web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 138
Total: 138

ผู้เขียน หัวข้อ: Runaway Bride vol.3 Chapter 7 : เช้าวันใหม่กับอะไรๆที่เปลี่ยนไป  (อ่าน 3004 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books


Chapter 7 : เช้าวันใหม่กับอะไรๆที่เปลี่ยนไป


คนที่นอนอยู่สะดุ้งตื่นเพราะความรู้สึกว่าใครคนหนึ่งขึ้นมาไต่ตัว ดวงตาสีช็อคโกแลตเปิดขึ้นมองงงๆ แต่ยังคงยิ้มได้เมื่อเห็นดวงตากลมๆสีฟ้าใสๆมองตัวเอง “มอร์นิ่งค่ะเบบี๋..”

ดาเรนยิ้มกว้างที่เจ้าของดวงตานั้นเข้ามาหอมแก้ม เธอกำลังจะหอมเขากลับไปบ้าง หากสะอึกกับเสียงที่ดังแทรกขึ้นมา

“ดาเรนคะ แอนเดรียอยู่ที่ไหน.. เห็นหรือเปล่า..”

เสียงคำถามที่ดังมาก่อนตัวเจ้าของพาให้คนฟังมองหน้าลูกสาวคนที่ว่าทันที คิ้วเรียวสีน้ำตาลเลิกขึ้นกับดวงตาแป๋วแหววที่มองอยู่ “หนูหนีมะม๊ามาเหรอคะ”

“แอนเดรียไม่อยากไปโรงเรียน”

คำตอบที่ได้พาให้เข้าใจเหตุผลที่ลูกหนีมาหาเธอถึงที่นอน จะหาที่หลบภัยล่ะสิ ลูกสาว.. แต่คิดเหรอว่าจะพ้นมะม๊าไปได้!

“แอนเดรีย!” เสียงนิโคลดังมาอีกรอบ คนที่เอาแต่นอนอยู่จึงขยับตัวขึ้นมานั่ง เตรียมรับมือ แต่ก่อนจะถึงมือมะม๊าจอมดุ ลูกสาวอีกคนก็วิ่งเข้ามาก่อน กระโดดขึ้นเตียงราวลูกจิ้งโจ้

“ปะป๊า.. มะม๊าให้อมีเลียมาจับตัวแอนเดรีย” เสียงใสรายงานฉับไว คนที่นอนฟังพยักหน้ารับ “ปะป๊าด้วย ไปส่งเราที่โรงเรียน มะม๊าบอก”

“โอ้.. งั้นไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ดาเรนบอกเลิกงัวเงียเสียสนิท ว่าจะรีบไปแต่งตัวเหมือนที่ลูกแฝดคนโตส่งคำสั่งที่ได้จากอีกคนมาให้ หากเจ้าเสียงใสอีกคนดันกลับจะวิ่งหนี แขนยาวจึงต้องเอื้อมไปจับตัวเอาไว้ก่อนจะสายไป

“แอนเดรียไปไม่ได้ค่ะลูก ถ้าหนูดื้อ ปะป๊าก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ”

“แต่แอนเดรียไม่อยากไปโรงเรียน!” เจ้าตัวเล็กเจ้าของชื่อตะโกนกลับมา พร้อมดิ้นจะหนี หากคราวนี้ไม่มีทางจะเป็นไปได้เมื่อคนมีอำนาจที่สุดที่นี่มาแล้ว

“ถ้าแอนเดรียไม่ไปโรงเรียน ก็อยู่บ้านคนเดียวนะคะ เพราะมะม๊ากับปะป๊าต้องไปทำงาน อมีเลียก็จะไปโรงเรียนด้วย” นิโคลยื่นคำขาด เสียงดุเสียจนคนตัวเล็กที่ว่าเข้าไปซุกตัวอีกคนที่จับตัวเอาไว้ เธอถอนหายใจกับอาการของลูก ยกมือขึ้นกุมขมับ

