web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 39
Most Online Ever: 601
(21 กันยายน 2024 เวลา 08:04:58 )
Users Online
Members: 0
Guests: 37
Total: 37

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ ๑๒  (อ่าน 2619 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
ตอนที่ ๑๒
« เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 12:42:34 »
ตอนที่ ๑๒

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ท่ามกลางความเย็น ในยามเช้าของฤดูฝนที่อบอวลไปด้วยไอหมอก สายธารพลิกตัวดึงคนที่นอนข้างๆ เข้ามาโอบกอด กระซิบข้างหูเบาๆ 
“อิงจ๋า...ตื่นได้แล้ว เราจะไปใส่บาตรข้าวเหนียวกัน เดี๋ยวไม่ทันนะคะ”
“อื้อ...กำลังอุ่นสบายอยู่เลยค่ะ”อิงฟ้าค่อยๆ ลืมตา ส่งเสียงอู้อี้  แล้วขยับตัว เบียดซุกเข้าสู่อ้อมกอด ของคนรักอย่างออดอ้อน
“ตื่นได้แล้ววัยรุ่น...”สายธารจูบแก้มนวลเบาๆ ริมฝีปากละเรื่อยไปถึงใบหู ก่อนจะเป่าลมพรวดเข้าไป พร้อมกับเสียงหัวเราะร่วน เมื่อได้เห็นอาการสะดุ้ง ตกใจของอิงฟ้า
“พี่อ่า...แกล้งอิงทำไมคะ”บ่นเสียงดัง แต่ดวงตายังหลับสนิท
“อยากขี้เซาทำไมล่ะ งั้นอิงนอนไปก่อนละกันนะคะ เดี๋ยวพี่อาบน้ำแล้ว จะออกมาปลุก”อิงฟ้าได้แต่พยักหน้าหงึกๆ

สายธารลุกขึ้น บิดไล่ความขี้เกียจ 2-3ที มองดูอิงฟ้าที่นอนขดตัวเหมือนเด็กๆ ยิ้มอย่างเอ็นดู เข้าไปหอมที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะตัดใจ เดินเข้าไปอาบน้ำ ถ้าเธอยังขืนโอ้เอ้ เช้านี้น่าจะได้ทำอย่างอื่นมากกว่าการใส่บาตร อย่างที่ตั้งใจไว้แน่ๆ
หลังจากเธออาบน้ำเสร็จ เธอก็ต้องทั้งปลุกทั้งดึงรั้ง จนแทบจะอุ้มอิงฟ้า ให้ลุกไปอาบน้ำ
“จะลุกไปอาบดีๆ หรือจะให้พี่อาบให้ เหมือนเมื่อคืนคะ”
“ก็อิงยังอยากกอดพี่อยู่นี่ค่ะ”อิงฟ้ายังอิดออด
“ยังมีเวลาได้กอดอีกตลอดชีวิตแหล่ะ อย่าเบื่อคนแก่ก่อนละกัน”สายธารบีบจมูกอิงฟ้าเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่เบื่อค่ะ ใครบอกว่าแก่ ยังวัยรุ่นอยู่เลยไม่ใช่เหรอ...”อิงฟ้าหน้าแดงขึ้น เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน รู้สึกเขินอาย จนต้องวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ
“พูดเองหน้าแดงเอง คนอะไร...”สายธารล้อ พร้อมเสียงหัวเราะตามหลัง
“พี่แหล่ะ ทำเค้า”แง้มประตูออกมาต่อว่า พร้อมกับขว้างค้อนวงใหญ่ๆ ให้ ก่อนจะรีบผลุบหายเข้าไปทันที

เมื่ออิงฟ้าแต่งตัวเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันเดินลงไปหน้าโรงแรม ซึ่งที่นั่นพนักงาน ได้จัดโต๊ะสำหรับวางของ และปูเสื่อไว้ให้นั่งรอพระพร้อมแล้ว มีนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ที่นี่ นั่งรอกันประปราย ด้วยยังเช้าอยู่มาก สายธารเดินไปบอกพนักงาน ให้จัดเตรียมข้าวเหนียว ที่จะใส่บาตรให้ 2 ชุด เพียงไม่นานข้าวเหนียวร้อนๆ ที่บรรจุอยู่ในกระติ๊บน้อย ก็ถูกนำไปวางไว้ให้บนโต๊ะ เหลือแต่รอพระเดินมาเท่านั้นเอง

