web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 164
Total: 164

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 5 : คำสัญญาจากสาวแปลกหน้า  (อ่าน 2683 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 5 : คำสัญญาจากสาวแปลกหน้า
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:16:04 »
Chapter  5  :  คำสัญญาจากสาวแปลกหน้า

   เสียงเฮลิคอปเตอร์ที่ดังมาจากทางไกล  พาให้คนที่นั่งอยู่ริมชายหาดลุกขึ้นในทันที  แคลลี่ออกมานั่งรอแขกของเธออยู่หลายนาทีแล้ว  และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อเสียงนี้เกิดขึ้น
   ดวงตาสีแดงหรี่มองยานพาหนะที่กำลังลอยอยู่เหนือพื้น  ยกมือหนึ่งขึ้นป้องแสงให้กับดวงตาตัวเองขณะมองมัน  ระหว่างที่ลูกน้องของเธอสองสามคนกำลังให้สัญญาณสิ่งบินได้นั่นให้ลงจอดบนผืนทราย  ไม่นานเพียงใดมันก็สัมผัสพื้นและเธอก็เห็นใครคนหนึ่งก้าวลงมา..แซนดร้า  คูเป้..
   สาวชาวอเมริกันในชุดสูทกึ่งลำลองเดินเข้ามาหา  หล่อนมีหน้าตาสะสวยไม่ต่างจากที่เธอเห็นในรูปภาพแฟ้มประวัติ ผมยาวสลวยสีบลอนด์ประกายทอง  ดวงตาคมกริบสีฟ้าคราม  ความสูงเมื่อยืนประจันหน้ากันก็คงพอๆกับเธอ  หน่วยก้านหล่อนดีทีเดียวจากที่เห็นท่วงท่าการเดิน  สวยสง่าและเข้มแข็งไปในคราวเดียวกัน  และในขณะเดียวกันที่เธอพิจารณาหล่อนอยู่   แซนดร้าเองก็กำลังพิจารณาเธอเหมือนกัน  ดวงตาสีฟ้าใสนั้นเป็นประกายพึงพอใจแปลกๆเหมือนรอยยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอ่ยทักทาย
   “สวัสดีค่ะ  แคลลี่ใช่ไหมคะ”  ตำรวจสากลเริ่มต้นทักทายเจ้าบ้านก่อนและแน่นอนผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องมารยาทดีเด่นอย่างแคลลี่ย่อมจะไม่มีท่าทีไม่ดีใส่แขก  มือสวยยื่นมาสัมผัสกันเพื่อทักทายกลับ
   “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบนะคะ..แซนดร้า” 
   หากแต่เมื่อแว่วหูได้ยินเสียงวิจารณ์จากแขกตรงหน้า  เจ้าบ้านก็กระพริบตาอย่างประหลาดใจ
   “สวยสมกับที่ผู้พันโม้เอาไว้เลยนะคะ”
   “อะไรนะคะ” แคลลี่เลิกคิ้วถามแสร้งทำเหมือนไม่ได้ยินมัน  ทั้งที่ใจจริงหัวใจในอกกำลังเต้นตูมตาม  ใบหน้าร้อนผ่าว  หญิงสาวถือว่ามันเป็นโชคดีของเธอที่ตอนนี้แซนดร้าหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมใส่แล้ว  หล่อนจึงไม่น่าจะเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนสีของตน  แต่ไม่เห็นแน่นะ  ทำไมยิ้มประหลาดแบบนั้นอีกแล้วล่ะ
   “ไม่มีอะไรค่ะ  แค่พูดไปเรื่อยๆเท่านั้น  แล้วผู้พันกับเจ้าหญิงล่ะคะ”
   คนฟังกระพริบตาปริบๆกับสรรพนามที่อีกคนใช้เรียกเด็กสาวในความคุ้มครองของตัวเอง  แต่เธอก็เลือกที่จะไม่วิจารณ์อะไรกับมัน  กลับตอบคำถามให้อย่างหน้าตาเฉย
