พุทธชาดส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือของนิมาที่ยิ้มกับข้อความที่ได้เห็น แล้วส่ายหัวกับความคิดของเพื่อนรักของเธอ ข้อความที่ได้อ่านไม่น่าจะใช่ความคิดของรักษาเป็นแน่ น่าจะเป็น ไม่พุทธชาดก็แป้งร่ำ
“อยู่ในกำมือแล้ว อ้อนให้สุดฤทธิ์ เอาให้อยู่หมัดจัดการปล้ำเสียให้เรียบร้อย ยิ่งหลงรักมากเท่าไหร่ เราก็จะรู้เรื่องได้ง่ายเท่านั้น” นั่นคือข้อความจากพุทธชาด
“จะบ้าหรืออย่างไรคะ คุณพุด สาวร้ายไปอาบน้ำ เรื่องปล้ำขอคิดดูก่อนนะ” นิมาหัวเราะเล็กๆ เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จเธอก็กดส่งกลับไปในทันที
ทองทิพย์เสร็จจากการอาบน้ำเดินออกมาก็พบกับรอยยิ้มของนิมาที่ยังคงนั่งยิ้มอยู่กับเครื่องโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือ รอยยิ้มสวยๆ นั้นได้สร้างความรู้สึกดีดีขึ้นในหัวใจของทองทิพย์แต่ความอยากรู้ก็ทำให้อดใจไว้ไม่ได้ว่าใครกันนะที่ทำให้นิมานั่งยิ้มอยู่อย่างนี้
“หนุ่มผู้เพียบพร้อมและแสนดีส่งข้อความมาราตรีสวัสดิ์หรือคะ เห็นนั่งยิ้มอยู่นานแล้ว” ทองทิพย์ถามด้วยใบหน้าที่ดูนิ่งๆ
“น้ำเสียงเหมือนหวงเลยนะคะ” นิมาพูดยิ้มๆ โดยไม่ได้ตอบว่าใครกันคือผู้ที่ส่งข้อความมา ด้วยอยากกวนโมโหคนที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ตรงหน้า
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคงขึ้นมา ทิพย์กลับไปนอนที่ห้องดีกว่า” ทองทิพย์บอกและกำลังทำท่าจะเดินออกจากห้องไป
“ขี้ใจน้อยนะคะ ข้อความจากคุณพุด ส่งอะไรขำๆ มาให้อ่านก็เลยเผลอยิ้มนานไปหน่อยค่ะ ไหนอาบน้ำแล้วขอกอดหน่อยสิคะ” ทองทิพย์ยังหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูและกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ นิมาอมยิ้มกางแขนรอ เพราะเธอก็อยากรู้เหมือน กันว่าคนที่ยืนอยู่จะกลับออกไป หรือจะเดินเข้ามาหาอ้อมกอดของเธอ ทองทิพย์ดูลังเลอยู่สักครู่ก่อนที่จะค่อยๆ เดินกลับเข้าไปหาอ้อมกอดของนิมาที่กอดกระชับเอาไว้แนบแน่น
“ดูมั่นใจนะคะ ว่าทิพย์จะเดินกลับมาให้กอด” ทองทิพย์พูดขึ้น
“ใครบอกล่ะ แอบกลัวว่าจะเปิดประตูกลับออกไปต่างหาก” นิมาบอก
“ไม่ได้แกล้งพูดให้ดีใจใช่หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์คลายอ้อมกอด และมองสบตานิมาที่กำลังจ้องมองตาแป๋วอยู่
“เปล่า หรือว่าอยากกลับไปนอนห้องโน้นล่ะ” นิมาทำหน้านิ่งๆ มองด้วยสายตาดุดุ
“ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องนี้มากกว่า ว่าอยากให้อยู่หรืออยากให้กลับออกไป” ทองทิพย์มองจ้องดวงตาคู่สวยของนิมา
