Chapter 5 : Silver & Red
...ซิลเวอร์ โปรเจ็ค... แตกต่างยังไงกับ เร้ด โปรเจ็ค.. เก่งกว่า? ไม่มีทาง ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะว่ายัยนั่นเป็นโปรเจ็คพิเศษของเนบิวล่า.. หรือว่า.....
“ราเวน..” เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกขานหลุดจากอาการมองเหม่ออย่างว่างเปล่าและกระพริบตา ใบหน้าคมเข้มคลายสีหน้าของความตกใจ ด้วยรู้แล้วว่าเป็นใคร ที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง
ร่างสูงในชุดสีดำจึงค่อยๆเงยใบหน้าขึ้นจากการก้มมองอยู่กับเคาท์เตอร์ตรงหน้า ซึ่งมีอุปกรณ์การเตรียมเครื่องดื่มอยู่ตรงนั้น ชาและกาแฟ และหันตัวเองมายังทิศทางที่เป็นที่มาของเสียงเรียกขาน ราเวนใช้มือทั้งสองข้างของตนยกประคองถ้วยกาแฟขึ้นจิบช้าๆ ระหว่างมองหน้าผู้อยู่เบื้องหน้า เจ้าของเสียงเรียกขาน ผ่านริมขอบถ้วย สาวร่างสูงกว่าใบหน้าสวยเข้ม ผิวสีคล้ายกันกำลังพาร่างของเจ้าหล่อนมาใกล้ๆ สายตาจากดวงตาคมของตนมองตามการเคลื่อนไหวของหญิงสาวที่เดินผ่านหน้าตัวเอง เพื่อไปจัดเตรียมเครื่องดื่มของเขาเช่นกัน
“ไปถึงไหนแล้วล่ะ.. เรื่องนั้น..”
คำถามที่ดังมาจากอีกฝ่าย ทำให้ถ้วยกาแฟในมือต้องถูกลดลงจากระดับของริมฝีปาก ราเวนมองใบหน้าสวยของผู้ถามแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พลางเบนใบหน้าคมเข้มของตัวเองออกจากการถูกมองอย่างค้นหาด้วยดวงตาสีฟ้าอ่อนนั่น
“ยัง..” เสียงห้าวนุ่มพึมพำคำตอบสั้นๆกลับมา และแล้วก็ได้พบว่าสาวร่างสูงกว่าพาตัวของเขาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องความสนใจและมองจ้องตากันกับเธอ
“หมายความว่ายังไงราเวน ที่ว่า..“ยัง” เธอกำลังจะบอกกับฉันว่า เธอยังไม่ได้อะไรกับการเสี่ยงตายไปพาตัวยัยนั่นมางั้นเหรอ..”
“ซิลเวอร์ โปรเจ็ค..”
ราเวนส่งเสียงที่ดังขึ้นเป็นคำแย้ง เพื่อแก้ไขความผิดพลาดในการเรียกขานคำแทนชื่อของบุคคลที่สามในบทสนทนา ยังผลให้ความไม่พอใจแสดงออกมาทางแววตาของดวงตาคู่สวยสีฟ้าอ่อนตรงหน้าตัวเอง และสิ่งสุดท้ายที่ราเวนมองเห็นคือการสะบัดหน้าให้และสายตาพิฆาตอย่างมาดร้ายของสาวผิวสีคล้ายคลึงกัน กับได้ยินเสียงที่มีความห้าวซึ่งมากกว่าของเธอนั้นเอ่ยขึ้นมา ก่อนที่ร่างสูงกว่าจะพาตัวของเขาออกจากห้องไป
“เธอจะเรียกคนที่ไม่เหมือนคนนั่นว่าอะไรก็ตามนะราเวน แต่ถ้างานนี้พลาดขึ้นมา คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือ..เธอ..”
