web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 148
Total: 148

ผู้เขียน หัวข้อ: ประมูล... รัก ตอนที่ 16  (อ่าน 1691 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ UPsidedown

  • Moderator
  • หน้าใหม่
  • *****
  • กระทู้: 31
ประมูล... รัก ตอนที่ 16
« เมื่อ: 28 ธันวาคม 2013 เวลา 16:14:20 »
ตอนที่ 16
แมวโตเต็มวัยลืมตาตื่นนอนตอนเช้ามืด ถึงเวลาที่แมวใหญ่ต้องแอบย่องออกจากห้องของแมวตัวเล็ก แมวตัวโตพ่นลมหายใจออกผ่านจมูกรูปสามเหลี่ยมดังฟู่ ร้องแง้วง้าวหง่าวหง่าว บ่นพึมพำอยู่ในใจว่าทำไมเวลาคืนหนึ่งผ่านไปเร็วจัง ปณิตาค่อย ๆ ยกท่อนแขนเรียวของเด็กน้อยที่วางพาดอยู่ตรงเอวของเธอออกอย่างเชื่องช้า ต่อด้วยการยกประคองศีรษะทุยสวยที่ใช้หัวไหล่ของเธอแทนเครื่องหนุนนอน ขอนำไปฝากฝังให้คุณหมอนยัดขนเป็ดช่วยดูแลต่อ ผ้าห่มนวมถูกขยับจับดึงขึ้นมาปิดกักไออุ่นให้ถึงบริเวณลำคอ ริมฝีปากหยักสวยขอทิ้งร่องรอยสัมผัสแผ่วเบาเอาไว้ตรงหน้าผากโหนกนูน แมวตัวโตนั่งยิ้ม จ้องมองแมวเด็กซึ่งยังคงเดินทางอยู่ในห้วงความฝัน ปณิตาถามคนนอนหลับตาพริ้มอยู่ในใจ ในความฝันของลูกแมวน้อยจะมีพี่แมวใหญ่อยู่ในนั้นบ้างรึเปล่าหนอ ไม่ฝันถึงกันก็ไม่เป็นไร ขอให้เด็กน้อยของพี่ฝันดีก็พอ

“พี่ปริมขา...”
เสียงเรียกชื่อพร้อมคำสร้อยเสนาะหูดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่ความหวานของน้ำเสียงนั้นไม่เบาไปด้วยเลย เจ้าของชื่อซึ่งทำท่าว่าจะลุกจากเตียงจึงต้องหยุดชะงักการกระทำเอาไว้ก่อน เสียงเรียกอู้อี้ของสาวน้อยทำให้ริมฝีปากของปณิตาคลี่กาง เปิดรอยยิ้มโดยอัตโนมัติ แมวใหญ่โน้มตัวลงไป ใช้ขาหน้าท่อนล่างยันเตียง เอียงหูเข้าไปหา ฟังเสียงลูกแมวน้อยร้องถาม

“พี่ปริมจะกลับห้องแล้วเหรอคะ? เช้าแล้วเหรอ?”
“อืม... ตอนนี้เกือบ ๆ ตีห้าได้มั้งคะ น้องอินนอนต่อเถอะค่ะ พี่ไปล่ะนะ”
“งื้อ~ อินไม่อยากให้เวลาเช้ามาถึงเลย”
แมวตัวเล็กร้องครางเสียงเครืออู้อี้งู้งี้ พูดจบประโยคปุ๊บก็ดึงขาหน้าให้ออกมานอกผ้าห่ม ลูกแมวชูขาหน้าสองข้างกางอ้า ทำตาปรือตาปรอย ออดอ้อนขออ้อมกอดอำลา แมวตัวโตกว่าจึงแอบตะโกนในใจว่าลูกแมวน้อยน่ารักอ่า ปณิตายิ้มหวานทำตาเป็นประกาย สังเกตเห็นได้แม้กระทั่งในห้องนอนแสงสลัว เธอโน้มตัวลงไปหา ให้ลูกแมวน้อยของพี่ได้กอดเกี่ยวคล้องคอ เอาแก้มแนบกัน กอดอำลาช่วงเวลาค่ำคืนอันแสนสุขของสองเรา นอกเหนือไปจากการกอดอำลาแล้ว แมวตัวเล็กยังมีของแถมให้ด้วย...

จุ๊บ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

แมวโตเต็มวัยผละหน้าออกมาเล็กน้อย ยิ้มหวานตาเยิ้มหยดย้อย ปลาบปลื้มดีใจ ได้รับจูบจูจุ๊บรับวันใหม่ตรงข้างแก้มจากลูกแมวด้วยล่ะ แมวใหญ่ก้มหน้าลงไปหาแมวเล็กอีกครั้ง มอบจุมพิตรับอรุณให้ลูกแมวน้อยเช่นกัน แต่เป็นจุ๊บเบา ๆ ตรงริมฝีปาก จากนั้นแมวตัวโตก็หัวเราะคิกคักในลำคอ เพราะแมวเด็กออกอาการเขิน หดมือกลับไปใต้ผ้าห่ม ดึงผ้าขึ้นมาจนปิดถึงจมูก ปณิตาส่งยิ้มทิ้งท้าย ลูบศีรษะสาวน้อยสองที ก่อนจะถอนตัวลุกจากเตียงพร้อมส่งเสียงถอนหายใจยาว ระหว่างยืนปิดหับบานประตู แมวใหญ่ร้องหง่าวหง่าว บ่นพึมพำเบา ๆ
“พี่เองก็ไม่อยากให้เวลาเช้าเดินทางมาถึงเลย... เฮ้อ~”
“เฮ้อ~”

ชะอุ้ย! เสียงถอนหายใจของใครดังเพิ่มต่อท้าย!?
แง้ว! แมวใหญ่ตกใจ!! แมวใหญ่ตกใจ!! (OωO)!!!

