แสงอาทิตย์ที่กระทบเข้ากับเปลือกตาช่วยปลุกคนที่กำลังหลับสบายให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆอาจเพราะเมื่อคืนที่เอาแต่ใช้ความคิดทำให้มัทนารู้สึกว่ายกเปลือกตาไม่ขึ้นแต่แล้วในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จพร้อมกับสายตาที่ปะทะเข้ากับหน้าของบุคคลที่เป็นสาเหตุทำให้นอนไม่หลับ
มัทนากระพริบตาถี่ๆก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งเพราะคิดว่าสิ่งที่เห็นอาจเป็นแค่ภาพลวงตาที่เธอมโนสร้างขึ้นมาเองเมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้วเจ้าของห้องก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้งและพบว่าตัวเองไม่ได้คิดหรือฝันไป
“คุณหทัยภัทร”
น้ำเสียงตกใจบวกกับสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักทำให้หทัยภัทรต้องรีบเดินเข้าไปใกล้เพราะคิดว่าคนป่วยกำลังละเมอเพราะพิษไข้แต่พอยกมือแตะที่หน้าผากก็ไม่พบอาการตัวร้อนแต่อย่างใด
“ตัวก็ไม่ร้อน เธอเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”
หทัยภัทรเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าคนที่นอนอยู่อย่างสงสัยเธอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างแต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
“เธอเป็นอะไร”
“ปะเปล่าค่ะ”
มัทนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่นจากนั้นก็ตั้งท่าเตรียมจะลงจากเตียง
“จะไปไหน“
“มัทจะไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะวันนี้ดีขึ้นมากแล้วน่าจะพอทำงานได้”
“พูดอะไรบ้าๆดูสภาพตัวเองก่อนมั้ย”
“มัทไหวค่ะ”
“นี่เธออย่าดื้อนักได้มั้ยถ้าขืนฉันให้เธอไปทำงานในสภาพแบบนี้คนอื่นเค้าจะคิดยังไง”
คนพูดดึงแขนคนที่กำลังจะลุกให้กลับมานั่งที่เดิมก่อนจะดันให้นอนลงช้าๆ
“ไม่ต้องกลัวจะไม่ได้ทำงานเพราะเธอต้องอยู่ที่นี่อีกนาน”
“นั่นสินะ”
หทัยภัทรพูดจบก็ลุกไปหยิบผ้าชุบน้ำเพื่อมาเช็ดตัวให้คนที่นอนอยู่เธอไม่แน่ใจในประโยคสุดท้ายที่คนที่นอนอยู่เอ่ยออกมาเพราะมันเบาซะจนไม่รู้ว่ากำลังพูดกับเธอหรือแค่ละเมอออกมา
“ถึงตัวไม่ร้อนก็น่าจะเช็ดตัวกันไว้ก่อนมา…ถอดเสื้อ”
“ไม่เป็นไรค่ะมัทว่าวันนี้จะอาบน้ำ”
“เอ๊ะ! เธอนี่ยังไงนะฉันบอกว่าวันนี้ให้เช็ดตัวก่อนถ้าจะอาบค่อยอาบพรุ่งนี้…ถอด!”
น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าคนพูดกำลังโมโหทำให้มัทนายิ่งรู้สึกกดดันเพิ่มขึ้น เธอทั้งสับสนระคนความรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุของความเกลียดชังที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ยอมแลกเงินถึงสี่สิบล้านแต่ แต่ตอนนี้เธอไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้า
“ยังจะนอนนิ่งอีก ก็ได้ถ้าไม่ถอดฉันถอดให้เอง”
หทัยภัทรวางผ้าลงก่อนจะเอื้อมมือไปปลดกระดุมคนที่นอนอยู่แต่แกะได้แค่เม็ดเดียวกลับถูกมัทนาปัดมือออกพร้อมกับกลิ้งตัวไปที่อีกฝั่งของเตียงจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน
“มัทไม่เป็นไรแล้วค่ะถึงเวลาแล้วที่มัทควรจะไปทำงานซะที”
พูดจบมัทนาก็เดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำอย่างเร็วจนหทัยภัทรไม่สามารถคว้าตัวได้ทัน
“มัทนา! มัทนา! เธอนี่ดื้อด้านเกินไปแล้วนะออกมาล่ะหน้าดู”
คนพูดตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมอีกฝ่ายได้จากนั้นก็เดินหอบเอาอารมณ์ขุ่นมั่วของตัวเองออกมายืนรอข้างนอก
ปาลิตายืนมองคนที่เดินไปเดินมาอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาบางทีเธออาจจะได้ทำอะไรสนุกๆอีกก็เป็นได้ สายตาที่เหลือบไปเห็นเงาคนในห้องที่ริมหน้าตาทำให้ใบหน้าที่บูดบึ้งแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มได้อย่างง่ายดายเมื่อนึกได้ถึงเรื่องสนุกๆที่กำลังจะเกิดขึ้น