   “แอนนั่งอยู่เป็นเพื่อนดิออนค่ะ เค้ากำลังตรวจเช็คร่างกายอยู่”
   แซนดร้าพยักหน้ารับรู้  ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมและเดินตามสาวขนาดตัวพอๆกันที่กำลังเดินนำเข้าไปยังตัวอาคารของคฤหาสน์หลังใหญ่กลางเกาะ  ตำรวจสาวแม้จะสงสัยอยู่ว่าทำไมตัวเองต้องถูกนัดมาที่นี่มากกว่าในตัวเมืองแต่ก็ไม่ได้ถามซักไซ้อะไร  เธอเชื่อว่าผู้ที่จ้างเธอมาทำงานนี้จะบอกมันเอง
   “ฉันจะพาคุณไปเจอพวกเค้านะคะ  หลังจากที่เราคุยกันเรื่องรายละเอียดของงานแล้ว” แคลลี่พูดขึ้นขณะเดินพาอีกคนไปถึงด้านในของอาคารและกำลังจะพาหล่อนเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง  แซนดร้าพยักหน้ารับอย่างไม่มีปัญหาอะไร  หล่อนทำเพียงตอบกลับมาสั้นๆ
   “โอเคค่ะ”
   เจ้าของห้องผายมือให้แขกนั่งลงกับเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานและระหว่างที่ร่างสูงโปร่งนั่งลง  เธอก็ยังคงมองหล่อนอยู่ไม่ละวางสายตาและไม่เห็นว่ามันเป็นการเสียมารยาทอะไร  เพราะนายจ้างมีสิทธิที่จะทำแบบนี้อยู่แล้ว  หล่อนเองก็คงจะคิดแบบเดียวกัน  แต่ก็อดจะพูดอะไรไม่ได้
   “คุณแคลคะ  อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ  อย่าจ้องกันนานแบบนี้สิคะ  ถึงนี่จะเป็นการดูตัวของคุณก็เถอะค่ะ  คุณไม่รู้หรือว่า  สีตาของคุณน่ากลัว”
   แคลลี่กระพริบตาในที่สุดและยิ้มให้คนวิจารณ์  เสียงหวานพูดทีเล่นทีจริง “ก็พอรู้ค่ะ  แต่ฉันยังเชื่อว่า  ฉันไม่ได้เป็นอันตรายกับคนที่อยู่ใกล้เหมือนปีศาจในหนังนะคะ ถึงสีตาจะเหมือน” 
   “โอ้..  มีอารมณ์ขันดีนะคะ  ดีค่ะ  ฉันชอบ” 
   เจ้าของบ้านยิ้มให้แขกแต่ไม่ได้พูดอะไร  แคลลี่ส่งแฟ้มเอกสารงานให้กับลูกจ้างพิเศษของเธอที่ก็รับมันไปอย่างไม่ลังเล
   “นั่นคือรายละเอียดของงานที่ฉันจะให้คุณทำค่ะ  ไม่เข้าใจตรงไหน  ถามได้นะคะ”  พูดจบก็ปล่อยให้อีกคนนั่งอ่านเอกสารไป  ส่วนตัวเธอก็นั่งจิบชาที่มีคนนำมาเสิรฟให้พร้อมกับของแขก 
   ดวงตาสีแดงมองเหม่อไปเล็กน้อยเมื่อคิดไปถึงสองคนที่ตัวเองจากมา  ป่านนี้แอนกับดิออนจะเป็นยังไงบ้าง  หมอจะเจออะไรบ้างนะ
   “ฉันขอเจอคุณหนูสวอนส์หน่อยได้ไหมคะ” 
   แคลลี่กระพริบตา  เลิกเหม่อและหันไปมองหน้าผู้หญิงตรงหน้าอย่างประหลาดใจ  ไม่เข้าใจว่าทำไมหล่อนถึงต้องอยากเจอดิออนด้วยในเมื่องานนี้ไม่จำเป็นต้องเจอก็ได้  หล่อนรับงานจากเธอเท่านั้น  ถ้าอยากเจอคุณผู้พันก็ว่าไปอย่าง  รู้จักกันนี่นา  แต่ก็ช่างเถอะ ไม่เห็นจะเป็นอะไร  เผื่อดิออนจะได้เจอคนอื่นๆบ้าง  อยู่กับพวกเธอมากๆคงจะเบื่อน่าดู  คิดแล้วก็ยิ้มบางๆให้คนขอ
   “ได้ค่ะ คุยงานเสร็จแล้ว  ฉันจะพาไปพบ  แต่กับเรื่องงานนี้...”