แมวใหญ่สะดุ้งเฮือกหลังตรง ตกใจจนขนคอลุกตั้ง เอาอุ้งเท้าขวากดแปะบริเวณอกซ้าย กลืนน้ำลายดังเอื๊อก จากนั้นก็ค่อย ๆ หมุนหัว หันไปมองด้านหลัง พอสายตามองข้ามไหล่สะท้อนภาพเจ้าของเสียงถอนหายใจที่ดังเพิ่มต่อท้าย แมวตัวโตก็เกิดอาการเหงื่อตก รีบแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า แกล้งทำเป็นหรี่เปลือกตาจนเกือบปิดสนิท ยกขาหน้าสองข้างชี้ไปด้านหน้า เดินเตาะแตะผ่านคนผู้นั้น ส่งเสียงครางอืมอืม งืมงืม ทำท่าเหมือนคนเดินละเมอ และเพราะกลัวว่าคนคนนั้นจะไม่เชื่อ แมวใหญ่จึงต้องประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า...
“ปริมละเมออยู่ค่ะ ปริมละเมอ... คร่อก~ งึมงำ”
“...........”
คนที่ได้ยินไม่ส่งเสียงหืออือ แต่มือสองข้างที่เคยเท้าสะเอว ตอนนี้เหลือแค่ข้างเดียวละ ส่วนอีกข้างน่ะเหรอ...

เครื่องบินโจมตีรุ่น Nom Jam RH (ชื่อเต็มคือ Nom Jam´s Right Hand) ถลาออกจากรันเวย์ของฐานปฏิบัติการข้างเอว บินด้วยความเร็วเหนือเสียง เมื่อพบเป้าหมาย ผู้บัญชาการนมแจ่มก็สั่งการนักบินฝ่ามือ บอกให้แผ่กางรยางค์ทั้งห้าของเครื่องบินออกเป็นแผ่น จากนั้นเครื่องบินก็เร่งความเร็วอย่างกะทันหัน บินชนผู้ที่ฝ่าฝืน ละเมิดกฎข้อบังคับของสหพันธ์ปกป้องผู้เยาว์ ถูกจับได้แบบคาหนังคาเขาว่าเดินย่องออกมาจากห้องของเด็กสาว แต่ที่น่าหมั่นไส้ที่สุดคงเป็นข้อแก้ตัวของผู้กระทำผิด ผู้บัญชาการนมแจ่มกัดฟันกรอด ส่งเสียงลอดไรฟัน
“เดินละเมอเหรอ นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! ต้องตีให้เจ็บ จะได้ตื่น”
เพียะ! เพียะ! ผัวะ! แปะ! แปะ!
“อ๊าย! อู๊ย! นมแจ่มขา! เจ็บ! เจ็บ!”
“นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนคุณหนู...”
“ปริมไม่ได้ทำอะไรน้องเลยนะคะ! ไม่ได้ทำ... แค่นอนกอดกันเฉย ๆ ค่ะ”
“แน่นะ?”
แมวใหญ่พยักหน้าระรัวหลายที “แน่ค่ะ ถ้าไม่เชื่อ นมแจ่มไปถามน้องดูก็ได้”

แกร็ก
เสียงลูกบิดประตูหมุน
ลูกแมวน้อยได้ยินเสียงแมวตัวโตร้องโอดโอย เหมือนว่าจะถูกใครดักทำร้ายอยู่ด้านนอก อรินทิพย์จึงทำหน้าตาตื่น วิ่งออกมาจากห้อง ขอใช้สิทธิ์การถูกพาดพิง กล่าวยืนยันเสียงแข็งกับผู้บัญชาการนมแจ่ม

“เมื่อคืนนี้พี่ปริมไม่ได้ทำอะไรหนูจริง ๆ นะคะ”

เมื่อมีผู้ที่น่าจะเป็นฝ่ายเสียหายเพิ่มเข้ามา นมแจ่มจึงถอดชุดผู้บัญชาการทหารอากาศออก เปลี่ยนมาใส่ชุดตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน เริ่มทำการซักพยาน ไต่สวนซักถามลูกแมวน้อยว่าแมวตัวใหญ่เข้าห้องหนูได้ยังไง แมวเด็กก้มหน้า ตอบเสียงอุบอิบว่า
“เป็นเพราะหนูไม่ได้ล็อคห้องค่ะ”
แมวใหญ่กลัวคุณนมแจ่มดุลูกแมว ก็เลยไขว้นิ้วชี้กับนิ้วกลาง สร้างเรื่องบอกกับคุณแม่นม
“เป็นเพราะปริมพูดขู่น้องไม่ให้ล็อคประตู ไม่อย่างนั้นจะงอน ไม่พูดด้วย ไม่ใช่ความผิดของน้องหรอกค่ะ ปริมผิดเอง”
แมวเด็กได้ยินพี่แมวใหญ่พูดโกหกก็รีบเถียง หันไปบอกพนักงานสืบสวน
“ไม่จริงค่ะ ไม่จริง พี่ปริมไม่ได้พูดขู่อะไรเลย”

