web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 146
Total: 146

ผู้เขียน หัวข้อ: Runaway Bride Vol.3 Chapter 19 : ปากหนัก รักเน้นๆ  (อ่าน 3293 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Runaway Bride Vol.3 Chapter 19 : ปากหนัก รักเน้นๆ
« เมื่อ: 17 มกราคม 2014 เวลา 22:41:00 »


Chapter 19 : ปากหนัก  รักเน้นๆ 


“ใช่..  มันเป็นแบบนั้นแหละนิกกี้  โชคดีที่ฉันไปทัน”

“โอ้..  ขนาดนั้นเลยเหรอคะฮัลลี่.?”

“โธ่นิกกี้..  ถามจริง  เธอไม่รู้จักพี่สาวอดีตแฟนตัวเองหรือไงจ๊ะ”

“นั่นสิคะ  งั้นฮัลลี่ก็เล่ามาให้หมดเลยแล้วกันค่ะ  ฉันอยากรู้”

“ฉันด้วย!”

“แหม..เจส..  เธอนี่ไม่เคยพลาดเรื่องนี้เลยนะ”

“อ้อแน่นอนสิคะ  คุณผู้หญิง”

ดาเรนยืนมองเจ้าของเสียงที่เป็นต้นเรื่องของเรื่องเม้าท์มอยนี้ด้วยสายตาเคืองๆแม้หล่อนจะไม่รู้ตัวว่า  กำลังถูกมอง  หรือไม่สนใจ  จำไว้นะคุณน้า.. 

“ไม่น่าชวนมาเลยแฮะ”  เจ้าของดวงตาสีช็อคโกแลตบ่นก่อนยกแก้วโกโก้ในมือขึ้นจิบระงับอาการสติแตกกับคุณน้าที่รักที่คาบข่าวมาเล่ามาเม้าท์ให้คุณภรรยาฟังอย่างไม่เกรงใจตนที่ยืนหัวโด่อยู่ที่นี่ 

นี่เขาเรียกว่า  โดนนินทาระยะเผาขนใช่ไหม.?  เริ่มไม่แน่ใจว่า  มันเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เป็นฮัลลี่ที่ไปช่วยเธอมาจากมือมาร

แต่คิดให้ดี  เจอฮัลลี่ก็ดีกว่าเจอยัยเซร่าห์บ้าบอนั่นล่ะ  ใช่ไหม.?

“เฮ้..ว่าไง..  ตกลงนั่นน้าสาวเธอ.?”  ราเชลถามตรงประเด็น  ดวงตาสีฟ้ามองไปที่คุณน้าที่ว่าสลับกับมองเพื่อนตัวเอง  “หน้าตาไม่เห็นเหมือนกัน  แถมเค้ายังสาวขนาดนั้น”

“ฮัลลี่เป็นลูกหลงของคุณตาคุณยายฉันน่ะ  แก่กว่าฉันห้าปี  เราโตมาด้วยกัน  เหมือนเพื่อนกันมากกว่า  อีกอย่างฉันเหมือนพ่อมากกว่าแม่นะราเชล”  ดาเรนชี้แจงเสียงขุ่นหน่อยๆ หวนคิดถึงเมื่อก่อนที่ต้องคอยอธิบายให้ใครๆฟังเรื่องของคุณน้ากับตัวเอง  ผิดที่ฮัลลี่แหละที่ดันเกิดช้าทำไม...

“อ๋อแบบนั้นเอง  มิน่าล่ะ”  สาวบลอนด์พึมพำ  หันไปมองคุณน้ายังสาวอีกที  “สนิทกับนิกกี้เหรอ.?”

“ฮัลลี่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนิกกี้ตอนทำโทที่นี่น่ะ  แต่เขม่นกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว”

“รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก.?”

