web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 145
Total: 145

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 10 - ปีกนางฟ้า  (อ่าน 2826 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 10 - ปีกนางฟ้า
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:35:55 »
Chapter 10 :  ปีกนางฟ้า

ดิออนรู้สึกตัวขึ้นมาในกลางดึก  และเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ประหลาดใจว่า  ทำไมเธอยังไม่เห็นแสงสว่างลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา  มือเล็กจึงควานไปในความมืดมองหานาฬิกาที่วางอยู่ใกล้ๆ นาฬิกาดิจิตอลที่มีแสงไฟในตัว  บอกเธอมาว่า  มันเป็นเวลาตีหนึ่ง  เธอนั่งตะลึงกับมันอยู่นาน  ก่อนจะกะพริบและลุกขึ้นจากเตียง  คิดได้ว่าคอแห้ง  ตู้เย็นขนาดเล็กเป็นเป้าหมายที่เธอต้องเดินไปหา  และมันก็ไปถึงได้ไม่ยาก  แม้เธอจะไม่ได้เปิดไฟ 
“บ้าจริง..  ตื่นขึ้นมาได้ยังไงป่านนี้นะ..”  เธอพึมพำก่อนกระดกแก้วน้ำให้ของเหลวใสๆไหลผ่านลำคอ  แต่เพราะแสงไฟจากตู้เย็น  มันทำให้หางตาของเธอมองเห็นบางอย่างที่ความมืดซ่อนเร้นเอาไว้อยู่บนโซฟายาว  ..คนหรือผี..
โดยปกติดิออนไม่ใช่คนกลัวความมืดและไม่ใช่คนกลัวผีสางจนถึงขั้นประสาทหลอน  แต่ก็แน่นอนเลยว่า  เธอใจไม่ดีที่มีใครอีกคนอยู่ในห้องนอนของเธอด้วย  ห้องที่เธอเคยอยู่เพียงลำพัง  แต่ระหว่างที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเดินเข้าไปดูให้แน่ใจดีหรือไม่ว่า  เงาของใครบางคนที่เธอเห็นอยู่  เป็นคนจริงๆหรือไม่  เธอก็นึกอะไรบางอย่างได้  ..แคล..
เธอผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจที่รู้แล้วว่าเป็นใครที่อยู่ด้วยกันกับเธอที่นี่  แต่ความจริงข้อนี้ทำให้เธอแปลกใจ  ไม่เข้าใจว่า  ทำไมแคลไปนอนอยู่บนโซฟาแทนที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ  ในเมื่อก็เห็นอยู่ว่า   หล่อนชอบที่จะอยู่และนัวเนียกับเธอมากกว่าที่จะนอนหนาวตามลำพังแบบนั้น 
หรือเธอรำคาญฉัน..  ฉันนอนกรนหรือเปล่า   ตัวเหม็นหรือไง  เสียงในหัวถามออกมาเหมือนคนฟุ้งซ่าน  และเธอก็คิดจะหันกลับไปนอนต่อบนเตียงต่อไป  มันยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงจนกว่าวันใหม่จะมาถึง  แต่เสียงในใจบอกให้เธอเดินเข้าไปแวะดูคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาเสียก่อน  .
..ก็ได้..  ก็ได้...  เขาเป็นคู่หมั้นฉันนี่...
ดิออนเดินไปเปิดโคมไฟในที่สุด  มันให้แสงสว่างมากพอทำให้เธอพอจะมองเห็นใบหน้าของคนที่นอนบนโซฟาได้ชัดขึ้น  และเธอก็ไปถึงตัวหล่อนได้เพียงเวลาไม่ถึงสองนาที  เธอนั่งลงกับพื้น  เพราะอยากจะมองเขาให้ชัดๆ เวลาแคลหลับมันเป็นเวลาที่เขาดูน่ารักที่สุด  เธอชอบ  บอกได้เลยตามตรง  แต่ระหว่างที่มองจ้องใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กนั้นอยู่อย่างเพลิดเพลิน  สายตาก็บังเอิญไปเห็นอะไรที่สะดุดตา  มือข้างหนึ่งของแคลถูกพันผ้าพันแผลเอาไว้ 
...เป็นอะไรไปล่ะนี่..  เมื่อเช้ายังไม่เป็นเลย... ดิออนรำพึงในใจ  และไวกว่าที่ตัวเองคิดไว้  มือทั้งสองข้างของเธอก็ไปประคองมือข้างนั้นของหล่อนขึ้นมาและลูบไล้มันเบาๆเหมือนจะร่ายมนต์ให้มันหาย   เธอลืมคิดไปว่า  สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่  อาจจะเสี่ยงไปปลุกให้หล่อนตื่น  และเธอก็สะดุ้งตกใจที่ได้ยินเสียงร้องเรียกหาใครบางคนดังออกมาจากปากของแคล
“แอน..  แอน...  อย่าไปนะ..  อย่าไป...”
ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อทบทวนได้ว่าได้ยินอะไรมา  สองมือที่ประคองมือของอีกคนอยู่ก็เหมือนจะหมดเรี่ยวแรงไปกะทันหัน  และมันก็ทำให้เธอตกใจเป็นครั้งที่สองที่ได้ยินเสียงร้องเหมือนเจ็บปวดดังตามหลังมา  ต่อมาก็เป็นแคลที่ดีดตัวขึ้นนั่งกุมมือข้างนั้นของตัวเองและร้องโอดโอยออกมา
ดิออนกระพริบตาและคืนสติกลับมาทันทีที่เห็นเช่นนั้น  พลันเธอรีบรุดไปช่วยประคองมือหล่อนกลับมาดู  เธอครางออกมาอย่างตกใจ   และมันก็เป็นความตกใจเป็นครั้งที่ล้านแล้วสำหรับครั้งนี้  เพราะมันมีของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลสีขาว
“ฉันจะไปหาอะไรมาทำแผลให้ใหม่” ดิออนร้องบอกเสียงสั่น แต่เธอไม่ทันสังเกตตัวเอง  และก่อนที่เธอจะออกเดินไปได้  ก็กลับถูกดึงกลับมาด้วยเรี่ยวแรงมากมายของอีกคนและตัวของเธอก็มาหล่นอยู่บนตักของหล่อน  กลายเป็นถูกหล่อนกอดจากด้านหลัง
“ไม่ต้องไป..  แค่อยู่ใกล้ๆฉันก็พอ”  แคลลี่กระซิบลงไปที่ข้างหู  อย่างที่ไม่รู้ว่าลมหายใจร้อนๆของเธอทำให้อีกคนตัวสั่น 
ดิออนไม่ปฏิเสธเลยว่า  เธอรู้สึกกลัวแคลมากเวลาที่อยู่ด้วยกันแบบนี้  แต่มันก็มีอะไรไม่ถูกต้องถ้าเธอจะลุกหนีไป  ไม่ใช่แค่เพราะว่า  มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนี  แต่เธอจะรู้อะไรบางอย่างให้ได้เสียก่อน  เธอค่อยๆขยับตัวให้หล่อนรู้ว่าควรจะคลายความแน่นของวงแขนออก  ทำให้เธอหันไปหาได้ง่ายขึ้น 
ดวงตาสีแดงมองเธออย่างสงสัยแต่เขาก็ไม่พูดอะไรและปล่อยให้เธอได้ใช้หลังมือสัมผัสที่หน้าผาก  ดิออนแทบจะชักมือของเธอกลับในทันทีที่รู้สึกได้ถึงความร้อนเหมือนไฟที่ตรงจุดนั้น  “เธอเป็นไข้..  อยู่ตรงนี้นะ”

แคลลี่ไม่รู้เลยว่า  ทำไมเธอถึงได้ปล่อยให้ดิออนออกห่างไปได้ง่ายๆแบบนั้น  ทั้งที่ก็หาโอกาสมาตั้งนานกว่าจะได้อยู่ใกล้ๆกันแบบนี้  แต่มันก็มีอะไรบางอย่างที่บอกเธอว่า  อีกไม่นานดิออนก็จะกลับมา  และหล่อนก็กลับมาจริงๆพร้อมของเต็มมือ