“ดาเรนจัดการหน่อยได้ไหม.. ฉันยุ่งตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนที่ดาเรนเอาแต่นอน” สาวบลอนด์ทำตาขวางใส่คนที่นั่งโอบลูกอยู่อย่างปกป้อง จากนั้นก็ออกไปพร้อมลูกสาวอีกคน ทิ้งสองคนให้ดูแลกันเอง

ดาเรนถอนหายใจ เธอเองก็โดนหางเลขไปด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร เธอผิดเองที่ตื่นสายถึงเมื่อคืนจะทำงานจนดึกก็ไม่ใช่ข้ออ้าง นิโคลก็ทำงานเหมือนกัน ซ้ำหล่อนยังตื่นก่อนเพื่อดูแลอาหารการกินและจัดการเรื่องจำเป็นให้เด็กๆ เพราะฉะนั้นถ้าหล่อนจะอารมณ์เสียบ้าง ก็ไม่แปลก

ดวงตาสีช็อกโกแล็ตมองเด็กน้อยในอ้อมอก “ตกลงเราจะเอายังไงดีคะ มะม๊าโกรธจริงแล้วด้วย” เด็กน้อยคนสวยหน้าเหมือนมารดาที่คลอดมาทำหน้าสลด หากก็พยักหน้าน้อยๆให้อย่างจำใจ คนมองอ่อนใจเข้าไปจูบศีรษะลูกเบาๆ

“ไม่เป็นไรนะคะ ปะป๊าจะรีบไปรับหนูทันทีที่เลิกเรียน”

“ปะป๊าสัญญานะ” แอนเดรียน้อยยกมือน้อยๆพร้อมนิ้วก้อยขึ้นมา มองด้วยดวงตามีความหวัง คนเห็นก็ยิ้มให้อย่างเอ็นดู อดไม่ได้ต้องยกมือขึ้นมาเกี่ยวนิ้วกัน เซ็นต์สัญญา

“สัญญาค่ะ แล้วตกลงไปแต่งตัวได้หรือยังเอ่ย.?”

“ปะป๊าแต่งให้แอนเดรียสิ”

ดาเรนนิ่งไปสักพัก เห็นดวงตาแห่งความหวังของลูกสาวที่เริ่มจะมีน้ำใสๆมาคลอๆ ก็รีบพยักหน้า “งั้นไปค่ะ ปะป๊าจัดการให้นะ แต่แอนเดรียสัญญาอีกอย่างนะลูก หนูต้องไม่ดื้อกับมะม๊า ได้ไหม.?” เด็กตัวน้อยพยักหน้ารับหงึกๆ เธอดึงตัวเขามาจูบศีรษะอีกรอบ “ฮ้า.. ชื่นใจ งั้นเราไปกันเลยนะคะ”

เจ้าตัวเล็กยกมือโอเคขึ้นมาให้พร้อมสีหน้าที่ดีขึ้น ร่างสูงจึงอุ้มเขาขึ้นมาเตรียมพาไปห้องแต่งตัว หากเด็กช่างถามก็ถามมาอีก

“ทำไมแอนเดรียต้องไปโรงเรียน ทำไมไม่ได้อยู่กับปะป๊า มะม๊า..”

คำถามนี้มันตรงตัว แต่คนตอบก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เด็กตัวเท่านี้เข้าใจ หากโชคยังเข้าข้างเธอเมื่ออีกคนเดินผ่านมา และส่งเสียงตอบมันให้

“เพราะมีเพื่อนๆรอแอนเดรียอยู่ที่นั่นไงคะลูก มีคุณครูใจดี มีของเล่นใหม่ๆ มีเรื่องสนุกเยอะแยะเลย แอนเดรียไม่อยากเจอเหรอลูก อมีเลียก็ไปด้วยนะคะ หนูไม่เป็นไรหรอก” นิโคลมาพร้อมกับลูกแฝดคนโตที่แต่งตัวเตรียมพร้อมไปสู่โลกใหม่ของเขาเรียบร้อยแล้ว เธอพยายามใจเย็นกับลูกคนเล็กบ้าง รู้อยู่ว่านิสัยต่างกัน มือสวยสัมผัสศีรษะเล็ก ลูบเบาๆ เด็กหน้าเศร้าก็คล้ายจะเข้าใจ