“ใช่..  พวกเราโตมาด้วยกัน  เจสด้วย”  ดาเรนบอก  ราเชลทำหน้าทึ่งๆกับคำตอบพาให้ตนยิ้ม  “นึกไม่ถึงสินะ”

“อื้ม..  ใครจะไปคิดล่ะว่า  พวกเธอจะเหนียวแน่นกันขนาดนี้”

คนฟังหัวเราะเบาๆ “นั่นสินะ  ฉันลืมคิดไปเลย”  เธอหันไปมองกลุ่มคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง  อมยิ้มเมื่อเห็นแล้วว่ามันจริงอย่างที่อีกคนวิจารณ์  นิโคล  ฮัลลี่  เจสสิก้า  สาวๆที่กำลังนั่งเม้าส์กันอย่างอดรสออกชาติตรงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก

“ฉันเริ่มอิจฉาพวกเธอนิดๆแล้วแฮะ” 

“อิจฉาทำไมราเชล..  ยังกับเธอไม่มีใคร”  ดาเรนพูดอมยิ้ม  นิ้วเรียวไล้ไปตามขอบถ้วยเซรามิกเล่น  และเงยหน้ามองอีกคนเมื่อหล่อนพึมพำ

“ถ้าจะบอกว่า  ฉันไม่มีเพื่อนแบบนี้เลยล่ะ  คงไม่เชื่อสินะ”  ราเชลยิ้มเจื่อนๆ ยักไหล่เมื่อเพื่อนมองหน้าแปลกใจ  “การเลี้ยงดูของเราต่างกันมากดาเรน  ฉันรู้จักแค่ลูกของคนที่ทำงานกับพ่อแม่ฉันเท่านั้นแหละ  มีน้องคนหนึ่งที่สนิทกันตอนเด็ก  พอโตมาก็แยกย้ายกันไป  มาเจอกันอีกทีก็แทบจะไม่ได้แล้วว่า  ตอนที่ยังเด็ก  เราสนุกกันยังไง”

“อ้อ..  แล้วเพื่อนสมัยเรียนไฮสกูลกับมหา’ลัยล่ะ  ไม่ได้คบกันแล้วเหรอ”

“ก็มีอยู่  แต่ก็เหลืออยู่แค่ยัยซอนกับเพื่อนอีกคน  แล้วก็เบลล์นั่นไง  ส่วนคนอื่นๆ.....”  สีหน้าของคนฟังบอกว่าเข้าใจจนไม่จำเป็นต้องพูดต่อ  ราเชลหัวเราะน้อยๆ “ฉันเพื่อนน้อยดาเรน..  ถึงจะเห็นพูดมากแบบนี้ก็เถอะ”

“แต่ถึงจะน้อยก็มีคุณภาพไม่ใช่หรือไง  ฉันเองก็มีอยู่เท่านี้แหละ”  ดาเรนตอบยิ้มๆพลางก้มตัวลงหาลูกสาวที่วิ่งเข้ามาเกาะขาตัวเอง  ได้ยินเสียงราเชลหัวเราะเบาๆ “แล้วก็นี่ไง  เพื่อนซี้คนปัจจุบันล่ะ”

“แอนเดรียเนี่ยเหรอ.?”  ราเชลทำถามเสียงสูงเหมือนไม่เชื่อ  เลยโดนเด็กมองค้อนไปหนึ่งที  “ดูสิ  ลูกสาวนิกกี้แท้ๆเลยนะ  สำเนาถูกต้องเป๊ะ”

“แต่อาราเชลไม่เหมือนอิซซี่เลย  อิซซี่น่ารักกว่าเยอะ”   แอนเดรียย้อนเสียจนผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากัน  และดาเรนต้องรีบห้ามลูกสาว  กลัวเสียมารยาท  เป็นเด็กช่างเถียงคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่  มันจะไม่น่ารัก...

“แอนเดรียคะ  ไม่พูดแบบนี้สิคะลูก  ห้ามดุผู้ใหญ่นะ”

“ไม่เป็นไรดาเรน  เด็กสมัยนี้เค้ามีความคิดเป็นของตัวเองมาก”  ราเชลพูดอย่างเอ็นดู  ย่อตัวลงนั่งยองๆข้างๆเด็กน้อยตาสีฟ้าคล้ายตัวเอง  “อาดีใจนะแอนเดรีย  ที่แอนเดรียชอบอิซซี่  อิซซี่ก็ชอบแอนเดรียเหมือนกัน”

“อิซซี่บอกอาราเชลเหรอ.?”  เด็กน้อยถามสนใจ  อาการเปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือจนผู้ใหญ่ทั้งคู่อมยิ้ม

“ไม่บอกอาก็รู้ค่ะลูก  อิซซี่เป็นลูกสาวอานี่นา”

