ตอนที่ ๖
ในที่สุดทั้งสองคนก็พากันมาเดินเล่นสงกรานต์ที่สีลมจนได้ ทั้งพิมพ์รตากับกรกฎใส่เสื้อสีฟ้าลายดอกสีขาวเหมือนกัน เนื่องด้วย พิมพ์รตาเป็นคนเลือก และเห็นว่าให้ใส่เสื้อเหมือนกัน ซึ่งกรกฎไม่อาจปฏิเสธได้เช่นเคย ทั้งคู่ลงความเห็นว่าให้จอดรถไว้ที่ห้าง แล้วใช้รถสาธารณะเดินทางไปสีลมง่ายกว่าไปถนนข้าวสาร
“โอ้โห...คนเยอะจัง” พิมพ์รตาร้องออกมาเมื่อเห็นผู้คนเต็มถนนไปหมด เธอรู้สึกเหมือนเธอกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
“เอาไงคะ จะไปต่อหรือจะกลับ” กรกฎเอ่ยถามยิ้มๆ
“เรื่องอะไรจะกลับ อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว ป๊อดเหรอ” พิมพ์รตาลอยหน้าว่ากรกฎ ยิ้มยั่วกลับไป ก่อนจะเดินนำเข้าไปในถนนที่มีผู้คนเต็มพื้นที่อย่างตื่นเต้น โดยมีกรกฎเดินตามเข้าไปติดๆ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่กรกฎว่าไว้ ด้วยใบหน้า และรูปร่างที่สวยโดดเด่น ทำให้พิมพ์รตาถูกรุมประแป้งทั้งจากผู้ชาย และผู้หญิงที่พบเจอ ต่างขอเข้ามาประแป้งให้เธอ จนใบหน้าขาววอกไปด้วยแป้ง
กรกฎก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่นัก อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เนื่องจากเธอต้องคอยกันพิมพ์รตาไว้ เธอเลยโดนซะเอง ส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็เล่นแบบสุภาพ แค่ประแป้งเสร็จก็เดินจากไปไม่มีอะไรเกินเลย จนเดินมาเจอวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน เมื่อทั้งสองคนกำลังจะเดินผ่าน ก็มีผู้ชายในกลุ่มเดินตรงเข้ามาขอประแป้งพิมพ์รตา ซึ่งเธอก็พยักหน้าอนุญาต
ผู้ชายคนนั้นใช้มือที่มีแป้งอยู่ลูบลงบนใบหน้าของพิมพ์รตา และยังไม่หยุดแค่นั้น มือนั้นกำลังจะลูบผ่านลำคอลงสู่ข้างล่างอย่างช้าๆ พิมพ์รตาใจหายวาบไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ก่อนที่มือนั้นจะเลื่อนผ่านลำคอของเธอลงไป ก็มีมือหนึ่งจับมือของเขาไว้ได้ทัน เป็นมือของกรกฎนั่นเองที่จับมือผู้ชายคนนั้นออก แล้วจับบิดอย่างแรงจนเขาร้องเสียงดังลั่น
“โอ๊ย...! ปล่อยนะโว๊ย”
“เก่งแต่รังแกผู้หญิงใช่ไหม” กรกฎเค้นเสียงใส่ ก่อนจะบิดมือเขาไปไว้ด้านหลัง
“โอ๊ย...ๆ...!” เสียงร้องดังลั่นด้วยความเจ็บมากกว่าเดิม
“ปูปล่อยเขาเหอะนะ” พิมพ์รตาเข้ามาบอกกรกฎอย่างไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่อเห็นเพื่อนในกลุ่มเขากำลังมองมา
“ขอโทษคุณผู้หญิงเดี๋ยวนี้” กรกฎบอกก่อนจะบิดมือเขาแรงขึ้น
“ขะ...ขอโทษ” เขารีบละล่ำละลักบอกกับพิมพ์รตาทันที
“พูดดีๆ หน่อย” กรกฎกระแทกมือเขาลงไปบอกย้ำอีกที
