Dream ฝันค้างบนทางรัก Yuri
บทที่ ๑๙ : สัจจะอธิษฐาน
แสงสุริยาสาดส่องมาที่พระแท่นบรรทม ณ พระตำหนักรับรองของเจ้าหญิงมณีจันทร์ ที่อบอวลไปด้วยไออุ่นแห่งความสิเนหาในกันและกัน เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ทรงซุกพระวรกายหลับใหลเคียงข้างกันบนพระแท่นทอง
แสงอุ่นส่องไล้จับพระเนตรจนเจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงรู้สึกองค์ตื่นขึ้น ทรงทอดพระเนตรพระพี่นางที่ยังทรงหลับใหลด้วยแววตาเปี่ยมความรักความเสน่หา กรุ่นกลิ่นหอมจากเรือนกายของผู้มีชันษาสูงกว่าโชยกำจายมาแตะพระนาสิก พระพักตร์งามราวนางอัปสรคล้ายมีมนตร์สะกดให้พระองค์ต้องโน้มพระวรกายไปดอมดมความหอมหวานนั้น ก่อนย้ายพระโอษฐ์งามไปประทับยังพระโอษฐ์สีใบไม้อ่อนของพระภคินี
อีกฝ่ายเหมือนจะรู้สึกองค์จึงทรงพลิกพระวรกายของพระน้องนางไว้เบื้องล่างก่อนทาบทับบนเรือนร่างบางอย่างเชื่องช้าทะนุถนอมยิ่งนัก ทรงไล้พระโอษฐ์ไปทั่วพระพักตร์หวาน พระโอษฐ์อวบอิ่ม ไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงพระศอกลมกลึง ซอกซอนดอมดมเรือนกายหอมละมุน พระเนตรคมกล้าเจิดจรัสด้วยแรงเสน่หา ร่างบอบบางของผู้เยาว์ชันษากว่าไหวสะท้าน หทัยระรัวยามถูกสัมผัสเนื้อนวล พาให้คนรุกรานเร่งรัดรุกล้ำด้วยความถวิลหา จนมาหยุด ณ ปทุมมาอวบอิ่มเต่งตึงของอีกฝ่าย
“เจ้าพี่ทำกระไร เช้าแล้วนะเพคะ” พระน้องนางตรัสด้วยความขวยเขิน
“พี่รักน้อง มณีจันทร์ รักมากเหลือเกิน พี่จักรักเจ้าไปตราบจนวันตาย”เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสจากเบื้องลึกของหัวใจ ทอดพระเนตรร่างบางในอ้อมแขนอย่างรักใคร่
“น้องก็รักเจ้าพี่เยี่ยงเดียวกันเพคะ” ตรัสตอบก่อนกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งขึ้น
พระโอษฐ์หยักได้รูปของทั้งสององค์แนบชิดกันอีกครั้ง ก่อนถ่ายทอดไออุ่นและสายใยผูกพันอย่างเต็มพระทัย ด้วยความรักความสิเนหาที่มั่นคงลึกล้ำ
“๏ เชยชมชู้ปากป้อน.........................แสนอมฤตรสข้อน
สวาทเคล้าคลึงสมร
๏ กรเกี้ยวกรกอดเนื้อ......................เนื้อแนบเนื้อโอ่เนื้อ
อ่อนเนื้อเอาใจ
๏ พักตราใสใหม่หม้า........................หน้าแนบหน้าโอ่หน้า
หนุ่มเหน้าสรสม
๏ นมแนบนมนิ่มน้อง........................ท้องแนบท้องโอ่ท้อง
อ่อนท้องทรวงสมร
๏ สมเสน่ห์อรใหม่หมั้ว......................กลั้วรสกลั้วกลิ่นกลั้ว
เกลศกลั้วสงสาร
๏ บุษบาบานคลี่คล้อย.......................สร้อยและสร้อยซ้อนสร้อย
เสียดสร้อยสระศรี
๏ ภุมรีคลึงคู่เคล้า.............................กลางกมลยรรเย้า
ยั่วร้องขานกัน
๏ สรงสระสวรรค์ไป่เพี้ยง.................สระพระนุชเนื้อเกลี้ยง
อาบโอ้เอาใจ
๏ แสนสนุกในสระน้อง.......................ปลาชื่นชมเต้นต้อง
ดอกไม้บัวบาน
๏ ตระการฝั่งสระแก้ว........................หมดเผ้าผงผ่องแผ้ว
โคกฟ้าฤๅปุน
๏ บุญมีมาจึ่งได้...............................ชมเต้าทองน้องไท้
พี่เอ้ยวานชม หนึ่งรา”
(ลิลิตพระลอ)
...........................................................................