แอนเดรียยิ้มแก้มแทบแตกราวดีใจมากที่รู้และอยู่ๆก็วิ่งไปหน้าตาเฉย  ไม่บอกลากันเลยด้วย  มองตามไปก็เห็นว่าไปคุยกับมะม๊าคนสวยที่โซฟา  อยู่กับแฝดพี่ที่นั่งกระแซะแม่มานานแล้ว

“แหม..  ฉันอยากฟัดเจ้าแฝดจริงๆ  น่าหมั่นไส้เหลือเกิน”

“โอ้..ราเชล..  ถ้าอยากจะฟัดพวกเค้าก็รีบๆนะ  ถ้าโตแล้วฉันห้ามเด็ดขาด”  ดาเรนประกาศชัดเจน  คนขี้เล่นเลยลุกขึ้นมาชนไหล่สักที

“แค่นี้ทำหวงไปได้  แล้วอย่ามาง้อนะ  ถ้าอิซซี่โตแล้วสวยเช้งแบบฉัน” พูดไปพลางสะบัดผมตัวเองไปพลาง  แล้วก็หัวเราะขำซะเองพร้อมกับอีกคนที่เกือบสำลักโกโก้ตาย

“แหม..กล้าพูดนะ”

“หรือว่าไม่จริง.?”

“ก็จริง..  แต่ฉันก็เลือกนิกกี้มากกว่าอยู่ดี”

“ก็แหงล่ะ  หวานกันซะขนาดนั้นนี่!”  ราเชลพูดเสียงหมั่นไส้  หากก็ไม่ได้รับความสนใจมากพอเลยเปลี่ยนเรื่องซะ  “แล้วตกลงว่า  เธอมีเรื่องอะไรกับยัยคนที่เราเจอที่บริษัทนั้น”

ดาเรนยิ้มแหยๆ แทบไม่อยากจะพูด  ถ้าไม่ได้สัญญากันเอาไว้ก่อนจนโดนทวง  “เซร่าห์อยากได้ฉันไปเป็นแบบให้ลูกของเค้าน่ะสิ  บ้ามากๆ”

คนฟังทำตาโตแทบเหลือก  แทบจะสำลักกาแฟที่จิบอยู่  “อะไรนะ  เรื่องจริงเหรอ.?” 

“ฉันไม่อยากให้มันจริงเหมือนกันแหละราเชล แต่มันดันจริงน่ะสิ” คนเล่าฝืนยิ้ม  ชำเลืองไปที่กลุ่มสาวๆช่างเม้าท์กลางห้องโถง  เห็นนิโคลส่งยิ้มมาให้ก็รู้สึกคลายความเครียดลงมาก  ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มจนคนที่ยืนใกล้หมั่นไส้แล้วหมั่นไส้อีก

“นี่ๆน้อยๆหน่อยดาเรน..  ถ้าฉันไม่เห็นแก่กาแฟแก้วนี้ที่เบลล์ทำให้  ฉันจะอ้วกแล้วนะ”

“โอ้ว้าว..ราเชล..  เธอคิดงั้นเหรอ.?” ดาเรนถามยิ้มๆ อีกคนพยักหน้า  จิบกาแฟหน้าตาเฉย  ยังไม่รู้ตัวว่าจะโดนอะไร  ไม่คิดว่าจะโดนน่ะสิ  ยังไม่รู้ซะแล้ว..  “โอเค..แล้วไหนลองบอกหน่อยสิว่า....”  พยักเพยิดหน้าไปที่ของที่อีกคนประคองถืออยู่  ราเชลทำตาปริบๆชี้มือลงที่แก้วตัวเอง

“อะไรดาเรน..  ทำอ้ำอึ้งอยู่นั่น”

“ใครชงกาแฟแก้วนั้น”

“แก้วนี้น่ะเหรอ.?  ก็เบลล์ไง”  ตอบคำถามไปตามตรง แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบต่อ  หากพอเห็นรอยยิ้มแปลกๆของอีกคนก็เริ่มเข้าใจว่า  โดนเข้าแล้ว..

ร้ายเหมือนกันนะยัยสถาปนิก!