   “ไม่มีปัญหาค่ะ  แต่ฉันขอค้างที่นี่สักคืนเพื่อศึกษาแปลนแผนผังของคฤหาสน์สวอนส์ก่อนนะคะ  คุณแคลมีอยู่ใช่ไหมคะ” 
   “มีอยู่ค่ะ  แต่มันอยู่ในแฟลชไดท์อันนี้”  มือสวยชูของที่ว่าขึ้นให้อีกคนดู  ดึงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ข้อมูลนี้เธอเพิ่งดาวน์โหลดมาจากอีเมล์ที่มิลล์ส่งมาให้  การเก็บผู้หญิงคนนี้เอาไว้ใกล้ตัวเป็นความคิดที่ดีทีเดียว  หล่อนมีประโยชน์จริงๆ
   แซนดร้าทำท่าจะรับของ  แต่แคลลี่กลับดึงมันกลับไปและมองหน้าเธอเหมือนมีอะไรจะพูดสักอย่าง  และเธอรู้ว่าคืออะไร
   “ขอเอกสารเซ็นต์สัญญางานด้วยค่ะ  เจ้านาย” 
   แคลลี่ยิ้มพอใจให้กับผู้ที่รู้ทันเกมส์ของเธอ  จากนั้นก็ดึงเอกสารที่ว่าออกมาจากลิ้นชักของโต๊ะส่งให้หล่อนที่นั่งขมวดคิ้วน้อยๆมองหน้าอยู่  ได้ยินเสียงบ่นจากปากหล่อนให้ยิ้มกว้างขึ้น
   “ฉันลืมไปค่ะว่า  นายจ้างของฉันเป็นใคร  คุณไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่เลยนะคะ  สมแล้วที่เป็นสามีภรรยากัน” 
   “ขอบคุณค่ะที่ชม” เสียงหวานตอบรับคำชมของอีกคนที่จริงๆก็รู้อยู่ว่า  หล่อนกำลังว่าประชดเข้าให้  ในใจของแซนดร้าคงจะว่าเธอเคี่ยวน่าดูทีเดียว  แต่ช่วยไม่ได้นะ  ฉันต้องการหลักประกัน  งานสำคัญขนาดนี้นี่
   “เรียบร้อยค่ะ” 
   รับเอกสารกลับมาจากคนตรงหน้าและก้มมองมันอย่างละเอียด  ทุกอย่างเรียบร้อยจริงอย่างที่หล่อนพูด  ข้อมูลที่หล่อนอยากได้จึงไปถึงมือหล่อนทันที
   “ฉันมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพร้อมอินเทอร์เนตอยู่ในห้องพักที่จัดเอาไว้ให้  ถ้าต้องการจะใช้มันก็ตามสบายนะคะ ฉันจะให้คนพาไปดูห้อง  ส่วนของของคุณ  ก็อยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ”  พูดจบผู้เป็นนายจ้างก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้  หลังจากที่เก็บสัญญาเอาไว้ในที่ลับแล้ว 
   แคลลี่รอให้อีกคนลุกตามและพาออกจากห้องไป  ยังไม่สามารถจะไว้ใจให้หล่อนอยู่ตามลำพัง  เพราะยังไงความลับก็ยังเป็นความลับอยู่ดี