“คงไม่เต็มใจเท่าไหร่นักนะคะ ไปลากจากห้องโน้นมาทำแผลให้ และยังให้อาบน้ำ ให้ยืมชุดใส่ ยังจะมาถามอีก น่าน้อยใจจริงๆ” นิมาพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้า กระงอด
“โอ๋ๆ ขอโทษค่ะ ไปอาบน้ำเถอะค่ะ ทิพย์ชักง่วงแล้ว” ทองทิพย์ยิ้มแล้วเริ่มแสดงอาการหาวให้ได้เห็น
“ดื่มมาหรือเปล่าคะ” นิมาถาม
“เปล่าค่ะ ทำไมกลัวเหม็นเหล้าหรือคะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้นให้
“ก็จะได้รู้ว่าจูบนิ่มที่บันได เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะตั้งใจ” นิมายักคิ้วล้อทองทิพย์ที่ยืนทำหน้าจ๋อยอยู่
“ช่างคิดนะ ไม่ต้องอาบก็ได้นิ่มตัวยังหอมอยู่เลย” ทองทิพย์หอมแก้มนิมา
“ขอไปอาบก่อนดีกว่าค่ะ เหนียวตัวจะตายไป” นิมาอมยิ้มกับยิ้มจ๋อยๆ ของทองทิพย์
“ก็ได้ สิบนาทีพอนะคะ” ทองทิพย์มองด้วยสายตาอ้อนวอน
“บ้าแล้ว ใครจะอาบน้ำแค่สิบนาที ครึ่งชั่วโมงค่ะ รอไม่ได้ก็กลับไปนอนที่ห้องตัวเองเลยนะคะ” นิมายักคิ้วแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป รู้สึกดีที่ได้แกล้งสาวร้าย
“ใจร้าย” ทองทิพย์พูดงึมงำแต่ก็หยิบโทรศัพท์และล้มตัวลงนอนที่เตียงสีขาวสะอาดพร้อมรอยยิ้ม
ทองทัดและนารินลงมาสมทบกับน้องๆ ที่ยังคงสนุกสนานกับการดื่มและการพูดคุยกัน แต่ก็แปลกใจที่ไม่เห็นนิมากับทองทิพย์รวมถึงเจนจิรา
“ขาดไปสามสาว ยังไม่ลงมาหรือครับ” ทองทัดถามขึ้นทันที
“นั่นสิ ปกตินิ่มไม่พลาดนี่นาเวลาอยู่ครบแกงค์กันขนาดนี้” นารินยิ้มให้กลุ่มเพื่อนของนิมาที่อมยิ้มแล้วหันไปมองสบตากัน
“น้องสาวพี่นา สงสัยกำลังจะอยู่ในห้วงแห่งความรักหรือเปล่าไม่รู้นะคะ ขอตัวไปนอนก่อน อยากตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า” แป้งร่ำพูดพร้อมรอยยิ้มกับพี่สาวของนิมาซึ่งก็ไม่ได้แปลกใจอะไรกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะแป้งร่ำจะพูดอะไรตลกๆ แบบนี้เสมอแอบแซวนิมาลับหลังแบบนี้อยู่บ่อยๆ
“แล้วยายทิพย์ล่ะ” ทองทัดถามขึ้น
“ทิพย์ขึ้นไปสักพักแล้วค่ะ ไม่ได้บอกว่าจะลงมาหรือเปล่าค่ะ” พุทธชาดบอกกับทองทัด
“ถ้าอย่างนั้น คงไม่ลงมาแล้ว คนที่มาด้วยคงจะไม่ปล่อยให้ลงมาง่ายๆ แล้วล่ะ” ทองทัดพูดเป็นนัยๆ นารินจึงหยิกเข้าที่แขนเป็นการเตือนไม่ให้พูดถึงน้องสาวอย่างนั้น
“นินทาน้องนะทัด เป็นพี่ชายแบบไหนกัน” นารินพูดดุทองทัดที่อมยิ้มมองสบตาภรรยา
“นายวา ว่าอย่างไรทำไมปล่อยนิ่มไปนอนเร็วจริง” ทองทัดหันไปแซวเพื่อนรุ่นน้องที่ยิ้มๆ และดื่มเครื่องดื่มอย่างช้าๆ
