web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 142
Total: 142

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 1 : พันธนาการสามหัวใจ  (อ่าน 3010 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 1 : พันธนาการสามหัวใจ
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:36:15 »



นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อของ The bodyguard Vol.1  ที่ได้จัดทำเป็น E-book เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ  หาซื้อได้ตามลิงก์นี้  http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NToiNTE0NjgiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo0OiIxODE3Ijt9


Chapter  1  :  พันธนาการสามหัวใจ

ดิออนพบตัวเองอยู่กับอาวุธมากมายตรงหน้า  เธออดทนยอมเดินมาที่นี่ทั้งที่ต้องเดินกระโผลกกระเผลกด้วยอาการขาแพลงเพราะลื่นล้มที่น้ำตกเมื่อเช้า  เพราะคนตัวสูงตรงหน้าที่บอกว่าจะพาเธอมาหาอะไรทำแก้เบื่อ แต่นี่มันจะไม่ทำให้เบื่อมากกว่าหรือไง  มีแต่ปืนกับปืนและก็กระสุน  ของน่ากลัวทั้งนั้นเลย

สาวน้อยอยากกระพริบตาแต่ก็ทำไม่ได้  ของที่เห็นมันทำให้ตื่นตาตื่นใจมากจนไม่อยากจะทิ้งการมองมันเลยสักนาทีทั้งที่กลัว  ก็ไม่เคยเห็นปืนจริงๆมากเท่านี้มาก่อนในชีวิตนี่นา  และก็ไม่อยากเชื่อด้วยว่าในเกาะที่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่มากแบบนี้จะมีสถานที่ที่ดูเหมือนคลังแสงของกองทหารขนาดย่อมเช่นนี้ได้  แคลทำมันขึ้นมาเมื่อไหร่  หล่อนเตรียมการเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“แคลเป็นทหาร  ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ  ถ้ามีห้องแบบนี้ในเกาะของเค้า” 

เสียงพูดนี้พาให้คนที่กำลังอึ้งกระพริบตาและหันมามองหน้าคนพูด ร่างสูงกับผมสีเงินกำลังหันหลังให้เธออยู่  เขาหยิบปืนยาวกระบอกหนึ่งมาสำรวจดูและทำท่าเหมือนจะลองใช้มัน  แต่ก็แค่ลองเล็งมันดูเท่านั้นแล้วก็เก็บมันเข้าที่ตรงผนังที่มีที่แขวนไว้

“แต่ถึงอย่างนั้น  การมีอาวุธสงครามมากขนาดนี้อยู่ในมือ  ก็ผิดกฎหมายไม่ใช่หรือคะ  เท่าที่ฉันเคยรู้มา”  สาวน้อยเสนอความเห็น  แต่อีกคนก็ใจเย็นอธิบายข้อเท็จจริงให้ฟัง

“ก็ถูก  เธอพูดถูกแล้ว  แต่นั่นก็เฉพาะตอนที่แคลไม่ได้สังกัดหน่วยกองพันพิเศษที่ปฏิบัติงานพิเศษให้กองทัพ”

ดิออนกระพริบตาปริบๆระหว่างคิดทบทวนว่าคนตรงหน้าพูดว่าอะไร  หน่วยกองพันพิเศษเหรอ..?  โอ้..เข้าใจแล้ว...

“หมายความว่า...”

“หมายความว่า..  อาวุธเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนมาจากกองทัพ  มันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ตอนที่แคลประจำอยู่ที่อังกฤษ  มีไว้ในกรณีฉุกเฉิน”  แองเจล่าต่อความให้คนที่กำลังงงได้ฟัง  จากนั้นก็เดินสำรวจห้องคลังอาวุธนี้ต่ออย่างสนใจ  แต่ก็ไม่ได้ลืมที่จะเล่าเรื่องให้เด็กสาวฟังอีก

“เธอคงไม่รู้ว่า  รัฐบาลของฉันกับรัฐบาลของประเทศเธอมีการติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา  เราทำงานร่วมกันเสมอ”

