web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 39
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 16
Total: 16

ผู้เขียน หัวข้อ: What a Coincidence! Chapter 5  (อ่าน 2803 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nuffy

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
What a Coincidence! Chapter 5
« เมื่อ: 18 มกราคม 2014 เวลา 23:44:21 »
Chapter 5

ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้งหลังจากที่เลือดกำเดาหยุดไหลแล้ว นี่กูเป็นอะไรไปเนี่ย เฮ้ออ เซ็งจริงๆ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินลงไปข้างล่างเห็นโต้ง แนน และฟางนั่งดูทีวีกินขนมกันอย่างครบชุด รวมไปถึงสมาชิกใหม่ ไอ้หน้าเกือบหล่อ นายคมเคียว พี่ชายของฉันนั่นเอง

“ลงมาได้แล้วเหรอวะ ขึ้นไปทำอะไรนานจัง” สาวแว่นถามฉันที่นั่งลงข้างๆ ฉันมองสาวหน้าแรงอย่างเคืองๆ ซึ่งยัยตัวร้ายเพื่อนของฉันนั้นทำหน้าแบบไม่รู้ไม่ชี้ ใบหน้ามีรอยยิ้มเยาะน้อยๆ กวนตีนซะจริงนะมึง

“เรื่องของกู” ฉันตอบไปอย่างแกนๆ และยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นดื่ม

“เมื่อคืนฟางมานอนที่บ้านเหรอ” เคียวถามฉัน

“ใช่แล้วล่ะเคียว เมื่อคืนฟางมากินข้าวกับพวกเราแล้วพอดีมันดึกมากก็เลยมานอนที่บ้านล่ะ” คนที่ตอบไม่ใช่ฉันกลับกลายเป็นเกย์หนุ่ม ขโมยซีนนักนะมึง

ไอ้หน้าเกือบหล่อยิ้มหวานให้โต้ง “เหรอ... ก็ดีนะจะได้อยู่เป็นเพื่อนเรียวด้วย เราเองกลับบ้านดึกบ่อยๆ บางทีก็ไม่ได้กลับเลย เป็นห่วงเรียวอยู่เหมือนกันที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว”

“ไม่ต้องมาทำแมนเลยมึง ไม่ค่อยจะห่วงสักเท่าไหร่หรอกน่า” ฉันพูด

“กูก็ห่วงมึงนะเว้ย” เคียวเถียงกลับ

“ห่วงแบบไหนของมึงวะ ปล่อยน้องตัวเองอยู่บ้านคนเดียว บ้านช่องก็ไม่ค่อยจะมาดูแล มัวแต่แรดๆๆ ไปวันๆ”

“กูห่วงนะ แต่กูห่วงแบบไม่แสดงออกไง”

“ถุย” สาวแว่นกับเกย์หนุ่มช่วยกันรับมุข เล่นเอาฟางขำกลิ้ง

ฉันส่ายหน้าอย่างระอาแต่แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ กูขอแก้แค้นมึงซะหน่อยเถอะไอ้คุณเพื่อน

“เออ เคียวแล้วไอ้พวกชะนีที่ภูกระดึงกับพวกเราเป็นไงมั่งวะ” ฉันถาม เล่นเอาสาวหน้าแรงสะอึก ส่วนเพื่อนสนิททั้งสองก็อึ้งไปนิดหนึ่ง

“โฮ่ มีกะใจถามกะเค้าซะด้วยแฮะ ก็โออยู่นะ ฝ้ายกับซีก็ยังมาหาเหมือนเดิม แต่ที่แปลกไปก็เห็นจะเป็นใบเฟิร์นอ่ะ”

“ใบเฟิร์นทำไมเหรอ” ฉันถามต่อ

“หลังจากกลับมาจากภูกระดึงก็ไม่ค่อยมาหาสักเท่าไหร่ มีนานๆ โทรมาทีนึง แต่ก็ดูห่างๆ ไป ทำไมวะ”

ฉันทำหน้าเฉย “มีเรื่องนิดหน่อย”

“เรื่องอะไรวะ” ไอ้หน้าเกือบหล่อถาม

“อยากรู้เหรอ จะให้เล่ามั้ยล่ะ” ฉันพูด ฟางส่งสายตาอำมหิตมาให้ฉันประมาณว่า อย่าเล่านะมึง ฉันจะทำอ่ะ ทำไมเหรออ อยากให้แกเสียหน้าต่อหน้าผู้ชายนิดจะเป็นไรไป

“เออดิ มึงพูดงี้กูก็อยากรู้ดิวะ แบบว่าหลังจากที่กลับมาจากภูกระดึง ใบเฟิร์นดูเปลี่ยนไป แต่กูว่าก็โอนะ ตัดตัวน่ารำคาญออกไปได้คนนึงอะ”

“แล้วอยากเพิ่มตัวน่ารำคาญขึ้นมาอีกคนนึงมั้ยล่ะ”

“อะไรวะ พูดงี้หมายความว่ายังไง” เคียวถามพลางหันไปหาแนนกับโต้งว่ารู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดหรือเปล่า

“ไอ้เรียว มึงจะทำอะไรวะ” สาวแว่นกระซิบ ในขณะที่เกย์หนุ่มนั่งทำตาปริบๆ ส่วนสาวหน้าแรงจ้องฉันราวกับจะกินเลิอดกินเนื้อ

“ก็เอางี้ละกันนะ กูรู้สาเหตุว่าทำไมใบเฟิร์นเปลี่ยนไปแถมคนแถวนี้ก็เพิ่งจะโสดหมาดๆ และกำลังอยากได้แฟนใหม่แบบสายฟ้าแล่บ มึงสนใจป่ะละ”

“เห... อะไรวะ” ไอ้หน้าเกือบหล่อพูดแบบไม่เข้าใจ เขามองหันซ้ายทีขวาที จนกระทั่งไปหยุดอยู่ตรงที่ฟาง

“เฮ้ย... อย่าบอกนะว่า”

“แกคิดเหมือนฉันอยู่หรือเปล่าบี 1” สาวแว่นพูด

“ฉันก็คิดเหมือนแกนั่นแหละบี 2” เกย์หนุ่มตอบรับทันที

“ฟางเลิกกับแฟน แถมแฟนของฟางยังไปมีอะไรๆ กับยัยใบเฟิร์นไงล่ะ” แนนและโต้งประสานเสียงพร้อมกัน

