web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 31
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 164
Total: 164

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 6 : ความอบอุ่นของทะเล  (อ่าน 2767 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 6 : ความอบอุ่นของทะเล
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:17:09 »
Chapter  6  :  ความอบอุ่นของทะเล

   บรรยากาศยามค่ำคืนของเกาะก็คล้ายๆเดิมเหมือนทุกวันที่มันเป็น  แต่กระนั้นมันก็ยังมีมนต์เสน่ห์ทำให้ใครบางคนต้องออกมาเดินรับลมที่มีกลิ่นน้ำเค็มอยู่แบบนี้  ดิออนรู้สึกรักทะเลขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเมื่อเธอต้องมาใกล้ชิดมันอย่างช่วยไม่ได้  มันเป็นสถานที่ที่ห่างไกลอันตรายของเธอที่คนดูแลเธอต้องการให้เธออยู่กับมัน 
แต่ว่า..เกาะที่สวยงามขนาดนี้เป็นฐานทัพลับของกองทัพได้อย่างไรกันนะ  จะมีรถถังซ่อนอยู่ในซอกหลืบหนึ่งของเกาะนี้บ้างหรือเปล่า  หรือว่ามันอยู่ในถ้ำ  อยากรู้จัง..
ร่างบางเดินเรื่อยๆไปตามหาดทรายขาวที่มีแสงจันทร์เต็มดวงช่วยให้พอมองเห็นทาง รองเท้าของเธอถอดทิ้งไว้เพราะต้องการสัมผัสธรรมชาติจริงๆ แคลลี่เคยสอนเธอว่า  เวลาที่รู้สึกหมดพลังให้เธอพยายามหามันจากการสัมผัสและซึมซับเอาจากผืนโลก  จากธรรมชาติ  มันเป็นแค่กลอุบายให้รู้สึกชื่นชอบการอยู่ที่นี่  หรือเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้กันแน่ 
แต่มันจะเป็นอะไร  ใครจะสนใจกันล่ะ  ในเมื่อมันทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ สมองปลอดโปร่ง  เหมือนไม่มีชิพส์บ้าๆนั่นอยู่เลย..
สาวน้อยถอนหายใจแผ่วเมื่อหวนคิดไปว่าในร่างกายเธอมีอะไรอยู่  ตอนนี้พวกเขากำลังวุ่นวายกันน่าดูขณะที่เธอกำลังเดินอยู่อย่างสบายใจ  แคลกับตำรวจสากลขี้หลีคนนั้นกำลังวางแผนงานกันอยู่อย่างคร่ำเคร่ง  ส่วนผู้พันแองเจล่าก็ไม่เห็นตัวว่าไปอยู่ในส่วนไหนของเกาะ  บางทีเขาอาจจะอยู่แถวๆนี้แอบซุ่มดูเธออยู่ก็ได้  คิดแบบนี้แล้ว มันทำให้ทั้งรู้สึกดีและอึดอัดไปพร้อมๆกัน  เธอไม่ชอบเป็นภาระให้ใคร  แต่มันก็จำเป็น  เพราะถ้าเธอหนี  พวกเขาก็จะยิ่งเป็นห่วง  ใช่ไหม..?