ใกล้พลบค่ำอาทิตย์จักอัสดงลาลับท้องนภา เจ้าหญิงนลินยุพาเสร็จมาชวนเจ้าหญิงมณีจันทร์ไปนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่หอพระภายในพระราชวัง เพื่อมาขอพรให้ความรักของทั้งสองพระองค์สมหวังจากพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง องค์พระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยนั่งขัดสมาธิ สร้างด้วยทองคำทั้งองค์เปล่งปลั่งงดงาม องค์พระอ่อนช้อย พระพักตร์อิ่มเอิบ พระพักตร์รูปไข่มีเกตุมาลาเป็นรูปดอกบัวตูมทรงสูง มีไรพระศก พระขนงโก่ง เครื่องอาภรณ์ที่ทรงประดิษฐ์ตามแบบศิลปะขอม มีพระอุษณีย์ทำเป็นรูปกลีบบัวซ้อน ครองจีวรห่มเฉวียงบ่า ชายจีวรยาวลงมาถึงพระนาภี เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์พร้อมทั้งพระพี่เลี้ยงกราบพระพุทธรูปก่อนที่ เจ้าหญิงมณีจันทร์จักทรงพนมมือหลับพระเนตรอธิษฐานในพระทัย
‘ขอให้ใจสองดวงในภายหน้า ร่วมอุราใกล้ชิดอยู่มิห่าง
เป็นพี่น้องร่วมอุทรมิจืดจาง ไม่ลาร้างห่างไปไกลชีวา
อยู่ใกล้กันแนบชิดพิศวาส ไม่คลาคลาดสองใจสิเน่หา
หทัยรักมอบมั่นเพียงกานดา ตราบชาติหน้าชาติไหนใจภักดี’
“มณีจันทร์ น้องอธิษฐานว่ากระไรฤๅ” เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสถามเมื่อนางอันเป็นที่รักลืมพระเนตรแล้ว
“น้องอธิษฐานให้เราทั้งสองรักกันชั่วนิจนิรันดร์เพคะ พระองค์ไม่ทรงอธิษฐานฤๅเพคะ”
“สัจจะเอ๋ยขอตั้งจิตอธิษฐาน ฟ้าเป็นพยานใจมั่นไม่หวั่นไหว
จะขอรักภักดีทุกชาติไป แม้สิ้นลมหายใจมิสิ้นรัก”
สิ้นสุรเสี่ยงอธิษฐานของเจ้าหญิงนลินยุพา พระพายก็พัดมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนเทียนที่จุดรายรอบหอพระดับหมดสิ้น ลมพัดอยู่ชั่วครู่ก่อนหยุดลงและเทียนที่ดับไปแล้วก็พลันกลับมาสว่างไสวดังเดิม ราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหอพระแห่งนี้ได้รับรู้คำอธิษฐานของเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์แล้ว เจ้าหญิงทั้งสององค์ทรงสบเนตรด้วยความปิติสุขเมื่อรู้ว่าสิ่งศักดิ์ในที่แห่งนี้รับรู้คำอธิษฐานแห่งนาง
“หม่อมฉันว่าท่านรับรู้คำอธิษฐานของพระองค์แน่แล้วเพคะ” พระพี่เลี้ยงเกสรพูดด้วยรอยยิ้ม
“จ๊ะเกสร กลับตำหนักเถิดเพคะเจ้าพี่” หลังจากนั้นทั้งสี่นางก็ได้กลับตำหนัก
...........................................................................