“อะไรกันเยอะแยะ..”  แคลลี่เอ่ยถาม  และก็โดนสั่งทางสายตาว่าให้เงียบเสียงไป  ต่อมาก็ยอมปล่อยให้คนตัวเล็กที่นำของไปวางไว้ที่โต๊ะใกล้เตียงแล้ว  ลากตัวเธอมานั่งอยู่ที่เตียง  จัดท่าทางให้ราวกับเป็นตุ๊กตา  และตอนนี้เธอก็พบว่า  เธอกำลังนั่งอมปรอทพิงหัวเตียงอยู่และมองดูดิออนจัดการกับมือที่เป็นแผลของตน
“เพิ่งรู้นะว่า  ประธานบริษัทบอดี้การ์ดก็ยังซุ่มซ่ามถึงขนาดลื่นล้มในห้องน้ำได้แบบนี้”  ดิออนพูดติดตลกออกมา  และกลั้นหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงอู้อี้ที่บอกว่าอยากจะเถียงเธอตอบ
“เอาปรอทออกก่อนสิ..ถ้าอยากจะพูด”  เธอเสร็จกับการทำแผลใหม่ให้อีกคนพอดีกับเวลาที่จะต้องนำปรอทวัดไข้ออกมา  ดิออนทำไม่สนใจกับสายตาของดวงตาสีแดงที่กำลังมองเธออย่างเคืองๆ  “ไหนดูซิ..” เธอยกปรอทที่เพิ่งดึงออกมาจากปากแคลมาส่องกับแสงไฟเพื่อตรวจดู  แล้วก็ต้องส่ายหน้า  สีหน้าไม่เหลือความตลก  “นอนเฉยๆนะ..  เธอต้องกินยาลดไข้..”
แคลลี่นอนนิ่งอย่างว่าง่ายตามคำสั่งของคุณหมอจำเป็นของเธอที่ตอนนี้หายจากห้องอีกครั้ง  เสียงฮัมอย่างมีความสุขดังออกมาจากปาก  เลิกสนใจกับอาการปวดหัวตุ้บๆเพราะพิษไข้และปวดแผลที่มือ  ตอนนี้เธอมีความสุขจริงๆที่มีคนดูแลเอาใจใส่แบบนี้  เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  ดิออนช่างใจดีเหลือเกิน  ทั้งที่เธอทำอะไรตั้งหลายอย่างที่ไม่น่าให้อภัย
..ทำไมเธอถึงดีกับฉันแบบนี้..ดิออน..  ฉันไม่คู่ควร.. แคลลี่หลับตาและกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล  เธอไม่ต้องการจะอ่อนแอให้ใครเห็น  และความมืดก็เริ่มเข้ามาครอบคลุมร่างกายเธออีกครั้ง  มันจะพาเธอไปสู่นิทรา  แต่หากว่าเธอไม่ได้ยินเสียงใครบางคนเสียก่อน
“อย่าเพิ่งหลับสิ..  ลุกขึ้นมากินยาก่อน..”  ดิออนพยายามพยุงตัวคนตัวใหญ่กว่าเธอขึ้นมาให้อยู่ในท่านั่ง  จากนั้นก็นำยาเม็ดลดไข้กับแก้วบรรจุน้ำมาส่งให้  แคลดูไม่เต็มใจที่จะรับมันไปจัดการ  และถึงจะรับไปแล้วก็ยังถืออยู่เฉยๆ จนเธอถอนหายใจอย่างระอา “อย่าบอกนะว่า..  เธอกินยายาก..”