ผู้หญิงสองคนเดินตามกันไปตามทางเดินที่จะไปสู่ห้องห้องหนึ่ง  เจ้าของบ้านมีสีหน้าเรียบเฉยระหว่างเดินนำ  ส่วนแขกก็มองสิ่งต่างๆที่พบเจอตลอดทางอย่างสนใจ  มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ได้มาเจอกับสถานที่ไม่คุ้นตา หากแต่ว่า คำถามที่หล่อนถามออกมากลับไม่เกี่ยวกับมัน
   “ทราบมาว่า คุณหนูสวอนส์เคยเป็นคู่หมั้นคุณแคล  เรื่องจริงหรือเปล่าคะ” 
คนถูกถามมีสีหน้าตกใจไปสามวินาทีก่อนที่จะคิดได้ว่า  คนอย่างเธอย่อมจะเป็นข่าวดังในวงการอยู่แล้ว  ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แล้วจึงหันมาตอบคำถามให้คนถามอย่างไร้อารมณ์พิเศษ
   “เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่เหตุผลที่ทำไมถึงถอนหมั้นกัน  ฉันไม่ขอตอบนะคะ  เพราะคุณย่อมจะเดาได้อยู่แล้วว่าเพราะอะไร..”และถึงน้ำเสียงและสีหน้าจะเรียบนิ่ง หากแต่ดวงตาสีแปลกที่มองหญิงสาวตรงหน้าคงทำให้หล่อนรู้สึกว่าไม่ควรจะถามอะไรอีก  หล่อนจึงเงียบไป  ยอมเดินตามมาเงียบๆ

แคลลี่เคาะประตูห้องที่เป็นจุดหมายปลายทาง  และเป็นไปอย่างที่คิดที่คนมาเปิดประตูให้คือคนตัวใหญ่ที่สุดที่นี่  แองเจล่าทักทายแซนดร้าด้วยการกอดหล่อนและก็ถูกหล่อนหอมแก้มไปตามระเบียบ  วัฒนธรรมตะวันตกชัดเจน  เธอที่เห็นพฤติกรรมแบบนี้มานักต่อนักและทำเองด้วยจึงไม่รู้สึกอะไร  ต่างจากอีกคนที่นั่งตาโตอยู่บนเตียง  ซึ่งเธอเดินเลี่ยงเพื่อนเก่าสองคนที่กำลังพูดคุยกันมาเพื่อเจอกับหล่อน
ร่างสูงโปร่งลดความสูงลงมานั่งลงกับขอบเตียงและเอื้อมมือมาสัมผัสหน้าผาก  ดวงตาสีแดงแสดงความอาทรออกมาเหมือนน้ำเสียงของเธอที่พูด
“คุณหมอกลับไปแล้วเหรอ  เป็นยังไงบ้าง..”
ดิออนยิ้มบางๆกลับมา  ไม่มีทีท่าหนีจากสัมผัสเธอและตอบกลับมาตามที่ถูกถาม
“ผู้พันให้คนไปส่งที่ห้องพักแล้ว  เขาบอกว่าต้องขอเวลาศึกษาตำราก่อนน่ะ  ถึงจะพาฉันขึ้นเขียงได้  บอกว่าสองสามวันหรือไม่ก็เป็นอาทิตย์  ช่วงนี้ก็ให้กินยาแก้ปวดไปก่อน  ถ้ามันปวดมาก  ถ้าไม่มากก็ไม่ต้อง  ให้ทนเอา..  เพราะยามันแรง”
“แล้วตอนนี้ปวดอยู่หรือเปล่าล่ะ”  ถามขึ้นมาและเปลี่ยนตำแหน่งมือตัวเองเป็นดึงมืออีกคนมานวดคลึงเบาๆ หวังให้สัมผัสทำให้หล่อนผ่อนคลายลง  แคลลี่เรียนรู้เรื่องนี้มาจากคอร์สพิเศษที่โรงเรียนเตรียมทหาร  ภาควิชาการแพทย์เบื้องต้น