ภายในห้องบรรทมของเจ้าหญิงมณีจันทร์ ในตำหนักหลานหลวงซึ่งพระเจ้าชัยวรเมธกับพระนางสวรินทร์เทวีเจ้าผู้ครองนครกับพระมเหสีคู่บุญบารมี ทรงยกให้เจ้าหญิงมณีจันทร์พำนัก เจ้าหญิงนลินยุพาพระธิดาในพระองค์ก็ทรงประทับที่ตั่งทองทอดพระเนตรเจ้าหญิงผู้เยาว์ชันษากว่าที่กำลังกรองมาลัยด้วยสายตาชื่นชม หญิงสาวแรกแย้มที่อยู่ตรงหน้า พระฉวีขาวนวล วงพักตร์รูปไข่เปล่งปลั่งด้วยเลือดฝาด พระขนงโก่งเรียวดั่งคันศร พระเนตรสองชั้น พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์บางแฉล้ม เกศาสีดำสลวยเรือนร่างสูงโปร่ง ในสไบทรงสีฟ้าขับผิวขาวนวลให้ดูเด่นนัยน์เนตร น่าสัมผัสยิ่งนัก เจ้าหญิงนลินยุพาทอดเนตรมองอยู่เพียงครู่ ก่อนจะดึงรั้งพระวรกายบอบบางมาไว้ในวงพระกรอย่างแสนรัก ก่อนที่จะพรมพระโอษฐ์สีใบไม้อ่อนไปทั่วพระพักตร์งามอย่างหลงใหล
“ว้าย! เจ้าพี่ทำกระทำเยี่ยงนี้ เข็มกรองมาลัยจะต้องพระวรกายนะเพคะ” เจ้าหญิงมณีจันทร์ร้องห้ามแต่มิได้บ่ายเบี่ยงพระวรกายให้ห่างออกไปไม่
“น้องหญิง เจ้าจะตามใจพี่สักนิดมิได้ฤๅ” เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสพร้อมกับดึงเข็มกรองมาลัยจากพระหัตถ์ของพระขนิษฐาไปวางที่พานใส่ดอกมะลิ
“เพคะ” เจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงยินยอมตามพระประสงค์ของพระพี่นาง สัมผัสได้ถึงโอษฐ์สีใบไม้อ่อนที่ทาบทับบดคลึงบนพระโอษฐ์ของพระนาง ก่อนที่พระชิวหาหวานล้ำจะสอดแทรกเข้ามาภายใน สไบทรงสีฟ้าของพระนางหลุดออกจากพระวรกาย เจ้าหญิงนลินยุพาทาบทับดอมดมพระศอกลมกลึง ไล่ลงมาเรื่อยๆก่อนที่พระโอษฐ์สีใบไม้อ่อนจะครอบครองยอดพระถันอวบอิ่มชูชัน
“เจ้าพี่เพคะ เจ้าพี่ น้องได้ยินคำร่ำลือมาว่าสระรมย์นลินมีความงดงามยิ่งกว่าสระปทุมจันทรา น้องอยากชมความงามของสระรมย์นลินด้วยตาของน้องเองสักคราเพคะ” ตรัสพร้อมกับพร้อมเบี่ยงพระวรกายประทับนั่งและสบเนตรนางอันเป็นที่รักด้วยความสะเทิ้นอาย
“กระนั้นฤๅน้องหญิง ถ้าเยี่ยงนั้นพี่จะพาน้องไปชม”เจ้าหญิงนลินยุพาตรัสเมื่ออารมณ์เสน่หาถูกทำให้ดับลง ก่อนที่จะองค์จะจัดแจงแต่งองค์ให้เจ้าหญิงมณีจันทร์ดังเดิม
เพียงไม่นานเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์รวมทั้งพระพี่เลี้ยงและเหล่านางกำนัลก็มาถึงสระรมย์นลิน เจ้าหญิงมณีจันทร์ทอดพระเนตรความงดงามของสระน้ำแห่งนี้ด้วยความชื่นชม ดอกบัวหลากหลายสายพันธุ์ทั้งบัวตูมบัวบานชูก้านงามสล้าง กลิ่นหอมฟุ้งของดอกบัวนั้นลอยมาปะทะพระนาสิก น้ำใสสะอาดราวกับแก้วอันรุจี รอบๆสระเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ พระนางไม่แปลกพระทัยเลยที่สวนแห่งนี้จะเป็นที่สราญพระทัยของเจ้าหญิงนลินยุพา ทุกค่ำคืนพระธิดาคงจะทรงมาสรงน้ำและเล่นน้ำที่นี่ จะพิเศษก็ตรงที่เพลานี้พระองค์ร่วมเสด็จด้วย เสียงน้ำตกไหลกระทบโขดหินดังกังวาน พระธิดาทั้งสององค์ทรงเล่นน้ำอย่างเบิกบานพระทัย เจ้าหญิงมณีจันทร์ทรงรู้สึกเหนื่อยอ่อนจึงทรงทอดพระเนตรมองพระพี่นางที่ยังทรงเล่นน้ำกับพระพี่เลี้ยงและเหล่ากำนัลอย่างทรงพระสำราญ
สายพระเนตรสีนิลทอดพระเนตรที่พระวรกายบอบบางของพระพี่นาง พระฉวีของพระนางเนียนละเอียดขาวอมชมพูละออตา ขาวยิ่งกว่าพระพี่เลี้ยงและนางกำนัลที่รายรอบ ยิ่งต้องแสงแดดยิ่งขาวเปล่งประกาย พระเกศายาวสลวยสีดำขลับเปียกน้ำลู่แนบพระปรางนวลดูงดงามเย้ายวนตามธรรมชาติ พระโอษฐ์ พระศอ ช่างดูจิ้มลิ้มพริ้มเพราหวานหยดยิ่งนัก พระนางทรงไล่สายพระเนตรต่ำลงไปจนกระทั่งเห็นเนินอกอิ่มโผล่พ้นน้ำขาวสล้าง ที่ทำเอาแทบหายพระทัยไม่ออก ก่อนจะหลับพระเนตรพร้อมสูดลมหายใจเข้าเต็มพระนาสิก แต่เมื่อพระองค์ทรงลืมพระเนตรขึ้น เจ้าหญิงนลินยุพามิได้ประทับอยู่ตรงนั้นแล้ว
“น้องหญิง ! ไม่สนุกหรือกระไร ไยน้องมายืนอยู่ตรงนี้”
เจ้าหญิงนลินยุพามาโผล่พรวดอยู่ข้างหลังพระองค์ตั้งแต่เมื่อใดก็มิรู้ พระนางกอดกระชับนางอันเป็นที่รักไว้ในวงพระกร ก่อนที่จะชักชวนพระพี่นางให้ว่ายน้ำตามพระพี่เลี้ยงและนางกำนัลที่กำลังแหวกว่ายกลางธารใสจวบจนเพลาล่วงเลยใกล้ถึงสองยาม พระองค์ทรงกลับพระตำหนักด้วยความอิ่มเอมพระทัย
ศศิธรบนท้องฟ้ารัตติกาลนี้ช่างงามกระจ่างตายิ่งนัก แต่ยังงามน้อยกว่านางอันเป็นที่รักในอ้อมพระกรจนมิอาจละพระวรกายห่างออกไปได้เลย พระหัตถ์เรียวบางลูบไล้พระศอกลมกลึงอย่างแสนเสน่หา พาให้สองปรางค์นวลของพระน้องนางระเรื่อแดงร้อนผ่าว พระวรกายบอบบางในวงพระกรซุกซบพระพักตร์เข้าแนบพระอุระอวบหยุ่นเพรียกหาไออุ่นจากพระเชษฐภคินีอันเป็นที่รักด้วยความเต็มพระทัยยิ่ง กว่าค่อนราตรีพระเนตรงามสุกสกาวดุจดาริกาจึงค่อยปรือปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า บรรทมหลับใหลลุเข้าสู้ห้วงนิทรารมย์ไปก่อน
เจ้าหญิงนลินยุพากอดกระชับพระวรกายบอบบางในวงพระกรอย่างรักใคร่สิเน่หา วันพรุ่งพระองค์ต้องเข้าพิธีวิวาห์กับเจ้าชายอติรัณต์ อย่างมิได้ทรงเต็มพระทัยสักนิด พระนางทรงครุ่นคิดอย่างหนักพระทัยก่อนที่จะทรงหลับพระเนตรลงพร้อมๆกับพระอัสสุชลที่ค่อยๆไหลอาบพระพักตร์
.......................................................