“สวัสดีตอนเช้าคะพี่หทัย”
“อ้าวตาพี่นึกว่าเราเข้าไปในเมืองกับนรีซะอีก”
“เปล่านิคะ ตาจะไปที่ไหนได้ในเมื่อ…”
คนพูดเกือบหลุดสิ่งที่คิดออกมาก่อนจะยิ้มกว้างเพื่อกลบเกลื่อนบางอย่างในใจ
“ในเมื่ออะไรเหรอ”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะตาแค่ยังเคลียร์งานที่ไร่ไม่เสร็จว่าแต่พี่หทัยมายืนทำอะไรที่นี่คะ”
“พี่มาดูมัทนาน่ะ”
ปาลิตาพยักหน้ารับคำพูดบาดใจนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆจางลง หญิงสาวพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ทุกอย่างเอาไว้เพราะหากเธอเอะอะโวยวายในตอนนี้คงไม่ดีเป็นแน่
“แต่ดูสิพอคนเค้าจะเช็ดตัวให้ก็ดันวิ่งหนีเข้าห้องน้ำแถมยังบอกจะไปทำงานอีก”
คนพูดบ่นออกมาตามความรู้สึกหากแต่พอคิดได้ว่าตัวเองเผลอหลุดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาหทัยภัทรก็ถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ
“คือพี่…”
“มัทนาเค้าคงอยากจะปลดหนี้เร็วๆมั้งคะถึงได้ดูกระตือรือร้นแบบนี้”
คนพูดแอบยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะรีบเก็บซ่อนเอาไว้อย่างรวดเร็วเมื่อคนฟังหันมามองทางเธอด้วยสีหน้าบึ้งๆ
“เงินตั้งสี่สิบล้านหายากน่าดูนะคะแต่ก็คงมีคนเต็มใจช่วยอยู่”
“ใคร!”
หทัยภัทรเอ่ยออกมาเสียงแข็งก่อนจะเบือนหน้าหลบสายตาของปาริตาไปทางอื่นเพราะเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ใครน๊าที่แอบเข้ามาหาบ่อยๆแถมยังมีเงินเท่าๆกับเราหรือเผลอๆอาจมีเยอะกว่าอีก”
คำพูดปริศนาทำให้หทัยภัทรต้องใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกถึงหน้าใครบางคนที่เธอเคยไล่ตะเพิดออกไปจากไร่แต่เจ้าหล่อนยังไม่เข็ดกลับแอบเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับทำเรื่องบางอย่างที่ทำให้เธอต้องหัวเสียมาถึงวันนี้
“กมลเนตร”
“ตาก็ว่ายัยหมวยนั่นเข้าท่าที่สุดและคงง่ายถ้ามัทนาจะพูดขอ”
“ไม่มีวัน! พี่ไม่ยอมเด็ดขาด”
“ทำไมคะพี่หทัยยังอยากจะทรมานมัทนาอยู่อีกเหรอคะ”
หทัยภัทรหันไปจ้องหน้าคนถามครู่หนึ่งก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น “ทรมาน” งั้นเหรอ…ใช่สิเธอเอาตัวคนๆนี้มาเพื่อสิ่งนี้ ความตั้งใจของเธอก็ยังคงมีอยู่และดูจะแรงกล้ามากยิ่งขึ้นเมื่อภาพของผู้ชายทรยศปรากฏขึ้นมา
“พี่ไม่มีวันปล่อยลูกของคนทรยศไปง่ายๆหรอกยังไงคนพวกนั้นก็ต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม”
“ทำไมเราไม่ไปจัดการไอ้เลวนั่นซะเลยล่ะค่ะทำลูกของมันแบบนี้ไม่เห็นจะได้อะไร”
“อย่าลืมว่าลูกคือหัวใจของพ่อแม่และมัทนาก็เป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนซะด้วยสิ”
คนพูดเผลอยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็นก่อนจะหันหน้าไปหาคนที่คุยด้วย
“เพราะฉะนั้นพี่ถึงบอกตาให้ใจเย็นๆรีบร้อนไปก็หมดสนุกกันพอดี”
ปาลิตาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่มีความนัยแอบแฝงแต่สิ่งที่ทำให้เธอยิ้มออกมากที่สุดก็เห็นจะเป็นใบหน้าที่ดูซีดเซียวของใครอีกคนที่เพิ่งเดินกลับเข้าไปในห้อง…
เลิกงานแล้วคนงานทุกคนต่างพากันแยกย้ายจะมีก็แต่มัทนาเท่านั้นที่ยังอิดออดไม่ยอมวางมือจากงานซะที ความจริงงานเธอเสร็จตั้งแต่บ่ายแล้วแต่ที่ไม่ยอมเลิกเพราะยังไม่อยากเผชิญหน้ากับใครบางคน
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
เหมือนคนในความคิดจะรู้ตัวถึงได้เดินมาตามเธอเป็นรอบที่ห้า จะว่าไปวันนี้หทัยภัทรเดินแวะเวียนมาดูเธอบ่อยครั้งเหมือนจะมาเช็กอะไรสักอย่างและไม่ต้องคิดอะไรมากมายคงจะมาดูว่าเธอใกล้ตายหรือยังล่ะสิแค่คิดเท่านี้มัทนาก็เผลอปล่อยเสียงถอนหายใจออกมาอย่างลืมตัว
“ถอนหายใจทำไมอย่าบอกนะว่ารำคาญฉัน”
“เปล่าค่ะ”
“แต่หน้าเธอมันบ่งบอกมากเลยนะ”
“เปล่าจริงๆค่ะมัทไปล้างตัวก่อนนะคะเดี๋ยวเจอกันที่รถ”
“นี่เธอ!”
