนมองมา
   “ยัยเด็กเปรตแล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
   ละอองดาวเดินกระแทกเท้าเข้าบ้านอย่างอารมณ์เสียดูสิเช้าที่แสนจะสดใสของเธอพังทลายเพราะยัยนั่นคนเดียว…ไม่น่า เลยเป็นเพราะเธอลืมกรวดน้ำหรือเปล่านะถึงได้ตามมาหลอกกันถึงที่นี่หน่ำซ้ำยังได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของคนที่เธอชอบอีก…แย่ที่สุด!
   และแล้วก็ได้เวลาแห่งความอร่อยรวิกานต์ยิ้มให้กับมารดาที่กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมของอยู่หน้าบ้านหญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะเข้าไปกอดแบบอ้อนๆ
   “เป็นอะไรอีกล่ะลูกคนนี้”
   “กำลังอ้อนแม่อยู่ไงคะ”
   “โตแล้วนะเรา”
   “แล้วอ้อนไม่ได้เหรอคะ”
   “ได้ถ้าไม่อายแขก”
   รวิกานต์มองตามสายตาของคนพูดเธอก็พบว่าตอนนี้ไม่ได้มีตัวเองกับมารดาเท่านั้นแต่มีแขกที่ได้รับเชิญจากพี่ชายของเธอมายืนทำหน้าระรื่นอยู่ด้วยหญิงสาวรีบเด้งตัวออกก่อนจะรีบเก๊ก
   “ไม่ทันแล้วมั้งจ๊ะ”
   ศศิวิมลเอ่ยแซวบุตรสาวก่อนจะเดินยิ้มเข้าบ้านไปหาของมาเพิ่ม
   “แม่อะ”
   ละอองดาวเดินอมยิ้มเข้ามาใกล้คนขี้อ้อนก่อนจะส่งสายตาเชิงล้อเลียนไปหาอีกฝ่าย
   “มีปัญหาอะไร”
   “เปล่าจ่ะพี่ดาวไม่มี้ไม่มีปัญหา”
   รวิกานต์เบะปากใส่คนที่พูดกวนอารมณ์ตัวเองก่อนจะหันไปยิ้มให้กับภาพคนสองคนที่กำลังเดินมาทางเธอคนตัวสูงสะกิดคนข้างๆเบาๆ
   “มีอะไร!”
   “ทำไมต้องดุด้วยล่ะคะแค่จะบอกว่ากานต์ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่คนที่มีน่าจะเป็นคนอื่นมากกว่า”
   รอยยิ้มแกมเยาะเย้ยบวกกับสายตาที่บ่งบอกถึงความสะใจของคนพูดทำเอาคนตัวเล็กมองอย่างไม่เข้าใจ
   “ไงครับสาวๆ”
   เสียงทักทายมาแต่ไกลทำให้ละอองดาวต้องรีบหันไปส่งยิ้มหวานให้แก่ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงแต่เพียงไม่นานเพราะเธอเพิ่งสังเกตเห็นใครบางคนที่เดินตามเข้ามาด้วย
   “ตัวจริงเค้ามาแล้วสวยด้วยสิ”
   รวิกานต์เอ่ยออกมาเสียงเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันเพียงสองคนก่อนจะเดินชนคนที่ยืนอึ้งอยู่ให้เซไปอยู่ข้างทาง
   ละอองดาวมองตามหลังคนพูด…ที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายกับการที่ผู้หญิงคนนั้นจะเดินตามคนที่เธอชอบมาในบ้านแต่อารมณ์มันจะขึ้นก็เพราะไอ้คนที่เพิ่งเดินไปนี่แหละ….คอยดูนะเราจะได้เห็นดีกัน!

   เสียงหัวเราะของคนในโต๊ะดังมาเป็นระยะๆได้ข่าวว่าวันนี้จัดเพื่อต้อนรับเธอกลับบ้านไม่ใช่เหรอแต่ทำไมคนสำคัญของงานถึงต้องมายืนปิ้งบาร์บีคิวหน้าดำอยู่นี่
   “ไม่ไปกินด้วยกันอะ”
   ภาสกรเดินเข้ามาตบไหล่น้องสาวเบาๆก่อนจะส่งยิ้มพร้อมกับโบกมือไปให้สาวๆที่โต๊ะ
   “ฮอทเหลือเกินนะพี่ชาย”
   “ไม่ใช่ซะหน่อย”
   “ปากไม่ตรงกับใจ”
   “เป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้หรอกว่าผู้ใหญ่เค้าคิดอะไรกัน”
   ชายหนุ่มเอื้อมมือไปขยี้หัวคนอวดรู้ก่อนจะหยิบบาร์บีคิวใส่จาน
   “บริการดีอย่างนี้สิน๊า…”
   “ยังไม่ยอมหยุดอีกนะปิ้งเร็วๆจะได้มานั่งคุยกัน”
   ภาสกรแกล้งทำเป็นดุคนพูดมากเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเองก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะนั่ง
   “น่าทานจังเลยนะคะ”
   รษาเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มที่คนมองอย่างละอองดาวไม่แน่ใจว่าคนพูดหมายถึงบาร์บีคิวหรือคนที่ถือจานกันแน่
   “น่ากินนะคะคุณดาว”
   ละอองดาวยิ้มรับแทบไม่ทันไม่คิดว่าคนที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาไม่เป็นมิตรจู่ๆจะหันมาชวนคุย
   “ว่าไงคะน่ากินหรือเปล่า”
   “น่ากินค่ะ”
   ภาสกรหันมองหน้าเพื่อนสาวสลับกับเพื่อนบ้านอย่างไม่เข้าใจในอาการของคนทั้งคู่
   “น่ากินก็ลงมือได้แล้วนะครับมีอีกเยอะไม่ต้องแย่งกัน”
   ชายหนุ่มเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริงทำให้ทั้งสองสาวหัวเราะออกมาพร้อมๆกันก่อนจะหันมาสนใจบาร์บีคิวในจานแทน