“แต่คุณบอกว่าคุณไม่เคยมาที่นี่ไม่ใช่เหรอคะ  ครั้งนี้เป็นแค่ครั้งที่สองที่คุณมาเกาะนี้  ไม่ใช่เหรอ..ผู้พัน”  ดิออนแย้งตามเหตุผลที่รู้มา  แล้วคนตัวสูงตรงหน้าก็หันมายิ้มให้  ดวงตาเป็นประกายแปลกๆ มันทำให้นึกกลัว  แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรน่ากลัวกว่านี้หรอก

“ก็ใช่  ฉันมาที่นี่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง  แต่ในหน่วยของฉัน  ก็ไม่ได้มีฉันคนเดียวนี่ที่ทำงานแบบนี้  และถ้าเธอจะถามว่าทำไมนี่ที่ถึงได้เหมือนว่าไม่เคยมีใครมาใช้เลยมาก่อนก่อนหน้าฉัน  ฉันก็จะบอกกับเธอว่า  ฉันขอคุณพ่อฉันไว้ว่า  อย่าใครมายุ่งกับที่นี่นอกจากฉันกับเจ้าของเกาะ  นั่นก็คือแคล  ส่วนคนอื่นที่ทำงานในประเทศของเธอ  เขาก็มีที่ของเขาที่อื่น  ซึ่งฉันบอกเธอไม่ได้หรอกนะว่ามันคือที่ไหน  เข้าใจนะ มันเป็นความลับ” 

สาวน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ  เหตุผลของเขาฟังน่าเชื่อจริงๆ เพราะใช่  เขามีอำนาจมากพอในมือที่จะสามารถเนรมิตเกาะแห่งนี้ให้เป็นฐานทัพลับได้โดยไม่มีใครรู้  นอกจากคนที่ควรรู้เท่านั้น เท่าที่เธอรู้มาผู้พันแองเจล่า  มิลเลอร์  เป็นลูกสาวคนเดียวของท่านนายพลเอนริค  มิลเลอร์ ผู้มีอำนาจที่สุดในกองทัพอังกฤษและท่านนายพลที่ว่าก็เป็นที่ปรึกษาของท่านนายกรัฐมนตรีที่นั่นด้วย 

นั่นจึงหมายความว่าเมื่อมีการติดต่อกันในทางทหารกับทางรัฐบาลของประเทศเธอ  ท่านนายพลมิลเลอร์  ก็จะมีสิทธิในการตัดสินใจดำเนินการอะไรก็ได้ที่นี่  ใช่หรือไม่..   

โอ้..งั้นก็แสดงว่า  ผู้พันคนนี้เส้นใหญ่คับประเทศเธอเลยสินะ  ถ้าเช่นนั้นทำไม  ยังมีคนกล้ามาทำอะไรเธอที่อยู่ในความดูแลของเขาได้อีกล่ะ  หรือว่ามันจะมีอะไรที่ตื้นลึกหนาบางกว่านี้ที่เธอไม่รู้ 

แน่นอน..มันต้องมี ไม่ว่าที่ไหน คำว่า “ไส้ศึก” มันต้องมีเสมออยู่แล้ว เชื่อสิ..

“เอ่อ..แล้วคุณพาฉันมาดูอะไรแบบนี้ทำไมคะ  ฉันไม่ใช่ทหารเสียหน่อยนี่”  ถึงจะอยากรู้อะไรอีกหลายอย่าง  แต่ตอนนี้เธอก็อยากถามเรื่องนี้ก่อนว่า  เธอมาอยู่ที่นี่ทำไม 

จุดประสงค์ของทหารตัวใหญ่ตรงหน้าที่พาเด็กอย่างเธอมาดูอาวุธสงครามแบบนี้  มันคืออะไร  เธอไม่อยากอยู่ที่นี่  กลิ่นของมันทำให้ขนลุก  ให้ไปเดินดูเกาะกับแคลยังจะดีเสียกว่า  แคลไม่น่าทิ้งเธอไว้กับเขาเลย  มันน่ากลัว...