ราเชลข่มฟันก่อนแยกเขี้ยวยิ้ม  เอาไหล่ตนไปกระแทกไหล่คนที่เอาแต่อมยิ้มอยู่นั่น  “เธอจำไว้ดาเรน..  เรายังไม่จบ”

คนโดนชนตัวโคลงไปนิด  แต่แทนที่จะโกรธกลับหัวเราะขำให้คนชนที่ใช้มือเปล่าๆต่างปืนยิงตน  ดาเรนไม่ทันมองว่ามีอีกคนเดินมาหาจนกระทั่งหล่อนพูด

“ดูเหมือนดาเรนจะได้คู่หูใหม่แล้วนะคะ” 

หันไปก็เจอคนที่อยากจะเจอใกล้ๆมานาน  เจ้าของชื่อยิ้มหวานยอมให้คนยิ้มหวานกว่าเข้ามาคล้องคอด้วยสองแขน  “ทำไมคะ  นิกกี้ไม่ชอบเหรอ.?”

“ชอบค่ะ  แต่กลัวดาเรนจะชอบคุยกับราเชลมากกว่าฉัน”  นิโคลเลิกคิ้วส่งสายตาขี้เล่นให้คนฟังที่หัวเราะเบาๆในลำคอ  หากสีหน้าก็เปลี่ยนไปเร็วจนคนมองแปลกใจ  “เอ่อ..  แล้วตกลงวันนี้ที่บริษัทนั้น”

ดาเรนชะงักเล็กน้อยกดหัวคิ้วลงนิดๆรู้สึกหงุดหงิดอย่างไร้สาเหตุ  ไม่ใช่.. มันมีสาเหตุแน่.. “นิกกี้หมายถึง..  เอ่อ..จัสติน  หรือว่า.....”

“เซร่าห์ค่ะ”  คนรู้ทันความคิดกันรีบตัดบท  ลอบถอนหายใจกับท่าทางไม่เชื่อของอีกฝ่าย  “ดาเรนคะ  ช่วยอย่าดูถูกฉัน”

ได้ยินประโยคนี้เข้า  คนที่หึงจนเผลอตัวก็หลับตาลงข่มใจ  มันไม่ง่ายเลยที่จะลืมเรื่องเก่าๆแบบนั้น  ราวแผลเป็นที่กดลงไปกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเจ็บ  ก็ความรู้สึกเจ็บนั่นมันยังใหม่อยู่เสมอ  แม้จะพยายามซ่อนมัน  แม้จะพยายามบอกตัวเองว่า  มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีกแล้วก็ตาม 

แต่มันก็....

“ฉันเข้าใจว่าดาเรนรู้สึกยังไง..  และฉันขอโทษด้วยที่เป็นต้นเหตุ   แต่ฉันสาบาน..  ฉันรักดาเรนคนเดียว”   นิโคลพูดทั้งน้ำตาคลอเบ้า ไม่คิดอายใครหากคนจะมองมา   “ดาเรน.?”

ดาเรนเปิดดวงตาขึ้นในที่สุด  แล้วยิ้มอย่างเข้าใจ  “ฉันขอโทษค่ะนิกกี้  มันก็แค่.......”  อีกครั้งแล้วที่พูดไม่จบ   อีกคนเลิกคิ้วอยากฟัง

“แค่อะไรคะ.?”

“แค่ฉันขี้หึงมากๆเลยนะนิกกี้”

ทั้งนิโคลและดาเรนสะดุ้งเล็กๆกับเสียงที่แทรกขึ้นมา  หันไปก็เจอเจ้าของเสียงยืนขำถูกใจ  คุณหมอส่งจูบมาตามลมก่อนจะจากไปพร้อมเสียงหัวเราะอย่างไม่กลัวว่าใครจะเอาอะไรปาหัว  นั่นเพราะดาเรนโดนจับตัวเอาไว้แล้วไง...

“ยัยหมอพูดมาก!”

“พูดมาก..  แล้วพูดจริงหรือเปล่าล่ะคะ.?”  นิโคลตะล่อมถาม  หวังให้คนปากแข็งยอมเปิดปากพูดความจริง  ทุกวันนี้ยังต้องการฟังมันอยู่ร่ำไป 

อยากฟังคำรักซ้ำๆจากปากดาเรน..

อา..ฉันโรคจิตไปไหม.?

