web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 39
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 29
Total: 29

ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะรักกัน...เท่าวันนี้ บทที่ ๕  (อ่าน 3171 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
กว่าจะรักกัน...เท่าวันนี้ บทที่ ๕
« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 14:14:52 »
-บทที่ ๕-

   “เธอเป็นบ้าหรือเปล่ายายรัน ถึงได้มาปลุกฉันแต่เช้า แบบนี้ “ คีย์ตญาเพื่อนสนิทของมิรันตีต่อว่าอย่างงัวเงีย หลังจากลุกไปเปิดประตูให้ แล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยอาการที่ยังไม่อยากตื่น

   “โทษทีว่ะ พอดีออกมาส่งเด็กไปเรียน แล้วไม่รู้จะไปไหนนึกถึงเธอก็เลยมาหา ลืมไปว่าเพื่อนเป็นนกฮูกตื่นกลางคืนนอนกลางวัน”

   “ส่งเด็ก... เด็กที่ไหนวะ” เด้งตัวลุกมาถามแทบจะหายง่วงทันที เมื่อได้ยินเรื่องแปลกใหม่

   “ลูกเพื่อนแม่น่ะ เค้าไปต่างจังหวัดฝากให้ช่วยดูแล” 

   “แล้วเธอเลี้ยงเด็กเป็นเหรอ” ล้มตัวลงนอนต่อตาปรือ แต่ปากยังไม่หยุดซัก

   “สบายมากอายุ 20 กว่าล่ะ แต่ยังซนอยู่เลย” บอกยิ้มๆ

   “ฮั่นแน่...ทำตาแบบนี้ ยิ้มแบบนี้ คิดอะไรกับเด็กหรือเปล่าเนี่ย” แทบจะหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเห็นอาการของเพื่อนรัก

   “บ้า...ไม่ได้คิดอะไร ห้าวยังกะอะไร แล้วยังดื้อสุดๆ ไม่น่ารักซักนิด” บอกออกไปแล้วก็ล้มตัวลงนอนเคียงข้างเพื่อน หลับตานิ่งๆ รอยยิ้มกระจ่างใส ดวงตาพราวระยับดุจมีหยดน้ำหล่อเลี้ยงที่เห็นในวันนี้ เวลาที่ดลยาอยู่กับเพื่อน ๆ กลับผุดขึ้นมาในห้วงความคิด และอ้อยอิ่งอยู่นานกว่าจะลบเลือนไป...


   คีย์ตญาลืมตาตื่นอีกทีตอนบ่ายตามปกติของเธอ เพราะความที่เธอเป็นนางแบบ งานของเธอจึงมักจะเริ่มขึ้นตอนบ่ายๆ แล้วล่วงเลยไปถึงกลางดึก ทำให้เธอไม่คุ้นเคยกับการตื่นเช้าๆ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่งานของเธอเริ่มตั้งแต่เช้า แต่ก็ไม่ได้บ่อยพอที่จะทำให้เธอคุ้นชิน

   “อ้าว...ฉันนึกว่าเธอหนีกลับไปแล้วซะอีก” เอ่ยทักเมื่อเดินออกมาเจอมิรันตีนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน กำลังง่วนอยู่กับคอมพิวเตอร์ตัวเล็กอย่างจดจ่อ

   “ฉันยังไม่ได้คุยงานกับเธอเลย จะกลับไปได้ยังไง นี่ก็กำลังร่างแผนการเปิดตัวสินค้าของเราอยู่ ทันทีที่เราเปิดบริษัทเราต้องเปิดตัวสินค้าไปพร้อมๆ กันด้วย” ตอบเพื่อนแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเงยหน้าจากจอที่อยู่ตรงหน้า

   “ก็ตามแต่เธอเห็นสมควรละกัน ฉันมันแค่หุ้นส่วนเล็กๆ แต่เธอเป็นเจ้าของบริษัท ถือหุ้นรายใหญ่ก็คงต้องเหนื่อยหน่อยนะเพื่อน” ตบไหล่มิรันตีเบาๆ ก่อนจะเดินเลยเข้าไปชงกาแฟในครัวเล็กๆ ของห้องชุดซึ่งเป็นน้ำพักน้ำแรงของเธอ

   “ยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว อย่ามาทิ้งกันแบบนี้นะ เธอก็ต้องช่วยออกความคิดด้วย ฉันคิดคนเดียวบางทีก็ตื้อเหมือนกันนะคีย์”

   “เออ...ใครบอกจะทิ้งล่ะ เพียงแต่ฉันต้องทำงาน อาจจะไม่มีเวลาเข้าไปเต็มที่ แต่ถ้าเธอมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกมาได้ตลอดเวลาเลยเพื่อน” ละสายตาจากหม้อต้มกาแฟ หันมาบอกอย่างจริงจังขึ้น