และสิ่งเดียวที่คนซึ่งถูกทิ้งไว้ให้อยู่ภายในห้องนั้นตามลำพังจะทำได้ตอนนี้ก็คือ..ส่งเสียงถอนหายใจ หยิบถ้วยกาแฟร้อนขึ้นมาจิบเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ และรำพึงรำพันกับตัวเอง
“เมื่อไหร่เธอจะเลิกใจร้อนเป็นไฟแบบนี้ได้สักทีนะ..เรมี่..”
--The Red Project—
“โอเค..มิเชล รออยู่นั่น.. ฉันจะไปจัดการ..”
ดวงตาสีเขียวมรกตเปิดขึ้นมาช้าๆ เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงที่เข้าหู ที่แม้มันจะเบามากแต่ความหูไวตามสัญชาตญาณก็พาให้ได้ยินอย่างไม่ยาก สายตาที่ยังพร่าเบลอเล็กน้อยค่อยๆมองเห็นอะไรบางอย่าง และมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อเจอกับเจ้าของเสียง คนร่วมเตียงกับเธอ อนุญาตให้เธอเห็นได้แค่เพียงแผ่นหลังซึ่งถูกปกคลุมไว้ด้วยเส้นผมยาวสีบลอนด์ทองอีกทีเท่านั้น เดาได้เลยว่าคุณผู้การคงจะมีงานยุ่งอีกตามเคย ถูกลูกน้องเรียกตัวด่วนอีกแล้วล่ะมั้งนี่
น่าสงสารจัง.. เวลาพักก็ไม่ค่อยได้พัก..
“งานด่วนเหรอคะ..” เสียงหวานกระซิบคำถามกับผู้ที่เธอพยายามพาตัวเองลุกขึ้นตามมากอดร่างของเขาไว้จากด้านหลัง มีความสุขที่ได้อยู่แบบนี้
สการ์เลตวางใบหน้าสวยของตนซบอยู่บ่าข้างหนึ่งซึ่งให้ความอบอุ่นเสมอทั้งกายและหัวใจ เสียงนุ่มนวลน่าฟังฮัมเบาๆเป็นคำตอบกลับมา และคนที่เธอขออาศัยใช้บ่าพักพิงก็ขยับตัว หันหน้ามาหากันตรงๆ ดวงตาสีฟ้าครามฉายแววความผิดหวังอยู่ในที เห็นเท่านี้เธอก็พอจะเข้าใจถึงความจริงจะไม่ต้องการจะรับรู้ว่า
ใช่แล้ว.. มันยังมีหน้าที่อีกหลายอย่างกำลังรอทั้งเธอและเขาไปสะสางให้เสร็จสิ้น ถึงใจจะร่ำร้องให้เขาอยู่ต่อ แต่ปากเธอก็พูดออกมาไม่ได้ หน้าที่เขาสำคัญกว่าสิ่งใด เธอเองก็พอๆกัน เธอก็มีหน้าที่.. เราเป็นคนของประชาชนนี่นา เมืองทั้งเมืองนี้อยู่ในความดูแลของเรา จะทอดทิ้งพวกเขาได้อย่างไร..
“สการ์เลต..”
เสียงกระซิบพาสติของเธอกลับคืน หากแต่สิ่งที่เธอคิดมากอยู่ก็มลายลงเพราะการประกบลงของเรียวปากนุ่มที่ริมฝีปากเธอ ร่างกายเธอตอบสนองสัมผัสรัก มันร้อนเร่าและตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาทำ มารู้ตัวอีกที เธอก็คร่อมขี่ตัวเขา แอ่นสะโพกตอบรับการถูกปรนนิบัติ
บลูอายส์มักจะบำบัดจิตใจเธอด้วยเซ็กส์ขณะที่มิเชลให้ยาเพื่อให้เธอคงสภาพความแข็งแรง เป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพต่อไป
และเธอก็ต้องการทั้งสองอย่าง..