ดาเรนยิ้มประหม่า  สองตามองเลิ่กลั่ก  ความรักที่มีมันล้นหัวใจ  แต่มันไม่เคยเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดมัน  ความจริงนิโคลก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเธอรักมากแค่ไหน  แล้วทำไมจะต้องให้บอกด้วย...

“แค่บอกว่า.. ‘ฉันหึง’  มันยากมากเหรอคะ.?”   

ดวงตาสีช็อคโกแลตกล้าๆกลัวๆมองกลับมาที่คนถาม  ดวงตาขี้อ้อนสีฟ้ายิ่งทำให้ประหม่าหนัก   อา..นิกกี้จะฆ่าฉันหรือไง...

“เอ่อก็....”

“มะม๊า..  ปะป๊า..  คุณยายฮัลลี่ให้ของขวัญ  แกะได้ไหม.?”

ดาเรนถอนหายใจเฮือกโล่งอก  ผิดกับอีกคนที่แอบกลอกตาเซ็งเพราะโดนขัดจังหวะ  หากระฆังใบน้อยทั้งสองก็ยังคงไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าทำอะไรผิดไป 
ก็แค่อยากมาหาปะป๊า  มะม๊า...

ดวงตาสีน้ำตาลส่งสัญญาณขออนุญาตให้คนตาสีฟ้า  นิโคลพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้  จะไม่อนุญาตได้ไง  ก็นี่ลูกรักสองคนเลย..

“เหรอคะ คุณยายให้เหรอ ไหนขอปะป๊าดูหน่อย” ดาเรนนั่งลงคุยกับลูกๆ คุณมะม๊าถึงจะรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างก็ลดความสูงลงนั่งตาม  ยามที่สบตากันเธอก็พยายามใช้สายตาบอกความในใจ 

เอาไว้กลางคืนก่อนนะ  แล้วจะตอบให้ว่า  รักมากที่สุดในโลก..

“เราจะแกะกันตรงนี้เหรอคะ  ไปแกะตรงหน้าคุณยายดีไหม.?”  มะม๊าคนสวยเสนอเมื่อเธอข่มอารมณ์ขุ่นๆของตัวเองได้  ถึงอย่างนั้นเวลาที่สายตาบังเอิญหันไปเจอคู่กรณีก็ยังมีแอบมองค้อนอยู่ 

รู้อยู่หรอกว่า  ดาเรนคิดยังไง  แต่ทำไงได้มันอยากฟัง  ชัดๆดังๆด้วย!

“แกะโชว์คุณยายเหรอ.?”

“ใช่ค่ะ  เหมือนอิซซี่ไง  ดูสิ”  นิโคลชี้มือไปที่เด็กน้อยตาสีฟ้าที่ยิ้มร่ากับของเล่นใหม่อยู่กลางวงของผู้ใหญ่ 

อิซซาเบลน้อยร่าเริงยิ้มเก่ง  อาจเพราะเขาเป็นส่วนผสมของสองคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดี  ราเชลแม้จะเห็นว่าเรื่องเยอะ  ขี้หงุดหงิดและค่อนข้างเอาแต่ใจแบบนั้น  พอสนิทกันแล้วก็รู้ทันทีว่า  รักเพื่อนพ้อง  คุยสนุก  มีมุขให้ฮาได้ตลอด  ชอบทำให้คนอื่นยิ้ม  ส่วนแอนนาเบลล์ก็เป็นสาวแสนดี  มีน้ำใจ  มองโลกในแง่ดีมากๆ  อยากถามเหมือนกันว่า  เคยโกรธใครบ้างไหม  หรือจะโกรธจะตีจะอาละวาดก็แค่กับคุณสามีก็ไม่รู้   เท่าที่รู้ก็คือ  หนูน้อยตาสีฟ้า  ตัวขาวจั๊วะคนนี้  ตอนนี้เป็นขวัญใจของฝาแฝดของเธอไปเสียแล้ว

แล้วถ้าน้องกลับบ้านจะทำยังไงเนี่ย..  สัญญาณของความปวดหัวเริ่มมาให้เห็นรำไรแล้วล่ะ  เฮ้อ...  ชักอยากให้เจสซี่เดินได้ไวๆแล้วสิ  แค่คลานให้ได้ก่อนก็พอแล้วมั้งตอนนี้น่ะ..

