“ดะ…เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน” สิตางค์ยกมือขึ้นห้ามคนตัวสูงที่กำลังเดินเข้ามาประชิดตัวของเธอ ใบหน้าขาวๆเริ่มแดงเป็นลูกตำลึงและมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกประหม่า
“คะ..คือ เมื่อคืนฉันพูดเล่นนะ ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ ไปสระที่ร้านก็ได้”
แต่เหมือนคนตัวสูงตีหน้าเฉย ไม่ฟังคำทัดทานใดๆ แถมยังเดินเข้ามาใกล้จนร่างบางถอยร่นไปจนชิดกำแพงอีกฝั่ง
“ไม่ได้ๆ สัญญาต้องเป็นสัญญาสิ”
จะมารักษาสัญญาอะไรกันนักหนานะ เรื่องนี้ปล่อยผ่านไปเลยก็ได้นะคะบอส
และไม่ว่ายังไงจะเลี่ยงไปทาง..อลิซเบซยังยืนยันที่จะรับผิดชอบตามที่เธอขอให้ทำเมื่อคืนก่อน
“งั้นๆ..เอาอย่างนี้ ฉันขออาบน้ำแปรงฟันก่อน เสร็จแล้วจะบอกให้คุณมาสระผมให้ ตามนี้นะคะ”
สิตางค์พยายามต่อรอง ดันหลังคนตัวสูงให้ออกไปจากห้องน้ำโดยไม่รอคำตอบใดๆ
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างโล่งอกเมื่อประตูถูกปิดลง หันหลังกลับมาอย่างเร็วเพื่อทำตามที่บอกแต่สายตาของเธอกลับสะดุดตากับบางสิ่งที่วางข้างๆอ่างล้างหน้า
แปรงสีฟันของเธอถูกบีบยาสีฟันไว้แล้วเรียบร้อย รอเพียงเธอหยิบมันเข้าปากเพื่อทำความสะอาดเท่านั้น
นี่ก็เป็นสิ่งเล็กๆที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของคู่รัก อย่างที่เพื่อนๆของเธอเคยบอกไว้
และถึงแม้ว่า ความรัก ของคนในสมัยปัจจุบัน จะเปิดกว้าง ไม่มีคำว่า เพศ หรือ วัย มากั้นขวางไว้ แต่ อลิซเบซ ก็เป็นผู้หญิงที่เธอไม่สมควรจะยุ่งเกี่ยวด้วยในฐานะใดๆนอกเสียจาก..
เจ้านาย ลูกน้อง รวมถึงการเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น
แต่การกระทำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันที่อยู่ตรงหน้า การเสนอตัวรับผิดชอบคำพูดด้วยการสระผมแม้ว่าเธอจะปฏิเสธ รวมถึงการเข้ามาปลอบโลมในขณะที่แพทย์เวรทำแผลให้เธอที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
สิ่งที่ต่างๆเหล่านี้อดทำให้เธอหยุดความหวั่นไหวไม่ได้จริงๆ
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตู ทำให้สิตางค์สะดุ้งโหยง ความคิดที่หลุดลอยในภวังค์กลับมาสู่สภาวะปกติ
“เป็นอะไรหรือเปล่า? เข้าไปตั้งนานแล้วยังไม่เห็นได้ยินเสียงเปิดน้ำเลย” สาวหล่อที่อยู่หน้าห้องน้ำตะโกนถามคนข้างในด้วยน้ำเสียงที่เจือความกังวล
“อ๋อ..เอ่อ..เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร รอสักครู่นะคะ”
สิตางค์รีบจัดการตัวเองตามที่ได้บอกคนร่างสูงที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำด้วยเวลาไม่ถึงสิบนาที เปิดรับคนร่างสูงที่มองเธอด้วยท่าทางขำๆ
แค่การสวมเสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น แต่ผ้าขนหนูผืนยาวยังถูกนำมาบังช่วงอกของเธอจนมิดไม่เห็นแม้กระทั่งลำคอ
“ให้ฉันสระผมให้ไม่ต้องปิดขนาดนี้เลย ราบเรียบอย่างกับไม้กระดานขนาดนี้ยังไม่เห็นมีอะไรหน้าอายสักหน่อย”