“จริงดิ” เคียวพูดเสียงดัง เขาหันไปหาฟางทันที “พี่เมกับใบเฟิร์น... จริงดิฟาง”

ฟางทำหน้าตกใจ “จริงอะไรเหรอเคียว ฟางไม่เข้าใจ” แหนะ ยังมาทำเป็นแบ๊ว เค้าเฉลยไปถึงไหนถึงหนึ่งแล้วนะเว้ย

“ก็แบบว่า... ฟางเลิกกับพี่เม แล้วพี่เมกับใบเฟิร์น” ลิ้นเริ่มพันกันแล้ว มึงจะตื่นเต้นอะไรวะ

“จริง” ฉันพูดพลางดื่มน้ำ สาวหน้าแรงจ้องฉันเขม็งด้วยความเสียหน้าเพราะไม่อยากให้เคียวรู้เรื่องนี้ ปากขมุบขมิบพูดพึมพำไม่ได้ศัพท์ เหวยยย กลัวจังเลยย กลัวมากๆ กลัวจั๋งฮู้ กลัวขนาดกะเจ้า

ไอ้หน้าเกือบหล่อหันไปหาฟาง “ฟางเราของโทษนะที่ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้” โว้ยยย มึงจะแมนไปไหนเนี่ย ผิดแผนแก้แค้นหมดเลย ทำไงดีเนี่ย

“ขอโทษทำไม มันไม่ใช่ความผิดของเคียวสักหน่อย ตอนนี้ฟางพอทำใจได้แล้วล่ะเรื่องนั้นอ่ะ” สาวหน้าแรงพูดพลางทำหน้าทำตาน่าสงสาร มารยามาอีกแล้ว

“ถ้าฟางอยากให้เราทำอะไร ฟางบอกเราได้เลยนะ” มันยังแมนไม่เลิก พี่ชายกูเป็นเอามากนะเนี่ย แต่เออก็ดี จีบๆ ไปรีบๆ เป็นแฟนกันไปก็ดีแล้วจะได้เบาแรง

“งั้นเอาเป็นว่า บางครั้งเราขออนุญาตมานอนบ้านเคียวก็แล้วกันนะ เพราะว่าเราจะได้อยู่เป็นเพื่อนเรียวด้วย แถมที่ทำงานของเรากับเรียวก็อยู่ใกล้กันด้วยจะได้ไปด้วยกันกลับด้วยกัน” เอาแล้วไงกู โดนเข้าให้แล้ว โว้ยยย ไม่เอา อย่าเลยนะมึงไอ้เคียว อย่า...

“ดีๆ แนนเห็นด้วยนะ อีกอย่างเห็นฟางบอกว่าพี่เมอะไรนั่นยังมาตามง้อฟางอยู่เลย ให้ฟางไปกับเรียวก็เข้าท่าออกนะ” เฮ้ยๆๆๆๆ ไอ้แนนมึงพูดอะไรออกมา

“โต้งก็เห็นด้วยนะ เรียวมันจะได้ไม่เหงาด้วย เวลาที่เคียวไม่อยู่บ้านน่ะ แต่เคียวจะมาหาโต้งบ้างก็ยินดีนะคะ” อ้าว อีโต้งมึงก็เป็นไปอีกคนเรอะ

บ้ากันไปแล้วนี่ฉันโดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหรือเนี่ย ไม่นะ ม่ายยยยยยย อย่าเลยนะมึงไอ้เคียว อย่ากูไม่เอา อย่าให้มันมาอยู่บ้าน

“ไม่เอา กูอยู่คนเดียวได้ กูไม่ต้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนกู” ฉันพูดเสียงแข็ง ส่วนไอ้หน้าเกือบหล่อยังคงนั่งคิดอยู่

เกย์หนุ่มตีมือฉัน “นี่ไอ้เรียวมึงอย่าพูดแทรกได้มั้ย เห็นมั้ยว่าเคียวเค้ากำลังคิดอยู่” หนอยย อีโต้ง มึงจะขัดขากูไปถึงหนายยยยย

“ว่าไงละคะเคียว” สาวหน้าแรงกระทุ้ง

เคียวนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง “คือว่าตอนนี้มันค่อนข้างจะแปลกๆ อยู่สักหน่อยแต่เราอยากให้ทุกคนช่วยคิดนิดนึงอ่ะ”

“เรื่องอะไรเหรอ” สาวแว่นถาม

“ก็ใบเฟิร์นน่ะสิ”

“ทำไมอ่ะ” เกย์หนุ่มถาม

“ที่เรียวบอกว่าใบเฟิร์นไปกับพี่เมใช่มะ แต่เมื่อคืนเราก็ไปเจอใบเฟิร์นเหมือนกัน ท่าทางก็เหมือนเดิมนะแถมยังดูแรงกว่าเดิมด้วย แบบว่ารุกเราหนักกว่าเดิมอีก ดูแล้วมันแปลกๆ อ่ะ”

“เรื่องราวมันจะซับซ้อนไปไหนเนี่ย” แนนว่า

“นั่นดิ” โต้งพูด “หรือว่ามันจะเหมาสอง ทั้งไอ้พี่เม ทั้งเคียวด้วย แหมมม ผู้หญิงอะไรร้ายกาจซะไม่มีอ่ะ”

“อื้อ ช่าย แรดยิ่งกว่าเกย์อย่างมึงอีกเนอะ” สาวแว่นพูด

“ช่าย... อ้ายยย อีแนน” เกย์หนุ่มตีเพื่อนสาวมือเป็นระวิง โดยมีแนนเอาหมอนบัง

“พอก่อนเลยมึงอย่าเพิ่งกัดกัน เดี๋ยวก็เอาน้ำราดซะหรอก” ฉันห้าม “แล้วไงต่อวะ” ฉันถามพี่ชายฝาแฝด

“คือเราก็มีเรื่องอยากจะขอร้องฟางเหมือนกันน่ะนะ ไม่รู้ว่าฟางจะรังเกียจหรือเปล่า” เคียวพูด

“อะไรเหรอคะ”