“งั้นเราไปแกะใกล้ๆน้องก็ได้  ได้ไหมมะม๊า”

มะม๊าคนสวยพยักหน้ารับ  ในทันทีก็ถูกมือเล็กๆของเด็กทั้งสองจับดึงให้ลุกขึ้นยืน  เจอสองรุมหนึ่งก็จำเป็นต้องลุกแล้ว  ความจริงไม่อยากต้านแรงลูกๆ เดี๋ยวจะเกิดโศกนาฏกรรม...

แต่เหตุการณ์ก่อนโศกนาฏกรรม  มันก็ยังมีนะจ๊ะ..

“เดี๋ยวค่ะลูก  ไม่รอปะป๊าเหรอ..”  เสียงบางคนทวงถามราวกลัวถูกลืม  ดาเรนยิ้มเป็นปลื้มเมื่อลูกคนหนึ่งส่งของขวัญให้เธอถือ  แล้วใช้มือข้างที่ว่างนั้นจับมือเธอให้เดินไปด้วยกัน  มันกำลังจะไปได้สวย  คุณภรรยาคนสวยคงจะลืมไปแล้วว่าเมื่อครู่งอนอะไรกัน  หากมันก็เป็นเพียงฝันลมๆ เพราะเสียงกระซิบเบาๆที่หูยังอุตส่าห์ได้ยิน  บอกมาชัดเจน

“คืนนี้ดาเรนรีบเคลียร์งานนะคะ  เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

----Runaway Bride3----

“ท่าทางฉันคงจะต้องหาเวลาไปเยี่ยมเค้าบ้างนะ”  นิโคลพูดขึ้นระหว่างนั่งเท้าคางหมุนดินสอในมือ  ตาก็มองคนที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามา  ดาเรนทำตาปริบๆ ราวไม่รู้ว่า  เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร  อย่ามาทำไก๋นะ!

“นิกกี้พูดถึงใครคะ.?” 

นั่นไงล่ะ  ทำไม่รู้เรื่องจริงๆด้วย.. 

ดาเรนก้มตัวลงนั่งที่เก้าอี้ที่โต๊ะเขียนแบบข้างๆ  เธอหันมองตามดูหล่อนทุกอิริยาบถจนคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไร  เงยหน้าจากกระดาษตรงหน้ามาสบตา

“อะไรคะนิกกี้.? ถ้าจะถามถึงเด็กๆ พวกเค้าหลับกันหมดแล้วค่ะ” ตอบคำถามที่คิดว่าใช่จบก็ก้มหน้าลงเตรียมลงมือทำงานอย่างที่ตั้งใจ  หากความรู้สึกที่คิดว่ากำลังถูกจ้องก็ดึงเธอขึ้นมาอีกครั้ง  เลิกคิ้วมองคุณภรรยาแปลกใจ

“ดาเรนไม่ได้ลืมอะไรเหรอคะ.?”  นิโคลถามลองเชิง  คนถูกถามกดหัวคิ้วครุ่นคิดแล้วส่ายหน้า  จำไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย!

คนถามถอนหายใจเพลีย  ยกมือขึ้นโบกให้อีกคนอย่างอ่อนใจ  ถอดใจที่จะคาดคั้น  แต่นั่นจึงทำให้เป็นฝ่ายถูกถามบ้าง

“นิกกี้มีอะไรคะ.?” 

“ไม่มีอะไรค่ะ  ดาเรนทำงานเถอะ  ฉันต้องทำของฉันเหมือนกัน”  ดินสอถูกจับมาเริ่มต้นขีดๆเขียนๆใหม่  พยายามไม่คิดถึงเรื่องที่ผิดหวัง  เธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะออกแบบห้องนอนให้ลูกสาวฝาแฝดใหม่  สนใจเรื่องนั้นจะดีกว่า  ดีกว่าสนใจคนใจร้ายบางคนตรงนี้   หากบางอย่างที่รู้สึกได้ที่ด้านหลัง  เหมือนใครชะโงกหน้าข้ามบ่ามามองของบนโต๊ะของเธอ  ก็พาให้เงยหน้าขึ้นมอง  และเพราะอารมณ์กำลังขุ่น  ดวงตาจึงส่อแววความดุชัดแจ้ง  คนแอบมองเลยยิ้มแห้งๆให้