คุณแม่นมถอนหายใจดังเฮ้อ ยกมือขึ้นมากอดอก มองหน้าคุณหนูสลับกับหนูน้อย ทั้งสองคนทำหน้าจ๋อย แต่คนอายุมากกว่ายกมือขึ้นมาโอบกอดรอบไหล่เด็กน้อย แสดงท่าทีปกป้องห่วงหวงอย่างชัดเจน ส่วนเด็กสาวเองก็ส่งสายตาอ้อนวอน ข้อความจากนัยน์ตากลมโตอ่านได้ใจความประมาณว่า อย่าดุพี่ปริมของหนูเลยนะคะ หนูผิดเอง นมแจ่มเห็นอย่างนั้นก็ส่งเสียงถอนหายใจยืดยาวอีกรอบ ใบหน้าที่มีริ้วรอยแห่งวัยผินไปถามเด็กน้อยก่อน
“หนูอินไว้ใจพี่ปริมเขารึว่าจะไม่ทำอะไรล่วงเกินหนูน่ะ?”
“ไว้ใจค่ะ พี่ปริมไม่ทำอะไรหนูหรอกค่ะ”
อรินทิพย์รีบตอบ เสียงดังฟังชัด นมแจ่มจึงเปลี่ยนจุดหมายของสายตา เบือนไปทางซ้ายนิดหนึ่งและยกมุมขึ้นอีกนิดหน่อย คุณแม่นมเอ่ยพูดเสียงนุ่มกับคุณหนูที่ตนดูแลมาแต่อ้อนแต่ออก
“ได้ยินแล้วใช่ไหมคุณหนู?”
“ค่ะ”
“อย่าทรยศความไว้วางใจของหนูอินนะ”
“ค่ะ”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นมแจ่มจะถือว่าเป็นความผิดของคุณหนูคนเดียว”
“ค่ะ”

คุณแม่นมกับคุณหนูจ้องมองสบตากันนิ่ง ๆ อยู่สักพัก จากนั้นคุณแม่นมก็ผ่อนลมหายใจออกยืดยาว ผู้สูงวัยเดินผ่านหน้า ทำท่าว่าจะตรงไปยังห้องครัว ปณิตารีบเรียกตัวคุณนมแจ่มเอาไว้แล้วจูงมือน้องพาเดินเข้าไปใกล้ คุณหนูของบ้านส่งเสียงอุบอิบพูดกระซิบถามคุณแม่นม
“คืนพรุ่งนี้และคืนต่อ ๆ ไป ปริมขอลงมานอนกับน้องได้ไหมคะ?”
อรินทิพย์หันขวับไปมองหน้าพี่สาวคนสวยทันที ลูกแมวน้อยทำหน้านิ่ว ขมวดคิ้วใส่ นี่พี่แมวใหญ่ยังจะกล้าพูดขออีกนะนี่ ไม่กลัวคุณนมแจ่มดุเอาอีกรอบรึไง

“เฮ้อ... คุณหนูก็มองซ้ายมองขวา ดูตาม้าตาเรือให้ดีละกัน อย่าให้เด็กคนอื่นในบ้านเห็นล่ะ เดี๋ยวได้โดนเอาไปเป็นเรื่องนินทาสนุกปาก”

คุณแม่นมพูดจบก็ส่งยิ้มมุมปากปิดท้าย เอามือไพล่หลังเดินจากไป ทิ้งให้คนฟังคนหนึ่งเกิดอาการยิ้มกว้างอย่างสมใจ ส่วนอีกคนอมยิ้มเขิน ๆ และรู้สึกโล่งใจ

เฮ้อ~ พี่แมวใหญ่ไม่โดนดุ... แมวน้อยโล่งใจ แมวน้อยโล่งใจ
แล้วคืนต่อ ๆ ไป พี่แมวใหญ่จะลงมานอนกอดเราทุกคืนเลย... ลูกแมวน้อยเขิน ลูกแมวน้อยเขิน >//////<
.
.
เวลาเกือบจะบ่ายโมงของวันอังคาร
อีกสิบนาทีเข็มสั้นจะชี้ที่เลข 1 อรินทิพย์เข้าไปนั่งประจำที่ในห้องเรียนพิเศษ ระหว่างนั่งรอให้ถึงเวลาเริ่มเรียนคลาสบ่าย เด็กน้อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดโปรแกรมแชทออนไลน์ กดจิ้มนิ้วไปบนแป้นคีย์บอร์ดจำลองที่ปรากฏบนหน้าจอสัมผัส ตัวอักษรที่เธอพิมพ์เรียงกันเป็นประโยค เรียกคนที่คุยด้วย

พี่แมวใหญ่จ๋า

มองจ้องหน้าจอ รอไม่กี่วินาที พี่แมวใหญ่จ๋าก็ส่งข้อความกลับมา

จ๋าจ้ะ ลูกแมวน้อย
กินข้าวกลางวันอิ่มแล้วเหรอ

เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่ปริมล่ะคะ

ร้อยเรียบ เกลี้ยงจาน
กินเผื่อลูกแมวด้วย จะได้โตเร็ว ๆ

กินเผื่อแล้วก็เก็บไว้ที่พุงตัวเองเถอะค่ะ
หุ่นนางแบบเกินไปละ

พี่จะเก็บไว้ที่พุงตัวเองก่อนก็ได้
ตอนกลางคืนค่อยดึงออกมาใช้
สร้างความอบอุ่นให้ลูกแมว
 
ลูกแมวอ่านข้อความแล้วก็อดที่จะส่งยิ้มหวานให้เครื่องมือสื่อสารไม่ได้ หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ อรินทิพย์ก็พิมพ์ข้อความที่เป็นสาระสำคัญของการสนทนาก่อนบ่าย

วันนี้อินกลับบ้านช้านะคะ
จะไปช่วยงานชมรมจิตอาสาพัฒนาของโรงเรียน

พี่สาวใจดีราวกับนางฟ้าจึงถามว่า... มีอะไรที่พี่พอจะช่วยได้รึเปล่าคะ

อรินทิพย์จิ้มนิ้วพิมพ์ข้อความบอกเล่าเรื่องราว ใจความโดยรวมมีอยู่ว่า...