“คือบางครั้งนะ บางครั้งจริงๆ เราอยากจะรบกวนให้ฟางไปเป็นคู่ควงเราหน่อย แบบว่าพวกออกงานหรือไปซื้อของด้วยกันบ้าง เพราะตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยกับการรับมือสาวๆ เต็มทนแล้ว” โห... ไอ้พี่ชาย มึงจะจีบเค้ามึงก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องมาอ้างเรื่องที่จะเอาไอ้ฟางไปเป็นไม้กันหมาหรอก

“อื้อ ได้สิ” ยัยนี่ก็ตบปากรับคำเค้าไปง่ายๆ ซะงั้น “แลกกับให้ฟางมานอนบ้านเคียว และก็ขอตัวเรียวไปนอนบ้านฟางบ้างนะ” เฮ้ยยยย อย่านะ

“ได้ๆ ไม่มีปัญหา” ไอ้หน้าเกือบหล่อตกลงทันที เฮ้ยยยยยยยยย อะไรกันโว้ยยยยยยยยย

“ค่ะ ลูกทหารพูดแล้วไม่คืนคำนะ” ดูมันใช้คำนี้กับพี่กูด้วย

เคียวหัวเราะพร้อมตะเบ๊ะ “ด้วยเกียรติของลูกทหารเลย ฮูย่า!” ไอ้หน้าเกือบหล่อตะโกนด้วยเสียงอันดังจนทำให้แนน โต้ง และฟางใช้นิ้วอุดหู

“อ้ายยยยย คุณพระ ขี้หูเต้นระบำ” เกย์หนุ่มอุทาน ส่วนแนนหลับตาปี๋อันเป็นท่าประจำเวลาได้ยินเสียงอะไรดังๆ ส่วนฟางก็ตะโกนขึ้นมาว่า

“มันแปลว่าอารายยยยยยยยยยย”

เคียวหัวเราะ “มันเป็นคำที่พวกทหารใช้น่ะ พ่อสอนให้พูดเวลาตอบรับน่ะ ประจำเลยตั้งแต่เด็กแล้ว”

“ไม่เห็นแกพูดอะไรแบบนี้มั่งเลยไอ้เรียว” สาวแว่นถาม

“ไม่ได้พูดมานานแล้ว” ฉันว่า “ตอนไปอยู่ชายแดนขืนพูดเสียงดังก็เสี่ยงถูกจับตัวดิวะ แต่กลับมาก็พูดบ้างเฉพาะเวลาพ่ออยู่อ่ะนะ”

“เอาเป็นว่าเคียวตกลงกับเราแล้วนะ” สาวหน้าแรงพูดพลางตะเบ๊ะ

“ครับผม”

“งั้นเดี๋ยวเราขอให้เรียวขับรถไปส่งเราที่บ้านหน่อยนะ”

“ได้เลย เออ... ใช่ พรุ่งนี้เราจะไปซื้อของ ฟางไปกับเราได้มั้ยอ่ะครับ เราไม่ทำอะไรฟางหรอกเอาไอ้เรียวไปด้วยก็ได้” โห... ทีกับหญิงอ่ะนะ พูดซะหวานเลย ทีกับน้องกับนุ่งเนี่ยพูดแบบขอไปทีแถมพูดเหมือนกะกูเป็นตัวแถม จำไว้นะมึงไอ้พี่ชาย

“รับทราบค่ะ” ฟางพูดพลางยิ้มหวานแล้วก็เลยมายิ้มแบบนางพญาที่ได้รับชัยชนะให้กับฉัน

“เฮ้อ... Mierda! (ซวยแล้วกู!)” ฉันอุทานออกมาเป็นภาษาสเปนด้วยความเซ็ง

...
ฉันขับรถเชฟโลเร็ตของฟางออกไปพร้อมๆ กับฮอนด้า แจ๊สสีขาวมุกของโต้งที่ขับไปส่งแนนที่บ้าน นี่ทำไมฉันต้องไปส่งยัยตัวแสบนี่ด้วยนะ ฉันปลายหางตามองไปยังที่นั่งข้างคนขับ สาวหน้าแรงเปลี่ยนชุดจากเสื้อยืด กางเกงเลกลายเป็นชุดแซ็กเมื่อคืน และตอนนี้เธอก็หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางค์ขึ้นมาแต่งหน้า

“จะแต่งไปทำไมวะนั่น มันเย็นแล้วนะเว้ย”

“ออกมาข้างนอกก็ต้องแต่งดิ ถือว่าเป็นการให้เกียรติสถานที่” นี่แสดงว่าบ้านฉันไม่สมควรให้เกียรติใช่มะถึงไม่แต่งหน้า

“แต่งไปให้ใครดูวะ”

“ให้ใครดูก็ได้ ชิชิ”

“จะแต่งหรือไม่แต่งแกก็สวยอยู่แล้วน่า เก็บๆ ไปเถอะ ถึงบ้านก็ต้องล้างออก” พอฉันพูดคำนี้จบฟางก็หยุดมือแล้วมองฉันด้วยความประหลาดใจ

“เมื่อกี้แกว่าไงนะ”

“ห๋า... ก็บอกว่า แกจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า แกก็สวยอยู่แล้ว”

สาวหน้าแรงกุมมือซ้ายของฉันที่กุมเกียร์เอาไว้ทันที “แก... แกพูดอย่างนี้ได้ด้วยเหรอไอ้เรียว”

“อะไรวะ นี่แกเป็นไรป่ะเนี่ย เมาค้างหรือเปล่า” ฉันดึงมือที่ถูกกุมไว้ออกพลางเลื่อนขึ้นไปแตะหน้าผากของเพื่อนสาว “ตัวก็ไม่ร้อน”

“ก็เมื่อกี้แกชมฉันไงว่าฉันสวย” ฟางพูดอย่างดีใจ ใบหน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้เพราะบรัชออนหรือเพราะอะไรพร้อมๆ กับหัวเราะคิกคักเหมือนเด็กๆ

เอ้ออ แค่นี้ก็ต้องดีใจด้วยแปลกคนจริงๆ

“เออนี่เรียว...”