“เพราะฉันอยากให้เธอรู้จักพวกมัน”

หากแต่คำตอบสั้นๆก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้คนฟังที่เป็นเด็กอย่างเธอรู้เรื่อง  จนกระทั่งแองเจล่าเลือกปืนด้ามหนึ่งออกมาจากตู้และส่งให้เธอนั่นแหละ  ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเขาหมายความว่าอย่างไร  ดิออนมองหน้าคนที่ส่งปืนมาให้เหมือนไม่เชื่อสายตา  เธอยังไม่กล้ารับมัน

“ฉันยิงปืนไม่เป็น..”

“เธอต้องหัดยิง”

คนตัวสูงพูดเสียงเรียบแต่ถ้าเปรียบกับแคลแล้ว  เสียงของเขามีอำนาจมากกว่า  ทั้งเสียงและสายตาของเขาเลยด้วย  เพราะถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว  เสียงและสายตาของสาวตาสีแดงทำให้เธอสบายใจ ผ่อนคลายเหมือนสายน้ำที่อบอุ่นให้ชีวิตได้ดำรงเป็นชีวิตต่อไป  ในขณะที่เสียงและสายตาของคนคนนี้ทำให้เธอตื่นตัวและระแวดระวัง  เหมือนสายน้ำเย็นที่ชุ่มฉ่ำหากแต่แอบซ่อนเร้นอะไรเอาไว้ข้างใน..ความตาย..

หวังใจว่า  เขาคงไม่ฆ่าเธอด้วยท่าทางเยือกเย็นแบบนี้หรอกนะ  ไม่หรอก  เขาเป็นผู้พิทักษ์ของเธอนี่นา  เขาสาบานเอาไว้แล้ว...

ดิออนมองหน้าคนใจเย็นตรงหน้าที่ยังคงยื่นปืนให้เธออยู่อย่างไม่เชื่อสายตา  แล้วอะไรบางอย่างก็ทำให้เธอหยิบมันมามองพิจารณา  ปืนมีขนาดพอดีกับมือเธอ  มันคงเหมาะสำหรับผู้หญิง ซึ่งก็คงจะเป็นสาวตัวเล็กอย่างเธอนี่แหละ  ปืนสั้นออโตเมติก  ถ้าเธอเดาไม่ผิดนะ

“FN Five Seven  มันดูเหมาะกับเธอดี  ใช้ไม่ยากหรอก”  ทหารตัวสูงอธิบายและยื่นมือมาขอของจากมืออีกคนที่เหมือนจะส่งให้ด้วยท่าทางงงๆเล็กน้อย 

แองเจล่านำปืนกระบอกเล็กกว่ามือตัวเองกลับไป และสอนวิธีใช้มันให้กับสาวตรงหน้าที่ว่าตอนนี้จะสนใจการสอนของเธอขึ้นมาบ้างแล้ว  “ปืนกระบอกนี้  เธอไม่ต้องทำอะไรกับมันมาก  แค่ตรวจดูว่าในแมกกาซีนมีกระสุนเต็มหรือไม่  หรือยังมีเหลือพอสำหรับใช้หรือเปล่า  และเวลาที่เธอจะใช้ เธอก็ปลดเซฟตี้  และลั่นไก  แล้วมันก็..  ปัง..  ตาย..” 

คำสุดท้ายออกมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น   แต่คนฟังคงปรับตามอารมณ์ไม่ทัน  จึงได้เห็นเด็กสาวทำหน้ามึนกลับมาให้  ตัวเองเลยต้องส่ายหน้ายิ้มๆและคว้ามือเล็กของหล่อนมารับของกลับคืนไป

“เก็บเอาไว้นะ  แล้วฉันจะสอนให้วันหลัง  หรือไม่ก็คงเป็นแคลที่สอนเธอ  แต่เก็บมันไว้ให้ดีนะ  ถ้าเป็นไปได้  อย่าให้ใครเห็น  นอกจากฉันกับแคล  เข้าใจนะ”  พูดจบก็ดันตัวเด็กสาวออกไปจากห้องคลังแสง  แต่ระวังไม่ให้หล่อนเจ็บที่ขาซึ่งยังใช้งานได้ไม่ดีนัก

ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลส่งสายตาปรามให้อีกคนเก็บของที่ให้ไปตามที่บอกไว้  แล้วเด็กสาวทำตามอย่างเหลือเชื่อ  อาจเพราะหวั่นใจในความเยือกเย็นดุจน้ำแข็งของดวงตาคนมอง  ทั้งสองเดินออกไปสู่ภายนอก  ดิออนจำเป็นต้องหรี่ตามองสิ่งต่างๆ แสงอาทิตย์สว่างจ้าเกินไป  มันทำร้ายสายตาเธอ

“แดดแรงแบบนี้  แคลไปเดินทั่วเกาะได้ยังไง” เด็กสาววิจารณ์ออกมาให้คนข้างๆหัวเราะในลำคอ ดิออนมองหน้าคนตัวสูงคิ้วขมวด  เขาสนุกอะไรกันนี่

“แคลลี่ไม่ได้บอบบางอย่างที่เธอเห็นหรอกนะ เค้าเป็นทหาร จำไม่ได้หรือไง  ตอนเป็นนักเรียนเตรียม  ฝึกหนักกว่าที่เธอคิดไว้มากนะคะ..เด็กน้อย..”  พูดตามความจริงแต่เด็กผู้หญิงตรงหน้ายังไม่เลิกทำหน้ามุ่ย  ในที่สุดก็ต้องยอมเป็นคนใจดีอย่างที่ไม่ค่อยจะเป็นจนได้  เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆ

“เธอวอไปตามเค้ามาก็ได้นะ  นี่ก็เที่ยงแล้วด้วย  ตะวันตรงหัวพอดี  จะได้ทานมื้อเที่ยงด้วยกันและทานยาด้วย  ขาเธอจะได้หายเร็วๆ” คนตัวสูงส่งวิทยุสื่อสารให้สาวตัวเล็กและทำท่าจะเดินจากไป  หากไม่ถูกรั้งไว้เสียก่อน

“ผู้พันคะ  คุณไม่อยู่กับเราเหรอ..”  ดิออนถามอย่างสงสัย หากแต่คนที่จะไปก็หันมาส่ายหน้าให้พร้อมยิ้มบางๆ แล้วก็เดินจากไปเงียบๆให้เธอมองตามหลังอย่างเสียดาย 

ใช่สิ  เพราะถึงจะดูน่ากลัวขนาดไหน  ภายใต้ความเย็นชาที่ดูน่ากลัวนั้น  ผู้พันแองเจล่าก็เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยอยู่ดี  สำหรับเธอ..

และคงจะเป็นสำหรับแคลด้วยเหมือนกัน...

--The bodyguard--

แคลลี่พลิกวัตถุสีดำในมือไปมา  ดวงตาสีแดงมองมันอย่างไม่มีความรู้สึกอะไรพิเศษ  เธอเห็นมันมาบ่อยทั้งชีวิตแล้วนี่  อาวุธปืน  ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไม่เหมือนคนที่เอามันมาอวดให้ดู 
ดิออนรีบพาเธอมาจากโต๊ะอาหารทั้งที่เพิ่งจะทานมื้อกลางวันเสร็จด้วยกัน  เพราะต้องการจะนำปืนกระบอกนี้มาให้เธอดู  น่าเอ็นดูดีนะ  ความตื่นเต้นของเด็กได้ของเล่นใหม่  เธอคิด
“เค้าบอกให้ฉันสอนเธอเหรอ” ถามขึ้นเบาๆและเหลือบตาขึ้นมองหน้าคนที่ตัวเองถาม ดิออนพยักหน้าเร็วๆกลับมา  พาให้เธอยิ้มรับ

“โอเคได้..  แต่เธอต้องเลือกก่อนนะว่า  เธอจะใช้ปืนมือไหน”

“หมายความว่ายังไง  ก็ฉันถนัดขวานี่”  เด็กสาวถามงงๆให้อีกคนมองด้วยสายตาเอ็นดูเหมือนผู้ใหญ่มองเด็ก 

แคลมองเธอด้วยสายตาเปลี่ยนไป  มันเริ่มชัดขึ้นทุกที  ความรู้สึกนี้เธอรับรู้ได้  ระหว่างเธอกับหล่อน  เยื่อใยที่มีให้กันคงเหลือแค่เพียงพี่น้องจริงๆ  แต่ก็ช่างเถอะ  มันควรจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วล่ะ  ช่างมัน...