“ไม่กลัวนะคะลูก”

“เดี๋ยวอมีเลียจะปกป้องแอนเดรียเอง”

ทั้งดาเรนและนิโคลเผยยิ้มอย่างไม่ต้องเก็บอาการกับท่าทางขึงขังที่จะปลอบน้องของแฝดคนโต หันมองที่เจ้าตัวเล็ก แอนเดรียยิ้มออกแล้ว..

“โอเค.. งั้นเราไปกันได้หรือยังคะลูกสาว” ดาเรนถามขึ้น คราวนี้คิดว่าคงสรุปเรื่องได้เสียที เพราะเด็กที่เธออุ้มอยู่พยักหน้า ขยับเข้าไปหอมแก้มเขาให้รางวัล ขณะเดียวกันก็มองหาภรรยา นิโคลมีสีหน้าโล่งใจ

ใช่สินะ มิชชั่นแรกของวันนี้เคลียร์แล้ว..

“กู๊ดจ็อบเบบี๋..” ร่างสูงก้มบอกลูกสาวคนโตพร้อมวางมือบนศีรษะเขาด้วย อมีเลียยิ้มดีใจก่อนวิ่งไปหามารดาที่รอพาไปป้อนมื้อเช้า

“สองคนรีบๆกันหน่อยนะคะ ไปโรงเรียนวันแรก สายจะไม่ดี” คนเซ็กซี่แต่ชอบหน้าบึ้งบอกทิ้งไว้แล้วออกไปจากห้อง ทิ้งสองคนที่ยังไม่พร้อมเอาไว้ตามลำพัง ทั้งสองมองหน้ากันราวจะถามว่า จะเอายังไงต่อไป..

“แอนเดรีย.. เรามาแข่งกันไหมว่า ใครจะแต่งตัวเสร็จก่อนกัน” มือขาวยกขึ้นมาต่อหน้าเด็กตัวเล็กพร้อมสายตาท้าทาย คนถูกท้ายิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายสดใสและเอามือเล็กมาตีกันกับมือเธอ เป็นการยอมรับข้อตกลง จากนั้นก็ขอลงไปยืนเอง

ดาเรนปล่อยลูกลงพื้น ยืนหัวเราะที่แอนเดรียวิ่งเข้าห้องน้ำไปก่อนเธอ และเธอก็ยืนอยู่ได้ไม่นาน เจ้าตัวเล็กวิ่งกลับมาดึงมือเธอให้เข้าไปด้วยกัน ปะป๊าหน้าสวยส่ายหน้าขำๆ กับช่วงเวลาแห่งความสุขและอลเวงดีแบบนี้

เฮ้อ.. มีลูกแล้วมันก็เป็นแบบนี้เอง.. วุ่นวายแต่ก็สนุกดี..

.......................................

เจสสิก้าเดินหอบเอกสารออกมาจากบ้านหลังใหม่ ความที่ยังจัดบ้านไม่เรียบร้อย ความวุ่นวายจึงเกิดกับเธอแต่เช้าเมื่อหาของที่จะใช้แทบจะไม่เจอ ก็กล่องมันเยอะจริงๆ ซ้ำจะให้ผู้หญิงอีกคนทำก็เกรงว่าจะใช้งานคนท้องหนักเกินไป การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ในบ้านหลังนี้จึงค่อนข้างฉุกละหุก
แต่ไม่เป็นไร ฉันจะอดทนเพื่อครอบครัวของเรา..

คุณหมอสาวบอกลาภรรยาเสร็จสรรพก็จะก้าวขึ้นรถไปทำงาน หากเสียงใสๆของบางคนก็เข้ามาในห้วงความวุ่นวาย

“อาเจส!”