ชมรมจิตอาสาพัฒนาของโรงเรียนต้องการระดมทุน จะจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดให้โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในชนบทห่างไกล นอกจากจะขอรับบริจาคเงินจากทางผู้ปกครอง คณาจารย์ ชมรมศิษย์เก่า สมาชิกชมรมจิตอาสายังหาเงินโดยการทำเสื้อยืดสกรีนลวดลายต่าง ๆ ขายด้วย อรินทิพย์เองก็เป็นสมาชิกของชมรม เด็กน้อยบอกกับผู้ใหญ่ว่าวันนี้เธอจะไปช่วยรุ่นพี่ที่ชมรมสกรีนลายลงบนเสื้อ เมื่อแมวตัวโตทราบว่าแมวตัวเล็กสามารถใช้สีอคริลิคสกรีนหรือวาดลวดลายบนเสื้อยืดได้ตามสั่ง แมวใหญ่ก็รีบสั่งซื้อทันที บนหน้าจอปรากฏข้อความว่าพี่จะขอซื้อเสื้อสองตัวนะ เอาไว้ใส่กันคนละตัว แถมคิดออกแบบลวดลายและตัวอักษรบนเสื้อให้อีกต่างหาก ผู้ใหญ่ขอเวลาออกแบบลายเสื้อ เดี๋ยวจะส่งเป็นไฟล์รูปภาพไปให้ก่อนบ่ายสามโมง เด็กน้อยต้องรีบเตือนรีบบอก พี่ปริมอย่าออกแบบลวดลายอะไรหรูหราอลังการงานสร้างมากเกินไปนะ ผู้ใหญ่พิมพ์ข้อความมาว่า อิอิ ลายที่พี่คิดเอาไว้ทำไม่ยากหรอก รับรองว่าน้องอินทำได้

บ่ายสามโมงเย็นกว่า ๆ
อรินทิพย์นั่งอยู่บนรถเมล์ กำลังเดินทางไปช่วยงานชมรมที่โรงเรียน เธอนึกขึ้นได้ว่าพี่สาวคนสวยส่งไฟล์รูปภาพลวดลายตามสั่งบนเสื้อยืดมาให้เธอดูนี่นา ยังไม่ได้เปิดดูเลย ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า ขอดูหน่อยซิว่าพี่แมวใหญ่ออกแบบลายเสื้อได้กิ๊บเก๋ขนาดไหน

พอเครื่องมือสื่อสารโชว์รูปลายเสื้อให้เจ้านายเห็นแบบเต็มหน้าจอ มันก็อยากจะแหกปากโวยวายร้องจ๊าก แต่ก็ไม่มีเสียงออกจากลำโพงสักกะปิ๊บ โดนบีบซะแน่นขนาดนี้ จะให้ร้องออกได้ยังไงล่ะค้า~ โอ๊ย ๆ ที่เจ้านายลงไม้ลงมือ บีบหนูจนหายใจไม่ออกแบบนี้ เป็นเพราะพี่ปริมใช่ไหม ใช่ไหม แง้~ หนูโทรศัพท์ไม่ชอบพี่ปริมเลยอ่า พี่ปริมชอบทำให้เจ้านายรังแกหนู ฮึก ฮึก

ทางด้านเจ้านายที่รังแกเครื่องมือสื่อสารโดยไม่รู้ตัว
เด็กน้อยดูรูปภาพลวดลายบนเสื้อยืด พี่ปริมส่งมาให้เธอสองไฟล์ ผู้ใหญ่ออกแบบให้เสื้อแต่ละตัวมีลายเดินเส้นรูปแมวคล้ายกัน แต่แตกต่างกันที่ขนาดตัว แมวบนเสื้อตัวหนึ่งใหญ่กว่าอีกตัวหนึ่ง แมวนั้นเป็นแมวการ์ตูนตัวอ้วนป้อมยืนสองขา ยิ้มแฉ่งจนตาโค้งตาปิด ตอนแรกเด็กน้อยแอบสงสัยลายเส้นอย่างอื่นนอกจากตัวแมว ทำไมมีลายเส้นโค้งแปลก ๆ ตรงบริเวณถัดจากลำตัวของแมวออกไปด้วยล่ะ เจ้าเส้นโค้งงอคล้ายตะขอนี่มันคืออะไรกัน แถมมีอยู่ข้างเดียวอีกต่างหาก เด็กน้อยลองหลับตา นึกจินตนาการให้เสื้อสองตัวโดนเธอกับพี่ปริมใส่แล้วยืนคู่กัน...

อ้อ... เจ้าลายเส้นโค้งแปลก ๆ ที่ว่า พอคนใส่สองคนมายืนเคียงกัน
มันจะต่อกันเป็นรูปหัวใจพอดิบพอดี >///////<

เอ่อ... อ่า... เอิ่ม... คือ...
มันก็... น่ารักดีอ่ะนะคะพี่ปริม
แต่ว่า... จะกล้าใส่ไปไหนมาไหนด้วยกันไหมล่ะ >_<
เจ้าเสื้อยืดแมวใหญ่แมวเล็กมีรูปหัวใจคั่นตรงกลางเนี่ย
พี่ปริมอาจจะกล้าใส่ แต่หนูไม่กล้าอ่ะ
แค่คิดจินตนาการว่าใส่เสื้อตัวนี้คู่กับพี่...
หนูก็เกิดอาการเขินจนหน้าแดง เขินตั้งแต่เสื้อยังไม่ทันได้เกิดเลยค่ะ >///////<