เด็กสาวส่ายหน้าและพูดออกมายิ้มๆ “ตอนนี้ฉันวิ่งไล่ตีเธออีกยังได้เลยนะ  จะลองไหมล่ะ”
แคลลี่แม้จะแปลกใจกับอารมณ์ที่ดีอย่างเหลือเชื่อของคนพูด  แต่เธอก็รู้สึกดีกับมัน  ดีใจที่ดิออนเป็นเด็กเข้มแข็งและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น  เธอจะได้ลดความห่วงในตัวหล่อนลงและทำงานได้อย่างสบายขึ้นบ้าง
“ไม่ดีกว่านะ  คราวที่แล้ว  ฉันยังเจ็บไม่หายเลย  โดนซ้ำอีกเดี๋ยวก็สมองเสื่อมกันพอดีสิคะ” พูดแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ พาให้อีกคนหัวเราะตาม
แต่ไม่นานสายตาของเด็กสาวก็เปลี่ยนไปมองสิ่งอื่นมากกว่าใบหน้าเธอให้เธอมองตามไป  และพบว่าสองคนที่เธอเกือบลืมมายืนอยู่ตรงนี้แล้ว
“แคล.. ช่วยแนะนำตัวให้เค้าหน่อยสิ” แองเจล่าพูดเหมือนระอาใจคนข้างๆเต็มที่แล้ว  คนมองเลยกระพริบตาปริบๆอย่างงงๆให้  หากแต่สายตาที่มองกันคงสามารถสื่อสารกันได้ว่าต้องการอะไร  แคลลี่จึงพยักหน้าให้ทันที
สาวตาสีแดงนำมือของอีกสาวที่กุมไว้เองกลับไปวางไว้ที่ตักของเจ้าของมัน  ก่อนลุกขึ้นยืนข้างๆสาวผู้มาใหม่  แต่หลีกทางให้หล่อนเข้ามาใกล้เตียงคนไข้มากกว่าตัวเอง
“ดิออน..  นี่คือ “ผู้หมวดแซนดร้า  คูเป้”  เค้าเป็นตำรวจสากลมาจากอเมริกา  แต่คราวนี้มาทำงานพิเศษจ้ะ  ส่วนแซนดร้า..  นี่คือ...”
“คุณหนูดิออน สวอนส์..  ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”  แซนดร้าแทรกขึ้นอย่างไม่สนใจใครและทำให้คนที่นี่ตกใจด้วยการไปคว้ามือคนตัวเองพูดด้วยมาจูบเบาๆ ราวกับอัศวินทักทายเจ้าหญิง
ดิออนทำตาโตและหันไปหาแคลลี่ทันทีเหมือนจะขอความช่วยเหลืออะไรสักอย่าง  หากแต่หล่อนก็ทำเพียงแค่ยิ้มให้และขยับปากบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’ เท่านั้น
แต่มันจะไม่เป็นไรได้ยังไง  ในเมื่อเธออายจนหน้าร้อนไปหมดแบบนี้  แคลนะแคล  ไม่ช่วยกันเลย  แล้วยัยนี่เป็นใคร  ทำไมต้องมาทำแบบนี้ด้วย
“คุณหนูสวยกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้นะคะ”  ตำรวจสาวพูดขึ้นอีกเหมือนได้ใจที่ไม่มีใครว่าอะไร  หากแต่คราวนี้ก็ได้ยินเสียงกระแอมดังขึ้นมาจากด้านข้างและเมื่อหันไปก็พบว่าแองเจล่าส่ายหน้าให้ด้วยสายตาเคร่งขรึม  แต่เขาก็กลับพูดติดตลกออกมาให้รู้สึกว่าแค่พูดเล่น