“ขอ...โทษครับ” เสียงผู้ชายคนนั้นอ่อนลงอย่างเจ็บมือและแขนที่ถูกบิดอยู่
“ปล่อยเค้าไปเถอะปู พี่เค้าเป็นตำรวจอย่าให้เค้าเห็นว่าทำแบบนี้อีกนะ ไม่งั้นโดนหนักกว่านี้แน่” พิมพ์รตาบอกกรกฎ แล้วเลยขู่ผู้ชายคนนั้นไว้เลย เพราะกลัวจะพาพวกกลับมาเอาเรื่องพวกเธอทีหลัง
กรกฎปล่อยมือผู้ชายคนนั้น แล้วคว้ามือพิมพ์รตาเดินเลี่ยงไปจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว จนเดินเข้าไปในกลุ่มคนที่กำลังเดินเบียดเสียดกันแน่นหนา เนื่องด้วยเป็นที่ๆ ผู้คนกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เสียงเพลงที่เปิดดังลั่นในบริเวณนั้น มีวัยรุ่นกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกเต้นกันอย่างสนุกสนาน
กรกฎเดินนำแล้วให้พิมพ์รตาเดินตามหลัง พิมพ์รตาจับเอวกรกฎไว้แล้วเดินตามอย่างใกล้ชิด กรกฎจับมือของพิมพ์รตาที่จับเอวเธอไว้อย่างรู้สึกแปลกๆ เธอไม่เคยใกล้ชิดกับใครมากขนาดนี้มาก่อน แม้แต่อ้อมเพื่อนสนิทที่เธอแอบชอบ ก็ไม่เคยได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ คนที่เดินตามหลังดันกันขึ้นมากระแทกหลังของพิมพ์รตา มือที่จับอยู่ที่เอวกลายเป็นสวมกอดกรกฎจากด้านหลัง หน้าอกที่เปียกน้ำแนบอยู่กับหลังของเธอ
กรกฎใจสั่นเหมือนกับหัวใจเธอจะหลุดออกมาข้างนอก ตัวที่เปียกน้ำว่าเย็นแล้ว เธอกลับรู้สึกเย็นยะเยือกมากขึ้นจนรู้สึกว่าตัวเธอสั่น พิมพ์รตาที่กอดอยู่ข้างหลัง รู้สึกว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอจู่ๆ เหมือนจะตัวแข็งทื่อ และเธอรู้สึกได้ว่ากรกฎตัวสั่นเทา
“หนาวเหรอ” เธอเขย่งตัวขึ้นตะโกนใส่หูคนที่ตัวสูงกว่า
“หือ...” กรกฎหันมาเมื่อได้ยินเสียง ทำให้แก้มโดนปากของคนที่กำลังจะพูดอะไรพอดี พิมพ์รตาหน้าร้อนผ่าวเมื่อรู้สึกว่าเธอหอมแก้มคนตรงหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่คนที่ถูกหอมตกใจทำอะไรไม่ถูกมากกว่าจนได้ยินเสียงใกล้ๆ หูอีกครั้ง
“เดินไปสิ หยุดทำไม” เธอรีบก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ พิมพ์รตาเดินตามหลัง ด้วยรอยยิ้มที่ฉีกกว้างอย่างรู้สึกดีกับอาการของกรกฎที่เธอสัมผัสได้ เมื่อหลุดพ้นจากพื้นที่ๆ มีคนแน่นหนาออกมาได้ พิมพ์รตารีบดึงมือคนที่เดินนำหน้าลิ่วไว้ จนคนที่เดินนำไม่ทันได้ระวังตัวเซมาปะทะตัวเธออย่างแรง จนเกือบล้มลงไปทั้งคู่ ดีที่กรกฎขืนตัวไว้ได้ทันแล้วดึงกลับ ทำให้ตัวของพิมพ์รตาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของกรกฎอย่างไม่ตั้งใจ
“เอ้อ...ขอโทษค่ะ” กรกฎเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก
“ไม่เป็นไร ปล่อยได้หรือยังล่ะ” พิมพ์รตาบอกแล้วถามกลับด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะอย่างที่เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน กรกฎรีบปล่อยพิมพ์รตาออกจากอ้อมกอด แทบจะทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ไม่กล้ามองหน้าพิมพ์รตา
“หิวน้ำ ซื้อน้ำให้กินหน่อยสิ” พิมพ์รตาบอกเบาๆ กรกฎรีบเดินไปซื้อน้ำ จากแม่ค้าที่ขายอยู่ใกล้ๆ แล้วเดินมายื่นขวดน้ำให้พิมพ์รตาที่ยืนรออยู่ โดยไม่ได้พูดอะไร
พิมพ์รตารับขวดน้ำมาจากคนที่หลบตาไม่มองหน้า เธอยิ้มๆ เปิดขวดน้ำใส่หลอดดูดลงไปแล้ว เธอกลับยื่นมันมาจ่อให้ที่ปากของคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ กรกฎตกใจถอยห่างออกมาพลางบอก
“คุณดื่มเถอะค่ะ”
“ดูด” เสียงที่บอกสั้นๆ พร้อมกับขวดที่จ่อหลอดมาให้ตรงปากอีกครั้ง กรกฎปฏิเสธดวงตากลมโตที่จ้องมาไม่ได้ จำใจดูดน้ำในขวดช้าๆ ตาจ้องมองตากลมโตเป็นประกายวิบวับที่จ้องเธออยู่ไม่กระพริบ อย่างวูบไหวใจเต้นแรง
เมื่อกรกฎถอนริมฝีปากออกจากหลอดดูดน้ำแล้ว พิมพ์รตายกขึ้นดูดน้ำต่อ ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม กรกฎมองตามหน้าร้อนผ่าว ใจสั่นเต้นแรงเหมือนมีใครเข้าไปนั่งตีกลองอยู่ในใจเธอนับร้อยนับพัน ทั้งสองคนกลับมาถึงรถ ในสภาพที่ตัวเปียกปอนกันทั้งสองคน
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม” พิมพ์รตาเอ่ยถาม เมื่อเห็นกรกฎยกมือกอดอกแน่นด้วยความหนาว
“เปลี่ยนยังไงล่ะ ขึ้นไปห้องน้ำเหรอ” ย้อนถามเสียงสั่น
“เปลี่ยนในรถนี่แหล่ะ เธอรออยู่ข้างนอกก่อนให้ฉันเปลี่ยนก่อน” บอกแล้วผลุบเข้าไปในรถทันที กรกฎถอนหายใจให้กับความเป็นคนง่ายๆ ของพิมพ์รตา ก่อนจะเหลือบมองเข้าไปในรถ รถติดฟิล์มมืดมองไม่เห็นอะไร เธออดยิ้มออกมาไม่ได้ บางทีการที่พิมพ์รตาเป็นคนง่ายๆ กันเองก็ทำให้เธอคลายความอึดอัดไปได้เยอะเหมือนกัน ยกเว้นเวลาที่ต้องอยู่ใกล้มากๆ เธอรู้สึกจะหายใจไม่ค่อยออก ใช้เวลาไม่นานนัก พิมพ์รตาก็ออกมาด้วยชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อวันนี้
“เข้าไปเปลี่ยนได้แล้ว ฉันวางเสื้อผ้าไว้ให้แล้วละ” บอกกรกฎให้รับรู้เมื่อเธอเดินมายืนข้างๆ กรกฎเปิดประตูเข้าไปในรถ เห็นเสื้อทีเชิ้ตกับกางเกงที่ซื้อวันนี้ ที่พิมพ์รตาวางไว้ให้
‘ทำไมต้องจัดให้ด้วยนะ’ อดคิดไม่ได้แต่ก็รีบเปลี่ยนอย่างเร็ว ‘ช้าเดี๋ยวแม่ว่าให้อีก’ ยิ้มขำกับความคิดของตัวเอง จนเปิดประตูออกไปเจอกับสายตาที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว
“ยิ้มอะไร” ถามอย่างแปลกใจที่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่กลับยิ้มหน้าระรื่นออกมา
“เปล่าค่ะ ขอบคุณนะคะที่จัดเสื้อผ้าให้” บอกยิ้มๆ
“ไม่ต้องมายิ้มเลย ที่จัดให้เพราะเธอช้า ขี้เกียจรอหรอกย่ะ ไปได้แล้ว”บอกเสียงแข็ง กลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ต่างคนต่างนั่งเงียบจมกับความคิดของตัวเองจนถึงบ้าน
“ตายแล้วยายพิมพ์ไปทำอะไรกันมาดูสินั่น หัวหูเปียกไปหมด” เสียงป้าน้อมที่เดินออกมาหาหลานสาว ตามเสียงรถที่ได้ยิน
“อ๋อ...พิมพ์ไปเล่นน้ำสงกรานต์มาค่ะคุณป้า พิมพ์ไม่ได้เล่นมานานหลายปีแล้ว สนุกมากๆ ค่ะ” พิมพ์รตาบอกป้าน้อมด้วยเสียงหัวเราะที่บ่งบอกว่าสนุกสนานจริงๆ
“ไป...รีบไปอาบน้ำสระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าไปลูก แล้วกินอะไรกันมาหรือยังล่ะ” บอกด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย
“เรียบร้อยแล้วค่ะป้า หนูไม่ลงมาแล้วนะคะ เหนื่อยมากจะนอนเลย คุณพ่อนอนแล้วเหรอคะ”
“พ่อเค้าเพิ่งกลับมา แล้วเห็นว่าออกไปอีกแล้ว มีนัดคุยเรื่องงานกัน ช่วงนี้พ่อเค้ายุ่งๆ หนูก็กินยากันไว้สักเม็ดนะลูก เดี๋ยวไม่สบายไป” ป้าลูบหัวที่เปียกชื้นของหลานสาวอย่างรักใคร่ห่วงใย
“ค่ะป้า” รับคำก่อนเดินขึ้นห้องไป
“ปู...ขอบคุณนะ วันนี้ฉันสนุกมาก” เอ่ยบอกคนที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้อง
“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” บอกยิ้มๆก่อนจะเดินเข้าห้องไป
กรกฎอาบน้ำสระผมเสร็จ เดินมายืนเช็ดผมอยู่ตรงระเบียงหลังห้อง นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้เธออดยิ้มออกมาไม่ได้ ‘คนอะไรไม่รู้ ชอบออกคำสั่ง แต่ก็น่ารักดี’ ขณะที่กำลังคิดเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
“ก๊อก ๆๆ” เดินออกไปเปิดอย่างแปลกใจ
“อ้าว คุณมีอะไรคะ” เอ่ยถามเมื่อเห็นพิมพ์รตายืนอยู่หน้าประตู
“เอายามาให้ กินกันไว้ก่อน วันนี้เจอทั้งน้ำทั้งแดด เดี๋ยวจะไม่สบาย”บอกพร้อมกับยื่นยาให้
“ขอบคุณนะคะ คุณไม่น่าต้องลำบากเลย”บอกเสียงแผ่ว อย่างรู้สึกดีในความห่วงใยที่ได้รับ
“อย่าลืมกินล่ะ” สำทับเสียงแข็ง
“ค่ะ” รับคำเสียงเบา ดันประตูปิด แต่ประตูถูกดันไว้ ก่อนที่ใบหน้าของพิมพ์รตาจะยื่นเข้ามา
“ฝันดีนะ” แล้วรีบผลุบหายไปอย่างรวดเร็ว
“คะ” กรกฎแปลกใจ มองยาที่ถืออยู่ในมือก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
‘เราทำบ้าอะไรไปเนี่ย อยู่ๆ ไปบอกเค้าฝันดี’ พิมพ์รตารู้สึกงงๆ กับการกระทำของตัวเอง ก่อนจะยิ้มให้ตัวเองอย่างขำๆ วันนี้เธอทำอะไรแปลกๆ หลายอย่าง แต่เธอรู้สึกดีและมีความสุขจัง