ระหว่างที่รอพระ สายธารชวนอิงฟ้า ให้เดินออกไปด้านหน้าโรงแรม มองออกไปทางด้านแม่น้ำโขง ยามเช้าตรู่แบบนี้ มองเห็นไอหมอกจางๆ ในหน้าฝน  ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือแม่น้ำ จนมองไม่เห็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่อยู่ห่างกันแค่แม่น้ำโขงกั้น อิงฟ้าไม่รอช้าสวมวิญญาณช่างภาพ ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพความประทับใจ ในยามเช้าไว้อย่างรวดเร็ว แถมรูปยามเผลอ ของสายธารอีกหลายรูป เธอมองดูจอ ภาพแล้วยิ้ม อย่างพึงพอใจ

ไม่นานนักก็เห็นผ้าเหลืองปลิวไสว เดินเป็นแถวมาแต่ไกล ทุกคนก็รีบหยิบจับกระติ๊บข้าวเหนียวของตัวเอง นั่งประจำที่เพื่อรอใส่บาตรพระ พนักงานบอกนักท่องเที่ยวให้รู้ ถึงวิธีการใส่บาตรของที่นี่ ซึ่งปกติจะนิยมใส่แต่ข้าวเหนียว ส่วนกับข้าวหรืออย่างอื่น จะนิยมนำเอาไปถวายที่วัดตามหลังอีกที ถ้านักท่องเที่ยวคนไหนไม่สะดวกไปถวายที่วัด ก็ให้ฝากทางโรงแรมไปได้

วิธีการใส่บาตร ต้องหยิบข้าวเหนียวออกมาเป็นคำๆ ห้ามปั้นเป็นก้อน หยิบขนาดเท่ากับที่เราทานกัน ใส่ลงไปในบาตรพระ เวลาใส่ก็ให้ถอดรองเท้าแล้วนั่งคุกเข่า พอพระเดินผ่านก็หยิบข้าวเหนียว ใส่ลงไปในบาตรได้เลย พอพระเดินมาถึง สายธารหยิบข้าวเหนียวใส่ลงไปในบาตรทันที อิงฟ้าทำตาม ก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งข้างๆ ยิ้มน้อยๆ สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

“ขอบคุณนะคะที่ชวนอิงใส่บาตร รู้สึกดีจังเลยค่ะ อยู่บ้านเราไม่ค่อยได้ใส่เลย แล้วที่ดีใจสุดๆ ...ได้ใส่บาตรร่วมกันกับพี่...”อิงฟ้ากอดแขนชวนคุย หลังจากที่ใส่บาตรเสร็จแล้ว ชวนกันเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ริมแม่น้ำโขง
“พี่ก็ดีใจค่ะ ที่ในเวลาแบบนี้มีอิงอยู่ข้างๆ”สายธารยื่นหน้าหอมไปที่แก้มสาวเจ้าเบาๆ อย่างชื่นใจ

“อุ้ย...อายชาวบ้านชาวช่องเค้าค่ะ”อิงฟ้าหน้าแดงขึ้นมาทันตาเห็น
“อายทำไมล่ะ คนรักกัน ทีเมื่อคืนไม่เห็นจะอาย”ประโยคหลังลดเสียงเบาลง แต่คนที่เดินอยู่ข้างๆ ก็ได้ยินชัดเจน เลยบิดลงไปเบาๆ ที่แขน แต่คนที่โดนบิดกลับร้องเสียงดังลั่น
“โอ๊ย....!!!”ร้องดัง จนคนที่เป็นฝ่ายบิด หน้าเสียตกใจเอง
“เจ็บเหรอคะ อิงขอโทษ”บอกเสียงอ่อย อย่างเป็นห่วง
“ล้อเล่น...ไม่เจ็บ”บอกพร้อมกับส่งสายตากรุ่มกริ่มใส่
“พี่นี่น๊า...”รำพึงเบาๆ ก่อนจะเอียงหน้า ซบลงไปบนแขนของคนข้างๆ
“อยากอยู่กับพี่ แบบนี้ไปนานๆ จัง”
“พี่ก็เหมือนกันค่ะ อยากอยู่กับอิงแบบนี้นานๆ เหมือนกัน แต่เราก็มีหน้าที่ๆ จะต้องไปทำนี่นา เอาไว้เวลาอิงไปถ่ายรูปที่ไหนอีก พี่จะตามไปกับอิงทุกครั้งเลย...ดีไหม”สายธารนำเสนอ พร้อมกับยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย ฉายแววแห่งความสุขออกมาให้เห็น อย่างไม่อาจปิดบังซ่อนเร้น