มือสวยขย้ำผ้าปูที่นอนแน่น เธอแอ่นทั้งตัวให้ผู้หญิงด้านล่างได้สนุกกับมันเต็มที่ หล่อนพาเธอโยกไปทั้งตัวด้วยจังหวะรักที่หนักหน่วง ช่วงล่างของเธอขยับถี่ๆให้ของข้างในได้เสียดสีรุนแรงขึ้น บลูอายส์ขยับมือเร็ว หล่อนเหมือนจะเร่งให้มันทันเวลา อยากให้เธอได้แตะสวรรค์ก่อนถูกตามตัวอีกครั้ง และมันก็สำเร็จเมื่อเธอพบตัวเองร้องกรี๊ด
“บลูอายส์!”
สการ์เลตนอนสิ้นฤทธิ์อยู่บนตัวอีกสาว มือขาวของหล่อนลูบแผ่นหลังเปลือยของเธอเบาๆ คล้ายกำลังปลอบขวัญให้ใจสงบ ก็ชอบทำอยู่แบบนี้ ทำไมที่เธอจะไม่หลงรัก
ถึงไม่ใช่มนุษย์เหมือนคุณ.. แต่ฉันรักคุณที่สุด...
“สการ์เลต..”
“ขา..” เธอตอบเสียงหวาน คิดจะถ่วงเวลา แต่หล่อนเงียบไป แค่นี้ก็รู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อ เธอลุกขึ้นนั่งทั้งที่สะโพกปวดเล็กๆและเจ็บช่วงล่างน้อยๆ ระบมตรงจุดนั้น ก็เล่นแรงกันไปนิด แต่บอกตามตรงก็ชอบเหลือเกินเวลาที่หล่อนเลิกเกรงใจ มันถึงใจดี มันถึงใจเธอ...
I really want to cum hard in your hands.
“มาค่ะ ฉันจะช่วยแต่งตัวให้” มนุษย์ดัดแปลงเสนอ หล่อนมองหน้าเธอราวชั่งใจ จากนั้นก็พยักหน้า พาให้คลายความลุ้น แค่นี้เธอก็ควรจะมีความสุขแล้ว
คิดปลอบตัวเองในใจว่าไม่เป็นไร เธอยอมรับได้ทุกอย่าง เพียงพอแค่สิ่งที่หล่อนให้เธอได้ หากแต่ในบางช่วงเวลาที่จ้องตากัน เธออยากให้หล่อนได้ล่วงรู้...
ตอบหน่อยได้ไหมบลูอายส์.. กับคุณ..ฉันเป็นอะไร.?
แค่มนุษย์ทดลอง..?
--The Red Project—
“แปลว่า..เรดาห์จากดาวเทียมของเราจับสัญญาณเค้าได้อย่างนั้นหรือ” บลูอายส์ถามขึ้น เมื่อฟังรายงานจากผู้ที่เป็นมือขวาของตนเสร็จสิ้น ร่างสูงเกินกว่า 180 เซนติเมตรของตัวเองยืนตระหง่านอยู่ข้างๆกับคนที่นั่งวุ่นวายอยู่กับจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ตรงหน้าของหล่อนเพื่อรอฟังรายงานต่อมา
“ใช่ค่ะ..ท่านผู้การ เรดาห์ของเราพบสัญญาณที่สามารถระบุได้ว่าเป็นเค้า อยู่ตรงพิกัดนี้น่ะค่ะ..” เสียงหวานที่มีความนุ่มนวลอยู่ในทีเอ่ยตอบฉะฉาน พลางชี้มือไปยังจุดหนึ่งภายในจอมอนิเตอร์ตรงหน้าตัวเอง ซึ่งขนาดความใหญ่ของมันก็สามารถทำให้คนข้างๆมองเห็นได้ด้วย
“ความเป็นไปได้สูงขนาดไหนกัน.. ฉันไม่อยากให้สการ์เลตออกไปแล้ว..เสียเวลา..” ผู้การสาวถามกลับเสียงเรียบ เหมือนคนไร้ความรู้สึก แต่คนฟังก็ค่อนข้างจะชินกับมัน ด้วยทำงานอยู่ด้วยกันมานานหลายปี
“ก็อืม..ประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ..”