ตลอดกระบวนการเพ้นท์เสื้อลายที่พี่แมวใหญ่สั่งซื้อ แก้มของลูกแมวน้อยเป็นสีแดงอมชมพูและบวมตุ่ย ไม่ได้โดนใครรึอะไรต่อย แต่เป็นเพราะอรินทิพย์เก็บอาการไม่อยู่ พอโดนถามว่าเสื้อแมวคู่รักนี่ใครออกแบบ ใครสั่งซื้อ เด็กน้อยก็ออกอาการเขินจนแก้มแดงแก้มร้อน อมยิ้มจนแก้มบวมพอง ไม่ยอมปริปากตอบว่าเสื้อสองตัวนี้เป็นของใคร รุ่นพี่และเพื่อนฝูงจึงอนุมานคำตอบเองได้ ทุกคนในชมรมแวะเวียนเปลี่ยนหน้ากันมา พูดจาแซวไม่หยุดว่า นั่นแน่! ทำเสื้อไว้ใส่กับแฟนเหรอจ๊ะ คนโดนรุมแซวยิ้มเขิน บอกว่าไม่ใช่แฟน ก็พี่ปริมกับเธอไม่เคยพูดจาตกลงกันว่าจะคบกันเป็นแฟนนี่นา เมื่อมีคนมาสะกิดให้คิดถึงคำว่าแฟน อรินทิพย์ก็คิดอะไรฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย เด็กน้อยที่ไร้ประสบการณ์เรื่องรัก ยังไม่เคยมีใครให้เรียกกันว่าแฟน แอบตั้งคำถามอยู่ในใจ...
อย่างเรากับพี่ปริมนี่เรียกได้ว่า `เป็นแฟนกัน´ รึเปล่านะ?
แต่... พี่ปริมพูดว่ารักเฉย ๆ ไม่เคยพูดเคยขอว่าจะคบกันเป็นแฟนนี่นา
เอ... คนเราต้องรักกันแค่ไหนถึงจะคบกันเป็นแฟน เรียกกันว่าแฟนได้ล่ะ?
แล้วคำว่าแฟนนี่มันจำเป็นไหม?
คนที่เขารักกันเนี่ย ทุกคู่เลยไหมที่จะเรียกคนที่ตัวเองรักว่าแฟน?

คำถามเกี่ยวกับคำว่าแฟนผุดขึ้นมาในสมองราวกับดอกเห็ดหน้าฝน
แมวน้อยสงสัย แมวน้อยสงสัย

แมวเด็กเก็บคำถามเรื่องคำว่าแฟนเอาไว้ในใจก่อน ตอนกลับไปถึงบ้าน ลองถามพี่แมวใหญ่ดูดีกว่า
.
.
ยามดึกของคืนเดือนหงาย
แมวใหญ่ย่องเบาลงบันไดมาจากชั้นสองอย่างเงียบกริบในความมืด ดวงตาคมวาววับกลอกไปมา เมื่อเห็นว่าทางสะดวกปลอดคน แมวตัวโตก็วิ่งปรู๊ดเร็วรี่ ไปยืนทำตาล่อกแล่กอยู่หน้าประตูห้องพักของแมวตัวเล็ก สำรวจตรวจตราดูอีกทีว่าไม่มีใครเห็นนะ ไม่มีใครเห็นแน่นะ

กริ๊ก
กลไกของลูกบิดปล่อยให้แท่งเหล็กเคลื่อนตัวกลับเข้าที่ คืนนี้พี่แมวใหญ่ลงมาล็อคห้องให้ลูกแมวน้อยเช่นเคย แถมได้รับการเซ็นยินยอมจากคุณแม่นมผู้คุมกฎแล้วด้วย

แมวใหญ่กระโดดขึ้นเตียง คลานสี่ขา มุดเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับแมวตัวเล็ก แล้วแมวตัวโตก็ต้องหรี่เปลือกตาลง เพราะโดนแสงจากโคมไฟเหนือหัวนอนแยงตา แมวตัวโตขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ถามแมวตัวเล็กว่า

“เปิดไฟทำไมคะ? พี่ก็นึกว่าน้องอินนอนหลับไปแล้วเสียอีก”

เด็กน้อยไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นมานั่งจ้องเธอ ปณิตาจึงเอียงคอทำหน้าฉงน จากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งบ้าง มือขวาถูกส่งไปสางเสยผมยาวยุ่งปกปิดข้างแก้มให้อรินทิพย์ ลูกแมวกัดริมฝีปากล่างด้านใน สบตาเธอแล้วก็หลุบตาลง ท่าทางเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ไม่กล้าพูด แมวโตเต็มวัยก็เลยร้องเหมียว ๆ ถามกระตุ้น
“มีอะไรจะพูดจะบอกพี่คะหื้ม? พูดมาได้เลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“เอ่อ... คือ... พี่ปริมเคยมีแฟนรึเปล่าคะ?”
“อื๋อ! อยู่ดี ๆ ทำไมถึงถามพี่แบบนี้ล่ะ? พี่จะเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน เคยรักใครมาบ้าง มันไม่สำคัญเท่าตอนนี้พี่รักใคร...”
“แล้วพี่กับอดีตแฟนรักกันแค่ไหน พี่ถึงให้เขาเรียกพี่ว่าแฟนได้ล่ะคะ?”
“เอิ่ม... ตอบยากจัง คือ... ถ้าลองพูดคุยกันแล้วคลิก คิดว่าน่าจะคบหาดูใจกันต่อไปยาว ๆ อีกฝ่ายก็จะถามพี่ ประมาณว่า... ลองคบกันดูไหม เป็นแฟนกันไหม”
“เหรอคะ... พูดคุยกันแล้วคลิก อยากคบหาดูใจกันต่อไปยาว ๆ เหรอ?”
“ค่ะ... ทำไมถึงถามพี่เรื่องแฟนเก่าล่ะ? แฟนเก่าก็แค่แฟนเก่านะคะ มันเป็นอดีตไปแล้ว น้องอินอย่าไปใส่ใจเลย...”
“พี่ปริม”
“คะ?”
หลังเสียง คะ ปณิตาต้องรอประโยคสนทนาถัดไปอยู่นาน เพราะเด็กน้อยก้มหน้าก้มตา ผมที่เธอเพิ่งสางเสยให้พ้นใบหน้าสวยใสตกลงมาปิดหูปิดแก้มอีกครั้ง ปณิตาจึงส่งมือทั้งซ้ายขวาไปจับปอยผม นำมันไปเกี่ยวคล้องไว้ตรงหลังหู อยากเห็นหน้าเห็นตาสาวน้อยสุดที่รักแบบชัด ๆ