“จริงๆ นะคะ พี่พูดแล้วนะ อิงดีใจจังเลยค่ะ การเดินทางของอิง จะไม่เดียวดายอีกต่อไปแล้ว”อิงฟ้าดีใจ จนเกินจะบรรยาย
“จริงสิ...ว่าแต่เราถ่ายรูปได้เยอะหรือยังค่ะ ถ่ายทั่วทุกมุมหรือยัง”สายธารถามอย่างอ่อนโยน เธอรู้สึกเหมือนกับอิงฟ้า เป็นน้องตัวน้อยๆ ที่เธออยากจะดูแล และปกป้องไปตลอดเวลา
“ยังเลยค่ะ เมื่อวานอิงมาถึง ถ่ายได้ไม่เท่าไหร่เอง ใจมันคิดถึงแต่พี่ ไม่อยากจะทำอะไรเลย”อิงฟ้าทำเสียงออดอ้อนอีก ปกติเธอเป็นคนที่เข้มแข็ง ทำอะไรได้ด้วยตัวเองมาจนชิน แต่พออยู่ใกล้ๆ สายธาร เธอกลับอยากจะทำอะไรไม่เป็น อยากจะเป็นคนอ่อนแอ ให้สายธาร ดูแลและเอาใจใส่เธอบ้าง
“งั้น...เดี๋ยวอิงจะไปถ่ายแถวไหน มาเดี๋ยวพี่พาไปเอง”สายธารบอกก่อนจะจูงมืออิงฟ้า พาเดินกลับไปยังโรงแรม เพื่อเช่าจักรยาน ซึ่งเป็นพาหนะที่ดีที่สุด ที่จะนำพาไปสัมผัส เสน่ห์ของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้
“อิงว่าเอา 2 คันดีกว่าค่ะ พี่จะได้ไม่เหนื่อยมากนะคะ”อิงฟ้าเสนอความคิด เพราะระยะทางรวมๆ กันแล้ว น่าจะไกลเหมือนกัน แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ เธอไม่อยากให้สายธาร ต้องเหนื่อยมากจนเกินไป
“ตามใจอิงค่ะ กลัวพี่หมดแรงเหรอ”สายธารหันมายิ้มให้ ก่อนจะกระซิบเบาๆ ในตอนท้าย ล้ออิงฟ้า
“บ้า...ไม่ต้องทำเป็นมารู้ทันเค้าเลย”ต่อว่าด้วยใบหน้าแดงเข้ม สายธารมองตาหวานเยิ้ม อย่างรู้สึกรักคนที่อยู่ตรงหน้า
“ไปกันเถอะค่ะ...ก่อนจะไม่ได้ไป”อิงฟ้าบอกอย่างรู้ทันความคิดสายธาร ก่อนจะถีบจักรยานนำหน้าไป สายธารถีบตามไปจนทัน และขึ้นไปเคียงข้างกัน

“พี่หิวหรือยังคะ ไปหาอะไรทานกันที่ตลาดดีไหม เผื่อมีอะไรแปลกๆ”อิงฟ้าเอ่ยชวน เวลาที่มาตามต่างจังหวัด เธอมักจะชอบไปตามตลาดชาวบ้าน เพราะที่นั่นมักจะมีของแปลกๆ ประจำท้องถิ่นให้ได้ดู และลิ้มลอง
“ตามใจอิงเลยค่ะ พี่ยังไงก็ได้ ว่าแต่ไปถูกเหรอ”
“ถามชาวบ้านไม่น่าจะยากค่ะ”อิงฟ้าบอก ก่อนจะจอดรถจักรยาน สอบถามชาวบ้านข้างทาง ชาวบ้านชี้ทางให้อย่างใจดี คนต่างจังหวัดใจดี และยิ้มแย้มให้คนแปลกหน้าเสมอ ต่างกับคนในเมืองใหญ่ ขนาดบ้านหลังคาติดกัน พูดกันแทบจะนับคำได้