“อะไรเหรอ”

“เรื่องเมื่อคืนที่ฉันเมานอกจากแก แนน แล้วก็โต้งอ่ะ มีใครรู้อีกมั้ย”

“นอกจากพวกฉันกับคนที่ร้านก็ไม่มีใครรู้แล้วแหละว่าแกอ่ะเมาแล้วรั่วแถมอ้วกกองใหญ่” ฉันพูดไปขำไป และแล้วฝ่ามืออรหันต์ก็ประทับเข้าที่ไหล่

“โอ้ย”

“ไอ้บ้า... ไม่มีคนอื่นรู้แน่แล้วนะ”

“เออ”

“เคียวก็ไม่รู้นะ”

“เออน่า นี่แกจะห่วงอะไรวะนั่น”

“ก็ดีภาพลักษณ์เค้าจะได้ไม่เสีย”

“โห... เมาขนาดนั้นแล้วยังจะห่วงสวยอีกเหรอ”

“อ้ะ... แน่นอน ฉันน่ะจะทำอะไรต้องทำให้เพอร์เฟ็คทุกอย่างล่ะ ถึงแม้ว่าเบื้องหลังจะไม่ใช่ แต่ฉากหน้าต้องเป๊ะ เริ่ด ชนะเลิศ” ฟางพูดพลางทาลิปกรอสที่ริมฝีปาก ดูแล้วสวยเป็นประกายเหมือนปากของอั้มในโฆษณามิสทีน

“อ่ะจ่ะ ตามลำบากเลยแก ใครเค้าจะไปเชื่อว่าสวยๆ อย่างแกจะโก๊ะ จะรั่วได้ถึงขนาดนั้น เล่าให้ใครฟังคงจะไม่เชื่อต้องให้มาเห็นเอง เห็นความต๊องของแม่หญิงผู้งดงาม”

“อุ้ย แม่หญิงผู้งดงาม ฉันชอบคำนี้จัง นี่แกชมฉันเป็นครั้งที่สองแล้วนะเนี่ย ดีใจจังเลย”

“บ้า ใครบอกว่าฉันชมแก งดงามอ่ะ งดแล้วซึ่งความงามต่างหากล่ะเว้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ฉันพูดพลางหัวเราะ และก็โดนทุบเข้าให้อีกจนได้

เมื่อสงครามกำปั้นของสาวสวยจบลงเหตุการณ์ก็กลับเข้าสู่สภาพเดิมโดยที่ฉันตัวน่วมกับฟางที่ผมกระเซิงเพราะถูกฉันใช้มือข้างที่ว่างอยู่ดันเอาไว้ เฮ้ออ เหมือนเลี้ยงเด็กเลยแฮะ ใครได้ไปเป็นแฟนนี่คงเหนื่อยแย่

สาวหน้าแรงพูดขึ้นมาหลังจากที่แต่งหน้าจัดทรงผมเสร็จแล้ว “เออใช่”

“ว่าไง” ฉันหันไปมองเพื่อนสาว ฟางแต่งหน้าอ่อนๆ โทนชมพูที่ดูแล้วสวยน่ามอง

“กางเกงในฉันที่อยู่บ้านแกอ่ะ ซักให้ด้วยนะ อ้อ แล้วอย่าแอบดมด้วยล่ะ”

Holy Shit! นี่กูไม่ใช่เบ๊มึงนะเว้ย จะมาให้ซักกางเกงในให้ แถมยังคิดว่าฉันจะเป็นพวกโรคจิตที่ชอบดมกางเกงในของชาวบ้านด้วยเรอะ โอ้ยยย จะบ้าตาย ไอ้ฟางงงงงงงง มึงบ้าป่ะเนี่ย

“เฮ้ย!!! ของใครก็ซักเองไม่ซักให้ ทุเรศว่ะ”

“ก็ตอนนี้มันอยู่บ้านแกอ่ะ แกก็ต้องซักให้ดิ”

“ฉันเป็นแค่คนดูแลแกนะเว้ย ไม่ใช่เบ๊ กรุณาแยกแยะด้วย”

“ไม่เอาอ่ะ ก็เค้าอยากให้เรียวซักให้นี่นา” เริ่มทำเสียงเด็กงอแงอีกแล้ว โว้ยยย น่ารำคาญ

“ซักเอง ไม่ซักให้ ถ้าแกไม่ไปเอานะฉันจะปล่อยให้มันเน่าคาตะกร้า หรือไม่ก็เอาไปทิ้งข้างนอก”

“โหยยย ไรวะเรื่องแค่นี้ทำให้หน่อยก็ไม่ได้” ฟางพูดแบบไม่พอใจ พลางเปลี่ยนท่านั่งจากนั่งธรรมดาๆ กลายเป็นยกขาทั้งสองขึ้นมานั่งขัดสมาธิ ทำให้กระโปรงหดสั้นขึ้นมาจนเกือบจะเห็นหวออยู่แล้ว

“เฮ้ยๆๆ นั่งให้มันดีๆ เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วนั่น” ฉันพูด

สาวหน้าแรงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก็ยังคงนั่งท่านั้นต่อไป “ทำไม นี่มันรถฉัน ฉันจะนั่งท่าไหนมันก็เรื่องของฉัน ใช่มั้ยลูกแม่” ว่าแล้วก็หันไปพูดกับตุ๊กตาแกะที่อยู่บนตัก

“ค่า...” เซ็งฉิบเลย “คุณนายขาก๊าซเหลือจุดเดียวจะเติมมะ”

“เติมดิ เดี๋ยวตรงไปอีกนึดนึงจะมีปั้มก๊าซ แกลงไปซื้อสเลอปี้ให้กินด้วยนะ”

“โห... เห็นยอมเข้าหน่อยอ่ะใช้จังเลยนะ”

“อ้ะแน่นอน ฉันไม่ปล่อยโอกาสให้หนีรอดออกมาหรอก แล้วก็จ่ายค่าก๊าซให้ด้วย”

“เฮ้ยๆๆๆ มันจะมากไปแล้ว รถก็รถแก ไม่ใช่รถฉัน ยังจะให้มาออกค่าก๊าซให้อีก มันไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอวะ”

“ม่ายยยย”

“ไม่อะไรตรงไหน หน้าแกหนาเป็นชั้นแล้ว ออกเองเลยค่าก๊าซอ่ะ”

“เออก็ได้... งั้นแกเลี้ยงสเลอปี้นะ”