   รวิกานต์เดินถือบาร์บีคิวมาวางที่โต๊ะก่อนจะชายตาแลไปยังที่นั่งของตัวเอง
   “นั่งสิคะน้องกานต์เหนื่อยแย่เลย”
   น้ำเสียงที่แสดงความห่วงใยของละอองดาวดังขึ้นหากแต่ใครจะรู้ว่าใบหน้าที่หันมาหาเธอมันนางมารพันปีชัดๆ
   “พ่อกับแม่ล่ะพี่กร”
   “ขึ้นไปนอนแล้ว”
   “อ่าว…ได้ไงกัน”
   รวิกานต์โวยวายออกมาอย่างไม่จริงจังนัก
   “มันดึกแล้วนี่ไงเรายังมีเพื่อนนั่งอีกตั้งหลายคน”
   ชายหนุ่มหันไปส่งยิ้มให้กับสองสาวที่นั่งขนาบข้างเขาส่วนรวิกานต์ก็ได้แต่แอบถอนหายใจเบาๆที่พี่ชายเธอพูดก็มีถูกอยู่บ้างแต่แค่ส่วนน้อยเพราะเหตุผลที่ทั้งสองสาวนั่งทนให้ยุงกินเลือดแบบนี้ไม่ใช่เพื่อเธอซักหน่อย
   
   “คุณดาวทำงานอะไรคะ”
   อยู่ๆรษาก็ถามฝ่าความเงียบเข้ามาเธอคิดว่าตัวเองสมควรจะรู้ข้อมูลคู่แข่งหัวใจไว้บ้างและตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีที่สุด
   ละอองดาวหันไปสบตาคนถามก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ
   “ฉันทำเกี่ยวกับรีสอร์ทคะ”
   “ออ…น่าตาสวยๆแบบนี้ษาว่าทำตำแหน่งเกี่ยวกับต้อนรับหรือเปล่าคะท่าทางลูกค้าน่าจะชอบ”
   คนฟังหัวเราะออกมาน้อยๆหากตอนนี้ไม่มีภาสกรนั่งอยู่ข้างๆเธอคงจะเอาบาร์บีคิวในจานโปะหน้ายัยนี่ไปแล้ว   
   “ว่าไงล่ะคะ”
   “ก็ทำอยู่ด้วยค่ะทำหลายอย่างเลยไม่รู้ว่าอยู่ตำแหน่งอะไร”
   “โถ…น่าสงสารนะคะตำแหน่งจับฉ่ายแบบนั้น”
   “ไม่นิคะฉันว่าสนุกดีออกไม่ซ้ำซากจำเจจริงมั้ยคะคุณกร”
   ละอองดาวหันไปยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งทำหน้า     เอ๋ออยู่ข้างๆ
   “เอ่อ…ครับ”
   “เห็นมั้ยล่ะคะคุณกรเค้าก็ชอบ”
   คนพูดหันมาจิกตาใส่หญิงสาวที่หาเรื่องเธอแน่มาจากไหนกล้ามาลองดีกับละอองดาวคนนี้…
   รษาจ้องมองคนที่ส่งสายตามาหาเธออย่างท้าทายแบบนี้มันหมายถึงการประกาศตัวเป็นศัตรูชัดๆ…ก็ดีเธอจะได้ตั้งรับถูกหญิงสาวมองน้ำที่อยู่ข้างมือของตัวเองก่อนจะแกล้งปัดให้หกลงกระโปรง
   “อุ๊ย!เปียกหมดเลย”
ภาสกรรีบหยิบทิชชูส่งให้เพื่อนสาว
“เป็นไงบ้างษา”
“เปียกหมดเลยกรพาษาไปทำความสะอาดในห้องน้ำหน่อยสิ”
รษาพูดพร้อมกับลุกไปคว้ามือชายหนุ่มที่ยังนั่งลังเลเข้าไปในบ้านละอองดาวส่ายหัวให้กับการกระทำที่จงใจของคู่แข่งเธอ
“แรงจริงแม่คนนี้”
“อิจฉาเค้าอะดิ”
รวิกานต์ละสายตาจากคนที่เพิ่งเข้าบ้านไปก่อนจะหันมาหาคนที่นั่งข้างๆ
“ไม่มีทาง”
“แต่ทำไมตาคุณมีไฟล่ะ”
“นี่!...อย่ามาหาเรื่องไม่สงสารพี่ชายของตัวเองหรือไง”
คนฟังทำท่าคิดนิดๆก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ
“ก็สงสารอะนะแต่ดีกว่าได้พี่สะใภ้ชื่อละอองดาว”
รวิกานต์พูดจบก็เดินเข้าบ้านทันทีปาร์ตี้บาร์บีคิวสำหรับเธอมันจบลงแล้วและคงไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องมานั่งบริจาคเลือดให้ยุงพร้อมกับคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้า
ส่วนทางด้านละอองดาวแทบอยากจะวิ่งไปกระชากคอเด็กปากเก่งมาอัดสักทีสองทีเพื่อระบายอารมณ์แต่ตอนนี้เธอทำได้เพียงท่องขันติ…ขันติพร้อมกับเดินกลับบ้านเท่านั้นเพราะยัยเด็กนั่นมียันต์คุ้มภัยอย่างดีแต่ซักวัน…ต้องมีซักวันที่เป็นวันของเธอบ้างคอยดู!





 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.