ดิออนอ้าปากค้าง  ตาโตอย่างตกใจที่เห็นอีกคนพยักหน้ารับกลับมา  และแล้วเธอก็ถอดใจที่คิดจะตวาดใส่หน้าคนที่มีหน้าตาไร้เดียงสาแบบนี้  เธอคว้าเม็ดยาจากมือของแคลกลับมาโดยไม่รอให้เขาส่งเสียงทัดทาน  “มานี่..ฉันจะสอนให้”
“แต่ฉันรู้นะว่าจะกินมันยังไง...” แคลลี่บอกเสียงอ่อยและพอคิดว่าจะพูดอะไรอีก  เธอก็ชะงักเพราะดวงตาคู่สวยที่มองตาขวางกลับมาเหมือนจะขู่  เธอจึงตัดสินใจที่จะอยู่เงียบๆ
 “กินน้ำ..  และอมมันไว้”  ดิออนออกคำสั่ง  อีกคนทำตาโตกลับมาแต่เมื่อเธอหรี่ตามองก็ต้องรีบทำตามทันที  จนเธอแอบยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กเล็กๆนั่น “แล้วทีนี้ก็เงยหน้าขึ้น  อ้าปาก..  แต่ระวังอย่าเพิ่งให้น้ำไหลลงคอนะ” แคลทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย  และเธอก็รีบนำเม็ดยาที่ถือไว้เอาไปใส่ในปากของเขา  “กลืน”
เด็กสาวอมยิ้มเมื่อเห็นแคลกลืนเม็ดยาลงคออย่างยากเย็น  และเมื่อดวงตาสีแดงมองเห็นเธอกลั้นหัวเราะเอาไว้  หล่อนก็ทำตาถมึงทึงกลับมา  แต่เธอก็ส่ายหน้าและไม่สนใจกลับลุกขึ้นเดินอีกครั้ง
“ดิออน..”  เสียงร้องเรียกเหมือนเด็กติดแม่  ทำให้เธอต้องหันกลับมาและจากที่จะต่อว่า  เธอก็กลับยิ้มอ่อนโยน  “เธอต้องเช็ดตัวด้วย..  เดี๋ยวฉันมา..  หลับไปเลยก็ได้นะ”
แคลลี่ทรุดตัวลงนอนและหลับตา  หลังพยักหน้าให้คนที่หายไปเป็นรอบที่สามแล้วในครั้งนี้  แต่ก็เหมือนทุกครั้ง  อีกไม่นานดิออนก็จะกลับมาหาเธอ  และใช่จริงๆที่เธอได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เธอจำมันได้แล้ว  และแล้วผ้าเย็นๆก็เข้ามาสัมผัสไปตามใบหน้าและลำคอ  ต่อด้วยลำแขนเรียวยาว
“เธอรู้มั้ยว่า..  เธอเป็นผู้หญิงที่ตัวใหญ่มาก..”  ดิออนออกความเห็นด้วยน้ำเสียงธรรมดาปราศจากการประชดประชัน   
คนโดนวิจารณ์ยิ้มอย่างมีความสุขทั้งที่กำลังหลับตา  “ฉันเป็นลูกครึ่ง..  และฉันก็ชอบตัวฉันที่เป็นแบบนี้..” เธอยิ้มให้กับคำพูดของตัวเอง แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปง่ายๆเพราะคำที่จะพูดต่อ     “เธอคงไม่เคยเห็นสินะว่า..  ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ตัวใหญ่กว่าฉัน.. มีคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก   เขาสูงกว่าฉันสิบเจ็ดเซน.  เขาเป็นคนอังกฤษ...” เธอจบประโยคนี้ด้วยเสียงที่เบามากเหมือนไม่ได้อยากจะพูดมัน  แต่เมื่อมันพูดไปแล้ว  และมีคนถามต่อเธอก็คงจะต้องตอบ
“โอ้โห..  งั้นก็ตัวเป็นเสาไฟฟ้าเลยล่ะสิ   เขากินอะไรนะ  ทำไมถึงได้สูงได้ขนาดนั้น”
“เหล้า”
ดิออนหยุดคำถามที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นของเธอ  เมื่อคำตอบที่ได้รับเหมือนหินที่หล่นลงมาขวางราง  มิหนำซ้ำมันยังเป็นคำตอบสั้นๆและน้ำเสียงห้วนมากอย่างที่ไม่ใช่คนอย่างแคลที่จะใช้มัน  ยิ่งได้เห็นหล่อนลืมตาขึ้นมาและสายตาล่องลอยมองไปทางอื่น  เธอยิ่งรู้สึกไม่ดี  และมันทำให้คำบางคำที่เธอได้ยินเวลาหล่อนหลับกลับคืนมาให้เธอคิดทบทวน