วุ้ย ไม่ได้อย่างนั้นก็จะเอาอย่างนี้ เรื่องมากจริง “เออ... เลี้ยงก็เลี้ยง”

“เย้ๆๆๆ เรียวจังใจดีที่สุดเลย” ฟางตบมือดีใจเหมือนเด็กๆ แล้วก็โน้มตัวเข้ามาหาฉันพร้อมกับใช้สองมือบีบแก้มของฉัน ไม่น่าจะเรียกว่าบีบ นี่มันหยิกต่างหากล่ะ

“โอ้ย เจ็บนะเว้ย นี่แกจะทำร้ายร่างกายฉันไปถึงไหนวะ”

“แก้มแกนิ่มดีนี่กว่า ขาวดีด้วย ฉันชอบ นึกไม่ถึงเรื่องนะเนี่ยว่าแกจะตัวนิ่มถึงขนาดนี้” ว่าแล้วสาวหน้าแรงก็ใช้สายตาแทะโลมไปทั่วตัวของฉัน

“ไอ้ฟางแกจะทำอะไร” ฟางยื่นมือของเธอเข้ามาไล้ที่แขนของฉันแล้วเลื่อนขึ้นไปลูบหัวไหล่ที่อยู่ใต้เสื้อยืด มันทำให้ขนที่คอของฉันลุกซู่

“อืมมม ผิวเนียนใช้ได้ๆ” ว่าแล้วก็ย้ายมือไปลูบที่ต้นคอของฉัน โว้ยยย แกจะทำอารายยยยยยยยยยยย

“ขนลุกเชียว เสียวเหรอ” ดู... ดูมันพูดซ้า นี่มึงจะพูดให้ติดเรทหรือยังไง

ฉันดึงมือของสาวหน้าแรงออกจากคอแล้วบีบไว้แน่น “มันจั๊กจี้เว้ย คนกำลังขับรถ แกจะทำอะไรของแกเนี่ย”

“เค้าเจ็บนะ ปล่อย”

“สัญญาก่อนว่าจะเลิก ไม่งั้นไม่ปล่อย”

“อื้อ... สัญญาๆๆๆ” ฟางพยักหน้าเร็วๆ

ฉันปล่อยมือของเพื่อนสาวออก พลางเอามือลูบต้นคอของตัวเองอย่างรวดเร็ว หว๋าย ขนแขนสแตนอัพ บรื๊อออ สยอง

“มือแกก็นิ่มนะ นิ้วก็ยาว สวยดี” พูดไปก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ และเมื่อฉันเผลอฟางก็ถือก็โอกาสจับหน้าอกของฉันอย่างรวดเร็ว “อุ้ย! ขนาดกำลังดีเลย”

“เฮ้ย!” ด้วยความตกใจทำให้ฉันหักพวงมาลัยไปเข้าอีกเลนหนึ่ง รถที่วิ่งตามหลังมาบีบแตรเป็นเสียงยาวโดยทันที นี่ฉันคงจะโดนสรรเสริญบุพการีไป 7 ชั่วโคตรเรียบร้อยแล้วแน่แท้

“เรียวแกทำอะไรอ่ะ เห็นมั้ยรถเกือบชนลูกสาวเค้าเลย” สาวหน้าแรงต่อว่าอย่างดัง หลังจากที่ฉันหักรถเข้าสู่เลนเดิมได้อย่างปลอดภัย

ฉันเลี้ยวรถเข้าข้างทางด้วยความโมโห กูทนไม่ไหวแล้วโว้ยย “ใครทำอะไรกันแน่ แกเล่นอะไรพิเรนๆ จนรถเกือบชนแล้วมากว่า บอกแล้วไงว่าคนกำลังขับรถอยู่มายุ่งกันอยู่ได้ นี่ถ้ารถชนขึ้นมาความผิดมันก็มาจากแกนะเว้ย โตแล้วทำอะไรคิดหน้าคิดหลังบ้างไม่ได้เอาแต่นึกสนุก อยากเล่นก็เล่นอยู่อย่างเดียวแบบนี้” ฉันด่าไปเต็มๆ ด้วยความโมโห

ฟางทำหน้าน่าสงสาร ใบหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้ “เค้า... เค้า...”

“เค้าอะไร จะอะไรอีก อย่าร้องไห้นะเว้ย ถ้าร้องไห้ฉันจะลงตรงนี้ ส่วนแกกลับบ้านเอง”

“เค้า... เค้าขอโทษ” สาวหน้าแรงพูดเสียงอ่อยๆ พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็มีเสียงสะอื้นโผล่มาให้ได้ยินเล็กน้อย “ขอโทษนะๆๆๆ เดี๋ยวเค้าให้จับคืนก็ได้อ่ะ” ว่าแล้วก็ยื่นหน้าอกอันอวบอึ๋มมาทางฉัน

“หยุดเลย ไม่ตลกเลยนะ ฉันไม่ชอบ” ฉันพูดเสียงเข้ม ทำเอาเพื่อนสาวน้ำตาจะร่วง

“อย่าร้อง... เงียบเลย... ถ้าไม่เงียบฉันจะกลับบ้าน”

ฟางเอามือปิดปากไม่ให้มีเสียงสะอื้น สักพักหนึ่งต่อมาเธอก็เงียบด้วยใบหน้าเจี๋ยมเจี้ยมแบบสำนึกผิด

“เรียวดุจังเลยอ่ะ” แหนะยังมีการบ่นอีก ไม่แพ่นกบาลก็บุญแค่ไหนแล้วนะแก

ดวงตาของสาวหน้าแรงที่มองฉันเบิกกว้าง เธอชี้นิ้วมาที่ฉัน “เรียว...”

“หือ... อะไร” ฉันถาม แต่รู้สึกแปลกๆ ที่ปลายจมูก... อย่าบอกนะว่า... อีกแล้ว...