สิตางค์ก้มมองตัวเองก่อนเงยหน้าอย่างเร็วก่อนเหวี่ยงค้อนมองคนตรงหน้าประตูด้วยความไม่พอใจ
ก็พอมีย่ะ..หนอยแน่ะ! เปรียบเทียบฉันกับไม้กระดานแบบนี้มันเกินไปนะ
“แล้วไหนล่ะ จะสระผมให้ฉันตรงไหน?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด มองตามที่สาวหล่อชี้และเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าอ่างอาบน้ำ
“ทำตัวตามสบายนะคะคุณผู้หญิง” อลิซเบซโน้มศีรษะของสิตางค์ให้มาข้างหลัง แปรงผมดำเงาที่สยายด้วยหวีซี่ห่างเพื่อให้ผมเส้นที่ไม่แข็งแรงรวมถึงสิ่งสกปรกหลุดออกมาก่อนชำระด้วยน้ำอุ่น
สิบนิ้วค่อยๆขยี้บนศีรษะของสิตางค์อย่างเบามือ นวดเบาๆในขณะที่เทชมพูชะโลมเส้นผมจนทั่ว กระกระทำของอลิซเบซทำให้หญิงสาวหลับตาพริ้ม รู้สึกสบายไม่แตกต่างจากการไปใช้บริการที่ซาลอน
“เป็นไงบ้างคะ..สบายหัวขึ้นหรือยัง?” อลิซเบซก้มหน้าลงเข้าไปใกล้สาวร่างเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สิตางค์ลืมตาช้าๆ เงยหน้ามองคนตัวสูงที่กำลังรอคำตอบ
“มากอ่ะ” คนตัวเล็กลากเสียงยาวด้วยน้ำเสียงร่าเริงในขณะที่คนตัวสูงที่ยืนยิ้มกับคำตอบของเธอ
“ขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
ยิ่งคนคนตัวเล็กพยักหน้ารับคนตัวสูงกลับยิ้มกว้าง คนตัวเล็กดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อครู่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังเหนียมอายและอิดออดไม่ยอมให้เข้าใกล้ด้วยซ้ำ
“นี่ถ้าตกงาน ไปรับจ๊อบเป็นช่างสระผมได้เลยนะคะเนี่ย ฝีมือดีมากๆ”
“ไม่ดีกว่า...ขอฉันถ่ายรูปไปจนกว่าจะกดชัตเตอร์ไม่ได้ ของแบบนี้มันต้องเก็บไว้ทำให้กับ ... คนพิเศษ เท่านั้นค่ะ”
สิตางค์เหลือบตามมองคนร่างสูงที่ส่งยิ้มและยืนนวดศีรษะให้เธอด้วยคอนดิชันเนอร์
นี่เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม..จะต้องเป็นคนพิเศษเท่านั้นใช่ไหมถึงจะได้การกระทำแบบนี้จากเจ้านายของเธออย่างงั้นเหรอ?
ไม่หรอก นี่มันคนละเรื่องกัน คิดมากไม่เข้าเรื่องเลยนะสิตางค์
“อย่าเพิ่งมองกัน หลับตาก่อนนะเดี๋ยวน้ำเข้าตาฉันกำลังจะล้างครีมนวดผมแล้ว”
สาวหล่อบอกคนที่นอนเงยหน้าก่อนจะเปิดน้ำเย็นจากที่ไหลจากฝักบัวถูกรดลงบนศีรษะจนเส้นผมที่เปื้อนฟองสะอาดหมดจดและผ้าขนหนูที่สาวหล่อถูกพาดไว้บนบ่าก็ถูกนำมาห่อผมและซับน้ำให้กับหญิงสาว
“พอแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ที่เหลือเดี๋ยวฉันทำเอง”
สิตางค์รีบลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้งโดยไม่รอคนร่างสูง ปลดผ้าที่ถูกอลิซเบซห่อผ้าไว้แล้วซับน้ำที่เปียกชุ่มบนเส้นผมด้วยมือเพียงข้างอย่างทุลักทุเล
อลิซเบซเดินเข้ามาใกล้ แย่งผ้าที่อยู่ในมือของคนตัวเล็กไปแล้วทำหน้าที่เช็ดผมให้เธอแทน
“ให้ฉันทำให้ดีกว่านะ ผมจะได้แห้งไวไว เสร็จแล้วเราจะได้ไปหาอะไรทานกัน”
“นั่นซิ..จะสิบเอ็ดโมงแล้วนี่ ขอโทษนะคะที่ตื่นสายเลยไม่ทันหาอะไรให้คุณทานในตอนเช้าเลย”