“น้องก็ต้องการเวลาส่วนตัวบ้างสิครับ ว่าแต่พี่ทัดพาพี่นามาฉลองทำไมถึงได้ตามลงมาดื่มกับพวกเราล่ะ แล้วเมื่อไหร่จะมีหลานให้พวกเราอุ้มกันล่ะครับ” เสียงเฮตามมาหลังจากวาทิตพูดจบ
“นายวา ขอเวลาเที่ยวก่อนก็แล้วกัน ให้งานการเข้าที่เข้าทางก่อนค่อยมีเจ้าตัวน้อย เอ๊ะหรือจะมีเลยดีครับนา” ทองทัดอมยิ้มหันไปถามนารินที่ยิ้มอายๆ อยู่
“ทะลึ่ง มาเมื่อไหร่ก็พร้อมเมื่อนั้นล่ะคะ” นารินยิ้มอายๆ
พุทธชาดกับรักษาขอตัวออกมาจากวงสนทนา รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนเลยชวนรักษาขึ้นมาดูที่ห้องพักของนิมา ตอนนี้ทั้งสองคนมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง รักษาอมยิ้มไม่รู้ว่าพุทธชาดจะทำอย่างไร แต่ก็เข้าใจในความเป็นห่วงที่มีให้เพื่อน
“ขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไรต่อคะ นิ่มก็ตอบข้อความแล้วไม่ใช่หรือ คุณพุดยังห่วงอะไรอีกคะ” รักษาถามพุทธชาดที่กำลังจ้องมองไปที่ประตูห้องพักของนิมา
“นั่นสิ คุณรักว่าพุดบ้าไปหรือเปล่าคะ แต่ที่เป็นห่วงก็เพราะแม่สาวร้ายน่ะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย กลัวแม่นิ่มนวลจะรับมือไม่ไหวน่ะคะ” พุทธชาดมองสบตากับรักษา
“เป็นห่วงผิดคนหรือเปล่า แม่สาวร้ายจะหายร้ายเพราะเพื่อนของเรา รักเชื่อนะว่านิ่มจัดการได้” รักษาอมยิ้มกับหน้าตาที่แสดงความไม่เชื่อของคนรัก
“แอบย้อนคิดไปตอนที่นิ่มอกหักเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เลยรู้สึกเป็นห่วงน่ะคะ ลืมคิดไปว่ามันผ่านมานานมากแล้ว อีกอย่างนิ่มก็แข็งแรงขึ้นเยอะหลังจากผ่านความเจ็บปวดเมื่อครั้งนั้นมา” พุทธชาดนึกขำตัวเอง
“รักว่า นิ่มอาจจะดูอ่อนนอกแต่รักว่าเป็นคนจิตใจเข้มแข็งนะ ผิดกับสาวร้ายของเรา อ่อนยวบทันทีเมื่อโดนนิ่มร้ายใส่หรืออ้อนใส่ ลองคิดดูสิว่าใครเป็นต่อ”
“คุณรักคิดว่า นิ่มจัดการได้”
“แน่นอนค่ะ” รักษาพูดด้วยความมั่นใจและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พุทธชาดด้วย
“แต่ไหนๆ ก็ขึ้นมาแล้ว ขอเช็คดูสักหน่อยว่าเป็นอย่างไร เพื่อความสบายใจ” พุทธชาดยิ้มทะเล้นให้รักษาก่อนที่จะเคาะประตูหน้าห้องพักของนิมา
ทองทิพย์เปิดตูออกมาก็เห็นรักษากับพุทธชาดที่ยืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้องเธอจึงยิ้มให้เช่นกัน แต่ก็เป็นยิ้มอายๆ ไม่ค่อยกล้าสบตากับสองเพื่อนรักของนิมาที่อยู่หน้าห้องมากนัก