“แล้ว... แล้ว... อย่างอินเนี่ย... ร... เรียกว่าเป็นแฟนพี่ได้รึเปล่าคะ?”

ปณิตาฟังคำถามแล้วกะพริบตาปริบปริบ สมองประมวลคำถามเมื่อครู่ของเด็กน้อย หญิงสาวอมยิ้มจนแก้มบุ๋มเพราะหลุมลักยิ้มปรากฏ อรินทิพย์ยิงคำถามเสร็จปุ๊บก็ก้มหน้างุด ๆ ปณิตาจึงใช้มือทั้งสองประคองแก้มสองข้างของเด็กสาว บังคับให้เงยหน้ามาฟังคำถามของเธอบ้าง

“เอ... นี่น้องอินกำลังขอให้พี่เรียกว่าแฟน? พูดขอเรียกพี่ว่าแฟน? รึกำลังขอเป็นแฟนพี่กันคะเนี่ย? พี่งงจังเลย”

แมวใหญ่ทำตาวับวาว ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เลิกคิ้วข้างหนึ่ง ริมฝีปากสีชมพูหยักสวยยกมุมขึ้นนิด ๆ ก่อนจะยิงคำถามสามนัดที่ใช้คำเหมือนกัน แต่เรียงสลับที่ ถามแหย่เพื่อแกล้งดึงหัวคิ้วของลูกแมวน้อยให้มาผูกกันเล่น เป้าของคำถามหลุบตาลง แก้มป่องอมยิ้มเอาไว้จนปริ จากนั้นปณิตาก็ต้องหงายหลังตึงพลางหัวเราะกิ๊ก เพราะเด็กสาวหลบหน้าหลบตาเธอโดยใช้วิธีพุ่งตัวเข้ามากอด

ลูกแมวน้อยเขินอยู่ล่ะซี้~ คิคิ

ปณิตายิ้มขำ ทำแขนให้เป็นวงล้อม โอบกอดรัดรอบร่างบางของเด็กสาวเอาไว้จนแน่น ที่เด็กน้อยทำเป็นพูดเกริ่นถามเธอเรื่องแฟน เป็นเพราะอยากจะขอคบกับเธอแบบเป็นทางการสินะ ปณิตาคิดแล้วก็ยิ้มหวาน กอดเด็กน้อยนิ่ง ๆ อยู่สักพัก ให้เวลาแมวเด็กลดความเขิน เพื่อที่จะ... สูบลมปั๊มความเขินขึ้นมาใหม่

“น้องอินจ๋า”
“...........”
“พี่จะเรียกน้องอินว่าแฟน ให้น้องอินเรียกพี่ว่าแฟน ถ้าน้องอินพูดขอคบกับพี่เป็นแฟน... ลองพูดขอพี่สิคะ”
“............” เงียบ กดหน้าซบไหล่
“ถ้าไม่พูดขอ พี่จะไม่ยอมเป็นแฟนน้องอินนะ”
แมวตัวโตแกล้งขู่ ลูกแมวน้อยจึงนิ่งไปเป็นครู่ ก่อนจะส่งเสียงอู้อี้ตะกุกตะกัก
“พ... พ... พี่... พี่... พี่ปริมอยากเป็นแฟนเค้าไหม?”
แมวใหญ่อมยิ้ม รีบตอบทันทีว่า “อยาก... แต่...”
“งั้นพี่ก็พูดขอเค้าเป็นแฟนสิ”
“อ่าว!”
แมวใหญ่อุทานแล้วหัวเราะขำ ความหมั่นไส้กับความเอ็นดูช่วยกันกระตุกอุ้งเท้าหน้าของแมวโตเต็มวัย ทำให้วงล้อมอ้อมขาหน้าขยับกอดรัดลูกแมวน้อยให้แน่นขึ้นอีก

เมื่อสักครู่นี้ หลังคำว่า อยาก ปณิตากำลังจะพูดต่อไปเชียวว่า...
`แต่พี่บอกให้น้องอินพูดถามขอพี่เป็นแฟน ไม่ได้ให้ถามว่าพี่อยากเป็นแฟนน้องอินไหม´
แมวตัวโตกัดริมฝีปากล่าง โดนแมวเด็กพูดจายอกย้อนใส่ ทำให้กลายเป็นฝ่ายต้องพูดขอแมวตัวเล็กเป็นแฟนเสียแล้ว ลูกแมวช่างพูดช่างจา ร้ายกาจจริง ๆ
ถึงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ปณิตายังไม่อยากจะยอมแพ้ แมวใหญ่ถามแก้กลับไปว่า
“แล้วน้องอินไม่อยากเป็นแฟนพี่เหรอคะ?”
“...........”
ลูกแมวเงียบ ไม่ยอมตอบ แต่นี่แหละ เข้าทางพี่แมวใหญ่พอดี
ปณิตายิ้มกริ่ม แกล้งพูดเสียงอ่อนเสียงเบาออดอ่อย
“น้องอินไม่อยากเป็นแฟนพี่นี่นา แล้วพี่จะกล้าพูดขอเป็นแฟนได้ยังไงล่ะคะ เกิดพูดขอไปแล้วโดนปฏิเสธ พี่ปริมก็อกหักน่ะสิ”
“............” เด็กน้อยยังเงียบ
 