“ไม่เป็นไรน่ะ อย่า! คิดมาก วันนี้ไม่ต้องทำอะไรนะ ไหนๆได้หยุดแล้ว เราไปหาอะไรนอกบ้านทานกันเถอะ”
ใช้เวลาไม่นานนัก ผมที่เปียกชุ่มเมื่อครู่ก็แห้งหมาด สิตางค์รีบแต่งตัวด้วยเสื้อเปิดไหล่แขนระบายสีม่วง สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นและรีบลงมาหาผู้เป็นนายที่นั่งรอ ดูทีวีรอคอยเธออยู่ที่ห้องรับแขกด้านล่าง
“ถ้าทานอาหารเสร็จแล้ว คุณอยากไปไหนต่อไหม?” สิตางค์เอ่ยถามสาวหล่อที่รับหน้าที่เป็นสารถีให้เมื่อมือของเธอยังเจ็บและถูกพันแผลจากคุณหมอตั้งแต่เมื่อคืน
“ยังไม่รู้เลย ตอนนี้ขอหาอะไรลงท้องก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันค่ะ”
สาวหล่อขับรถไปเรื่อยๆ ทั้งสองเลือกที่จะรับประทานที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก ต่างฝ่ายต่างสั่งอาหารจานเดียวเพื่อประทังความหิวจนเต็มกระเพาะ พอที่จะมีแรงออกเดินทางได้อีกครั้ง
“คิดออกหรือยังคะว่าจะไปไหนต่อ ฉันจะได้แนะนำถูก”
“อยากไปทะเลค่ะ” อลิซเบซยิ้ม บอกความต้องการของตนกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“งั้นเราไปพัทยากันดีไหม ? ใช้เวลาเดินทางไม่นานด้วยไปตอนนี้แล้วกลับเย็นๆคุณจะได้ไม่เหนื่อยมาก”
“สมัยตอนเด็กๆแม่กับพ่อเคยฉันพาไปแล้วค่ะแต่ไม่ติดใจเท่าไหร่ ฉันชอบทะเลที่เงียบๆ ไม่วุ่นวาย มีวิวสวยๆสบายตาให้มอง ให้น่าถ่ายรูป พอจะมีที่ไหนแนะนำไหมคะ?”
“ถ้าใกล้ๆกรุงเทพฯแบบนี้ก็มีนะคะ..แต่ขอเป็นวันอื่นได้ไหม ถ้าไปวันนี้คงไม่ทันแล้ว”
“เสียดายจังนะ” สาวหล่อทำหน้าเศร้า ในขณะที่คนตรงหน้าพยายามซักถามเพิ่มเติม
บางทีอาจจะเสนอทางเลือกที่หวังว่าพอจะชดเชยความรู้สึกของคนตัวสูงได้บ้างล่ะนะ
“แล้วมีที่ไหนที่อยากไปอีกไหมคะ?”
“จำได้ว่าเป็นสองที่ที่แม่ชอบฉันไป ไม่ทะเลก็สวนสนุก..ถ้าไม่ได้ไปทะเล งั้นขอเป็นสวนสนุกได้ไหมคะ?”
หญิงสาวชำเลืองมองที่นาฬิกาก่อนจะหันไปหาคนร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
“งั้นได้เลยค่ะ ยังพอมีเวลา งั้นเรารีบเช็คบิลแล้วไปที่นั่นกันเถอะนะคะ”
ทะเลกรุงเทพฯ คือสวนสนุกและสวนน้ำย่านมีนบุรี ที่สิตางค์เลือกจะพาอลิซเบซมาเมื่อถูกร้องขอ
แม้ผู้เป็นนายจะไม่ได้แสดงท่าทางดีใจ แต่สิตางค์ก็รับรู้ได้ว่า คนข้างๆของเธอมีความสุขเพียงใดเมื่อมองสถานที่ตรงหน้า ที่เพิ่งมาถึงในเวลาบ่ายๆโมงเศษและสภาพอากาศที่ไม่ร้อนอบอ้าวมากนัก
ไม่เพียงแต่ใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม แต่ดวงตาของอลิซเบซภายใต้แว่นตากันแดดเลนส์สีชากรอบทองก็บ่งบอกให้หญิงสาวรู้สึกได้เช่นนั้น
“แฮปปี้เชียวน้า” สิตางค์หันไปมองคนตัวสูงที่เดินข้างกาย พร้อมกับยกกล้องตัวเก่งขึ้นสะพายไว้ที่บ่าข้างขวา
“อาจจะเป็นเพราะว่า การที่ได้กลับมาที่แบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้ๆกับพ่อและแม่อีกครั้งมั้งคะ?” สาวหล่อก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ หันมาหาและถามเธอกลับบ้าง
“แล้วคุณล่ะ ชอบมาสวนสนุกไหม?”