“อยากติดคุกที่นี่เหรอแซนดร้า  ดิออนยังอายุไม่ถึงเกณฑ์นะ”
“โธ่..ผู้พันคะ  คุณก็รู้นี่คะว่าเรื่องนี้ฉันรอได้  อีกไม่ถึงปีไม่ใช่หรือคะ  ก็อายุสิบแปดแล้ว..”  ประโยคหลังนี้เหมือนจงใจพูดกับคนที่หันกลับไปหาที่มือนุ่มๆยังคาอยู่ในมือเธออยู่
แซนดร้าเผยยิ้มมุมปากเมื่อเห็นเจ้าของมือหน้าแดงก่ำยิ่งกว่ามะเขือเทศสุก  มันเป็นเรื่องสนุกของเธอเลยจริงๆที่ทำคนหน้าแดงได้แบบนี้   และยิ่งสนุกกว่าเมื่อสาวหน้าแดงต่อปากต่อคำเธอกลับมาอย่างไม่กลัว  ขัดกับใบหน้าของหล่อน
“ก็ถูกของหมวดค่ะ  เพราะอีกสามเดือนก็ถึงวันเกิดฉันแล้ว  แต่คุณจะอยู่ที่นี่ได้ถึงวันนั้นเหรอคะ  รอดกลับมาจากบ้านฉันให้ได้ก่อนดีกว่านะ  แล้วค่อยมาคุยกัน  ดีไหมคะ”  ดิออนพูดและดึงมือตัวเองกลับมาจากการถูกจับไว้ด้วยมือกาวของอีกสาว
สาวน้อยรู้สึกสะใจกับสีหน้าตกใจของสาวแปลกหน้า  และรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเหมือนแคลขึ้นไปทุกที  เมื่อก่อนเธอพูดแบบนี้เป็นที่ไหนกันล่ะ นี่คงซึมซับมาจากระยะเวลาเกือบปีที่อยู่กับแคลลี่แน่ๆ  ไม่ผิดเลย
ใช่สิ  เพราะตอนนี้หางตาเธอแอบเห็นสาวตาสีแดงยิ้มอย่างพอใจอยู่ตรงนั้น  ท่าทางแคลจะประทับใจกับคำตอบของเธอน่าดูทีเดียว  ลูกศิษย์เจริญรอยตามอาจารย์มาติดๆแบบนี้นี่นา แต่ก็ใช่ว่า คนอย่างแซนดร้าจะยอมแพ้ใครง่ายๆอย่างที่ใครๆอาจจะคิดไว้  โดยเฉพาะเด็กสาวคนนี้เมื่อเรียวปากสวยเผยยิ้มหวานกระชากใจคนมองออกมาขณะมองตาของเด็กปากกล้าและพูดประโยคหนึ่งออกมาให้หล่อนตาโต
“ถ้าดูถูกกันขนาดนี้  เรามาตกลงกันหน่อยดีไหมคะคุณหนู”
“ตกลงอะไร..” ดิออนพบตัวเองถามออกไปถึงจะตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูกก็ตาม  ใจหนึ่งก็โกรธผู้พิทักษ์สองคนของเธออยู่นะว่า ยืนเฉยให้เธอถูกแกล้งอยู่แบบนี้ได้ยังไง  จำเอาไว้เลยด้วย  ทั้งสองคน
หากแต่กับวันนี้  คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอตกใจมากไปกว่านี้อีกแล้วแน่ๆ เพราะถ้ามากกว่านี้  เธอยินดีให้หมอฉีดยาให้หลับไปจะดีกว่าต้องเจอมัน  ผู้หญิงบ้าอะไร  ทำไมเป็นไปได้ขนาดนี้  แคลยังไม่เคยเป็นเลย..