เด็กน้อยเงียบ เด็กน้อยไม่พูด เพราะเด็กน้อยเขินนน~ >////////<

อรินทิพย์กัดริมฝีปากล่างด้านใน กดหน้าตัวเองแนบไปกับร่องอกของพี่สาวคนสวย เด็กน้อยคิดในใจว่า ถ้าคนที่พี่เรียกว่าแฟน หมายถึงคนที่พี่คบหาดูใจ อินจะเป็นคนพูดขอพี่ปริมเป็นแฟนเองก็ได้ เพราะหนูอยากจะเป็นคนคนนั้นของพี่ แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ เดี๋ยวก่อน ขอเวลาปล่อยความเขินให้ระเหยหายออกทางใบหน้าร้อนผ่าวก่อนนะ แล้วก็ขอสูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด รวบรวมความกล้าจากคุณอากาศอีกนิดนึง

ฟื้ดดด~ เฮ้อออ~
เอาล่ะ... พร้อมแล้ว พร้อมแล้ว จะพูดล่ะนะ

เด็กสาวผละหน้าออกห่างจากหน้าอกนุ่มของผู้ใหญ่ มองจ้องสบตาเป็นประกายไหวไหวสะท้อนแสงไฟหัวเตียง พี่ปริมอมยิ้มน้อย ๆ เลิกคิ้วทำตาโตขึ้นนิดหน่อยอย่างรอคอย อรินทิพย์กัดริมฝีปากล่างยิ้มเขินอีกที จากนั้นจึงสั่งให้ริมฝีปากขยับอ้าออก
“พ... พี่ปริมขา...”
“ขา~”
“เอ่อ... ป... เป็น... เป็น... ฟ...”
จุ๊บ! จ๊วบ!
เด็กน้อยจะพูดขอพี่สาวคนสวยว่า `เป็นแฟนกันไหม?´ แต่คำว่า `แฟน´ `กัน´ และ `ไหม?´ โดนลักพาตัวไป พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า... ระหว่างที่ แฟน กัน และไหม กำลังจะเดินทางข้ามผ่านชายแดนริมฝีปากของเด็กน้อย อยู่ดี ๆ ก็มีริมฝีปากหยักสวยเข้าจู่โจมประกบติด ดูดเม้มกลืนกิน แฟน กัน ไหม หายเข้าลำคอไปอย่างไร้ร่องรอย เด็กน้อยเจ้าของคำว่าแฟนกันไหมจึงทุบไหล่เจ้าของริมฝีปากหยักสวยขี้ขโมยพลางร้องโวยวาย

“พ... พ... พ... พี่ปริมอ่า...” >////////<
“อะไรคะ?”
“พ... พอเค้าจะพูด พี่ก็ไม่ให้เค้าพูดนะ”
“อ่าว... พี่รออยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นพูดออกมาซะทีนี่ พี่ก็เลยช่วยจูบดูดคำพูดออกมาไง แต่ดูท่าว่ามันจะไม่ได้ผลนะ น้องอินจะพูดว่าอะไรคะ? ไหนลองพูดใหม่อีกทีซิ”
ผู้ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เด็กสาวกัดริมฝีปากล่างด้านใน ส่งค้อนวงใหญ่ให้คนอายุมากกว่ารับไปถือ แต่ก็เพราะโดนหยอกแหย่ ความเขินอายจึงลดน้อยลงไปเยอะ อรินทิพย์ถอนหายใจเบา ๆ ให้กับความขี้เล่นของผู้ใหญ่ เด็กสาวเปิดอ้าริมฝีปากออก ส่งถ้อยคำเรียงเป็นประโยคเดิมเดินทางไปหาพี่ปริมอีกครั้ง
“เป็นแฟนกะ... อื้อ!”
จุ๊บ! จ๊วบ!
คราวนี้ `เป็น´ กับ `แฟน´ สามารถก้าวข้ามผ่านชายแดนไปได้ แต่ว่า `กัน´ กับ `ไหม´ เดินช้า จึงโดนลักพาตัวไปโดยผู้ร้ายหน้าเดิม
เจ้าของกันและไหมกัดริมฝีปากล่างที่เป็นสีแดงเข้มเพราะฝีมือ... เอ้ย ฝีปากของโจรขโมยคำพูด เด็กน้อยส่งค้อนให้ผู้ใหญ่ขี้แกล้งจนตาคว่ำ รู้สึกทั้งเขินทั้งเคือง หนูจะพูดขอพี่เป็นแฟนอย่างจริงจังนะนี่ เค้าจริงจังนะ พี่ยังจะมาทำเป็นเล่นอยู่ได้
“พี่ปริมอ้ะ... เค้าไม่พูดด้วยแล้ว” เด็กน้อยสูบลมเข้าแก้มจนพอง งอนแล้วนะ เค้างอนแล้วนะ
“โอ๋ ๆ ไม่งอนนะคะไม่งอน น้องอินจ๋า...”
“ฮึ”
เด็กน้อยพ่นลมงอนออกมานิดหนึ่ง ทำให้แก้มยุบตัวลงนิดหน่อย อรินทิพย์ปีนลงจากตัวผู้ใหญ่ขี้แกล้ง นอนตะแคงหันหลังให้ ตลบผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ไม่ทันไรก็มีคนมุดตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน คนมุดผ้าห่มมาง้อกอดเธอจากด้านหลัง พูดง้อด้วยเสียงนุ่มหวานแถว ๆ ข้างหู
“น้องอินจ๋า... ไม่งอนพี่ปริมนะคะ ที่พี่แกล้งน้องอินเมื่อกี้ เพราะว่าพี่ปริมจะเป็นคนพูดขอน้องอินเป็นแฟนเองค่ะ... ลูกแมวน้อยจ๋า เป็นแฟนกับพี่แมวใหญ่นะค้า~ นะคะ คบกับพี่แมวใหญ่นะ เป็นแฟนกันนะคะ ตกลงไหม?”
“...>//////<...”
ลูกแมวน้อยเงียบ แต่คอหดสั้นลงนิดหนึ่ง ลมงอนที่อยู่ในแก้มกำลังเกิดปฏิกิริยาเคมี โดนคำพูดของพี่แมวเปลี่ยนสถานะให้กลายเป็นลมเขิน ยิ่งพี่ปริมมาพูดกระซิบใกล้ใบหูและกอดเธอไว้แน่น ๆ แบบนี้ อรินทิพย์ลองนำลมที่อยู่ในแก้มของตัวเองไปตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมี เธอพบว่าลมงอนเปลี่ยนโครงสร้างเป็นลมเขินไปแล้วถึงกว่าร้อยละเก้าสิบแปดจุดแปดเจ็ดห้า