“เฉยๆนะคะ ฉันอาจจะเลยวัยที่จะต้องมาในที่แบบนี้แล้วมั้ง”
“อะไรกัน หน้ายังเด็กอยู่เลย พูดซะตัวเองแก่แล้วอย่างนั้นแหละ” สาวหล่อส่งเสียงแซวคนตัวเล็กที่แอบเขินเบาๆเมื่อถูกชมว่าใบหน้าของเธอยังดูเยาว์วัย
“แล้วเวลาว่างคุณชอบไปที่ไหนเหรอคะ?”
“ไม่มีที่ไหนเป็นพิเศษหรอกค่ะ ฉันไปได้ทุกที่เลย แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ไป ว่างเมื่อไหร่ก็จะหมดเวลาไปกับการนอนแล้วก็นอน อีกอย่างเวลาที่ฉันว่างเพื่อนก็จะว่างไม่ค่อยตรงกัน เลยไม่ค่อยได้ไปไหนสักเท่าไหร่ ”
“งั้น..ถ้าวันหลังคุณอยากไปเที่ยวที่ไหนก็บอกได้เลยนะ ฉันจะไปกับคุณในทุกๆที่ที่คุณอยากไปเลย ตกลงไหม?”
แต่สิตางค์มองข้างหน้าด้วยความเศร้า ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงใดๆเพื่อตอบรับ ทั้งๆที่เธอเองก็อยากจะทำเช่นนั้น
เคยมีคนบอกว่า หากไม่อยากผิดหวังก็อย่า! คาดหวัง
ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะไม่อยากสัญญาอะไรทั้งสิ้น คงเป็นเพราะคำตอบที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าในอนาคต คนข้างๆเธอต้องหายออกไปจากชีวิตของเธอเพื่อเริ่มต้นใหม่กับผู้ชายที่ผู้เป็นตากำหนดเอาไว้
ถึงแม้จะยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่อลิซเบซคงต้องใช้เวลากับคนของเธอมากกว่าใครๆทั้งหมด
สิตางค์เลี่ยงประเด็นนั้นเป็นการยิ้มเจื่อนๆ ถือโอกาสนั้นเดินนำตรงไปที่หน้าช่องขายตั๋วและบัตรเครื่องเล่นพร้อมบอกคนร่างสูงให้มาไปยืนรอบริเวณหน้าประตูทางเข้า
เธอเดินกลับมาพร้อมตั๋วสองใบพร้อมแถบริบบิ้นสำหรับผูกข้อมือยื่นให้กับผู้เป็นนาย เพื่อเข้ารับบริการในสวนน้ำและสามารถเลือกเล่นเครื่องเล่นอื่นๆในสวนสนุกได้ตามอัธยาศัย
“เราเข้าไปกันเลยนะคะ” สิตางค์ทำท่าจะเดินนำเข้าไป แต่กลับต้องหยุดและเหลียวกลับมามองคนข้างหลังที่ยังยืนอยู่กับที่ ปล่อยให้เธอเดินนำไปก่อนจนเนิ่นนาน
กล้องถ่ายรูปความเร็วสูงถ่ายภาพคนของสิตางค์ไว้ได้ ในสภาพที่เธอไม่ได้ตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง
“อีกแล้วนะ!” สาวร่างบางยกมือข้างซ้ายท้าวเอวบางของเธอ หน้งอแสดงออกถึงความไม่พอใจ แต่เมื่อเดินเข้ามาดูภาพที่ถูกแอบถ่ายภาพในจอสี่เหลี่ยมใกล้ๆ หญิงสาวกลับเปลี่ยนทีท่า
จากหน้าบึ้งตึง กลับเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มภายในไม่กี่วินาที
“ถูกแอบถ่ายเป็นครั้งที่สองแล้ว..นี่ยังไม่เชื่อฝีมือฉันอีกเหรอคะ?”