ไม่นานนัก อิงฟ้าก็นำทางพาสายธารมาถึงตลาดประจำเมืองเชียงคานจนได้ ซึ่งตลาดสดในยามเช้าดูคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของกัน ทั้งสองคนต่างพากันเดินวนไปทั่วตลาด ชี้ชวนกันให้ดูของแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็น ใบหน้ายิ้มแย้ม เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

จนเดินมาถึงร้านกาแฟร้านหนึ่ง สะดุดตากับปาท่องโก๋ยัดไส้มีหลายไส้ให้เลือกทาน เช่นหมูสับ หมูหยอง ผักรวม ซึ่งทุกไส้จะมีวุ้นเส้นใส่ด้วย ดูแปลกจากปาท่องโก๋ตัวเล็กๆ ทั่วไปที่เคยทาน สายธารสั่งมาลอง พร้อมกับกาแฟกลิ่นหอมฉุย นั่งรอนานพอสมควร เพราะมีคนยืนรอกันเยอะอยู่แล้ว ในที่สุดทุกอย่างก็ถูกยกมา วางไว้ให้ตรงหน้า

“หอมน่าทานจัง อื้อ...อร่อยด้วยค่ะ”อิงฟ้าบอก หลังจากหยิบใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วเลยหยิบมาป้อนให้สายธารด้วย
“แป้งก็เหมือนปาท่องโก๋เนอะ แต่มีไส้แล้วยังมีน้ำจิ้มด้วย แต่พี่ว่าทานแต่ปาท่องโก๋กับกาแฟ ก็อร่อยดี”สายธารบอก หลังจากลองทานไปแล้ว

เมื่ออิ่มหนำแล้ว สองคนก็ปั่นจักรยานกลับทางเดิม อาจเพราะยังเช้าอยู่ ร้านรวงในตัวเมืองเชียงคาน ยังปิดประตูสนิท เงียบสงบ บ้านเรือนในเชียงคาน จะเป็นบ้านไม้เก่าๆ ที่ปลูกเรียงรายกันไปตามริมถนน เป็นเอกลักษณ์ และเสน่ห์ของเมืองเชียงคาน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้เก่าอายุหลายสิบปี อิงฟ้าแวะถ่ายรูปบ้านไม้เก่าแก่ เป็นระยะๆจนถึงโรงแรม เพื่อจ้างวานรถออกนอกเมืองไปตามแหล่งธรรมชาติที่ขึ้นชื่ออย่างแก่งคุดคู้ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงคาน ออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร

สิ่งแรกที่ทำให้ทั้งคู่ตื่นเต้นก็คือ เห็นหาดทรายของน้ำโขง ที่ยื่นตัวไปกลางลำน้ำ มองไปด้านขวาก็เจอกับหาดทราย รูปร่างเป็นวงกลม เหมือนธรรมชาติ เล่นตลกอะไรสักอย่าง สำหรับเส้นรอบวงของหาดทรายแก่งคุดคู้  ถ้าพิจารณาถึงความกว้างที่กระแสน้ำวน ได้สร้างขึ้น มองไปข้างหน้า ซึ่งเป็นกระแสน้ำโขงเชี่ยวกราด กำลังไหลวนตัวและไหลออกสู่ช่องทางน้ำแม่น้ำโขง  ซึ่งปรากฏการณ์ของการไหลของกระแสน้ำ ในแม่น้ำโขงเกิดจากการขวางตัวของแก่งหิน การเปลี่ยนทิศทางของน้ำ ทำให้เกิดการไหลวน ทำให้พื้นทรายก้นแม่น้ำ เป็นพื้นที่วงกลมเป็นหลุมลึก และหาดทรายรูปวงกลมขนาดใหญ่ เป็นเสน่ห์ของแก่งคุดคู้ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมความงาม

ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง ช่วงที่ทั้งสองคนไปจะมีน้ำเยอะมาก มองไม่เห็นแก่งเลย แต่ก็สวยงามมาก ชาวบ้านบอกว่าช่วงน้ำแห้ง จะมีก้อนหินแม่น้ำหลากหลายขนาด เรียงตัวสวยงามอยู่เต็มไปหมด

“ทำไมอิงถึงเลือกมาที่นี่ ช่วงหน้าฝนล่ะ พี่เห็นส่วนใหญ่เค้าจะมากันช่วงหน้าหนาว”สายธารถามอย่างสงสัย
“อิงอยากนำเสนอ แบบที่แปลกใหม่บ้างค่ะ คนจะเห็นในแบบหน้าหนาวกันเยอะแล้ว อิงก็อยากให้คนลองเที่ยวหน้าฝนดูบ้าง ไม่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันใช้”อิงฟ้าบอกให้สายธารได้รับรู้ ถึงความคิดที่แตกต่างของเธอ
“ก็จริงนะ พี่ว่ามาหน้าฝนแบบนี้ เข้าถึงท้องถิ่นมาก เงียบสงบภาพวิวทิวทัศน์ อาจจะสวยสู้หน้าหนาวไม่ได้ แต่ไม่ต้องแออัดยัดเยียดกัน เวลาถ่ายรูปก็ไม่ต้องมีคนแปลกหน้า ให้เรามานอนคิดว่า ใครน๊า...เรารู้จักเธอด้วยเหรอ...”สายธารคล้อยตามความคิดของอิงฟ้ายิ้มๆ
“โชคดีนะคะ ที่วันนี้ฝนไม่ตก และอากาศไม่ร้อนมาก อิงเลยได้ภาพสวยๆ”อิงฟ้าบอกหลังจากถ่ายรูปมุมต่างๆ จนพอใจ เพื่อไปคัด เลือกลงหนังสืออีกที

“โอย...อิงมัวแต่ถ่ายรูปไม่ได้ดูเวลาเลย จนจะบ่ายแล้ว พี่คงหิวแย่ ไม่เตือนอิงล่ะค่ะ อิงขอโทษ”อิงฟ้าพร่ำบอกอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ได้หิวอะไรมากมาย ว่าแต่อิงเหอะหิวแล้วสิ เราจะทานที่นี่ หรือกลับเข้าไปทานที่เชียงคานดี”สายธารพูดให้อิงฟ้าคลายความวิตกกังวล ก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วงไม่แพ้กัน
“อิงว่าทานที่นี่ก็ได้ค่ะ บรรยากาศดีด้วย กว่าจะนั่งรถไปถึง พี่หิวแย่”
“เหรอคะ พี่หรืออิงกันแน่ที่หิวแย่”สายธารถามอย่างล้อเลียน
“อิงหิวก็ได้ค่ะ ไปกันเถอะ ร้านโน่นวิวสวยดีค่ะ”อิงฟ้าชี้มือให้สายธารดู ร้านที่อยู่ใกล้จุดชมวิว สายธารพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะเดินจูงมือกันไปยังร้านที่เลือก

คนขายแนะนำเมนู ปลานิลพัน เป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน ซึ่งเป็นปลาแม่น้ำโขง
 “มาถึงแม่น้ำโขงแล้ว คงต้องทาน ตามที่เค้าแนะนำแล้วล่ะค่ะ”
 “ดีค่ะ ทานปลา อิงจะได้ฉลาดๆ ทันพี่”อิงฟ้าบอกทีเล่นทีจริง สายธารยิ้มๆ ก่อนจะตอบโต้
“ยังไงคงตามไม่ทันหรอกค่ะ ตั้ง 12 ปี”
“แค่ 12 ปีต่างหากค่ะ”อิงฟ้าเถียงเบาๆ