“นิกกี้ตาดุจัง”

นิโคลถอนหายใจก้มหน้าลงเขียนงานต่อแต่แน่นอนปากยังพึมพำ  “ฉันไม่ได้ตาสวยเหมือนเซร่าห์หรอกค่ะ  ขอโทษด้วยนะ”

ดาเรนรู้ตัวเลยว่ากำลังโดนประชด  เธออมยิ้มเพราะรู้ดีถึงความแสนงอนของคุณภรรยาคนสวย  รู้ดีด้วยว่ามาจากอะไร 

เออ..รู้แล้วก็ยังจะทำอีกนะ  มันน่าไหม.?

“นิกกี้คิดอย่างนั้นเหรอคะ  ฉันไม่เห็นรู้สึก”

“ถ้างั้นพรุ่งนี้ดาเรนก็กลับไปมองใหม่สิ”  คนอารมณ์ไม่ดีย้อนไม่มองหน้า  หากต่อมาทั้งสายตาและมือเธอก็ชะงักกับบางอย่างที่ถูกส่งมาโผล่ตรงหน้า  มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน  เงยหน้าขึ้นมองคนถือมันอยู่ก็รู้สึกหงุดหงิดกับรอยยิ้มหวานๆที่ส่งมา  อย่ามาตบหัวแล้วลูบหลังนะ  ไม่ใช่แมว.. 

“ของขวัญให้ลูกค้าคนไหนคะ  ไหนบอกว่าส่งให้ก่อนช่วงวันหยุดนี้แล้ว”  ทำพูดไม่ใส่ใจ   ก้มหน้าจะทำงานต่อ  หากก่อนจะปัดมือที่เกะกะอยู่ตรงหน้าออก  กล่องกำมะหยี่ก็ถูกเปิดออกด้วยมือขาวของคนด้านหลัง  นั่นจึงปรากฏของด้านใน

มันเป็นสร้อยที่ดูจะทำจากแพลตตินั่มมากกว่าเงิน  จากสีสันที่เห็น  มันมีจี้ที่เป็นอัญมณีห้อยอยู่  อัญมณีสีฟ้าอควอมารีน  และคล้ายบางอย่างที่เธอเคยเห็นที่ไหนสักที่..  แต่ที่ไหนล่ะ.?

ดวงตาสีฟ้ากระพริบงงๆ  ถึงไม่อยากเข้าข้างตัวเองแต่ก็แน่ใจว่าดาเรนคงไม่ซื้อของราคาสูงขนาดนี้ให้ใครนอกจากเธอ 

ก็ลองให้คนอื่นดูสิ  ยังอยู่ดีได้ก็ให้มันรู้ไป.! 

“ดาเรน.?”

“เห็นแล้วนึกถึงตานิกกี้ค่ะ  ก็เลย....”  ดาเรนยิ้มเขินหน้าแดงระเรื่อ  คนที่ยังเคืองๆก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้  คนขี้อายอยู่แล้วก็ยิ่งอายไปใหญ่  กล่องกำมะหยี่เลยถูกปิดพร้อมคนปิดที่อายม้วน  เดินหนีให้อีกคนหัวเราะเสียงดัง

“โอ้..นิกกี้ขา..  ไม่มีอะไรน่าขำเลยนะ”

จากที่เป็นฝ่ายงอนรอให้คนง้อ  คราวนี้เธอคงต้องง้อบ้างแล้ว  ก็ดันไปทำให้คุณสามีที่รักที่ตั้งใจจะทำหวานใส่ต้องเสียความมั่นใจไปแบบนั้น

ดาเรนตั้งใจจะให้ของขวัญเธอเลยนะนั่น  แพงด้วย.!

โอ้..  แต่ฉันไม่ได้สนใจเรื่องราคาของมันหรอกนะ  นี่บอกเลย..