“ก็คนมันตกใจนี่ แล้วส่วนใหญ่ รูปที่ถูกแอบถ่ายของฉันมักจะออกมาดูไม่ได้สักรูป”
“นั่นมันคนอื่น ไม่ใช่ฉันนี่คะ..อะไรก็ตามที่ฉันตัดสินใจทำลงไป จงมั่นใจได้เลยว่าฉันมันต้องออกมาดีและเชื่อถือได้แน่นอน”
อลิซเบซจ้องมองตากลมโตของคนร่างเล็กอย่างมีความหมาย ไม่ใช่แค่เพียงรูปถ่าย แต่มันหมายถึงทุกๆอย่าง รวมถึงคำพูดของเธอทุกๆคำก่อนหน้านั้นด้วย
“โอเคค่ะ ต่อไปนี้ไม่ว่าจะถูกแอบถ่ายอีกสักกี่รูป ฉันก็จะเชื่อมั่นในฝีมือของคุณ”
สิตางค์ส่งยิ้มบางๆให้กับคนข้างๆ..เดินนำคนตรงหน้าเข้าไปข้างในสวนสนุกที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างก็มาหาความสำราญ บรรยากาศในด้านในค่อนข้างคึกคักเนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กๆ ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในนี้มักจะเป็นผู้ปกครองที่ต่างพาบุตรหลานมาเที่ยว ลองลงมาคงเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมเล่นเครื่องเล่นสุดผาดโผน รวมถึงใช้บริการสวนน้ำเพื่อคลายร้อน
“คนเยอะจังนะคะ” สิตางค์หันมาหาคนข้างๆที่ก้าวเท้าตามมาจนทัน หลังจากยืนเก็บรูปและบรรยากาศอยู่ในสวนสนุกเพียงลำพังเป็นเวลาไม่นาน
สาวหล่อหันมามองไปรอบๆ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง โดยเลือกที่จะสอดมือของเธอลงไปยังอุ้งมือด้านซ้ายของคนร่างเล็กที่รีบหันมามองด้วยหน้าตาสงสัย
“ขอโทษที่ฉันไม่ทันขออนุญาตก่อนแต่ที่นี่คนเยอะ เผื่อคุณเดินเร็วแล้วเราเกิดพลัดหลงคงจะตามหากันได้ยากแน่ๆ”
“แล้วจับมือแบบนี้คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างนั้นเหรอคะ?”
“ค่ะ เพราะฉันคงไม่มีทางปล่อยมือคุณจากกันไปไหนแน่นอน”
มืออุ่นๆของคนร่างสูงกลับกระชับฝ่ามือบางของหญิงสาวจนแน่น สิตางค์เงยหน้ามองคนข้างๆที่ยิ้มให้โดยไม่มีท่าทีขัดขืน ปล่อยให้คนร่างสูงจูงมือไปข้างหน้าท่ามกลางผู้คนมากมาย
ใบหน้าขาวๆแดงกร่ำดังผลมะเขือเทศสุกกับคำตอบของสาวหล่อที่แฝงไปด้วยความหมายโดยนัยและสร้างความหวั่นไหวให้เธออีกครั้ง
อะไรกันเนี่ย?..ตั้งแต่มาที่นี่ ทั้งคำพูดรวมถึงการกระทำต่างๆของผู้เป็นนายแสดงออก
รู้ไหมว่ามันยิ่งทำให้เธอ..หวั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ?
จริงๆแล้วเธออาจจะคิดมากไป หรือมันไม่ใช่ความหมายโดยนัย อลิซเบซคงพูดไปตามหลักความจริงที่มันควรจะเป็นอย่างนั้น?
สิตางค์มองคนข้างหน้าที่ยังกุมมืออยู่ด้วยความไม่เข้าใจ ในขณะที่เจ้าตัวเองกลับไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำแถมยังเดินตรงดิ่งฝ่าฝูงชนไปหยุดยังหน้าเครื่องเล่นหวาดเสียวที่มีให้เลือกมากมายหลายประเภท
“คุณเล่นอะไรได้บ้าง?”