“มันไม่จำเป็นต้องเป็นมือข้างที่เธอใช้เขียนหนังสือหรอกนะที่จะยิงปืนได้ดี  ถึงส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเป็นแบบนั้น  อย่างฉันที่ถนัดซ้าย  แต่ใช้ปืนมือขวา  มันดูแปลกหรือเปล่าล่ะ” เสียงหวานชี้แจงใจเย็น  อีกคนเลยมองอย่างเข้าใจ  ดิออนดูไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้  แล้วเรื่องอื่นล่ะ

“อืมม..  ถ้าเข้าใจแล้ว  เอาไว้พรุ่งนี้นะ  ฉันจะพาเธอไปลอง  แต่คงต้องเป็นในป่าที่ฉันไปดูที่มาวันนี้แหละ  มันเงียบดี  ปลอดภัย”  คนฟังพยักหน้ารับอย่างไม่มีปัญหา  คนพูดเลยไม่มีเรื่องปวดหัวเพิ่มนอกจากเรื่องเดิมๆที่ยังสะสางไม่ได้  แล้วความกลุ้มใจในสีหน้า  คงเป็นออร่าที่ทำให้อีกคนรู้สึกถึงมัน  ไม่นานมืออุ่นๆเลยมาสัมผัสมือเธอเบาๆ

ดวงตาสีแดงกระพริบและมองสบสีเขียวทันที “ทำไมเหรอ..ดิออน..”

“ฉันเป็นภาระให้เธอมากใช่ไหม..แคล” 

แคลลี่นิ่งอึ้งเพราะคำถามนี้  ดิออนดูเสียใจจริงๆขณะที่หล่อนถามออกมา  ท่าทางเหมือนอยากจะร้องไห้ได้ทุกเวลา  เธอไม่อยากจะเห็นมันเลย  จะทำยังไงดี  ไวเท่าความคิด  ปืนในมือเลยถูกทิ้งลงกับโต๊ะตรงหน้า  สองแขนโอบตัวร่างบางเข้ามาหากอดหล่อนเอาไว้  หวังให้สัมผัสนี้บอกถึงความห่วงใยของเธอที่มีให้หล่อน

“อย่าพูดแบบนี้อีก..ดิออน  ฉันไม่ชอบฟัง  รู้ไหม..” 

“แต่ฉันก็ไม่ชอบที่เห็นพวกเธอดูวุ่นวายกันไปหมดเพราะฉันคนเดียว  เธอควรมีความสุขกว่านี้  เธอกับผู้พัน..”

ดวงตาสองสีมองสบกันเพราะประโยคหลังที่ดึงแคลให้ออกมามองหน้าคนพูด  จ้องหน้าหล่อนเหมือนต้องการจะถามความหมายที่ต้องการจะสื่อสาร  แล้วหล่อนก็เข้าใจจริงๆ

“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะแคล  เธอไม่ต้องปิดฉันหรอก  ฉันเข้าใจ”

“เธอรู้..?”  แคลถามออกมาหน้าตาตื่น  รู้สึกเหมือนตัวเองล้มเหลวในการซ่อนความลับที่เป็นเรื่องส่วนตัว  หากแต่เมื่ออีกคนตอบกลับมา  มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครจะสังเกตตัวเธอออก  เธอเป็นแบบนั้นจริง

“แคลลี่..  ฉันอยู่กับเธอมาเป็นปีนะ  ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่า  เธอเป็นแบบไหน  แล้วเธอเปลี่ยนไปเมื่อไหร่  และเธอก็ดูมีความสุขขึ้นเวลาอยู่กับเขาเมื่อเร็วๆนี้  ฉันเห็น...  ตั้งแต่คืนนั้น  ที่เธอไม่ได้กลับไปนอนที่บังกะโล..”