ใบหน้าขาวซีดหันมองหาเจ้าของเสียง เห็นเด็กน้อยฝาแฝดโบกมือให้อยู่ภายในรั้วบ้านต้นไม้ของพวกเขา อยากจะโบกมือให้บ้าง เลยเปิดรถโยนเอกสารเข้าไปก่อน “ว่าไงคะสาวน้อย.. จะไปโรงเรียนแล้วเหรอ.?” ถามเด็กๆแต่คนตอบกลับเป็นผู้ใหญ่ที่โบกมือให้ด้วย

“ต้องไปแล้วค่ะเจส ต่อเวลามาหลายวัน เริ่มจะงอแงไม่อยากไปแล้วล่ะ” นิโคลส่ายหน้าขณะเปิดประตูรถให้ลูกสองคนเข้าไปก่อน “เด็กๆเชิญค่ะ”

สองร่างเล็กปีนขึ้นไปในเบาะหลังของรถแวนพร้อมกระเป๋านักเรียน ส่วนกระเป๋าของใช้อื่นๆ มีผู้ใหญ่อีกคนถือมาให้ คนยืนมองเห็นแล้วก็อดกลัวไม่ได้ ถ้าลูกของตัวเองออกมาดูโลกกว้างบ้าง บ้านเธอคงจะวุ่นวายมากเหมือนกัน

“ฉันจะไปส่งเด็กๆค่ะ แล้วคุณให้เพนนีอยู่บ้านคนเดียวเหรอ”

เสียงนิโคลถามพาให้คนเหม่อหลุดจากความคิดตัวเองและเห็นว่าคุณแม่ลูกแฝดมายืนอยู่ตรงหน้าแค่รั้วต้นไม้กั้น ที่ฉากหลังมีดาเรนที่กำลังอลเวงอยู่กับลูกสองคน

“อ๋อจ้ะ คือวันนี้โซเฟียจะมาช่วยจัดบ้าน และเพนนีเค้าลางานกับดาเรนแล้วนี่ ใช่ไหม.? ก็เลยจะปล่อยให้เค้าทำ”

“โอเคค่ะ ถ้างั้นก็มีเพื่อนอยู่ด้วยแล้วเนอะ คุณก็ไปทำงานเถอะ ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ เดี๋ยวจะสาย สองสาวกว่าจะแต่งตัวเสร็จได้เล่นเอาเหนื่อย” นิโคลโบกมือลาคุณหมอที่ยกมือโบกกลับให้แทบไม่ทัน ดาเรนยกมือให้บ้างก่อนจะก้าวเข้าไปทำหน้าที่สารถีประจำบ้าน วันนี้เอารถไปคันเดียวเพราะมีจุดหมายเดียวกัน

เจสสิก้ายืนตาค้างอยู่สักพักมองตามหลังรถแวนของบ้านแมคคอลลี่แล่นออกไปตามถนนในหมู่บ้านเหมือนเป็นภาพที่ยังไม่ค่อยชิน นั่นสินะ ก็เธอเพิ่งมาอยู่ใหม่ ถึงจะไปมาหาสู่ที่นี่อยู่ประจำแต่ทุกครั้งมันเป็นเธอที่เป็นฝ่ายไป ครั้งนี้จึงไม่วายจะแปลก แต่ความคิดของเธอก็หยุดลงได้แค่นั้น เมื่อเสียงบางคนดังออกมาจากบ้าน

“เจส.. ถ้าไปทำงานสาย อย่ามาบ่นให้ได้ยินนะ!”

ร่างสูงสะดุ้ง หันไปยิ้มแหยๆให้ว่าที่คุณแม่ที่โผล่หน้าออกมาจากบ้าน ก่อนก้าวกลับเข้าไปจูบลา “ขอโทษค่ะ ขอโทษ.. มันยังไม่ค่อยชิน”

“ฉันเองก็เหมือนกัน รู้สึกเหมือนบ้านมันใหญ่ไปหน่อย” เพนนียิ้มแห้งๆ มือประคองท้องกลมๆของตัวเองไว้ข้างหนึ่งเหมือนกลัวจะหล่น มืออีกคนเข้ามาทาบที่มือเธอด้วยราวจะช่วยให้มั่นใจว่าเธอจะปลอดภัยอยู่ที่นี่

“พอเจ้าตัวเล็กออกมา คอนโดที่เราอยู่มันจะไม่พอ เข้าใจฉันใช่ไหม.?”