เลือดกำเดาไหลออกมาอีกแล้ว รอบที่สามแล้วนะนี่ อะไรกันแน่วะ ฟางรีบใช้กระดาษทิชชู่ซับเลือดให้ฉันอย่างรวดเร็ว

“แกเป็นไรป่าว” สาวหน้าแรงถาม ฉันได้แต่ส่ายหน้า เพื่อนสาวเอามือมาแตะที่หน้าผากและแก้มของฉัน มือนิ่มๆ ที่ไล้ไปตามใบหน้าทำให้แก้มของฉันร้อนขึ้น

“ตัวอุ่นๆ นี่ เป็นไข้ป่าว”

“ไม่รู้ดิ” ฉันตอบด้วยเสียงเบาๆ

“เดี๋ยวฉันขับเองดีกว่า” เธอว่า แล้วเราสองคนก็เปลี่ยนที่กัน ฟางมาขับรถส่วนฉันนั่งก้มหน้าลงโดยใช้กระดาษทิชชู่ซับเลือดอยู่ที่นั่งข้างคนขับ

“พอถึงปั้มแล้วแกรีบลงไปล้างหน้าล้างตาดีกว่า” สาวหน้าแรงพูด “ทำไมแกถึงเลือดกำเดาไหลวะ”

“ใครจะไปรู้” ฉันตอบด้วยเสียงอู้อี้เพราะกระดาษทิชชู่ที่ยัดอยู่ในรูจมูก

เมื่อถึงปั้ม ฟางก็ขับรถเข้าไปเติมก๊าซส่วนฉันเดินลงมาจากรถด้วยตัวเบาๆ หวิวๆ ตรงไปที่ห้องน้ำ เว้ย... เป็นอะไรไปวะเนี่ยกู ฉันเปิดน้ำล้างหน้าพลางเช็ดปลายจมูกที่มีคราบเลือดแห้งๆ ติดอยู่เล็กน้อยให้หมดไป สงสัยคงต้องไปหาหมอซะแล้วล่ะมั้งท่าทางจะไม่ค่อยดี

เมื่อล้างหน้าเสร็จฉันก็เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อสเลอปี้ที่คุณหญิงฟางเรียกร้องอยากกินๆ ก่อนเดินเข้าร้านเพื่อนสาวก็ขับรถมาจอดด้านหน้าพอดีพร้อมกับทำสัญญาณมือว่าจะรอในรถ ฉันพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินเข้าไปในร้าน ในช่วงเวลาที่กำลังรอจ่ายเงินอยู่นั้นก็มีผู้ชายกับผู้หญิงคู่หนึ่งเดินมาเคาะกระจกรถเรียกฟาง ฉันเห็นแล้วอ้าปากค้าง...

นั่นมันไอ้พี่เมกับยัยใบเฟิร์นนี่หว่า!!

...
“ฟาง... พี่ขอโทษนะ พี่อยากจะมาอธิบายให้ฟางรู้กับเรื่องที่มันเกิดขึ้นน่ะ” หนุ่มหน้าคมพูดอย่างใจเย็น ในขณะที่เพื่อนสาวของฉันยืนพิงประตูรถด้วยใบหน้านิ่งๆ ดวงตาสวยๆ ของฟางถูกซ่อนอยู่หลังแว่นกันแดดเพื่อปกปิดร่องรอยการร้องไห้ (หลังจากที่ถูกฉันด่า)


“ฉันอยากจะบอกว่าสิ่งที่เธอเห็นมันเป็นการเข้าใจผิด” ใบเฟิร์นพูดขึ้นมา

“เข้าใจผิดตรงไหน เข้าใจผิดอะไร ก็สิ่งที่ฉันเห็นก็คือพวกเธอสองคนจูบกัน ฉันไม่ต้องการคำอธิบายอะไรทั้งนั้น” สาวหน้าแรงพูดด้วยเสียงเรียบๆ

สาวตาโตยืนเอามือกอดอก พ้อยต์เท้าเหมือนนางแบบ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือท่าทางของคนที่จะมาง้อคน มันเหมือนท่าทางของคนกวนตีนซะมากกว่า “ฉันกับพี่เมยอมรับว่าพวกเรามีอะไรกันที่ภูกระดึงในช่วงที่เธอไม่อยู่จริง แต่มันก็แค่เซ็กส์เพื่อความสนุกเท่านั้น พวกฉันไม่ได้คิดที่จะสานต่ออะไรทั้งสิ้น”

“แล้วไอ้ที่นัดกันที่ห้าง แล้วก็มาหาฉันด้วยกันแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าสานต่อเหรอ” ฟางถาม

พี่เมเดินเข้าไปใกล้ฟางแต่เพื่อนสาวถอยหนี เขาจึงหยุดยืนอยู่กับที่ “คืองี้นะครับฟาง พี่กับใบเฟิร์น พวกเราอยากคุยกับฟาง พี่อยากคืนดีกับฟางส่วนใบเฟิร์นก็อยากคืนดีกับเคียวด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นพี่ก็อยากให้อะไรๆ มันเคลียร์กัน”

“สรุปแล้วระหว่างฉันกับพี่เม เราไม่มีปัญหาอะไรคาใจกัน ก็แค่เพื่อนกัน นอนด้วยกันเท่านั้นเอง เธอคงไม่ว่าอะไรนะ อีกอย่างพี่เมก็ไม่ใช่สเป็กฉันด้วย เคียวต่างหากคือคนที่ฉันหวังเอาไว้”

ฉันเห็นฟางนิ่ง เธอไม่พูดอะไรออกมา ได้แต่มองหน้าของสองหญิงชายสลับกันไปมา

“นะครับฟาง พี่ขอโทษ ใบเฟิร์นก็ขอโทษ พี่อยากให้ฟางลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แล้วเราค่อยมาเริ่มกันใหม่นะ พี่สัญญาว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”

“ถ้าเธอไม่พูดแสดงว่าทุกอย่างเคลียร์กันแล้วนะ ฉันจะได้ไปหาเคียวซะที คิดถึงจะแย่แล้ว”

“นะครับฟาง พี่ใบเฟิร์นไม่มีอะไรต่อกันแล้วจริงๆ”

โอ้ยยย ฟังแล้วจะอ้วกว่ะ หญิงร้ายชายเลวจริงๆ ฉันที่เดินออกมาจากร้านพร้อมสเลอปี้แก้วใหญ่ได้ยินทุกคำพูดตั้งแต่สองคนนี้มายังจะรับไม่ค่อยได้เลย แล้วอย่างไอ้ฟางมันจะรับได้มั้ย

“แน่ใจนะคะว่าไม่มีอะไรต่อกันจริงๆ” สาวหน้าแรงถาม

“ครับ ไม่มีอะไรต่อกันจริงๆ”