“อากาศดีแบบนี้ทำให้ฉันอยากดื่มนะ”
ดิออนสะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่แทรกความเงียบเข้ามากะทันหัน  หากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวมากนักเพราะรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร  เป็นเขาจริงๆนั่นแหละ  คนตัวสูงเหมือนเสาไฟมาอยู่ใกล้ๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่  ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า  หรือคนเป็นทหารจะสามารถเดินให้เงียบกริบแบบนี้ได้โดยไม่ใช่เรื่องแปลก
“แล้วทำไมไม่ดื่มล่ะคะ  ฉันเห็นคุณมีมันอยู่เต็มบาร์นี่นา”  โต้ตอบเขาไปพร้อมรอยยิ้มที่เขาก็ยิ้มให้และสะบัดเส้นผมยาวสีเงินนั่นเล่น มันคงจะเกะกะน่าดูเมื่อลมพัดแรงขนาดนี้  ผมเธอก็เหมือนกันชอบมาบังหน้าบังตาเสียจริง  แต่อีกหน่อยมันก็จะไม่มีแล้วนี่นา  พอถึงเวลาผ่าตัดที่จะมีขึ้นอีกไม่นาน  เธอก็ต้องโกนหัวเป็นยัยโล้น  โอ้..น่ากลัวจริงๆ คิดแล้วก็ขนลุก
“ฉันขี้เกียจทะเลาะกับแคล  เบื่อเวลาที่เค้าชอบแย่งไปกินเองแล้วก็อ้วกออกมาด้วย  เดี๋ยวมันจะเสียของหมด ยอมอดดีกว่า ของมันแพง” คนตัวสูงพูดยิ้มๆไม่ได้มีท่าทีรำคาญคนที่พูดถึงจริงๆอย่างปากว่า  พาให้คนฟังยิ้มและส่ายหน้าให้
“อย่างคุณกลัวคนอื่นเป็นด้วยเหรอคะ  แคลตัวเล็กกว่าคุณนะ  ทำไมต้องกลัว  ความจริงฉันยังกลัวคุณเลยนะ..ผู้พัน” 
“ก็ใช่..  แต่อะไรบางอย่าง  ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจขนาดตัวหรอกนะคะ  มันอยู่ที่ตรงนี้มากกว่า..”  แองเจล่าชี้มือมาตรงอกตัวเองข้างที่มีหัวใจและมองตาอีกคนอย่างต้องการสื่ออะไรสักอย่าง  หวังให้สาวน้อยจอมฉลาดได้รู้ 
“เธอเป็นคนตัวเล็กที่มีหัวใจแกร่งเกินตัว..ดิออนจัง  ฉันชอบนะ”  พูดจบก็ยื่นมือมาขอมืออีกคนที่ส่งให้แต่โดยดี  สัมผัสที่ได้ทำให้รู้สึกใจหายแปลกๆจนต้องมองหน้าด้วยสายตาเป็นห่วง “เธอไม่ควรมาเดินที่นี่เวลาแบบนี้นะ  กลับเข้าข้างในกันเถอะ  มือเธอเย็นมาก”
“แต่ฉันอยากเดินเล่น  อยากทำแบบนี้ก่อนที่จะไม่ได้ทำอีกนาน  อย่าห้ามฉันได้ไหมคะ” 
คนตัวใหญ่กว่ากระพริบตาก่อนจะยอมพยักหน้าให้เพราะสายตาอ้อนวอนของเด็กสาว  เธอถอนหายใจยาวและดึงมือตัวเองกลับไปนำเสื้อตัวนอกที่ใส่อยู่มาส่งให้หล่อน
“ฉันอนุญาตก็ได้  ถ้าเธอไม่รังเกียจที่จะใส่เสื้อฉัน  โอเคไหม..” 
“ไม่รังเกียจหรอกค่ะ  เสื้อคุณหอมออกนะ  แต่ตัวมันใหญ่เกินไปหรือเปล่าเวลามันอยู่กับฉัน” บ่นไปอย่างนั้นแต่ก็ยอมให้เจ้าของเสื้อใส่มันให้เหมือนเด็กๆ เห็นเขายิ้มและมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูก็รู้สึกดี 
นับเป็นโชคดีของเธอที่ในเวลาที่เลวร้ายที่สุดและในนาทีที่รู้สึกว่าใครๆก็ทิ้งเธอแม้กระทั่งผู้ให้กำเนิดเธอมา  เธอยังมีเขาอยู่ด้วย  เธอไม่ได้อยู่คนเดียว และเธอก็ยังมีแคลที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยจะไม่เป็นห่วงเธอ  เธอรู้สึกถึงมันได้เสมอเวลามองตากัน
“ไม่หรอก  มันจะทำให้เธออุ่นมากขึ้นต่างหาก  ใส่เอาไว้เถอะนะ”
“ทำไมคุณใจดีกับฉันจัง..” 