นิโคลพยายามกลืนขำลงคอ  รีบวางดินสอลงพลันแล้วหันไปมองคนที่เงียบไป  ดาเรนทำหน้าเรียบเฉยแต่สองมือประคองกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเอาไว้  พลิกมันไปมา  และเหมือนจะรู้ว่าเธอจ้องไม่วางตา  ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน  และดวงตาสีน้ำตาลที่เหมือนหมาน้อยหงอยๆนั่นก็ทำให้เธอต้องผุดลุกขึ้นอย่างลืมงอนและโผไปหาหล่อนทันที

เธอก้มตัวลงจนใบหน้าลงไปใกล้คนนั่งที่เงยหน้าขึ้นหา  บอกตามตรงว่าอยากจะหยิกแก้มขาวๆนี่สักทีด้วยความหมั่นเขี้ยว  หากที่ทำก็แค่กระซิบถามเบาๆ  “ตกลงว่าจะให้หรือเปล่าคะ.?”  ดาเรนหัวเราะประหม่าพาให้เธออมยิ้ม 

“ว่ายังไงคะ.?”  นิโคลส่ายหน้าให้คนช่างเขิน  ที่สุดเธอก็เบื่อจะรอ  ร่างระหงทรุดตัวลงนั่งบนตักหล่อนเสียเลย  มือปัดเส้นผมยาวออกจากบ่าทั้งสองข้าง  มองหน้าอีกคนให้รู้ตัวว่าควรจะทำอะไร  ดาเรนยิ้มหัวเราะเบาๆในลำคอ  จากนั้นก็ค่อยๆเปิดกล่องสีน้ำเงินออก  หยิบของข้างในออกมา  พลอยสีฟ้าใสโชว์แก่สายตาเธอก่อนที่มันจะลงไปเป็นจี้ห้อยคอที่สวยที่สุดให้

“ว้าว..”  คุณแม่ยังสาวอุทานออกมาได้คำเดียว  เธอยิ้มกว้างและหันไปคล้องคอคนที่สวมมันให้  คนใจดีหัวเราะหน้าแดงเป็นริ้ว  ป่านนี้แล้วยังจะอายอยู่อีกเหรอเนี่ย  น่ารักจริงๆ..

“เอ่อ..  ชอบไหมคะ.?”  กลั้นใจถามออกมาจนได้  คนบนตักยิ้มพยักหน้า  เธอเองก็แอบโล่งอก นึกว่าจะโดนดุที่ซื้อของแพง

“เนื่องในโอกาสอะไรคะ.?”  นิโคลแกล้งถาม  ความจริงก็พอรู้อยู่แล้ว  แค่อยากจะรู้ว่า  มันตรงกันไหมเท่านั้น  “ไถ่โทษหรือเปล่า.?  ทำอะไรผิดไหม.?”

คนถูกถามหัวเราะกลบความเขินพลางส่ายหน้า  “ถ้านิกกี้ว่า  การวิ่งหนีเซร่าห์มาวันนี้เป็นความผิด  ก็ผิดค่ะ”

สาวบลอนด์อมยิ้ม  “เดี๋ยวนี้รู้จักยอกย้อนนะคะ” 

“เห็นแล้วนึกถึงนิกกี้จริงๆค่ะ  สีตานิกกี้..”

“แค่นั้นเหรอคะ.?” 

ดาเรนส่ายหน้าก่อนเข้ามาทำเรื่องที่ถนัดกว่าการพูด  นั่นคือการมอบจูบหวานๆให้กับคุณภรรยาที่รัก  “สุขสันต์วันครบรอบแต่งงานค่ะ”

นิโคลยิ้มหวานก่อนประกบปากอีกคนด้วยความรัก  ขยับมามองตากันอีกครั้ง  และมันแปลกนะที่คราวนี้เธอรู้สึกประหม่ากับสายตาที่กำลังมองจ้อง   “ขอบคุณค่ะ   แต่ฉันไม่มีอะไรให้ดาเรนเลย  ขอโทษนะ  เอาไว้พรุ่งนี้--”

“ไม่เป็นไรค่ะ  นิกกี้ให้ฉันแล้วล่ะ” 

คนฟังทำหน้างงก่อนยิ้มอย่างเข้าใจที่ถูกรวบตัวไปกอดจนแน่น  และนี่ก็คือคำตอบที่เธอได้จากคนปากหนักคนนี้  นิโคลยิ้มมีความสุข  รู้แบบนี้ขอแต่งงานตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกันซะก็ดี..  อา..แต่ตอนนี้ก็โอเค...   





............................................


เราใจดีมาให้อีกตอนจ้า..

ขอบคุณทึ่เข้ามาเยี่ยมชมด้วยค่ะ   :45: 



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.