ไม่นานสิ่งที่สั่งก็มาถึง จากชื่อตอนที่สั่งไป สองคนยังนึกกันไม่ออกว่าหน้าตาจะออกมา เป็นแบบไหน ได้แต่จินตนาการกันไป จนกระทั่งเมื่อมันมาวางอยู่บนโต๊ะ ก็ถึงบางอ้อกัน ปลานิลพันเป็นปลานิลทอดตัวเขื่อง ที่มีเครื่องเคียงมากมายทั้งตะไคร้ซอย มะเขือเทศหั่นจิ๋ว ขิง หอมแดง กระเทียมสด ขนมจีน และที่ขาดไม่ได้คือ ใบชะพลูที่จะนำมาพัน ราดด้วยน้ำราดรสเด็ด วิธีการรับประทานก็เหมือนกับการรับประทานเมี่ยงคำ เริ่มจากนำใบชะพลูมาคลี่ออก ใส่เครื่องเคียงตามใจชอบ ตามด้วยการตักเนื้อปลานิลขาว ๆ ร้อน ๆ ขนาดพอดีคำ ใส่ลงไป ปิดท้ายด้วยน้ำราด รสชาติเปรี้ยวหวานมันเค็ม อิงฟ้าสนุกกับการทำให้สายธารมากกว่า

“ขอบคุณค่ะ อิงทานเถอะพี่ทำเองได้”สายธารบอก เมื่อเห็นว่าอิงฟ้าเอาแต่ทำให้ตัวเอง จนแทบไม่ได้ทาน
“อิงก็ทานอยู่นี่ไงค่ะ แต่อิงก็อยากทำให้พี่ด้วย อยากดูแลพี่บ้าง ไหนพี่บอกว่าจะให้อิงดูแลไงคะ”
“ค่ะ... ค่ะ...ตามสบายเลยค่ะ พี่จะนั่งเฉยๆ รอทานล่ะกัน” สายธารยกมือกอดอก มองดูอิงฟ้าที่จับโน่นนี่ ใส่ให้อย่างสนุกสนาน

“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าทานแค่ปลาอย่างเดียว จะอิ่มได้ขนาดนี้”อิงฟ้าลูบท้องตัวเองไปมา หลังจากขึ้นมานั่งในรถ เตรียมตัวเดินทางเข้าเมืองเชียงคานอีกครั้ง

กลับมาคราวนี้ ร้านรวงที่เห็นปิดเงียบในตอนเช้า เริ่มเปิดกันคึกคักแล้ว ยังไม่ทันจะได้เดินเที่ยวเล่น ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาสร้างความชุ่มฉ่ำ แก่เชียงคานเสียแล้ว ทั้งคู่เลยกลับโรงแรมกันก่อน รอให้ฝนหยุดเป็นการพักผ่อนไปในตัว

“เหนื่อยเหรอคะ...”อิงฟ้าถามสายธาร ซึ่งเข้ามาถึงห้องพัก เธอถึงกับนอนแผ่หลาบนเตียงนอน
“นิดหนึ่งค่ะ อาจเป็นเพราะตื่นเช้าด้วยมั๊ง”สายธารบอก ทั้งๆ ที่หลับตาสนิท
“มาค่ะ...อิงนวดให้”อิงฟ้าคลานขึ้นไป จับขาสายธารมาบีบๆ นวดๆ แต่สายธารกลับดึงรั้งอิงฟ้า ให้ลงนอนเคียงข้าง พร้อมกับโอบกอดไว้หลวมๆ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ นอนพักสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ ฝนตกอากาศเย็นๆ มานอนกอดกันดีกว่า”อิงฟ้าซุกตัว อยู่ในอ้อมกอดของสายธารอย่างเต็มใจ
นานเท่าใดไม่รู้ ที่ทั้งสองคนผล็อยหลับไป ด้วยความอ่อนเพลีย บวกกับอากาศที่เย็นสบาย ตื่นมาอีกทีก็เย็นย่ำแล้ว