“ขอโทษค่ะ เราสองคนคงมาเคาะห้องผิด” พุทธชาดพูดแก้เก้อเพราะท่าทางคนที่มาเปิดประตูคงไม่รู้จะพูดหรือทักทายเธออย่างไรเป็นแน่
“ไม่ผิดค่ะ ถูกห้องแล้วค่ะ นิ่มอาบน้ำอยู่” ทองทิพย์พูดอ้อมแอ้มไม่ค่อยเต็มเสียงมากนักซึ่งได้สร้างรอยยิ้มให้กับทั้งรักษาและพุทธชาดที่หันมามองสบตากัน
“อาบน้ำ แล้วทำไม” พุทธชาดยิ้มทะเล้นให้ทองทิพย์
“นิ่มช่วยทำแผลให้ค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มอายๆ
“ให้ยืมชุดนอนด้วยหรือเปล่าคะ” รักษาพูดขึ้น ทำเอาทองทิพย์เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่ากำลังโดนโจมตีจากกลุ่มเพื่อนๆ ของนิมา
“ค่ะ จะเข้ามารอนิ่มข้างในก่อนไหมคะ” ทองทิพย์พูดเชื้อเชิญ
“ไม่ดีกว่าค่ะ แค่มาเช็คดูว่าเพื่อนไม่ได้ถูกรังแก” พุทธชาดพูดด้วยน้ำเสียงเข้มๆ
“ทิพย์ดูร้ายขนาดนั้นเลยหรือคะ” ทองทิพย์ถาม
“รักว่า คนที่อาบน้ำอยู่ร้ายกว่านะคะ ระวังหน่อยก็แล้วกัน” รักษาพูดเหมือนขู่ทองทิพย์
“ขอบคุณที่เตือนนะคะ คุณรัก ทิพย์จะระวังตัวเพราะได้รู้แล้วว่ามีคนร้ายกว่า” ทองทิพย์ยิ้มให้รักษา
“ขอเตือน ถ้าทำเพื่อนพุดเสียใจละก็ พุดจะจัดการกับทิพย์แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาวร้ายแค่ไหนก็ตาม” พุทธชาดอยากกำหลาบสาวร้ายอย่างน้อยก็อาจจะช่วยปรามๆ ความร้ายกาจของสาวร้ายลงได้บ้าง
“คุณพุด ไปได้แล้วค่ะ” รักษากำลังดึงพุทธชาดออกมา
“ถ้ารักก็ต้องดูแล ไม่ใช่ทำร้าย ถามใจตัวเองดูสักหน่อยนะคะว่ารู้สึกอย่างไร ผู้หญิงอย่างนิ่มถ้าตัดสินใจว่าจะถอยห่าง จะไม่มีวันกลับไปหาอีก ระวังไว้หน่อยนะคะ การตั้งใจทำให้คนอื่นเจ็บ มันจะทำให้ตัวเองเจ็บกว่าหลายเท่านัก ถ้าทิพย์ดีกับนิ่ม ทิพย์ก็จะมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าร้ายศัตรูก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน”
“รับทราบค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เตือน” ทองทิพย์ยิ้มกวนๆ ให้กันพุทธชาดที่ก็ยิ้มกวนๆ ให้ไม่ต่างกันนัก ก่อนที่จะถอยห่างออกมาและมองดูจนทองทิพย์ปิดประตูห้องลง
“ร้ายนะคะ เล่นไปขู่กำชับแบบนั้น” รักษาหัวเราะเล็กๆ กับท่าทางดุดุของพุทธชาดที่ไม่ค่อยจะได้เห็นนัก แต่ครั้งนี้คงด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“ก็ต้องขู่ไว้หน่อย ดูจากปฏิกิริยาก็ไม่ได้ร้ายกลับมาเท่าไหร่นัก หวังว่าแม่นิ่มนวลของเราจะอ้อนจนใจอ่อนได้นะคะ” พุทธชาดหันมายิ้มให้รักษา
“ถ้ารัก ก็ไม่ไหนไม่รอดแน่ๆ ค่ะ ดูสิแฟนเก่าอยู่อีกห้อง ยังยอมมานอนอีกห้องแต่โดยดี ก็แสดงให้เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่าเลือกเพื่อนของเรา” รักษาบอก