“จะไม่มีการติดต่อกลับ จะไม่มีการนัดเจอกันอีกใช่มั้ยค่ะ” ฟางถามต่อ

ชายหนุ่มหญิงสาวนิ่งไปนึดหนึ่ง “ครับ” พี่เมตอบพลางเดินเข้าไปกุมมือฟาง

อย่ายอมนะเว้ยไอ้ฟาง อย่านะเว้ย

“ถ้าไม่มีอะไรต่อกันแล้วจริงๆ ทำไมสร้อยข้อมือที่ฟางอยากได้แต่พี่เมไม่ซื้อให้ ถึงไปอยู่ที่ข้อมือของใบเฟิร์นละคะ”

โอ้ววว เด็ดจริงๆ เลยคุณเพื่อน คำพูดนี้ทำเอายัยสาวตาโตกุมที่ข้อมือขวาของตัวเองแทบไม่ทัน ส่วนหนุ่มหน้าคมได้แต่ก้มหน้าลง

“คือ... พี่ก็แค่...”

“ถ้ามาง้อฟางแบบนี้ฟางก็ไม่เอาหรอกค่ะ ฟางอยากได้คนที่เห็นฟางเป็นที่หนึ่ง ฟางไม่ได้อยากเป็นรองใคร และฟางก็ไม่อยากเป็นเศษเดนของใครด้วย ฟางไม่ใช่ของตายนะคะที่คิดอยากจะทิ้งก็ทิ้ง พอคิดถึง หรือไม่มีใครก็มาหาแบบนี้” สาวหน้าแรงพูดด้วยเสียงสะอื้น และดูท่าทางว่าน้ำตาของเธอกำลังจะไหลในอีกไม่ช้า

ใบเฟิร์นเอามือเท้าเอว “อย่ามาทำเป็นคนขี้ใจน้อยน่า ถ้าอยากได้สร้อยเส้นนี้นักฉันก็จะให้ เรื่องจะได้จบๆ ไป ก็แค่ของที่เพื่อนกันซื้อให้ทำเป็นรับไม่ได้เลยเชียวหรือไงยะ”

“ใช่ครับๆ พี่ซื้อให้ใบเฟิร์นในฐานะเพื่อน ฟางไม่เสียใจนะครับ ฟางรับได้นะครับ”

สาวหน้าแรงยืนนิ่งไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ โอ้ยยย ทนไม่ไหวแล้วเว้ย ขอเสือกหน่อยเถอะ บัตรเสือกมาเร็วไวเท่าความคิด ฉันสาวเท้าเข้าไปหาแล้วพูดว่า

“แต่ฉันรับไม่ได้!”

“เรียว!” ใบเฟิร์นกับพี่เมประสานเสียงเรียกชื่อฉัน

ฉันเดินเข้าไปดึงมือเพื่อนสาวออกห่างจากหนุ่มหน้าคม ยัดสเลอปี้ใส่มือฟางแล้วยืนกอดอก “ทิ้งฟางแล้วมาขอคืนดีด้วยเหตุผลแบบนั้นไม่คิดว่ามันจะไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอคะ”

“อะไรกันน่ะเรียว... มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอนี่” สาวตาโตร้อง

“เกี่ยวสิ ฟางเป็นเพื่อนฉัน ไอ้เคียวมันก็พี่ชายฉัน ส่วนแกสองคนเป็นคนที่กำลังจะหาประโยชน์จากทั้งเพื่อนฉันแล้วก็พี่ชายฉันด้วย ทำไมฉันจะเข้ามาเกี่ยวไม่ได้”

ฉันจ้องหน้าพี่เม “คุณคิดว่าคุณเป็นใครถึงได้หลอกปั่นหัวชาวบ้านเค้าได้แบบนี้ ทิ้งฟางไปมีคนอื่นแล้วกลับมาบอกว่าไม่มีอะไร ขอโทษ เรากลับมาคืนดีกันใหม่นะ ใครเค้าจะไปทำได้ ยิ่งพาผู้หญิงที่ชื่อว่าเป็นแฟนใหม่ ฮึ ไม่สิ คุณเรียกว่าเพื่อน หรือจะให้เรียกว่าเพื่อนบนเตียงมากกว่ามาง้อด้วยแบบนี้ แล้วมาบอกว่าให้อภัยเถอะ กลับไปเป็นเหมือนเดิมเถอะ ถามจริงๆ เหอะ คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า หรือว่าเป็นแค่ไอ้หน้าตัวเมียคนนึงที่คอยหลอกผู้หญิงไปวันๆ”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างผมกับฟาง คุณไม่เกี่ยวนะ”

“ก็บอกแล้วไงว่ามันเกี่ยว!” ฉันพูดเสียงดัง “ฟางเป็นเพื่อนฉัน”

“แต่ผมเป็นแฟนนะ”

“ไม่ใช่แล้ว! เมื่อคืนนี้ฟางบอกเลิกพี่เมไปแล้วไง” สาวหน้าแรงตะโกนขึ้นมาจากด้านหลังของฉัน เสียงของเธอปนสะอื้นเล็กน้อย

“เห็นมั้ยล่ะ ฟางไม่อยากคืนดีกับคุณแล้ว จะไปไหนก็ไปซะอย่ามาให้รกหูรกตาเกะกะชาวบ้านเค้า”

ฉันชี้ไปทางสาวตาโต “ส่วนเธอ... จะไปยุ่งกับใครก็ตามใจแต่อย่ามายุ่งกับเคียวอีก แล้วฉันบอกไว้เลยนะว่าเคียวรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าหวังซะให้ยาก ถ้ามายุ่งอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้เคียวนะจะบอกให้”

“แก๊...” ใบเฟิร์นแค่นเสียงพูด

สองหนุ่มสาวยังยืนนิ่งไม่ไปไหน ส่วนฟางก็ยังยืนเกาะหลังฉันเงียบ พี่เมพยายามจะเปิดปากพูดอธิบาย แต่เมื่อถูกฉันมองเขาก็หยุดการกระทำทุกอย่าง ถึงเวลาที่ต้องไล่พวกนี้ให้ไปไกลๆ หน้าเสียที

“ฟาง...” ฉันเรียกเพื่อนสาว “หยิบปืนในกระเป๋าให้หน่อย”

“ห๋า...”