คนถูกถามกระพริบตาประหลาดใจเล็กน้อยกับคำถาม  แต่ไม่นานก็ยิ้มให้คนถามขอมือหล่อนมาจับอีกครั้งและพาเดินไปด้วยกันเรื่อยๆ  สองคนเท้าเปล่าบนหาดทราย  แองเจล่าทำเหมือนไม่สนใจคำถามนั้นมากนักจนอีกคนแอบเงยหน้าขึ้นมามองเสี้ยวหน้าเฉยเมยของตัวเอง
“บางครั้ง..  เธอทำให้ฉันนึกถึงแคลตอนเด็กๆ”
ดิออนสะดุ้งกับคำตอบที่ออกมาพร้อมสายลมเย็นๆ แต่น่าแปลกที่รอยยิ้มของคนที่เธอมองหน้ากลับทำให้รู้สึกอบอุ่น  ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า  แคลเห็นอะไรในตัวคนเย็นชาคนนี้ที่ทำให้หล่อนรักเขาจนหมดใจ 
“แต่เธอก็เข้มแข็งเกินไป  จนฉันกลัวใจเธอ..”
คนเผลอเหม่อไปสองนาทีกระพริบตาและดึงสติกลับมามองหน้าคนพูดอีกครั้ง  สายตาของดวงตาสีเขียวราวก้อนน้ำแข็งแสดงถึงความจริงจัง  แต่เธอเองกลับยิ้มและหัวเราะออกมา
“เธอขำอะไร..” 
และคนชอบดุก็ดุเธออีกจนได้  เธอจึงต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่ความใจดีของเขาจะหายไป
“ไม่เอาน่า.. ฉันชอบคุณเวลาใจดีมากกว่านะคะผู้พัน  คุณน่ารักจะตายไป  แคลไม่เคยบอกคุณเหรอ..”
ได้ผล  คนหน้าบึ้งกลับมีรอยแดงเป็นริ้วขึ้นบนใบหน้าและหันหน้าหนีเธอ  อาการแบบนี้แปลได้ว่า  เขาเขินเธออย่างแน่นอน  เขาน่ารักดีจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลย
“สงสัยเธอจะอยู่กับแคลมากไปแล้วมั้ง  ติดนิสัยเค้ามาเยอะไปแล้วนะ”  แองเจล่าบ่นอุบอิบแต่ก็ไม่วายจะยิ้มออกมาเวลาที่เด็กตรงหน้ายิ้มมาให้  เธอชอบที่ได้เห็นดิออนอารมณ์ดีและไม่ดื้อแบบนี้แหละ
“ก็ถ้าฉันอยากเห็นคุณยิ้ม ฉันก็ต้องทำเหมือนเค้าไงคะ และคุณก็สบายใจได้เลยนะ  ฉันไม่หนีไปไหนหรอก  ฉันชอบอยู่กับคุณ” คำสุดท้ายของเธอพาให้เขาหันมามองหน้าเธอนานกว่าปกติเหมือนสงสัยว่าเธอคิดอะไร 
“ก้มลงมาหน่อยสิ  ใบไม้ติดผมคุณแน่ะ”  บอกเขาไปแบบนี้แองเจล่าก็ยิ่งทำหน้างงแต่เขาก็ยอมก้มลงมาแต่โดยดี  แต่มันไม่มีหรอกใบไม้ที่ว่า  มีแต่เพียง...
เด็กสาวจูบแก้มขาวของคนตัวสูงเบาๆและก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรเธอก็ยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอเขาเอาไว้บังคับให้อยู่ด้วยกันแบบนี้เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาพูดเรื่องที่อยากจะพูดมานาน
“ฉันชอบคุณนะ  ฉันดีใจที่ได้เจอคุณ  ขอบคุณนะที่คุณมา..”  ดิออนบอกลาคนที่เธอกอดไว้ด้วยจูบเบาๆที่แก้มเขาอีกครั้งและเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม  เธอรู้ดีว่าเขามองตามมาอยู่  จึงหันกลับมาหา  ยกมือขึ้นและโบกให้

“พรุ่งนี้เช้าฉันจะคืนเสื้อให้คุณนะ  ฝันดีนะคะ..ผู้พัน”  พูดแล้วก็เดินขึ้นไปจากหาดกลับสู่บ้านพัก  ทิ้งเขาให้ยืนอยู่คนเดียว  แต่คงไม่นานมั้ง  เดี๋ยวแคลก็มา..