“ฉันขอรางวัลเป็น..  พาคุณหนูไปเที่ยวหนึ่งวัน  รับประกันให้ด้วยว่าจะไม่ให้ใครมาทำอันตรายได้เลย  โอเคไหมคะ”
เด็กสาวพบตัวเองพาใบหน้าร้อนๆไปมองหน้าสาวที่ยืนมองอยู่เหมือนจะขอความเห็นจากหล่อน  และดิออนก็ต้องขมวดคิ้วให้กับใบหน้าหวานที่ยิ้มแย้มของแคลลี่ที่แสดงกลับมาพร้อมความเห็นที่ทำให้เธอหัวใจเต้นรัว
“ให้ให้เค้าไปเถอะดิออน  ไม่เป็นไรหรอก  ผู้หญิงเหมือนกัน”
โอ้..ผู้หญิงเหมือนกันงั้นเหรอ..  ผู้หญิงเหมือนกันไม่น่ากลัวงั้นใช่ไหม..  แต่ถ้าหล่อนเป็นผู้หญิงแบบเธอ  มันก็น่ากลัวทั้งนั้นแหละ..แคลลี่  ไม่รู้ตัวหรือไงเล่า
ดิออนคิดไปคิดมาอย่างหวั่นๆ  หากแต่ใครอีกคนก็มาช่วยให้เธอใจชื้นขึ้นด้วยคำของเขา
“ไม่เป็นไรหรอกดิออนจัง  เพราะถ้ายัยนี่ทำอะไรเธอตอนไปไหนมาไหนด้วยกันล่ะก็  ฉันจะจับหล่อนเชือดเองกับมือ  ตอนนี้ก็รับปากไปก่อนแล้วกัน  ฉันรำคาญ  จะได้ไปทำอะไรอย่างอื่นซะที”
เจอแบบนี้ก็ต้องยอมรับมันอย่างช่วยไม่ได้และคิดว่าคงจะไม่มีอะไรแย่กว่านี้อีกแล้วล่ะสำหรับชีวิตเธอ  และอีกอย่างยัยหมวดบ้านี่ก็ดูท่าทางไม่มีพิษมีภัยมากนักหรอก  คิดว่าน่าจะจัดการได้อยู่  เพราะก็เคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้วนี่กับคนร้ายๆ เธอยังอยู่มาได้จนป่านนี้เลยนี่นา
“โอเคก็ได้  ฉันรับปากคุณ  แต่คุณก็ต้องให้สัญญากับฉันบางอย่างด้วยนะผู้หมวด”
“อะไรคะ..”  แซนดร้าถามเสียงหวานเหมือนไม่รู้ว่าคนฟังรู้สึกเลี่ยนจนแทบจะอาเจียนออกมาให้ได้แล้ว
ดิออนแอบกลอกตาอย่างระอาและกลั้นใจไม่ให้เอานิสัยปากเสียมาใช้ตอนนี้ให้เสียงาน  ส่วนแองเจล่าก็กำลังยกมือขึ้นบีบขมับเหมือนคนปวดหัวจัดแต่ทำอะไรไม่ได้ต้องปล่อยให้มันเป็นไป
คนที่อยู่ตรงนี้เห็นจะมีอยู่คนเดียวที่ดูจะมีความสุขกับเรื่องนี้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนมันเป็นหล่อนเองที่เป็นสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมา หรือไม่ก็คงเพราะการกระทำของแซนดร้าถูกอกถูกใจตัวเองจริงๆ  แคลลี่กำลังพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้จนหน้าแดง  ดวงตาสีแดงเสมองทางอื่นเหมือนไม่อยากเห็นใครต่อว่าตัวเองกลับมากับท่าทางแบบนี้ที่ดูคล้ายจะเสียมารยาทไปหน่อย  ไปหัวเราะเยาะคนอื่นได้ยังไงเนี่ย  นิสัยไม่ดี..
หากแต่ครั้งนี้ที่ทุกคนที่นี่ได้ฟังคำพูดของเด็กสาว  ก็คงจะต้องตกใจไปตามๆกัน  ไม่ใช่แค่คนที่หล่อนพูดด้วยเท่านั้น  อย่างแน่นอน..
“คุณต้องรับปากฉันว่า  ถ้าเอาอะไรออกมาจากห้องทำงานคุณแม่ฉันไม่ได้ก่อนถูกจับได้  ช่วยเผามันอย่าให้เหลือเลยนะคะ แต่ห้ามทำอะไรคุณพ่อฉันกับน้องสาวฉัน  โอเคไหมคะ”
แซนดร้ากระพริบตาและเปลี่ยนสีหน้าจากขี้เล่นไปเป็นเคร่งขรึมทันใด  เธอมองหาใครอีกสองคนเพื่อขอความเห็นจากพวกเขา  แองเจล่าและแคลลี่พยักหน้าให้อย่างไม่ต้องคิด  คราวนี้เธอจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังและจบมันด้วยจุมพิตที่หลังมือของคนสั่งการ  คล้ายจะใช้มันเป็นคำมั่นสัญญา
“ฉันรับปากค่ะ  และขอใช้เกียรติของตำรวจเป็นประกัน  ฉันจะไม่มีวันผิดสัญญา”


TBC.



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.