“คุณรักว่าลูกอ้อนของนิ่มจะได้ผลหรือคะ” พุทธชาดถาม
“อย่างน้อยก็รั้งเอาไว้ไม่ให้ถอยห่างออกไป รักว่านิ่มอย่างไรเสียก็ตัดทิพย์ไม่ขาด ถ้าไม่รู้ความจริงว่าปัญหามันคืออะไร ถ้าแก้ไขแล้วไม่ได้ผลก็คงตัดใจได้ แต่ถ้าค้างคาอยู่แบบนี้ก็คงตัดไม่ขาด” รักษาอธิบายให้พุทธชาดรับรู้สิ่งที่เธอคิด
“ถ้าเป็นพุดก็คงตัดไม่ได้เหมือนนิ่มเช่นกัน” พุทธชาดบอก
“มิน่าคุณพุดถึงโกรธรักไม่ลงสักที ใช่หรือเปล่าคะ” รักษายิ้มทะเล้นจูบเล็กๆ ไปที่ริมฝีปากเรียวบางสวยของพุทธชาด
“นึกไม่ออกว่าเคยทำให้โกรธเรื่องอะไร แต่ถ้าเรื่องความรักนึกออกค่ะ ว่ารักอยู่ตลอดเวลาเลยรู้ตัวไหมคะ” พุทธชาดกอดกระชับรักษาไว้ด้วยความ
หมั่นเขี้ยวในความน่ารักของคนรักของเธอ
นิมาเดินยิ้มออกมาจากห้องน้ำก็เห็นหน้านิ่งๆ ของคนที่นั่งอยู่บนเตียงซึ่งเมื่อเห็นเธอเดินออกมาจึงยิ้มจางๆ ให้ แต่สีหน้าก็ดูเหมือนมีเรื่องอะไรในใจทั้งๆ ที่ก่อน ที่นิมาจะเข้าไปอาบน้ำทองทิพย์ก็ยังดูอารมณ์ดีอยู่
“เหมือนจะได้ยินเสียงคุยกันแว่วๆ แฟนมาตามกลับห้องหรือคะ” นิมาอมยิ้มมองสบตากับทองทิพย์ที่มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“คุณรักกับคุณพุดมาค่ะ” ทองทิพย์บอก
“แปลกจัง ก็นิ่มบอกแล้วนี่นาว่าจะขึ้นมานอน แล้วทำไมทิพย์ถึงได้นั่งหน้าตูมแบบนั้นล่ะคะ โดนสองสาวซักฟอกอะไรหรือเปล่าตอนที่ไปเปิดประตู” นิมาเดินมานั่งลงข้างๆ กลิ่นหอมจากสบู่อ่อนๆ ทำให้ทองทิพย์รู้สึกดีขึ้น
“กอดได้ไหมคะ” ทองทิพย์ถามและมองด้วยสายตาอ้อนวอน
“ทำไมต้องทำเสียงอ่อยๆ แบบนั้นด้วยล่ะ มีอะไรไหนบอกนิ่มสิคะ”
“โดนคุณพุดดุมานิดหน่อยค่ะ” ทองทิพย์คิดว่าจะบอกกับนิมาตามตรง
“คุณพุดดุเอาหรือ ดุว่าอย่างไรคะ” นิมาอมยิ้มเพราะนึกไม่ออกว่าพุทธชาดพูดอะไรกับทองทิพย์ถึงได้ทำให้แม่สาวร้ายหน้าจ๋อยไปได้ขนาดนี้
“ถ้าทิพย์ดีกับนิ่มก็จะได้เพื่อนเพิ่ม ถ้าร้ายทิพย์ก็จะได้ศัตรูเพิ่มด้วยเช่นกัน” ทองทิพย์พูดเสียงอ่อยๆ
“น่าแปลกแค่นี้ทำไมสาวร้ายถึงได้ดูจ๋อยได้ขนาดนี้คะ” นิมารู้สึกอย่างที่พูดออกไปจริงๆ ว่าน่าแปลก
“ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นคะ” ทองทิพย์ขยับเข้ามาสวมกอดนิมาเอาไว้ เพราะสิ่งที่พุทธชาดได้พูดเมื่อสักครู่กำลังรบกวนจิตใจของเธอ
“แล้วกลัวเรื่องอะไรคะ” นิมาถามและขยับเข้าสวมกอดทองทิพย์ไว้เช่นกัน
“กลัวนิ่มจะถอยออกไปจากชีวิต” ทองทิพย์กอดกระชับนิมาเอาไว้แนบแน่นเสียจนคนที่ถูกกอดอยู่รีบกอดกระชับปลอบโยนทั้งตัวเธอเองและทองทิพย์