หทัยภัทรตะโกนเรียกคนที่เดินหนีจนสุดเสียงก่อนจะเดินสะบัดหน้าไปรอที่รถด้วยความโมโหที่ไม่สามารถทำอะไรได้ดังใจ
เมื่อกลับมาถึงมัทนาก็เดินตรงเข้าบ้านทันที ตอนนี้เธออยากอยู่เพียงลำพังเพื่อลำดับเหตุการณ์และคิดว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อไปแต่แล้วหญิงสาวก็ต้องหันกลับมาหน้าบ้านเมื่อได้ยินฝีเท้าของคนเดินตามและคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…
“จะไปไหนมาคุยกันให้รู้เรื่อง”
“คุณหทัยภัทรมีอะไรจะคุยกับมัทเหรอคะ”
หทัยภัทรมองคนพูดที่ทำหน้านิ่งอย่างนึกรำคาญแล้วไหนจะแววตาที่ดูเหมือนคนกำลังใช้ความคิดนั่นอีกมันทำให้เธอรู้สึกกังวลใจจนถึงกับต้องเดินตามอีกคนมาแบบนี้
“เธอคิดจะทำอะไร”
มัทนามองหน้าคนถามอย่างสงสัยเธอเนี้ยนะที่เป็นคนทำ…ตลก ตลกจริงๆ
“จะเข้าบ้านค่ะง่วงนอน”
“นี่ย้อนฉันเหรอ”
“มัทแค่พูดความจริงค่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
“ก็ดีจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็แล้วไป”
“คุณพูดอะไร”
“ก็พูดเรื่องจริงไง”
หทัยภัทรเอ่ยเสียงประชดประชันก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คนที่ทำหน้าเบื่อโลก
“พูดตามฉันว่าเธอเป็นของฉัน เป็นของฉันและเป็นของฉัน”
มัทนาแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แต่เธอจะไม่มีวันร้องไห้ต่อหน้าผู้หญิงร้ายคนนี้…ไม่มีทาง!
“พูด!”
เสียงสั่งการแบบเด็ดขาดดังออกมาอีกครั้งทำให้มัทนาต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือกและถ้ามาคิดดูดีๆชีวิตของเธอก็อยู่ในกำมือของผู้หญิงคนนี้จริงๆ
“ค่ะมัทเป็นของคุณ ของคุณ ของคุณคนเดียว”
หทัยภัทรหัวใจกระตุกเล็กน้อยเมื่อมองเห็นแววตาของคนพูดที่จ้องมายังเธอแต่หญิงสาวก็ต้องทำใจแข็งเอาไว้ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้บังคับให้คนตรงหน้าพูดประโยคแบบนี้ออกมาแต่เธออยากได้ความมั่นใจว่ามัทนาจะไม่ไปจากเธอแม้จะต้องใช้การบังคับก็ตามที่เป็นแบบนี้เพราะสิ่งที่ได้คุยกับปาลิตาเมื่อตอนเช้ามันให้เธอกังวลใจทั้งวันจนต้องเดินเฉียดคนตรงหน้าไปมาไม่เป็นอันทำอะไร
ตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจของเธอมันเป็นคำสั้นๆแต่เธอกลับยังหาสาเหตุไม่ได้นั่นคือคำว่า”กลัว” ว่าแต่เธอกำลังกลัวอะไรอยู่นะ…
หมายเหตุ
1. หนังสือจะจัดส่งวันจันทร์นี้นะคะ ถ้าส่งเสร็จเดี๋ยวไรท์แจ้งให้ทราบอีกทีน๊า ;)
ใครสนใจสามารถสั่งได้อยู่นะคะไรท์สั่งเผื่อมาแล้ว อิอิ
2. แฟนนิยายที่สั่งเป็นไฟล์ pdf ไรท์ทยอยส่งให้แล้วนะคะใครยังไม่ได้แจ้งไรท์ด้วยนะคะจะได้ส่งให้ใหม่ ^^
3. ส่วนใครที่อยากได้เป็น e-book สามารถเข้าไปโหลดได้แล้วนะคะที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=10848นิยายเรื่องอื่นๆ
คุณหนูที่รัก yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576 ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259 เกมรัก สะดุดใจ yuri
http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672 ปีกรัก yuri
http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521 สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri
http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762 สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