“พี่ปริมไม่เคยขอใครเป็นแฟนมาก่อนเลยน้า... ลูกแมวน้อยจ๋า... ตอบรับคำขอเป็นแฟนของพี่แมวใหญ่ก่อนสิคะ”
“...>//////<...” หนูโดนลมเขินชุมนุมประท้วงปิดเส้นทาง คำพูดเลยติดขัด ออกมาไม่ได้ค่ะ
“ถ้ายังไม่พูดตอบรับคำขอเป็นแฟน พี่จะจูบดูดคำพูดออกมาเอง”
พี่แมวใหญ่ขู่ฟ่อ ลูกแมวน้อยก็เลยกลัวว่าจะโดนจูบดูดคำพูดจนริมฝีปากช้ำ หนูยอมแล้ว ยอมพูดแล้วก็ได้ อรินทิพย์ต้องรีบขอเจรจาให้ลมเขินเปิดเส้นทางการจราจร คำพูดที่ติดขัดสะสมจึงค่อย ๆ ทยอยเดินทางออกมา

“ต... ตกลงค่ะ ตกลง... อินยอมเป็นแฟนของพี่ปริมค่ะ... อ๊ะ! อื้อ! อื้ม!” 
 
ลูกแมวส่งเสียงครางในลำคอปิดท้ายขบวนรถคำพูด ระหว่างนั้นก็มีเสียงจุ๊บ จ๊วบ จุ๊บ จุ๊บ ดังขึ้นสลับกับเสียงคราง เสียงดังกล่าวดังขึ้นต่อเนื่องอยู่นานประมาณสองนาที กับอีกห้าสิบหกวินาที

พอพี่แมวใหญ่ผละริมฝีปากออก ลูกแมวน้อยก็เม้มริมฝีปากแดงก่ำของตน จากนั้นกำปั้นเล็ก ๆ ก็ถูกส่งไปทุบต้นขาหน้าของแมวตัวโตสองสามที
“พี่ปริมอ้ะ... เค้าพูดตกลงไปแล้วนะ พี่มาจูบเค้าทำไม?”
“พี่ไม่ได้พูดนี่คะว่าถ้าน้องอินตอบตกลงแล้วพี่จะไม่จูบ อิอิ”
“พี่แมวใหญ่เจ้าเล่ห์”
แมวเด็กต่อว่า ส่งตาค้อนตาเขียว แต่แก้มแดงเพราะเขิน แมวโตเต็มวัยเห็นดังนั้นก็หัวเราะคิกคัก ขอหยอกเอินแกล้งแมวตัวเล็กอีกที พี่แมวใหญ่โน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากแดงของลูกแมว จากนั้นก็ถอยหน้าออกมาส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม แมวตัวเล็กทำตาโต ตั้งท่าว่าจะโยนค้อนมาให้อีกวง แมวใหญ่จึงใช้อาวุธคลื่นเสียงนุ่มหวานต่อต้านค้อน
“น้องอินจ๋า~... ลูกแมวน้อยของพี่... แฟนของพี่ปริมนี่น่ารักที่สุดในโลกเลย”
“...>/////////<...”
อาวุธคลื่นเสียงของแมวใหญ่ประสิทธิภาพดีจริง ๆ เพราะลูกแมวที่โดนคลื่นเสียงต่อต้านค้อนตอนนี้ยิ้มเขินจนเปลือกตาลดหรี่ลงมา ค้อนจึงลอดผ่านเปลือกตาออกมาไม่ได้

ค่ำคืนเดือนหงายคืนนี้ แมวตัวใหญ่นอนยิ้มกริ่ม กกกอดแมวตัวเล็กแฟนเด็กไว้ในอ้อมขาหน้า ถ้าใครเอาหูฟังมากดแนบตรงอกซ้ายของแมวใหญ่ คุณจะได้ยินเสียงแมวโตเต็มวัยร้องตะโกนเสียงดังอยู่ในใจว่า...

ลูกแมวน้อยจ๋า ลูกแมวน้อยจ๋า พี่แมวใหญ่รักลูกแมวน้อยจัง

............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 ธันวาคม 2013 เวลา 20:36:29 Admin »




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.