“แฟนเธอเหรอ..”  แคลหันขวับกลับมาหาเธอทันทีและทำสีหน้าตกใจ
“ไม่ใช่” หล่อนตอบเสียงห้วน  และหันหลังให้เธอ  ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวจนแทบจะคลุมศีรษะจนหมด
“ขอบคุณนะ” หล่อนพึมพำเบาๆอีกครั้งผ่านผ้าห่มออกมา  และเธอก็ตัดสินใจว่า  จะหยุดพูดเรื่องนี้ก่อน  เอาไว้คุยกันอีกครั้งตอนที่ดูอารมณ์ดีกว่านี้
“ฉันจะไปนอนห้องอลิสซ่านะ  เธอมีอะไรก็กดออดเรียกได้   มันอยู่ใกล้ๆโคมไฟ”  เธอบอกและเตรียมหยิบหมอนอีกใบเพื่อจะออกไปตามที่คิดไว้  แต่คนตัวใหญ่นั่นก็ทำให้เธอลำบากใจเมื่อหล่อนลุกขึ้นมาดึงเธอลงไปหา  แรงที่มากมายเหมือนคนไม่ได้เป็นอะไรนั่นทำให้เธอหล่นไปทับบนตัวหล่อน  และบังเอิญมองลงไปในดวงตาสีแดง
“อย่าไป..”  แคลพูดเสียงเบา “ขอร้อง..  อยู่กับฉัน”  เธอพยายามทำสีหน้าให้คนตรงหน้ารู้สึกว่าเธอพูดจริง  และไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายดังขึ้นมา
“ก็ได้..  ปล่อยก่อนสิ..ฉันอึดอัด”  ดิออนพูดออกมาอย่างเสียไม่ได้และทำตาขวางใส่คนเบื้องล่าง  ขู่ให้เขาทำตามเธอ  ในที่สุดก็สามารถเป็นอิสระและหายใจได้โล่งท้องเสียที  เธอขยับออกจากตำแหน่งอันตรายบนตัวของหล่อน  ที่ต้องนึกเสียดายที่ไม่ได้สัมผัสกับสัดส่วนที่น่าสัมผัสนั่น  แต่ก็ดีแล้วที่ออกมาได้  ไม่เช่นนั้นเธออาจจะไม่มีโอกาสอีกครั้ง
ดิออนนอนหันหลังให้อีกคนและดึงผ้าห่มมาคลุมตัว  ทำตัวเหมือนหลับไปแล้ว  ทั้งที่ไม่มีทางจะหลับลงได้ง่ายๆ ยิ่งมีคนคอยกวนใจอยู่ข้างๆแบบนี้
“หยุดยุกยิกซะทีสิ..ยัยบ้า !”  เธอตวาดทั้งที่ไม่ได้หันหน้าไปหาหล่อน  เสียงถอนหายใจเบาๆอย่างผิดหวังดังขึ้นด้านหลังเธอตามมาด้วย
“หันหน้ามาหน่อยสิ  ฉันไม่ชอบวิวแบบนี้”
ดวงตาสีมรกตเปิดขึ้นทันทีพร้อมกับที่ขมวดคิ้วอย่างรำคาญใจ  “ไม่..ฉันสบายดีที่อยู่แบบนี้” เธอตอบเสียงเย็นชา
“แต่ว่า...”
“หลับไปเลยนะ..  ไม่งั้นฉันจะไล่เธอออกไป”  ไม้ตายนี้เหมือนจะใช้ได้  เมื่อได้ยินเพียงเสียงครางเบาๆอย่างผิดหวังดังตามหลังมา  และทุกอย่างก็เงียบไป  ดูคล้ายว่าคืนนี้เธอคงจะสามารถนอนหลับได้อย่างสงบสุขเสียที  เธอเหนื่อยเต็มทีแล้ว  เธอทำหลายอย่างมากไปแล้วในหนึ่งวัน  ซึ่งในที่สุดดินแดนแห่งนิทราก็พาเธอจากโลกนี้ไป  ไปพักผ่อนที่นั่นชั่วคราว
แต่เด็กสาวไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า  ครั้งที่เธอหลับตาลงในคืนนี้  มีปีกของนางฟ้าเข้ามาห่มหุ้มตัวเธอเอาไว้  ให้นอนได้อย่างปลอดภัย  อบอุ่นและหลับฝันดี..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:42:50 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.