“ที่รักถึงเวลาสำรวจเชียงคานกันแล้วค่ะ”อิงฟ้าเอ่ยทักทายสายธารที่ตื่นลืมตา เธอตื่นได้สักพักแล้ว แอบสำรวจใบหน้าของคนรัก ยามหลับตาพริ้ม
“ตื่นนานแล้วเหรอคะ”สายธารถาม ทันทีที่เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็เห็นอิงฟ้า กำลังจ้องมาที่เธออยู่พอดี
“สักพักหนึ่งค่ะ”
“ทำไมไม่ปลุกพี่ล่ะค่ะ”
“ปลุกทำไมล่ะ”
“แอบมองเค้าเหรอ”สายธารแกล้งถาม พร้อมกับกอดรัดอิงฟ้าแน่นกว่าเดิม
“กำลังคิดว่าจะลักหลับพี่ท่าไหนดี...”อิงฟ้าตอบกลั้วเสียงหัวเราะ
“ลักหลับมันจะสนุกได้ยังไงจ๊ะ มันต้องเอาตอนตื่นแบบนี้นี่”สายธารแกล้งกดจูบ ลงไปบนแก้มนวลแรงๆ
“ทำเป็นเก่ง เดี๋ยววัยรุ่นก็เดินไม่ไหวหรอก”อิงฟ้าดิ้นหนีพร้อมเสียงหัวเราะ
“ดูถูกเหรอ...”
“ก็ไม่ได้ดูผิดนะคะ...”อิงฟ้าพูดไม่ทันจบ สายธารประกบปากปิดปากเธอ ให้เงียบสนิททันที ชอนไชลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ บดริมฝีปากลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างนุ่มนวล และรุนแรงดูดดื่มมากขึ้น ตามแรงเร้าแห่งหัวใจที่ปรารถนา อย่างเนิ่นนาน จนเมื่อริมฝีปากถอนออกห่างจากกัน สายตาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอิงฟ้า ด้วยความรักความเสน่หา... แล้วเธอก็เห็นความรักในดวงตาของอิงฟ้าตอบกลับมาเช่นกัน

“พี่ธารจ๋า...”เสียงเรียกแผ่วเบา คล้ายคนไม่มีแรง
“จ๋า...”เสียงที่ตอบกลับมา เบาไม่แพ้กัน แต่แฝงไปด้วยความหวานรัญจวนใจคนฟังยิ่งนัก
“อิงว่า เราออกไปข้างนอกกันเถอะค่ะ ก่อนที่จะไม่ได้ไป อิงทำงานไม่เสร็จ ไม่ยอมให้พี่กลับกรุงเทพฯ นะคะ”อิงฟ้าถอยห่างออกมาไกลจากสายธาร ก่อนเอ่ยอย่างเขินอาย
“ว้า...วัยรุ่นเซ็งเลยอ่ะ”สายธารแกล้งทำเสียงหงุดหงิด ด้วยใบหน้ายั่วเย้า
“ไปทำงานให้เสร็จ ไม่ต้องรีบโชว์ก็ได้ค่ะวัยรุ่น คืนนี้ยังอีกยาวนาน...”อิงฟ้ายั่วเย้า กลั้วเสียงหัวเราะ
“ก็ได้ค่ะ รีบไปรีบกลับนะคะ...พี่ไม่อยากอยู่ห่างอิงเลยซักวินาที อยากกอดแบบนี้ตลอดเวลา”สายธารพร่ำบอกคำหวาน
“ค่ะ ไปกันจะได้รีบกลับ”อิงฟ้ายิ้มตอบรับ พร้อมกับดึงมือสายธารให้ลุกขึ้น ก่อนจะโอบกอดกันออกจากห้องพัก เดินออกมาจากโรงแรม ก็เจอกับอากาศตอนเย็น แบบฉ่ำๆ เพราะฝนเพิ่งหยุดตก

“สูดหายใจเต็มปอดดีจริงๆ อากาศดีจังเลยนะคะ”อิงฟ้าสูดหายใจลึก เอาความสดชื่นเข้าปอด ด้วยสีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
“ใช่ค่ะ เราเดินไปเรื่อยๆ ดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องรีบร้อน”
“ค่ะ เดินไหวใช่ไหมคะ”อิงฟ้าอดเย้าแหย่สายธารไม่ได้
“เดี๋ยวก็รู้ว่าไหวไม่ไหว”สายธารตอบยิ้มๆ ก่อนจะทำท่าเดินกระฉับกระเฉง ประชดประชัน เรียกเสียงหัวเราะจากอิงฟ้า ที่เดินตามหลัง...




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.