“คะ?..อะไรนะ” อลิซเบซหันกลับมาหาคนข้างๆอีกครั้งที่ปล่อยให้เธอจูงมือเดินตามมาอย่างเงียบๆ
“อ๋อ..เอ่อ ฉันเล่นได้ทุกอย่าง ยกเว้นที่ต้องเปียกน้ำ ไม่อยากสระผมใหม่ กลัวแผลที่มือจะติดเชื้อด้วย”
“แล้วนอกจากนั้นล่ะ?”
“ไม่มีค่ะ ฉันเล่นได้ทุกอย่าง”
“งั้นดีเลย” อลิซเบซชี้ไปยังเครื่องเล่น ไจแอนท์ดรอปที่อยู่ข้างหน้า มีลักษณะคล้ายหอคอยสูงโดยมีความสูงกว่า 75 เมตร
สีหน้าที่เคยแดงดังผลมะเขือเทศสุกกลับขาวซีด สิตางค์มองเครื่องเล่นตรงหน้าอย่างตกตะลึง
“ฉันว่าเราเพิ่งมาถึง ลองไปนั่งเล่นอะไรเบาๆก่อนดีไหมคะ อย่างเช่นม้าหมุน ตรงนั้นดีกว่าไหม?”
“ไม่เอา ม้าหมุนมันสำหรับเด็กๆ อย่างเราเป็นผู้ใหญ่แล้วมันต้องเครื่องเล่นแบบนี้ อย่าบอกนะว่าคุณกลัวเลยไม่กล้าจะเล่น?”
ความท้าทายจากคนข้างๆทำให้หญิงสาวเกิดแรงฮึดสู้
หนอยย!.. กะอีกแค่ความสูงเท่ากับตึกยี่สิบชั้นเอง กระจอกมากๆ (เหรอ?)
“ใครบอกว่าฉันกลัว? มานี่เลยๆ” ไม่พูดพล่ำให้มากความ สาวร่างบางกลับเป็นฝ่ายจูงคนร่าง ตรงไปยังเครื่องเล่นตรงหน้าอย่างว่องไว
หญิงสาวก้าวขึ้นไปยังเครื่องเล่นที่อยู่ตรงหน้า ก่อนให้พนักงานยกแท่นเหล็กมาล็อคไว้ตรงกลางที่นั่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการพลัดตกลงมาขณะที่เล่นเครื่องเล่น
สิตางค์หันมองหน้าคนร่างสูงที่ขำกับความห้าวหาญที่พยายามแสดงออกมาให้เห็น
“ถอนตัวตอนนี้ยังทันนะคะ”
“ไม่มีทาง ฉันจะทำให้คุณรู้ว่า เครื่องเล่นแบบนี้เด็กมากๆ ทำอะไรฉันไม่ได้เลยสักนิดเดียว ไม่เชื่อคอยดูแล้วกัน” หญิงสาวตีหน้านิ่ง คว่ำปากเป็นสระอิ และยักคิ้วให้สาวหล่อ ท่าทางของเธอดูไม่ยี่หระเมื่อพนักงานเปิดสวิซต์เริ่มเดินและตัวเธอถูกดึงขึ้นสูงจากพื้นกำลังต้านแรงโน้มถ่วงของโลกจนไปถึงยอดบนสุด
ทั้งที่ในใจสั่นระรัว..นอกจากเข็มฉีดยา ความสูงก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ใจสั่น
แต่เอาเถอะในเมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ต้องเดินต่อให้สุดทาง
ป๊า..แม่..เฮียแบงค์ เอาใจช่วยสตางค์ให้ปลอดภัยจากความสูงด้วยน้า บรื๋อ!