“หยิบปืนในกระเป๋าให้หน่อย”

สาวหน้าแรงเดินงงๆ ไปเปิดประตูหลังรถ ขณะที่หนุ่มหน้าคมกับสาวตาโตเดินถอยหลัง

“เรียวจะทำอะไรอ่ะ” ใบเฟิร์นพูด

“ในเมื่อมันจบไม่ได้ก็ฉันจะจบให้เอง”

“เรียว... มีปืนด้วยเหรอ” พี่เมพูดบ้าง

“พ่อฉันเป็นใครลืมไปแล้วหรือยังไง” นานๆ ทีขอเบ่งด้วยคำว่า รู้มั้ยว่ากูเป็นลูกใครบ้างเหอะ

“เอ่อ... คือ” หนุ่มหน้าคมพูด

“ฟางหาเจอหรือยัง” ฉันเร่ง

“คือ... ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะเรียว” สาวตาโตพูดด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ

“ต้องสิ! ในเมื่อพวกแกยังตื้อไม่เลิกแบบนี้ ถ้าไม่อยากมีเรื่องล่ะก็รีบๆ ไปเลย มาทางไหนไปทางนั้น อย่ามาให้เห็นหน้าอีก ไปแล้วไปลับอย่ากลับมา ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน” ฉันพูดเสียงเข้ม

และแล้วสองหนุ่มสาวก็รีบเดินเร็วๆ หายขึ้นรถแล้วขับออกไปจากตรงนั้นโดยทันที

“ไม่เห็นมีเลยอ่ะเรียว ไหนอ่ะปืน” สาวหน้าแรงพูดหลังจากที่หายไปนาน

โธ่ ยัยโก๊ะเอ้ย “ไม่มีหรอกปืนอ่ะ”

“อ้าว”

“ขู่ไปงั้นเอง... ไม่เป็นไรนะ”

“อื้อ”

ฟางเข้ามากอดฉันแน่น “ขอบคุณนะ... ขอบคุณจริงๆ”

ฉันลูบหัวเพื่อนสาว เมื่อสาวหน้าแรงคลายอ้อมกอดฉันถอดแว่นกันแดดพร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาให้ออกจากใบหน้าสวยๆ “โอ๋ๆๆๆ ไม่เป็นไรนะ”

“อื้อ”

“กลับบ้านกันเถอะ” ฉันยิ้มให้กับฟาง
...

เมื่อฉันขับรถมาถึงบ้านฟาง พ่อกับแม่ของสาวหน้าแรงก็ออกมาดูลูกสาวด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อคืนฟางไม่ได้กลับบ้านและไม่ได้โทรบอกที่บ้านด้วยว่าไปค้างที่ไหน สรุปก็คือเตรียมมาด่านั่นแหละ แต่แล้วทั้งสองก็หยุดความคิดทันทีเมื่อเห็นฉัน


“ใครกันเหรอลูก” คุณศศิ สาวใหญ่วัยเฉียดหกสิบถามลูกสาว

“เรียวไงคะแม่ ที่เรียนด้วยกันกับหนูตอนประถม ลูกสาวนายทหารเรืออ่ะค่ะ”

คุณวิบูลย์พ่อของฟางที่ดูแล้วน่าจะแก่กว่าพ่อฉันนิดหน่อยก็พูดขึ้นมาว่า “ลูกสาวนายทหารเรือเหรอ ผู้พันนักรบใช่หรือเปล่า”

“ค่ะ ตอนนี้เป็นนายพลแล้วค่ะ” ฉันตอบ

“โห... ตัวโตขึ้นเยอะเลยนี่ เป็นไงบ้างลูก”

“สบายดีค่ะ”

“มาๆๆ มากินน้ำกินท่าเร็วลูก อ้อ! อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก” พ่อของสาวหน้าแรงชวน

“ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูขอกลับเลยก็แล้วกัน พอดีเป็นห่วงบ้าน” อ้างไปงั้นแหละเพราะไม่อยากอยู่นาน อาจจะเป็นเพราะรู้สึกไม่ชินบวกกับความเป็นพวกมีโลกส่วนตัวสูง ฉันจึงไม่ค่อยอยากอยู่บ้านคนอื่นนานนัก

“งั้นเค้าเดินไปส่งหน้าบ้านนะ”

“อื้อ”

สาวหน้าแรงเดินมาส่งฉันที่หน้าบ้าน ท่าทางเธอดูผ่อนคลายขึ้นมากแล้ว “ดีขึ้นยังล่ะ” ฉันถาม

“อื้อ ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณนะ”

“ไม่เป็นไร”

“แล้วพรุ่งนี้เคียวนัดกี่โมงเหรอ แล้วจะไปยังไง”

“คงจะบ่ายๆ ละมั้ง วันอาทิตย์นี่นา ตื่นกันไม่เช้าหรอก เดี๋ยวมันก็คงมารับมาส่งแกแหละ ไอ้เคียวมันชอบเซอร์วิสสาวๆ”

“เหรอ... แล้วเรียวล่ะ ชอบเซอร์วิสคนอื่นหรือเปล่า”

“เห็นฉันเป็นแบบนี้แล้วแกคิดว่าไงล่ะ”

“ไม่แน่นอน” แล้วเราทั้งคู่ก็หัวเราะใส่กัน

“กลับบ้านดีๆ ล่ะ”

“อื้อ”

“ถึงบ้านแล้วโทรหาเค้าด้วยนะ”

“จ้าๆ” สั่งจริงเลยแม่คุณ

ก่อนที่ฉันจะก้าวขึ้นบนรถแท็กซี่ ฟางก็ตะโกนขึ้นมาว่า “เค้าอยากให้เรียวเซอร์วิสเค้านะ” ยิ้มสวยๆ ของสาวหน้าแรงที่ถูกส่งมาให้ฉัน ทำเอาอึ้งไปช่วยขณะ

“เซอร์วิสเค้าคนเดียวนะ” เสียงที่ได้ยินอีกครั้งทำให้ฉันกลับไปมองเพื่อนสาวที่กำลังโบกมือบ้ายบายให้กับฉันจนลับสายตา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 มกราคม 2014 เวลา 23:46:53 nuffy »




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.