คนฟังยิ้มเจื่อนๆกลับไปให้คนพูด  แคลลี่หัวเราะฝืดๆในลำคอและส่ายหน้าอย่างระอาใจตัวเอง  รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที “ฉันรักเค้า..ดิออน   ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันรักเค้ามากแค่ไหนก็เมื่อ..คืนนั้น..” ถึงรู้ว่ามันไม่ดีที่พูดแบบนี้ออกไป  มันอาจจะไปทำให้คนฟังเสียใจก็ได้  หากแต่ความจริงเรื่องนี้เธอควรต้องบอก  ถ้าอยากจะตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม 

จบกันทีรักสามเส้า  เราสามคน.. หรือว่ายัง..?

“ฉันเข้าใจ..” 

แต่แล้วคำตอบสั้นๆของคนฟังก็ทำให้คนพูดเจ็บหัวใจแปลกๆ คงเป็นครั้งแรกที่เธอไม่ได้ยินเด็กสาวต่อล้อต่อเถียงหรือถามอะไรให้วุ่นวาย  แคลลี่รู้สึกเหมือนไมเกรนกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก  ปวดหัวมากจนรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว  เธอคงต้องไป  อย่าให้ความสงสารของเธอทำร้ายใครอีกเลย  แม้กระทั่งตัวเอง

“ขอบใจนะดิออน  ขอบใจจ้ะ  ฉันขอตัวก่อนนะ  มีงานต้องไปทำต่อ”  พูดแล้วก็ลุกขึ้นยืน  หากแต่มือก็ถูกดึงไว้ด้วยอีกคนให้ต้องหันขวับกลับมา  ดวงตาสีแดงถามว่าเจ้าของมือต้องการอะไร

“หาหมอให้ฉันเร็วๆได้ไหมแคล..  ขอร้องล่ะ” 

แม้จะตกใจ  แคลลี่ก็พบว่าเธอทำได้แค่พยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มเห็นใจ  ร่างโปร่งก้มลงมอบจุมพิตที่หน้าผากเด็กสาวเบาๆ  และจากไปพร้อมหัวใจชาๆ

ฉันทำร้ายเธอมากเลยใช่ไหม..ดิออน..  ถ้าจะต้องตายเพราะปกป้องเธอ  มันก็สมควร..

-The Bodyguard-


ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลกระพริบเมื่อเห็นมือหนึ่งยื่นมาตรงหน้า  หันไปสบตาเจ้าของมือแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่  จำใจส่งของในมือตัวเองให้หล่อนไป 

เอาแล้วไง  แคลลี่มาทำไมตอนนี้  เหล้ากำลังรสชาติดีอยู่เลย  คิดอย่างเสียดายขณะมองของที่อยู่ในมืออีกคน  หล่อนจะทำอะไรกับมันกันนะ  และแล้วดวงตาคมก็ต้องเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นสาวหน้าใสข้างๆกระดกของเหล้าสีอำพันนั่นเข้าปากหน้าตาเฉย  แต่ก็รู้เลยว่าหล่อนไม่ได้ชอบมันนัก  คิ้วขมวดเชียว  ขมล่ะสิ

“ขออีกได้ไหม..”  บอกพร้อมส่งแก้วเปล่าให้คนตรงหน้า  แองเจล่ากระพริบตาเหมือนไม่เชื่อว่าได้ยินอะไร  “แอน..  ขอหน่อย  หวงหรือไง..” 

เป็นไปตามคาด  ใช้ไม้นี้ทีไร  เธอก็ได้ของที่อยากได้ทุกที  แคลลี่กระดกน้ำขมๆเข้าปากอีกครั้ง  หากแต่ครั้งนี้รู้สึกผะอืดผะอมจนต้องลุกขึ้นวิ่งไปห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เอามันออกไป  ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่  เธอก็ยังแพ้มัน

“รู้ว่าดื่มไม่ได้  แล้วดื่มทำไมคะ”  คนที่เดินตามมาอย่างรู้ทันถามขึ้นพร้อมลูบหลังให้สาวที่โก่งคออาเจียนอยู่กับชักโครกตรงหน้า  สายตาของเธอห่วงใยหล่อนจริงจัง  แคลลี่เป็นอะไรไปอีก  พักนี้อารมณ์เปลี่ยนเร็วจนรับไม่ทันเหมือนกัน  หรือประจำเดือนหล่อนใกล้จะมา  ฮอร์โมนเล่นตลกอีกหรือไงนี่..