แต่คำอธิษฐานของเธอคงไม่ได้ผล เพราะเมื่อที่นั่งของเธอถูกปล่อยให้ดิ่งลงมาอย่างเร็ว เสียงกรีดร้องกลับดังขึ้นพร้อมดวงตากลมโตที่ปิดลงพร้อมกับความหวาดเสียว กับใจดวงโตที่ฝ่อและหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อยโรงเรียนจีน
คนร่างสูงดูกังวลไม่น้อย เมื่อต้องประคองคนตัวเล็กที่ยังตัวสั่นดังลูกนกเดินลงมาเมื่อเครื่องเล่นจอดสนิทที่พื้นเหล็ก ไปยังม้านั่งยาวซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
“กลัวความสูงก็ไม่บอก..ถ้าหัวใจวายขึ้นมาจะทำยังไงเนี่ย? รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา”
“เปล่าสักหน่อย ฉันไม่ได้กลัวความสูงนะ แค่ปรับสภาพร่างกายไม่ทันเท่านั้นเอง เดี๋ยวจะแสดงให้ดูนี่ไงคะ..ฉันยังไหว” สิตางค์สูงหายใจลึกๆและพยายามลุกขึ้นเพื่อจะยืนและเดินต่อ แต่ดูเหมือนมันจะเร็วไปจนร่างเซไปด้านข้าง โชคดีที่คนร่างสูงที่ลุกตามและคว้าร่างไว้ได้ทัน
“ทำไมถึงดื้อนักนะ? หน้าซีดอย่างนี้ยังจะปฏิเสธอีก” อลิซเบซดุคนหน้าขาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอที่กำลังพยายามจะยืนขึ้นอีกครั้งห้ามปรามเสียงดังเมื่อคนร่างบางที่กำลังจะเดินต่อ ในขณะที่หญิงสาวพยายามอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เพราะไม่อยากให้งานกร่อยเพียงเพราะความกลัวของเธอ
“เมื่อกี้อาจจะลุกเร็วไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ฉันไหวจริงๆนะ ไปเล่นเครื่องอื่นๆกันต่อเถอะ ”
“ไม่ค่ะ” สาวหล่อส่งเสียงเข้มๆ จนคนในวงแขนทำหน้าจ๋อย
“นั่งกันตรงนั้นก่อน เอาไว้ให้รู้สึกดีขึ้นแล้วค่อยไปเล่นก็ยังทันค่ะ” ร่างสูงประคองหญิงสาวให้นั่งลงที่เดิม ไม่นานใบหน้าที่ซีดขาวเมื่อครู่ค่อยๆกลายเป็นสีขาวอมชมพูอีกครั้ง
สาวหล่อถามย้ำคนตัวเล็กที่มองเธอด้วยตากลมโตที่ชักชวนให้เธอไปเล่นเครื่องเล่นเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
“แน่ใจนะคะว่าไหว?” สิตางค์พยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้ม ลุกขึ้นและจูงมือคนร่างสูงตรงไปยังเครื่องเล่นชนิดต่างๆที่อยู่ข้างหน้าโดยคราวนี้อลิซเบซเลือกเองเป็นฝ่ายเครื่องเล่นด้วยตัวเองโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและที่ไม่สูงเกินไปจนทำให้คนตัวเล็กหมดสนุก
ทั้งสองเล่นเครื่องเล่นต่างๆด้วยกันจนเกือบได้เวลาปิดของสวนสนุกในช่วงหกโมงเย็น
จู่ๆอลิซเบซก็หยุดเดินจนคนข้างๆที่ถูกจูงมือเดินมาด้วยต้องหยุดตาม
สาวหล่อมองซุ้มปาลูกโป่งที่อยู่ระหว่างทางจนเกือบถึงประตูทางออกซึ่งผู้คนยังคงให้ความสนใจกันอย่างเนืองแน่น แถมตุ๊กตาจำนวนมากหลากหลายขนาดที่อยู่วางไว้ข้างหน้าก็เป็นเป้าหมายที่ทำให้ใครหลายๆคนอยากจะพิชิต และ ช่วงชิงพวกมันกลับบ้านให้ได้
“อยากเล่นเหรอคะ?” สิตางค์ถามคนยืนนิ่งและกำลังให้ความสนใจกับกิจกรรมตรงหน้า
“อืมม์..เลือกหน่อยว่าอยากตุ๊กตาได้ตัวไหน?”
“เลือกไม่ถูกค่ะ อยากได้ทุกตัวเลย”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันเลือกให้แล้วกันนะคะ”
อลิซเบซยิ้ม เธอกวาดตาไปรอบๆจนสะดุดกับหมีเท็ดดี้สีน้ำตาลตัวใหญ่ ซึ่งทำจากขนสัตว์เนื้อดี
“น้องคะ ถ้าพี่อยากได้ตัวนี้ต้องทำยังไงบ้าง?”
