ตอนที่ ๕
ลิ้นอุ่นๆ ของคนเมาแทรกเข้ามาในปากแพรตะวันอย่างง่ายดาย เพราะแพรตะวันกำลังตกใจในสิ่งที่สายป่านทำ สายป่านใช้ลิ้นควานหาความหอมหวาน จากปากของคนที่เธอหลงรักอย่างดูดดื่มเร่าร้อนเนิ่นนาน จนทำให้แพรตะวันที่แข็งขืนในตอนแรกถึงกับอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของสายป่าน
ฝ่ามือสายป่านเริ่มสัมผัสลูบไล้แผ่นหลัง จนเคลื่อนมาด้านหน้าลูบไล้ลงไปบนหน้าท้องที่แบนราบอ่อนนุ่ม ก่อนจะค่อยๆ ไล้สัมผัสแผ่วลงไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าแพรตะวันจะใส่กางเกงผ้าเนื้อหนา ยังรับรู้ถึงความอุ่นของฝ่ามือที่ลากผ่านลงไปจนถึงเนินเนื้ออวบอูม ฝ่ามืออุ่นที่ทาบลงไปและสัมผัสแผ่วเบาลากขึ้นลง ทำเอาแพรลืมตัวยกสะโพกตามการลากผ่านอย่างเสียวสะท้าน
“แพรจ๋า” สายป่านครางเสียงสั่นกับซอกคอนุ่มๆ แต่นั่นกลับทำให้แพรตะวันเหมือนได้สติ แขนที่โอบกอดคอสายป่านไว้อย่างเผลอไผลเมื่อสักครู่ ออกแรงผลักร่างสายป่านให้ถอยห่างออกไป ความรู้สึกขัดแย้งอย่างรุนแรง แพรตะวันหอบหายใจแรงอย่างพยายามต่อสู้กับจิตใจที่เตลิดของตัวเอง ก่อนจะรีบลุกออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“ป่านแพรขอโทษ แต่เราไม่น่าทำแบบนี้เลย แพรไม่อยากให้ป่านต้องมาเสียใจ” แพรตะวันบอกสายป่าน หลังจากพยายามระงับอารมณ์ที่มันกำลังเตลิดลงอย่างยากลำบาก
“ทำไมป่านจะต้องเสียใจ ป่านดีใจที่ได้อยู่กับแพรแบบนี้ ป่านรอแพรมานานเกินไปด้วยซ้ำ” เสียงสายป่านยังสั่นไหวจากอารมณ์เสน่หาที่ยังคั่งค้างอยู่ สายป่านลุกมาสวมกอดแพรตะวันทางด้านหลัง
“แพรจ๋าให้โอกาสป่านหน่อยนะคะคนดี ป่านสัญญาว่าป่านจะไม่ทำแบบนั้นอีก จนกว่าแพรจะอนุญาตดีไหม” สายป่านกระซิบเว้าวอนจนแพรตะวันใจอ่อน ยอมกลับไปนั่งบนโซฟาตัวเดิมตามการจูงของสายป่าน
“ป่านขอกอดแพรแบบนี้ได้ไหม รับรองว่าป่านจะกอดเฉยๆ ไม่ทำอะไรมากกว่านี้นะคะ ป่านหลงรักแพรมานานแล้วนะคะ แพรอย่าปฏิเสธป่านเลยนะ ป่านไม่ได้คิดอยากจะเป็นเจ้าของแพร หรือทำให้แพรลำบากใจเลยนะ ป่านจะอยู่ในที่ที่ของป่าน จะไม่เรียกร้องอะไรเลย แต่ขอแค่แพรอย่าตัดรอนป่านแค่นั้นเอง ให้โอกาสป่านนะคะ” สายป่านกระซิบเสียงเบาอยู่ใกล้ๆ หูแพรตะวันทำเอาแพรตะวันใจอ่อนยวบ อย่างไม่อาจต้านทานได้กับสัมผัสของสายป่านได้
“ค่ะ” คำตอบสั้นๆ ที่ออกจากปากแพรตะวัน เหมือนเสียงจากสวรรค์ ที่สายป่านรอคอย สายป่านหอมแก้มแพรตะวันอย่างดีใจเกินจะหักห้ามและซ่อนเร้นความรู้สึกได้
“ขอบคุณนะคะ”