   “วันที่เราเปิดตัวสินค้า ฉันอยากให้เธอเปิดตัวเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยจะได้หรือเปล่า แรกๆ ก็คงต้องอาศัยชื่อเสียงของเธอดันให้สินค้าเรามีชื่อเสียงก่อน”

   “ต้องเอารายละเอียดมาดูก่อนนะ ว่าจะไปติดสัญญากับเจ้าอื่นหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ตามนั้นเลย ฉันก็อยากเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าของตัวเองเหมือนกันนะ แต่ถ้ายอดขายแป๊กขึ้นมาก็อย่ามาว่ากันนะ” คีย์ตญาบอกยิ้มๆ

   “ นางแบบแถวหน้าอย่างเธอนะ ทำเป็นมาถ่อมตัว แต่เธอก็ต้องรับค่าตัวไปด้วยนะ ไม่ใช่มาทำให้ฟรี ๆ”

   “เฮ้ย...นี่มันสินค้าของเรานะ จะมาคิดค่าตงค่าตัวได้ยังไง” คีย์ตญาคัดค้านเสียงดัง ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับมิรันตี

   “มันคนละส่วนกัน หุ้นส่วนก็คือหุ้นส่วน งานของเธอก็คืองานของเธอ ถ้าเราจ้างคนอื่นมาเป็นพรีเซนเตอร์ก็ต้องจ่ายเงินส่วนนี้เหมือนกัน มันเป็นรายจ่ายของบริษัท เข้าใจไหม” บอกอย่างจริงจัง เพราะเธออยากทำอะไรให้ชัดเจน เป็นรูปแบบบริษัท ไม่ใช่ทำแบบกันเอง

   “เออ...ก็ได้ เธอนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ แม่ตงฉิน” คีย์ตญาจำต้องยินยอมอย่างอ่อนใจ

   "เดี๋ยวฉันจะออกไปดูเค้าตกแต่งบริษัทซะหน่อย เธอจะไปกับฉันไหม"

   "ไม่ล่ะ ตอนเย็นฉันมีงานเดินแบบน่ะ ขอโทษนะรัน ฉันไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเธอเลย" บอกเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิดต่อเพื่อน

   "ไม่เป็นไรหรอก เราคุยกันไว้ตั้งแต่ต้นแล้วนี่จ๊ะ เธอไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้ว ฉันยังลากเธอมาเข้าหุ้นอีก ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ" วางมือลงบนบ่าเพื่อนอย่างเข้าใจ

   "ฉันก็อยากมีอะไรทำตอนที่ฉันเดินแบบไม่ไหวแล้วบ้างสิ ฉันดีใจและเต็มใจที่สุดนะรัน ฉันจะเข้าไปบริษัททุกครั้งที่ว่าง ฉันสัญญา"

   "ได้ ฉันก็สัญญาเหมือนกันว่าจะทำบริษัทของเราให้ดีที่สุดเหมือนกัน" สองคนมองสบตากันยิ้มอย่างมุ่งมั่น และมีความหวัง

 
   มิรันตีเดินดูการตกแต่งบริษัทที่เกือบแล้วเสร็จอย่างละเอียด เธออยากให้ทุกอย่างออกมาดีอย่างที่เธออยากให้เป็นมากที่สุด

   “คาดว่าประมาณ5 วัน น่าจะเก็บงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยครับ” ผู้รับเหมาบอกกับมิรันตีอย่างนอบน้อม

   “เหรอคะ รวดเร็วทันใจดีจัง เท่าที่ดูๆ ก็เรียบร้อยตามที่คุยกันไว้ ขอบคุณนะคะที่ทำงานให้รันอย่างดี” มิรันตีบอกอย่างถูกใจก่อนจะขอตัวกลับ เพราะเธอตั้งใจจะแวะรับดลยาก่อนกลับบ้าน

   ไม่นานนักรถ BMW คันหรูของมิรันตีก็แล่นเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เธอจอดรถหน้าร้านกาแฟที่เก่าเมื่อเช้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาดลยา

   (น้องดิวตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ) เอ่ยเสียงหวานยั่วเย้า

   (อยู่มหาวิทยาลัย มีอะไร) น้ำเสียงบ่งบอกอารมณ์ของคนพูดว่าไม่ชอบใจที่เป็นมิรันตีโทรหาเธอ

   (พี่มารับ รออยู่หน้าร้านกาแฟที่เดิมเมื่อเช้านะคะ)

   (ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมารับ คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันยังไม่กลับจะไปฉลองจบกับเพื่อนๆ ก่อน)

   (พี่เข้ามาแล้วก็มาคุยกันก่อน ถ้าไม่มาพี่จะโทรไปบอกป้ากัลยาว่าน้องดิวหนีเที่ยว) ขู่เสียงแข็งไม่แพ้กัน ก่อนจะรีบวางสายทันที