“จ่ายสาร้อย ยืนโตเส้นสีขาวโน้นะ ปาคบสาดอก เอาไปโลย”
สิตางค์หันไปมองเส้นสีขาวตามคำบอกของที่เด็กผู้ชายตัวเล็กที่พูดไทยไม่ชัด เส้นดังกล่าวห่างจากลูกโป่งเกือบครึ่งเมตร ก่อนหันมาเขย่าแขนเสื้อของคนตัวสูงที่กำลังทำท่าหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์
“อย่าเสี่ยงเลยค่ะ ฉันว่ามันแพงไป”
“ไม่ลองก็ไม่รู้นี่คะ” อลิซเบซยิ้ม ก่อนยื่นแบงค์ร้อยสามใบแก่เด็กผู้ชายคนนั้น
เมื่อห้ามไม่ได้ สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคงเป็นการเอาใจช่วยคนตรงหน้าให้ทำได้สถานเดียวพร้อมๆกับคนในซุ้มที่หันมามอง และร่วมลุ้นกับเธอ
อลิซเบซรับลูกดอกมาไว้ที่มือ พยายามตั้งสมาธิและเล็งไปยังจุดหมายข้างหน้าก่อนที่จะขว้างมันออกไป และมันก็ไม่ยาก ลูกดอกเจาะเข้ากับลูกโป่งที่วางอยู่ในแถวเดียวกันให้แตกรวดทั้งสามใบ
“เย้!” สิตางค์ตบมืออย่างดีใจ เมื่อสาวหล่อทำสำเร็จพร้อมกับคนรอบข้างที่ร่วมลุ้นอยู่ด้วย ในขณะที่คนตัวสูงกลับยื่นตุ๊กตามาอยู่ในครอบครองส่งไปให้กับเธอ
“อ่ะ..ของคุณ”
“ให้ฉันเหรอ?”
“ค่ะ ถือเป็นการขอโทษที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณกลัวเมื่อครู่นี้และเจ็บตัวเมื่อวานนี้นะคะ”
“ไม่เป็นไร ฉันลืมมันไปหมดแล้ว แล้วอีกอย่างเมื่อกี้ก็เป็นความผิดของฉันเองไม่เกี่ยวกับคุณเลยสักนิด”
เสียงโทรศัพท์ของสิตางค์ดังขึ้นก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปรับตุ๊กตาหมีที่อลิซเบซยื่นให้ไว้ในอ้อมกอด
กดรับสายที่โทรเข้ามาทันทีที่เห็นชื่อ
ดรุณี หนึ่งในเพื่อนสนิทของกลุ่มสวยคือสายที่โทรเข้า
“ห๊ะว่ายังไงนะ..? อืมม์ๆ” คนตัวเล็กหน้าซีดหันมองสาวหล่อที่ยืนกอดตุ๊กตาหมีตัวโตซึ่งกำลังมองเธอด้วยความสงสัยเมื่อสายสนทนาตัดไป
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“คือ..ถ้าคืนนี้ฉันจะรบกวนให้คุณช่วยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยจะได้ไหม?..คือฉัน”
“ได้สิ” ไม่ต้องคิดใดๆทั้งสิ้น อลิซเบซตอบตกลงทันทีโดยไม่ฟังคำอธิบายที่หญิงสาวพยายามจะบอก
“นี่..คุณจะไม่ถามซักหน่อยเหรอว่าฉันจะพาคุณไปที่ไหน?”
“ไม่จำเป็นนี่ ลืมแล้วหรือไง ไม่ว่าต่อไปนี้ไม่ว่าคุณจะไปไหนฉันจะไปด้วย” มือข้างหนึ่งละจากการกอดตุ๊กตาหมีแบไปตรงหน้าสิตางค์
“รีบไปกันเถอะ แค่ทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ให้ฉันก็พอ”
“ขอบคุณนะคะ” สิตางค์ยิ้ม เลือกจะวางมือไว้บนฝ่ามือที่แบออกพร้อมให้คนตัวสูงเดินนำทางเธอไปอีกครั้งก่อนที่พระอาทิตย์จะลับฟ้าไป