“แต่...เราจะต้องค่อยๆ ศึกษากันก่อน แล้วที่สำคัญป่านต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าแพรมีคนรักอยู่แล้ว” แพรตะวันบอกย้ำกับสายป่านให้เข้าใจกับการคบหากันของเธอทั้งคู่ แต่ที่สายป่านไม่รู้ก็คือเรื่องของมิรินที่แพรตะวันไม่รู้จะบอกอย่างไร
“เจ้าค่ะ ป่านเข้าใจและยอมรับ แล้วทำไมต้องย้ำบ่อยๆ ด้วย”สายป่านเสียงอ่อยลง
“หรือว่าจะยกเลิกทั้งหมด” แพรตะวันขู่ยิ้มๆ
“ไม่เอา ไม่ยกเลิก ป่านขอโทษ” สายป่านละล่ำละลักบอกแพรตะวัน เพราะกลัวแพรตะวันจะเปลี่ยนใจ
กว่าเธอจะทำให้แพรตะวันใจอ่อน ยอมรับเธอได้ขนาดนี้ เธอต้องข่มความอาย และต้องทำใจกล้ามากขนาดไหน เธอจะไม่ยอมให้โอกาสดีดีแบบนี้หลุดลอยไปได้ง่ายๆ หรอก
เสียงโทรศัพท์ดังปลุกให้แพรตะวันตื่นตอนเช้า แพรตะวันมองหา จนเห็นตกอยู่ข้างๆ โซฟาที่เธอนอนอยู่ แพรตะวันกดปิดเสียงนาฬิกาที่เธอตั้งไว้
“นี่เธอเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” แพรตะวันรู้สึกถึงความหนักอึ้งที่ทับอยู่บนตัวเธอ สายป่านนั่นเองที่นอนกอดเธออยู่
“ป่านตื่นได้แล้ว แพรเมื่อยมากเลยคนอะไรตัวเล็กนิดเดียวหนักเป็นบ้า” แพรตะวันบ่นไป เขย่าตัวสายป่านเบาๆ ปลุกให้ตื่น
“แหม...บ่น จังนี่ขนาดป่านยังไม่ได้ทับทั้งตัวนะคะ” สายป่านยังไม่ยอมลุกออกจาการกอดก่ายแพรตะวัน แต่กลับแกล้งกอดแน่นกว่าเดิม แล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มแพรตะวันเสียงดังฟอดๆ
“Morning kiss ค่ะที่รัก”
“อื้อ...บ้าใหญ่แล้วป่านนี่” แพรตะวันหัวเราะขำกับสิ่งที่สายป่านทำ
“บ้าตรงไหน แพรจ๋าหอมป่านหน่อยซิ นะไม่หอมไม่ลุกจริงๆ ด้วยเอ้า จะนอนกอดอยู่อย่างนี้แหล่ะไม่ต้องลุกไปไหน”
“ไม่เอา ป่านลุกเร็วๆ แพรปวดฉี่แล้วเร็วๆ เลย” แพรตะวันเขินไม่ยอมทำตาม และไม่กล้ามองหน้าสายป่านด้วย เธอรู้สึกสับสนในใจอย่างไงไม่รู้ สายป่านขี้เล่นเหมือนมิรินจนแพรตะวันทำตัวไม่ถูก
“ไม่หอมก็ไม่ลุก นอนอยู่แบบนี้แหล่ะดีซะอีก ป่านชอบได้อยู่ใกล้ๆ คนที่ป่านรัก ไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่านี้อีกแล้ว แพรไม่หอม ป่านหอมเองก็ได้ นี่ นี่ นี่” สายป่านไม่ได้แค่พูด แต่เธอหอมแพรตะวันทั้งซ้าย ทั้งขวาและหน้าผากอย่างรวดเร็ว และก่อนที่ปากอุ่นๆ ของสายป่านจะเลื่อนลงมาที่ปากแพรตะวัน แพรตะวันรีบพูดขัดทันที
“ยอม ยอมแล้ว แพรหอมป่านก็ได้ เอียงแก้มมาซิ” ว่าแล้วเธอก็หอมแก้มสายป่าน ซ้ายทีขวาทีอย่างรวดเร็วก่อนที่สายป่านจะทำแบบเมื่อคืนอีก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ แพรตะวันหัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าสายป่านจะได้ยิน ก่อนที่จะรีบดันตัวสายป่านออกจากตัวเธอ ก่อนจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างระงับจิตใจที่ไม่ปกติของตัวเอง