“ฉันเครียด..  ฉันอยากหนีปัญหา  มันมากเกินไป  ฉันรู้สึกรับไม่ไหวแล้ว..” 

“นั่นเพราะเธอเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงานมากเกินไป  เธอต้องแยกแยะให้ได้..แคล”  เสียงนุ่มวิจารณ์ขณะส่งแก้วน้ำเปล่าให้อีกคนบ้วนปาก  ล้างกลิ่นอาเจียนในปากของหล่อน  แคลลี่รับมันไปอย่างไม่อิดออดแต่ก็ไม่วายจะมองหน้าเธอเหมือนอยากหาเรื่องอย่างนั้น  คงเพราะคำวิจารณ์

ร่างสูงถอนหายใจแผ่วแล้วไปยืนกอดอกพิงผนังมองคนที่กำลังจัดการตัวเองให้เรียบร้อยอยู่ห่างๆ ไม่อยากทำตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้ใคร  ถึงจะเป็นสามีภรรยากัน

“เธอเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากเกินไป  มันทำให้เธอแย่  หรือเธอจะถอนตัวดีล่ะ  ฉันจะขอคุณพ่อให้..”

“ไม่..!  ฉันจะทำงานนี้  ฉันไม่ไว้ใจคนอื่น”  แคลลี่ตอบอย่างไม่ต้องคิด  ลืมไปด้วยว่าเธอไปกระชากคอเสื้อเขาเพื่อเรียกร้องความสนใจ  จนกระทั่งดวงตาเย็นชาตรงหน้าจ้องหน้าเธอให้รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่  ถึงได้ยอมปล่อยเขาและพึมพำคำขอโทษออกมาเสียงเบา  หากแต่เสียงของเขาดังกว่าเสียงเธอเมื่อเขาพูดประโยคนี้

“เธอไม่ไว้ใจพี่ด้วยเหรอ..แคล” 

ดวงตาสีแดงกระพริบตา  รู้สึกแล้วว่าตัวเองทำพลาดไปมาก  เธอไม่ได้ต้องการจะทำแบบนี้เลย  แค่ทุกอย่างที่เจอมามันทำให้เครียดมากไปเท่านั้น  เธอยังไม่สามารถสะสางอะไรได้หมด ไม่ว่าเรื่องงานก็ยังคาราคาซัง  กระทั่งเรื่องหัวใจก็ดูจะอ่อนแอสิ้นดี  มันแย่จริงๆ

ฉันควรจะทำยังไงดีกับเธอ..ดิออน  ฉันไม่อยากให้เธอต้องทนอยู่ในความอึดอัดแบบนี้  แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกอะไร  ขอโทษด้วยนะ  ฉันรักเธอมากนะ..น้องสาว  เข้าใจฉันหน่อย..

“เปล่า..  ไม่ใช่  แค่ฉันอยากจะเห็นกับตาว่าเค้าจะปลอดภัยดีเท่านั้น  ฉันอยากเห็น..  ขอร้องนะแอน  อย่าถอดฉันออกจากงานนี้  ได้ไหมคะ”  พูดพร้อมจ้องตากับอีกฝ่ายเพื่ออ้อนวอนเขาทางสายตา  แองเจล่าดูลังเลใจที่จะตอบ  แบบนี้เธอคงจะต้องทำให้เขามั่นใจขึ้น

สองมือสวยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตคนตัวสูงกว่าระหว่างมองตาเขาไม่หยุด  แล้วก็ลูบคลำเนื้อเนียนในร่มผ้า  กล้ามเนื้อของเขาตรงที่เธอสัมผัสเกร็งขึ้นรับแม้ใบหน้าจะนิ่งเฉย
 
“เธอทำแบบนี้อีกแล้วนะแคลลี่  เธอก็รู้นี่ว่าพี่ไม่ชอบ..”