“อืมมม...” เสียงฮัมเบาๆเพื่อบ่งบอกถึงการรับรู้ดังออกมาขณะที่สายตาจากดวงตาสีฟ้าครามที่ดูครุ่นคิดจดจ้องอยู่กับภาพในจอมอนิเตอร์ ตำแหน่งเดียวกับที่หญิงสาวข้างตัวเธอบอกไว้
บลูอายส์สังเกตภาพตรงจุดนั้นและพิจารณามันอย่างดี มีภาพสองภาพปรากฏขึ้นมาตรงหน้าจอให้เปรียบเทียบ ภาพหนึ่งคือภาพที่เรดาห์ของดาวเทียมติดตามหาเจอ ภาพนั้นมีฉากหลังเป็นทะเลทรายที่มีผู้หญิงผมสีทองแดง ตัวสูงโดดเด่นยืนอยู่ ส่วนอีกภาพเป็นภาพต้นแบบในการค้นหาตัวคนที่ต้องการจะเจอ เธอเห็นตัวเลขของการเปรียบเทียบจากคอมพิวเตอร์ระบุออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์อย่างชัดเจนว่าภาพสองภาพมีความน่าจะเป็นว่าจะเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ตามหาอยู่ มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ..ใช่เธอจริงๆใช่มั้ย..บรอนซ์..
“โอเค.. ถ้างั้น..มิเชล เธอเตรียมทหารของเราไว้ให้พร้อม และรอคำสั่งจากฉันอีกที..” ผู้การหญิงสรุป
“ค่ะ.. รับทราบค่ะ..ผู้การ..”
ร่างสูงหันหลังให้จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ เพื่อจะเตรียมตัวออกไปจากห้องควบคุมและบัญชาการงาน ภายหลังจัดการออกคำสั่งและรับรู้การเคลื่อนไหวของงานเป็นที่เรียบร้อย แต่ขายาวทั้งสองของเธอต้องหยุดนิ่ง เมื่อเสียงของหญิงสาวคนเดิมพูดขึ้น
“เอ่อ..ขอโทษค่ะ ผู้การคะ ยังมีอีกเรื่องที่ท่านควรรู้..”
“ว่ามา...” ผู้การสาวยังคงนึกแปลกใจในความเย็นชาของน้ำเสียงตัวเอง เมื่อหันมาพูดโต้ตอบกับผู้หญิงที่เป็นยิ่งกว่ามือขวาของเธอ และมีความห่วงใยเสมอในแววตาของดวงตาสีเขียวน้ำทะเล แต่..ช่างมันเถอะ เธอคงไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วใช่มั้ย..มิเชล.. เธอคงชิน..
“เรื่องของคุณผู้นำกรีนแองเจิ้ลน่ะค่ะ..”
“ทำไม.. เด็กนั่น.. สร้างปัญหางั้นรึ..”
“ค่ะท่าน เธอไม่ให้ความร่วมมือกับเรา ไม่ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลยค่ะ”
คำตอบที่ได้รับกลับมา ทำให้คนฟังยืนนิ่งงัน แต่ใบหน้าสวยเริ่มชักสีหน้า มันบ่งบอกได้เลยว่า ไม่พึงพอใจ ริมฝีปากสวยไม่หนาไม่บางเกินไปเม้มลงเข้าหากัน ระหว่างครุ่นคิดในเรื่องยุ่งยากใจ ร่างสูงหันหลังกลับไปยังทิศทางที่เป็นทางออกของประตูอีกครั้ง หลังจากเอ่ยประโยคในเชิงคำสั่งของตัวเอง
“เลิกสนใจเด็กนั่นไปก่อน หน้าที่เธอตอนนี้ คือเฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของ “เค้า” กับสการ์เลต.. เท่านั้นพอ..”