“กลัวเหรอ” สายป่านว่าตามหลังแพรตะวัน พลางหัวเราะกับท่าทีของแพรตะวัน เธอไม่อยากกดดันแพรตะวันมากในตอนนี้ เธอรู้ว่าจริงๆ แล้วแพรตะวันไม่ได้รังเกียจเธอ เธอสัมผัสได้จากการที่แพรตะวันจูบและกอดตอบเธอเมื่อคืนนี้ เพียงแต่แพรตะวันอาจจะยังสับสนและคงต้องใช้เวลาที่จะยอมรับเธอเข้าไปในหัวใจอีกคน ไม่เป็นไรหรอกเธอไม่รีบร้อน เธอรออย่างเลื่อนลอยมานานเป็นปีๆ บัดนี้การรอคอยของเธอมันจะมีความหมายมากขึ้น ไม่ใช่การรออย่างเลื่อนลอยอีกต่อไป
หลังจากนั้นแพรตะวันก็มีสายป่านเข้ามาอยู่ในชีวิตมากขึ้น แพรตะวันมักจะได้ยินเสียงสายป่านที่โทรมาหาบ่อยๆ ชวนคุยโน่นนี่นั่น ทำให้แพรตะวันหายเหงาและคิดถึงมิรินน้อยลง จนแทบจะลืมมิรินไปในชั่วเวลาหนึ่งด้วยซ้ำ ถ้าวันนี้ไม่มีเสียงโทรศัพท์จากมิรินดังขึ้นมาอีก แพรตะวันนั่งมองโทรศัพท์โดยปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น จนมันเงียบไปแล้วก็กลับดังขึ้นมาอีกครั้ง และอีกครั้ง จนสุดท้ายหายเงียบไปไม่นานกลายเป็นเสียงข้อความเข้ามาแทน แพรตะวันหยิบโทรศัพท์มาเปิดออกอ่านข้อความ
“รินรู้ว่าพี่แพรคงจะโกธรและเกลียดริน จนไม่อยากพูดกับรินแล้วใช่ไหม แต่รินจะบอกพี่ว่ารินคิดถึงพี่นะคะ คิดถึงมาก รินขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจ รินรู้ว่ารินไม่สมควรที่จะได้รับการให้อภัยจากพี่ รินรักพี่แพรนะคะ”ข้อความที่มิรินส่งมาให้ทำเอาแพรตะวันนั่งนิ่งอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อรินมีคนอื่นอยู่แล้วยังจะกลับมาหาเธออีกทำไม หรือว่ามีปัญหาอะไร
แพรตะวันรู้สึกกังวลและเป็นห่วงมิรินขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้ติดต่อกลับไป เธอต้องไม่ใจอ่อนและหวนกลับไปหาคนที่ทำให้เธอต้องเสียใจอีก
แพรตะวันพยายามตัดมิรินออกไปจากความคิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก แต่เธอก็บอกกับตัวเองให้จดจำแต่เรื่องร้ายๆ ที่มิรินทำให้เธอ
‘กอดตัวเองในคืนที่ลมหนาวมา
เพิ่งจะรู้ว่ามันสะท้านในหัวใจ
ต่างกับวันที่เธอกอดฉัน
วันที่เราชิดใกล้...คิดถึงเธอเหลือเกิน’
มิรินนั่งมองโทรศัพท์นิ่งๆ ไม่ไหวติงเธอรู้สึกเสียใจที่แพรตะวันไม่รับโทรศัพท์เธอ แต่เธอก็บอกกับตัวเองแล้วว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ ยังไงเธอก็จะต้องทำให้แพรตะวันกลับมาหาเธอ และให้อภัยเธอเหมือนกับทุกๆ ครั้ง
ก่อนนี้เธอคิดว่าเธออยู่ได้โดยที่ไม่มีแพรตะวัน แต่พอนานวันเข้า เธอรู้ว่าคนที่รักเธอมากที่สุดก็คือแพรตะวัน เธอจะต้องทำทุกวิถีทางให้แพรตะวันกลับมาเป็นพี่แพรที่รักเธอมากที่สุดคนเดิมให้ได้