“แต่ฉันทำกับพี่คนเดียวนะ  อย่าโมโหสิ  จริงๆนะคะ”  เธอจบคำพูดตัวเองด้วยจุมพิตที่อกแน่นๆของเขา  แอบได้ยินเสียงถอนหายใจดังขึ้นมาพาให้เกิดรอยยิ้มที่ริมฝีปากอิ่ม 
มือสวยเริ่มไล่ลงไปปลดกระดุมและซิปกางเกง  หากแต่เธอก็ทำได้เพียงเท่านั้น  คนตัวใหญ่กว่าพลิกตัวสลับตำแหน่งกับเธออย่างว่องไว  กลายเป็นเธอที่ยืนติดผนังห้องน้ำแทน 

แองเจล่าพาเสียงครางอย่างพึงใจออกมาจากปากของเธอ  เมื่อเรียวปากสวยของเขาสัมผัสลำคอขาวยาวระหง  มือใหญ่สัมผัสทรวงอกอย่างเชี่ยวชาญ  ฤทธิ์น้ำเมาที่ยังตกค้างอยู่ในกระแสเลือดเพิ่มความรุ่มร้อนให้กายเธอ  อยากให้เขาสัมผัสมากกว่านี้  แล้วสิ่งนี้ไม่ต้องร้องขอก็ได้มา  ลิ้นร้อนๆเชยชิมความหวานตรงหว่างขาพาให้เจ้าของมันแทบยืนไม่อยู่  เซ็กส์กับคนที่รู้ใจ  มันน่ามหัศจรรย์เสียจริง 

หญิงสาวจิกเล็บลงตรงบ่าของคนตรงหน้าเมื่อรู้สึกว่าเธอไม่อาจทนทานมันได้ไหว  ยิ่งเมื่อลิ้นถูกแทนที่ด้วยอะไรที่เธอต้องการมันมากกว่า  แรงปรารถนาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น  มืออุ่นดึงเอวเธอให้เข้าไปใกล้ๆระหว่างที่อีกมือไม่ทิ้งขว้างการบริการที่เธอชื่นชอบมัน  สิ่งลุกล้ำลึกขึ้นและลึกขึ้น  สวรรค์ก็ใกล้เข้ามาทุกที

แคลลี่อยากจะร้องออกมาให้สุดเสียงเมื่อเธอไม่สามารถจะอดทนอะไรได้อีกต่อไปแล้ว  แต่ก็ทำให้เพียงแต่เสียงอู้อี้ในลำคอของอีกคนที่พาเรียวปากของเขามาประกบกับปากของเธอไว้  ซ่อนเสียงอันน่าอายให้แทนกัน  หากแต่ก็แค่เสียงเท่านั้นที่เขาช่วยบรรเทามันได้ด้วยริมฝีปาก  ร่างกายที่สั่นสะท้านก็ยังต้องการการกอดปลอบและพักพิงอยู่

เขาจูบศีรษะเธอเบาๆระหว่างที่เธอซบหน้าลงกับบ่ากว้างนี้  กอดเธอไว้ให้อบอุ่นด้วยท่อนแขนที่แข็งแรง  รู้สึกดีที่สุด  มันทำให้ได้รู้ว่า  ภายใต้ความวุ่นวายและปัญหาทั้งหลายในโลก  ยังมีที่ที่หนึ่งที่ผ่อนคลายและปลอดภัยสำหรับเธอ  ภายใต้ความเย็นชาที่เป็นฉากหน้าของคนคนนี้  เขายังมีความอบอุ่นที่ซ่อนเอาไว้ให้เพียงเธอเท่านั้น  เธอคนเดียว..

 “แคล.. เธอจะห่วงใครอะไรยังไง พี่ไม่ว่านะ ขออย่างเดียวเท่านั้น อย่าทำร้ายตัวเอง ถ้าจะมีใครต้องเจ็บกับเรื่องบ้าๆนี้ ขอเป็นพี่คนเดียวพอ นะคะคนดีของพี่”     
     
แล้วสิ่งเดียวที่เขาขอเธอเท่านี้..  เธอจะให้เขาได้ไหมล่ะ..แคลลี่  หรือมันยากเกินไป..

เส้นด้ายสีแดงบางๆพันผูกนิ้วก้อยของคนสามคน  เชื่อมโยงหัวใจของพวกเขาเอาไว้ด้วยกันเป็นวงกลมอยู่ตรงนี้  มีใครเห็นมันบ้างไหม..?

คุณล่ะ..?


TBC.









เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.