“นิ่มจะไม่ไปไหน มันขึ้นอยู่กับทิพย์นะคะ ว่าอยากให้นิ่มอยู่ข้างๆ หรืออยากให้นิ่มออกไปจากชีวิต นิ่มรู้ว่าทิพย์มีเรื่องราวค้างคาอยู่ในใจ บอกนิ่มได้หรือเปล่าล่ะ เราจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันหาทางแก้ไข ซึ่งก็ดูเหมือนตัวปัญหาก็น่าจะเป็นตัวนิ่มเอง อย่างนั้นหรือเปล่าคะ” นิมาคลายอ้อมกอดและเชยคางทองทิพย์ขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะให้มองสบตากับเธอ สายตาที่แข็งกร้าวไม่มีหลงเหลือให้เห็น สายตาอ่อนโยนคู่นี้ได้กลับมาเหมือนวันแรกที่ได้พบกัน เพียงแต่ว่าดูยังมีแวววิตกกังวล โดยการหลบสายตาไปบ้างในบางครั้ง นิมาสังเกตเห็น
“ถึงบอกไปมันก็คงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา” ทองทิพย์พูดขึ้นลอยๆ เบียดตัวเข้าหาอ้อมกอดของนิมาซึ่งค่อยๆ กอดกระชับให้แน่นขึ้นอีก
“ถ้าไม่เปิดใจ นิ่มจะเข้าไปได้อย่างไรกันล่ะคะ” นิมาพึมพำกับตัวเอง
“กอดไว้แบบนี้ทั้งคืนได้หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์พูดขึ้นมองสบตากับนิมาที่ยิ้มจางๆ ให้
“ได้สิ ทิพย์เหมือนคนเสียใจกับอะไรบางอย่าง จนมีความเจ็บแค้นปรากฏให้เห็นในสายตา บางทีก็ดูเหมือนเคียดแค้นเลยนะคะ ถ้าขอพรได้สักข้อนิ่มอยากให้กอดของนิ่มทำให้ความเสียใจที่ทิพย์มีหายไป เพราะยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ความเจ็บแค้นมันก็จะยิ่งมากขึ้นและคนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือตัวทิพย์เอง” นิมาพูดไปกับสิ่งที่เธอคิดและเป็นการหลอกถามกับคนที่เธอโอบกอดอยู่ เผื่อว่าจะเถียงหรือยอมพูดอะไรออก มาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผลมีเพียงแค่การเบียดตัวเข้าหาตัวเธอให้มากขึ้นกว่าเดิม เหมือนดังคนที่กำลังโหยหาอ้อมกอดเพื่อปลอบโยน เสียงถอนหายใจดังชัดเจนขึ้นเพราะความเงียบสงัด นิมาอยากย้อนเวลาได้ อยากไปช่วยแก้ไขอะไรๆ ที่อยู่ในใจของผู้หญิงคนนี้ คนที่ทำให้เธอตกหลุมรักได้ในเวลาไม่นานนัก
“ทิพย์รักนิ่มนะ แต่คำสัญญาที่ให้ไว้กับโอบ ทิพย์ก็ต้องทำตามที่เคยได้บอกกับโอบไว้ ใครทำให้โอบเจ็บคนๆ นั้นก็ต้องเจ็บเช่นเดียวกับโอบด้วยเช่นกัน” ทองทิพย์พูดกับตัวเองและเบียดตัวให้แนบชิดกับนิมามากขึ้นอีก เพราะบางทีครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับนิมาก็เป็นได้
“นิ่มจะช่วยทิพย์เท่าที่นิ่มจะทำได้ นิ่มสัญญา” สองสาวกำลังคิดในสิ่งที่ตัว เองต้องการจะทำ คนหนึ่งคิดถึงการแก้แค้น แต่อีกคนกลับคิดถึงการแก้ไข