--The Red Project—
“ค่ะตอนนี้ฉันอยู่ที่เป้าหมายแล้วค่ะ..ผู้การ..” เสียงหวานๆกรอกลงไปผ่านเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กตรงกกหูของเธอที่มีลักษณะคล้ายเป็นไมค์ยื่นออกมาตรงริมฝีปาก เธอมักใช้ไมค์ลอยร่วมกับบลูทูธเพื่อให้การพูดจากับคนปลายสายระหว่างการเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกคล่องตัว ก็เพราะตอนนี้ร่างสูงในชุดหนังรัดรูปของเธอมายืนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายตามลำพัง ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆตัว ผ่านเลนส์ของแว่นที่สวมใส่แล้ว มาไวเหลือเชื่อ...
“ได้ค่ะ.. ฉันกำลังเดินไปตามตำแหน่งที่ระบุไว้ในเรดาห์ค่ะ ค่าๆ.. ไม่ต้องห่วงค่ะ จะระวังตัวแล้วเจอกันค่ะ” ริมฝีปากอิ่มสีเดียวชุดที่สวมอยู่เผยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อนึกถึงใบหน้าและอากัปกิริยาของเจ้าของเสียงที่ปลายสายนั่น แต่ก็จำเป็นที่เธอจะต้องกลับมามีสมาธิและมีท่าทางจริงจัง หลังสิ้นสุดการพูดคุยผ่านเครื่องมือสื่อสารกับเขา หญิงสาวเก็บส่วนของไมค์ลอยกลับเข้าที่ของมัน เธอถอนหายใจเบาๆ ส่ายหน้าน้อยๆ มันเป็นเรื่องยากที่เธอจะหวังสะลัดเรื่องนั้นออกจากสมองไป ในเมื่อความรู้สึกมันยังใหม่อยู่ เธอยังรู้สึก..
I still feel you inside me, you made me smile, made me scream your name, made me happy. I really, really miss you, my dear.
“โอ้ๆ ไม่ไหวแล้ว.. ฉันเหมือนจะบ้า.. ทำงานให้เสร็จดีกว่า จะได้รีบกลับ กลับไปหาคุณ..” สการ์เลตบ่นเหม่อลอย ใจชอบหลุดลอยไปเรื่อยจนต้องตามดึงกลับมา พามันกลับมาได้ก็ก้าวขาอย่างระแวดระวัง แต่จะระวังได้มากสักแค่ไหน ในเมื่อเธอช่างเป็นจุดเด่นเสียเหลือเกิน ท่ามกลางทะเลทรายที่ไม่มีใครเลยแบบนี้
ชุดก็สีแดงซะ!
แต่ที่นี่ไม่มีใครงั้นเหรอ... ไม่ใช่ม้าง...
“เธอเป็นใคร.. มาทำไมที่นี่..”
ร่างสูงสง่าหยุดนิ่งค้าง สองขายาวหยุดการเคลื่อนไหว มีเพียงดวงตาสีเขียวเข้มที่มองผ่านเลนส์ของแว่นเท่านั้นที่ชำเลืองไปมารอบๆเพื่อหาที่มาของเสียง หาเจ้าของเสียงที่เคยคุ้น ซึ่งเอ่ยถามอะไรบางอย่างออกมา
เสียงที่เหมือนกับว่า..เธอเคยได้ยินมัน จากที่ไหนสักที่ และแล้วดวงตาคู่สวยก็ไม่อาจกระพริบตาได้ แต่ฉายแววของความตกใจ จนได้ยินเสียงของฝ่ายนั้นพูดขึ้นอีกครั้ง “เฮ้..เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง ถามว่าเป็นใคร.. มาทำไมที่นี่”