   “โธ่เว้ย...!” ดลยาร้องขึ้นอย่างโมโห ทำท่าจะปาโทรศัพท์มือถือลงกับพื้น อย่างขัดเคืองใจ

   “เฮ้ย...! เป็นอะไรไปดิว เป็นบ้าไปแล้วหรือไง” สิตาร้องถามอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นอาการนั้นของดลยา

   “ฉันก็อยากจะเป็นบ้าไปจริงๆ เหมือนกัน จะได้หักคอคนได้โดยที่ไม่มีความผิด”

   “ขนาดนั้นเลยเหรอ...ใครมาทำให้ตบะเธอแตกได้ขนาดนี้เนี่ย” สิตาร้องถามพลางหัวเราะเสียงดังอย่างขบขัน กับอาการของเพื่อนรัก

   “จะใครซะอีกล่ะ ก็ยัยพี่รันของพวกเธอไง เค้ามารออยู่ที่ร้านกาแฟโน่น จะมารับฉันกลับบ้าน ขนาดฉันบอกจะไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อน ยังจะจิกให้ฉันไปหาก่อนเลย มันน่ามั๊ยล่ะแล้วยังจะมีหน้ามาบอกอีกว่าถ้าฉันไม่ไป จะโทรไปฟ้องแม่ฉันด้วย ” บอกอย่างโมโหสุดๆ

   “อ้าวพี่รันมาเหรอ ก็ไปหาพี่เค้าสิ ไปๆ ฉันไปเป็นเพื่อน” สิตามีท่าทางดีใจ ดึงแขนดลยาให้ลุกเดินไปทางร้านกาแฟทันที ต่างกับดลยาที่พยายามแข็งขืนไม่ยอมก้าวขาเดิน

   “เธออยากให้เรื่องนี้ถึงหูแม่เธอหรือไง เดี๋ยวก็ได้หูชากันพอดีหรอก” จี้จุดอย่างรู้จักแม่ของเพื่อนเป็นอย่างดี ทำให้ดลยาจำใจต้องเดินตามไปแต่โดยดี

   “บอกแล้วไงว่ายังไม่กลับ จะไปฉลองกับเพื่อนๆ ก่อนคุณกลับไปเถอะ” มาถึงก็เปิดฉากต่อว่าทันที โดยไม่สนใจสิตาที่ดึงแขนเธอไว้อย่างปรามๆ

   “น้องดิวอยากไปก็ไปสิ พี่ก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อย แต่พี่จะไปด้วยต่างหาก” บอกยิ้มๆ โดยไม่สนใจ

   “หา...” คราวนี้ทั้งดลยา และสิตาร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างตกใจ

   “ทำไมล่ะ พี่ก็แค่อยากไปฉลองด้วยคน ได้หรือเปล่าคะน้องสิตา” หันไปยิ้มหวานใส่สิตา

   “ดะ...ได้ค่ะ ก็ดีเหมือนกันนะดิว มีรถไปจะได้ไม่ต้องลำบาก ฉันกับเอน่ะไม่มีปัญหา เพราะบ้านใกล้กัน แต่เธอต้องกลับคนเดียว ชัยมันก็ดันเร่งวาดรูปไปกับพวกเราไม่ได้ซะด้วย” สิตาแทบจะละลายไปกับรอยยิ้มหวานๆ ของมิรันตีที่ส่งให้ ช่วยพูดให้ดลยาคล้อยตาม

   “แต่...” ดลยาพยายามจะทักท้วง

   “นั่นเอมาพอดี เอพี่รันจะไปกับเราด้วย” ร้องบอกเอมิกาอย่างต้องการ การสนับสนุนจากเพื่อน

   “จริงเหรอคะ ดีจังงั้นไปกันเลยดีกว่าค่ะ พวกพีชไปกันแล้วล่ะ ฉันยังกังวลอยู่ว่าจะมีแท็กซี่เข้ามาหรือเปล่า โชคดีที่พี่รันมาขอบคุณนะคะ ไปกันเถอะดิว” เห็นด้วยอย่างดีใจ พร้อมกับดึงรั้งดลยาที่หน้าบูดบึ้งให้เดินตามไปที่รถของมิรันตี

   ด้วยการดึงและดันของเพื่อนๆ ทำให้ดลยาขึ้นมานั่งด้านหน้าคู่กับมิรันตีจนได้ หญิงสาวสะบัดหน้าค้อนขวับวงใหญ่ ให้คนข้างๆ อย่างขัดเคืองใจ ทำเอามิรันตีกลั้นเสียงหัวเราะแทบไม่อยู่ เมื่อเห็นท่าทางนั้นของดลยา หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้มด้วยไม่อยากให้สาวเจ้าขุ่นเคืองมากยิ่งขึ้น






 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.