มือบางดึงเสื้อที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองให้มากระชับที่ตัวมากขึ้น  รู้สึกหนาวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเดินเข้ามาในตัวตึกที่ทำด้วยปูน  หรือเพราะไม่มีไออุ่นจากมนุษย์อยู่ข้างๆเธอกันแน่  ใช่สินะ  เนื้อผ้าหรือจะสู้เนื้อกาย  อยากมีคนกอดจัง..
“หนาวขนาดนั้น  ฉันอาสาเป็นผ้าห่มให้เอาไหมคะ”
ร่างบางสะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่ดังมาจากความมืดที่มุมหนึ่งของทางเดินในบ้าน  แต่พอเห็นร่างที่เดินออกมาจากพบกับแสงสว่าง  เธอกลับขมวดคิ้วมองหล่อน  สาวผมบลอนด์ตาน้ำขาวนั่นเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันมีเสื้อคลุมแล้ว  ขอตัวก่อนนะคะหมวด  ฉันง่วง..”  ตอบกลับไปอย่างไม่ไยดีคนฟังและเตรียมจะเดินหนี  ไม่อยากเจอใครตอนนี้เพราะรู้สึกยังไม่พร้อม  แต่เหมือนหล่อนจะไม่อนุญาตเมื่อเสียงยังดังตามมา
“ฉันรู้ว่า  มนต์สะกดของแองเจล่าเข้มแข็งมาก  แต่ไม่คิดว่าเจ้าหญิงอย่างคุณหนูจะหลงไปกับมันด้วยนะคะ  ระวังหน่อยนะ  เล่นกับไฟ  ไฟจะไหม้มือ..”
ประโยคนี้ดึงคนที่จะหนีให้หันขวับกลับมา  ดิออนจ้องหน้าคนตัวสูงกว่าอย่างไม่นึกกลัว  สูงกว่านี้ยังไม่กลัวเลย  นับประสาอะไร..
“คุณพูดอะไรระวังปากหน่อยนะผู้หมวด ถ้าไม่รู้จริงก็กรุณาเงียบไว้จะดีที่สุด เพราะถ้ารู้ถึงหูแคลหรือเขา คุณอาจจะไม่มีโอกาสพูดอีกก็ได้นะ  ฉันขอเตือน”
พูดจบก็จะเดินหนีไปอีกครั้ง  หากแต่ครั้งนี้ก็ต้องชะงักอีกเพราะคนที่ยืนขวางตรงหน้า  ดิออนเปิดปากจะต่อว่าไป  แต่ก็ไม่ทันหล่อน
“ทำไมคุณหนูไม่รู้จักมองคนไม่มีเจ้าของบ้างคะ  รู้ไหมคะว่า  การแย่งของของคนอื่นมันไม่ดี”  แซนดร้าพูดจบไปได้ไม่ถึงนาทีก็ได้ยินเสียงดังสนั่นและรู้สึกว่าหน้าซีกหนึ่งของตัวเองชาไปหมด  นี่เธอโดนตบใช่ไหม..  เป็นไปได้ยังไงเนี่ย..  เป็นไปแล้วล่ะ  กลิ่นเลือดเต็มปากขนาดนี้  ปากแตกแล้วล่ะสิ..