และนั่นก็ทำให้เธอสามารถคืนสติกลับมา ดวงตาคู่หวานซึ่งมองผ่านเลนส์ของแว่นใสสามารถมองเห็นคนตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งภายในความธรรมดาของแว่นนั่น มีเครื่องมือคำนวณช่วยยืนยันถึงความคิดอ่านของเธอ
ใช่..มันตรงกัน ในที่สุด..ก็เจอกันแล้วนะ..เราสองคน
โปรเจ็คพิเศษอันดับหนึ่งเผยยิ้มออกมาตรงมุมของเรียวปากสวย พร้อมด้วยการก้าวขาเดินไปข้างหน้าอย่างสง่างามราวกับเดินผ่านพรม ไม่ใช่ทราย จนกระทั่งไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเจ้าของเสียงคุ้นชินนั่น ใบหน้าหวานเงยขึ้นหาอีกฝ่าย เพราะความสูงที่แตกต่างกัน ฝ่ายนั้นมองหน้าเธออย่างประหลาดใจ แต่ไม่ใช่มาจากความกลัว
“ฉันมาพาเธอกลับบ้าน..” สการ์เลตเอ่ยตอบอย่างเรียบง่าย ซึ่งก็ได้เจอกับแววตาที่บ่งบอกถึงความประหลาดใจมากยิ่งขึ้นจากคนฟัง
นั่นทำให้ต้องเปลี่ยนสีของเลนส์แว่นที่ใส่อยู่จากเข้มเป็นจาง เพื่อสังเกตอีกฝ่ายอย่างพิจารณาและให้เขามองเห็นตาของเธอให้ชัดขึ้น สการ์เลตขมวดคิ้วน้อยๆขณะมองดูสาวตัวสูงตรงหน้า ร่างสูงกว่าเธอยืนตระหง่านท่ามกลางแสงสว่างจ้าของดวงตะวัน ท่ามกลางทะเลทราย เส้นผมสีทองแดงพลิ้วไหวไปมาเพราะแรงลม ผิวขาวๆซึ่งโผล่พ้นออกมาจากความยาวของแขนเสื้อนั่น ช่างกล้าท้าทายความร้อนดั่งจะสามารถจะแผดเผาสิ่งใดๆให้เป็นจุลได้ในพริบตาอย่างไม่เกรงกลัว เหมือนกับใบหน้าสวยคมนั้นที่ทำให้เห็นภาพใครอีกคนซ้อนเข้ามา น่าประทับใจ
“พูดอะไรของเธอ.. บ้าน.? บ้านใคร.. ฉันไม่เข้าใจ..”
สการ์เลตกระพริบตาอย่างประหลาดใจ เมื่อได้ฟังเสียงที่ดังออกมาเป็นคำถามนั่น เพราะมันช่างคล้ายกันกับคนที่เธอคุ้นเคยอีกคนเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนตรงหน้าจะมีลักษณะท่าทางคล้ายคุณผู้การที่เธอผูกพัน แม้จะหน้าตาไม่เหมือนกันแบบนี้ แต่มันก็มีภาพซ้อนของเขาทับซ้อนอยู่ แปลกแต่เธอรู้สึกจริงๆ โอ้..ไม่อยากจะเชื่อ
“บ้านของเราไง..บรอนซ์..” คนถูกถามตอบเสียงหวาน แววตาอ่อนโยนเหมือนการกระทำที่ค่อยๆใช้มือสวยของตัวเองทั้งสองข้างขยับขึ้นจับมือของเขา คล้ายต้องการส่งผ่านอะไรไปกับสัมผัสนั้น หากแต่ว่ายังไม่ได้รับอะไรตอบกลับมา เธอก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงที่ดังขึ้นมาแทรก
“ปล่อยเค้าเดี๋ยวนี้นะสการ์เลต.!” เร็วเท่ากับความคิดของเธอ สการ์เลตเปลี่ยนการกระทำตัวเองทันที มือที่พยายามจะอ่อนโยนอยู่เมื่อครู่ กลับกลายเป็นกระชากแขนของคนตัวสูงกว่าให้วิ่งตามหลัง พร้อมเสียงตะโกนตอบกลับของตัวเองให้คนที่กำลังวิ่งตามมา
“ฝันไปเถอะ ว่าฉันจะทำตามเธอ อยากได้เขาคืนก็วิ่งตามฉันมาให้ทันก็แล้วกันนะ ราเวน.!”
...........................................