“เข้าใจค่ะ คุณนักวางแผน” ว่าที่คุณแม่แกล้งว่า อีกคนส่ายหน้าและถึงเวลาต้องบอกลาจริงๆ

“ถ้ามีอะไรโทรหาฉันทันทีเลยนะ ถึงทำคลอดคนไข้อยู่ก็จะรีบมาหาเธอ”

“บ้าเหรอ.. ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกเจส ฉันดูแลตัวเองได้นะ เชื่อกันบ้างสิ” เพนนีบ่น คนถูกบ่นหัวเราะกลบเกลื่อน เธอจับหล่อนหมุนตัวและดันหลังให้เดินกลับไปที่รถ “ไปเร็ว ก่อนที่ฉันจะเกเรไม่อยากให้คุณไป”

“โอเคค่ะ งั้นขออีกที” เจสสิก้าต่อรองแต่ไม่รอให้ใครอนุญาต ก้มลงจูบแก้มขาวของว่าที่คุณแม่ไปเต็มที่ก่อนจะรีบก้าวขึ้นรถ ลดกระจกลงมาโบกมือยิ้มให้คนที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว

“ไปได้แล้ว.. มองทางด้วย!” เพนนีตะโกนตามหลังรถที่กำลังแล่นไป ถอนหายใจเบาๆเมื่อไม่เห็นหน้าคนขับคนนั้นแล้ว

“โอเค.. ทีนี้ก็เหลือแค่เราสองคนแล้วนะคะลูก” พูดกับท้องตัวเองพร้อมลูบมัน ก่อนจะหันกลับเข้าไปบ้านใหม่ไป เธอมีอะไรต้องทำกับมันมากทีเดียว

.......................................

กว่าเด็กๆจะเข้าห้องเรียนได้เธอต้องใช้ไม้ตายหลายท่าทีเดียว ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งงัดมาจนหมดกระบวนท่า โดยเฉพาะสาวน้อยแอนเดรียที่ร้องงอแงตาม แต่ที่สำคัญไม่ใช่อะไร ดาเรนจะร้องไห้ตามลูกเพราะสงสารน่ะสิ เรื่องใหญ่เลย..

“ดาเรนคะ ไม่เอานะ ลูกแอบมองอยู่” นิโคลใช้ปลายคางชี้ไปที่ห้องเรียนที่มีสองแฝดเกาะขอบประตูห้องอยู่โดยมีคุณครูสาวคนสวยยืนคอยปลอบอยู่ หล่อนดูไม่ได้หนักใจนัก อาจเพราะชินแล้วกับการเห็นเด็กงอแงกับการมาโรงเรียนครั้งแรก คนตัวสูงข้างๆเธอน่ะสิ สงสัยจะยัง..

ดาเรนพยายามกลืนสะอื้นแต่เหมือนจะยาก เธอจึงถูกดึงมือออกมาให้ห่างจากห้องของเด็กๆ “นิกกี้คะ ฉันยัง---”

“ดาเรนใช้ไม่ได้เลยนะคะ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำแบบนี้ลูกก็จะยิ่งงอแงไม่อยากมาโรงเรียน ไม่รู้หรือไง..” คนเป็นมะม๊าตวาด สะบัดมือที่จับอยู่ออกอย่างโมโห โชคดีที่ออกมาจากตึกเรียนแล้วนะ ไม่งั้นได้อายคุณครูแน่ๆ แต่มันจะหมดเรื่องอายได้ไหมเมื่ออีกฝ่ายยังเถียงกลับไม่รามือ

“ก็ลูกยังเล็กนี่คะ นิกกี้ไม่น่ารีบให้มา รอให้เข้า primary ก่อนก็ได้”

“ดาเรนนี่ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ไม่เห็นเหรอว่า เด็กคนอื่นๆเค้าก็มากัน แล้วทำไมลูกเราจะมาไม่ได้” นิโคลเถียงเสียงแข็ง อ่อนใจกับลูกยังไม่พอยังจะมาพ่อพวกเขาอีกหรือไง..