“คุณหนู---” เสียงของตัวเองที่คิดว่าจะถามความหายไปเมื่อรู้สึกว่าถูกดันตัวไปกระแทกผนังตึกจนจุกและพูดไม่ออก  สาวผมบลอนด์อ้าปากค้างระหว่างมองตาสีมรกตที่แข็งกร้าวตรงหน้า  เสียววูบในอกทันที  ยิ่งเวลาที่เจ้าของมันพูดขณะดันอกเธอเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหวได้ก็ยิ่งดูน่ากลัว
“คุณรู้จักฉันดีแค่ไหนกัน  ถึงกล้ามาพูดแบบนี้  ฉันว่าเราอย่ามาเกี่ยวข้องกันดีกว่า  ถ้าคุณอยากอยู่และทำงานอย่างสงบสุข..  นะ..ผู้หมวด”
ตำรวจสาวกระพริบตาปริบๆมองคนตัวบางที่เดินจากไปหลังจากที่ข่มขู่เธอเสร็จเรียบร้อย  แซนดร้าเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า  สาวน้อยที่เธอสนใจเป็นเหมือนที่คิดเอาไว้หรือไม่เมื่อได้เห็นอีกด้านหนึ่งของหล่อนด้วยตัวเอง  ดิออนดูต่างออกไปเมื่อไม่มีแคลลี่หรือแองเจล่าอยู่ใกล้ๆ หล่อนไม่ใช่เจ้าหญิงที่ต้องการอัศวินคุ้มครองเหมือนรูปร่างหน้าตา  แต่น่าสนใจจริงๆ...
เรียวปากสวยเผยยิ้มพึงใจกับความคิดตัวเองแต่ก็สะดุ้งตกใจเมื่อรู้สึกว่ามันเจ็บ  นิ้วเรียวไล้ไปตามความรู้สึกเจ็บที่ได้และนำมันกลับมาดู  ดวงตาสีครามกระพริบมองมันอย่างสนใจ
“มือหนักเป็นบ้า..  แต่ก็น่ารัก  แบบนี้สิสเป็คเลย”  แซนดร้าพึมพำกับตัวเองและเตรียมจะหันกลับห้องนอน  แต่มันก็เป็นอีกครั้งที่เธอตกใจเมื่อพบใครอีกคนยืนอยู่  ดวงตาหล่อนทำให้ขนลุกทันที..สาวลูกครึ่งรัสเซีย..
แคลลี่ยืนกอดอกหน้านิ่งอยู่ห่างจากเธอครึ่งเมตร  สีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ หล่อนดูแตกต่างออกไปกับเวลาที่คุยงานกันในห้องเมื่อครู่  ดวงตาสีแดงเหมือนมีมนต์สะกดราวเมดูซ่าที่คนมองจะต้องถูกสาปให้กลายเป็นหิน  ทำให้เธอได้แต่ยืนนิ่งมองดูหล่อนเดินเข้ามาใกล้ๆ ขยับขาไม่ออก
หัวใจของนายตำรวจสาวเต้นกระหน่ำอยู่ในอกเมื่อเธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับนาทีนี้ดี  แคลลี่จะทำอะไรเธอหรือไม่  ตอนนี้เธอไม่มีอาวุธอะไรจะไปต่อกรหล่อนได้เมื่อถูกริบหมดแล้วตั้งแต่ลงมายังเกาะนี้  และแน่นอนว่าหล่อนมีปืน  แล้วคงไม่ได้สนใจอะไรนักหากจะฆ่าเธอที่นี่เวลาที่ไม่พอใจอะไรสักอย่าง อย่างเช่นสิ่งที่เธอทำลงไปเมื่อครู่  ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นคู่หูของสามีหล่อนมา  หรือหล่อนจะต้องการคนทำงานให้  เพราะงานเพียงเท่านั้นหล่อนย่อมทำมันได้เองหรือหาคนใหม่มาทำแทนเธอ  มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร  ไม่น่าหาเรื่องเลยจริงๆ แต่จะมาตายที่นี่ทั้งที่เพิ่งจะมาเหยียบมันงั้นหรือ  ไม่ยุติธรรมเลย..
“คุณแคล..  คือฉัน---”
“ถ้าคุณอยากคบดิออนจริงจัง   ฉันแนะนำว่าให้คุณพยายามเป็นเพื่อนเค้าให้ได้ก่อน  ทำให้เค้าไว้ใจคุณให้ได้..  ฝันดีค่ะ  แล้วพรุ่งนี้ฉันจะออกมาส่งคุณนะคะ..ผู้หมวด”
แซนดร้ากระพริบตาอย่างไม่เข้าใจ  แคลลี่เดินมาพูดแค่นี้และเดินจากไปหลังจากตบไหล่เธอแรงๆสองสามที  และก็ไม่มองเธออีกเลยระหว่างที่เดินกลับห้องพัก  นี่มันอะไรกัน..
มือเรียวยกขึ้นเกาศีรษะตัวเองอย่างงงๆ ขณะยืนอยู่คนเดียวที่นี่  แต่สุดท้ายแซนดร้าก็ทำได้แค่ยืนส่ายหน้าและเดินกลับห้องพักตัวเองไปศึกษางานต่อ  ตอนนี้เธอควรจะสนใจงานมากกว่าคน  ถ้ายังไม่อยากโดนฝังในเกาะนี้..
--The bodyguard--
“ดิออน..  หลับหรือยัง”  แคลลี่ถามขึ้นหลังเปิดประตูห้องนอนของคนที่เธอถามเข้ามาอย่างถือวิสาสะ  เธอแค่ต้องการมาบอกราตรีสวัสดิ์หล่อนและตรวจดูความเรียบร้อยเหมือนทุกวันที่ทำ  ยิ่งเห็นเหตุการณ์ข้างนอกเมื่อครู่ก็ยิ่งนึกห่วงขึ้นมา  แต่เธอก็ไม่ได้ยินอะไรกลับมา  หรือว่าเด็กสาวจะหลับไปแล้ว
ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในห้องเพราะเห็นโคมไฟบนหัวเตียงยังเปิดอยู่จึงจะมาปิดให้  แต่แคลลี่ก็อยากจะเห็นคนหลับเสียก่อนจึงตัดสินใจเดินเข้ามาดูคนที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้ใกล้ๆ  และแล้วก็ตกใจที่เห็นแก้มขาวเปื้อนคราบรอยน้ำตา  ดิออนร้องไห้เหรอ..     
           
ดวงตาสีแดงกระพริบและถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนดึงโทรศัพท์ขึ้นมากดหาบางคนที่รับสายเธอรวดเร็ว “แอน..มาอยู่กับฉันที่ห้องนี้ได้ไหม..ฉันกลับไปไม่ได้” พูดจบก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งและแทรกตัวลงนอนข้างๆคนที่หลับใหลไม่รู้เรื่องราวดึงร่างหล่อนมากอดไว้และไม่รู้สึกแปลกใจที่เด็กสาวซุกตัวเข้ามาสู่ความอบอุ่นของตัวเธอ  อากาศมันเย็นจริงๆ และเธอก็ยินดีที่จะถูกกอด  ยินดีที่จะมอบไออุ่นให้  เพราะเธอทำได้เท่านี้  มันดีที่สุดแล้ว

แคลลี่หลับตาลงเล็กน้อยให้เวลาสายตาได้ผ่อนคลายและลืมขึ้นใหม่เมื่ออีกคนเปิดประตูเข้ามา  สบตาเขาที่มองมาอย่างเข้าใจ  แองเจล่าเข้ามาประทับจูบเบาๆที่หน้าผากเธอและเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาหันหน้ามามองหน้ากัน  เขายิ้มให้อย่างอบอุ่นเหมือนที่เธอก็ยิ้มตอบไป  เธอสองคนไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันก็เข้าใจกันได้อย่างดี  ไม่กี่นาทีเขาก็หลับตาลงเป็นตัวอย่างให้เธอหลับตาม

มือเรียวขยับลูบศีรษะสาวน้อยเบาๆก่อนประทับจูบลงไป  แล้วถอนหายใจออกมาแผ่วเบา
ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไปเท่าที่เธอต้องการ..  ไม่ต้องกลัวนะ..ดิออน..


TBC.



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.