เธอส่ายหน้าถอนหายใจแรง พยายามปรับอารมณ์เพราะหน้าตาสลดของคุณสามี แต่ทำไมต้องเป็นเธอทุกทีที่ต้องจัดการเรื่องแบบนี้ในครอบครัว

“ดาเรนต้องเข้าใจนะคะ ฉันไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่า เค้าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสังคม เค้าจะต้องมีเพื่อน มีโลกของเค้า เหมือนที่พวกเรามี ถ้าไม่เริ่มวันนี้ ต่อไปมันก็จะยากขึ้น” หญิงสาวเอื้อมมือไปจับมืออีกคนมาบีบกระชับ พยายามปรับความเข้าใจ “ฉันเองก็อยากจะร้องไห้เหมือนกันที่เห็นแอนเดรียร้องตาม แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อไปเค้าจะไม่เชื่อฟัง”

“ขอโทษค่ะนิกกี้ เข้าใจแล้ว” ดาเรนยิ้มให้คู่ชีวิตทั้งดวงตายังเศร้าอยู่ นิโคลเข้ามาจูบแก้มปลอบใจอย่างไม่สนใจว่าผู้ปกครองคนอื่นจะเห็นหรือทำท่ายังไงใส่พวกเธอ

“ดาเรนคะ ลูกเราเก่งนะคะ ดาเรนต้องไว้ใจพวกเค้านะ”

คนฟังถอนหายใจเบาๆ เกลื่อนความเศร้าที่ต้องทิ้งลูกไว้ที่โรงเรียนด้วยรอยยิ้มให้แม่ของเขา เพราะในเมื่อนิโคลมั่นใจขนาดนี้ เธอที่ควรจะทำหน้าที่ผู้นำครอบครัวจะมามัวร้องไห้ตามลูกๆอยู่ได้ยังไง เพราะฉะนั้นเธอต้องตัดใจให้ได้...

“โอเคค่ะ งั้นไปกันเถอะ” มือขาวดึงมือที่จับกุมกันไว้ พากันเดินกลับรถที่จอดรอ ได้เวลาของผู้ใหญ่อย่างเธอต้องไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแล้ว จะมามัวงอแงเป็นเด็กได้ยังไง

นึกถึงคุณพ่อคุณแม่เอาไว้สิดาเรน ตอนที่พวกท่านต้องพาเธอไปโรงเรียนครั้งแรก พวกท่านทำยังไง..

ดาเรนพยายามปลอบใจตัวเอง หากกระนั้น ตอนที่รถกำลังจะแล่นออกจากโรงเรียนของลูกสาว กระจกมองข้างของรถแวนยังไม่วายต้องลดลง เธอยังคงมองตึกเรียนของลูกๆอย่างอาลัย ชักไม่แน่ใจแล้วว่า ใครกันแน่ที่ติดใครมากกว่ากัน ระหว่างเธอกับเด็กๆของเธอ

เฮ้อ.. ฉันต้องเข้าคอร์สฝึกการเป็นพ่อคนใหม่หรือเปล่านะเนี่ย..

โดยเฉพาะวิธีการปรับตัวเมื่อพวกเขาต้องไปโรงเรียน..



........................................................

 :875328cc:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

ออฟไลน์ 19aug

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 8
Re: Runaway Bride vol.3 Chapter 7 : เช้าวันใหม่กับอะไรๆที่เปลี่ยนไป
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 19 มกราคม 2014 เวลา 06:40:01 »
ท่าทางพ่อบ้านจะไม่ชินทั้งคู่

คนหนึ่งไม่ชินเพราะห่างลูก
อีกคนไม่ชินที่ต้องล่ำลาก่อนไปทำงาน  :26:

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.