เช้าวันใหม่ของการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆวันนี้ไอฟ้าต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของบิดาเป็นวันแรกจากที่ผัดผ่อนอยู่นานและในที่สุดก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องเข้าไปช่วยงานซะที
“นั่งเหม่ออะไรแต่เช้าลูก”
น้ำเสียงห่วงใยเอ่ยออกมาก่อนที่มือของเจ้าของเสียงจะมาลูบที่หัวของคนนั่งเหม่ออย่างเบามือก่อนจะปล่อยให้เป็นอิสระ
“กังวลเรื่องงานใหม่นิดหน่อยค่ะ”
“กลัวอะไร นั่นบริษัทของพ่อนะใครกล้าหือกับอัยย์ พ่อจะจับมัดโยนออกนอกตึกเลย”
“พ่อก็!”
อนนต์หัวเราะชอบใจที่แกล้งแหย่บุตรสาวได้สำเร็จก่อนจะปรับสีหน้าให้ดูจริงจังแล้วเอื้อมมือไปกุมที่มือของคนหน้างอ
“พ่อเชื่อว่าอัยย์ทำได้อีกอย่างเดี๋ยวหนูน้ำจะเป็นพี่เลี้ยงให้รายนั้นน่ะเก่งมากเลยนะมีอะไรอัยย์ก็ต้องปรึกษาพี่เค้านะรู้มั้ย”
ไอฟ้าได้แต่ยิ้มออกมาแทนคำตอบแล้วเธอจะบอกได้อย่างไรว่าสิ่งที่ทำให้หนักใจก็คือคนเก่งของพ่อเธอนั่นแหละแต่จะทำอย่างไรได้เมื่อผู้ใหญ่ตัดสินใจรวมบริษัทเข้าด้วยกันทำให้การทำงานกับบุคคลไม่พึงประสงค์ในครั้งนี้ไม่สามารถเลี่ยงได้
กาแฟแทบพุ่งออกจากปากเมื่อบุคคลในความคิดเดินลงมาพอดีพร้อมกับการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเข้ารูปสีแดงเพลิงที่ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่เหมือนชุดทำงานเลยสักนิดและท่าทางตาเหลือกของคนที่นั่งอยู่ก็ไม่ได้รอดสายตาคนที่ลงมาใหม่เลยสักหญิง ศิศิราจึงช้อนตาขึ้นมาประสานกับคนไม่มีมารยาทก่อนจะส่งสายตาไม่พอใจออกมาทำให้ไอฟ้าต้องรีบเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
“วันนี้ลูกสาวแม่สวยมากเลยนะเนี้ย”
คำชมที่ตามไล่หลังมาทำให้สองพ่อลูกต้องหันมามองหน้ากันเหรอหราก่อนจะรีบก้มหน้ามองข้าวในจานของตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อคนพูดหันมาขอความเห็น
“เหมือนจะไม่มีคนเห็นด้วยกับคุณแม่นะคะ”
ศิศิราเอ่ยดักคอมารดาที่หันไปหาลูกคู่แต่กลับได้รับการปฏิเสธจนเจ้าตัวต้องเดินเข้าไปแตะแขนสามีและลูกสาวคนใหม่เบาๆ
“ครับ”
“ทำไมคุณนนต์ไม่ชมลูกหน่อยล่ะคะ”
อนนต์เงยหน้าสบตากับคนพูดที่ไม่ได้ใช้สายตาวิงวอนอะไรเลยแต่สิ่งที่แสดงออกมาในสายตาของคนตรงหน้าคือการข่มขู่ชัดๆ…
“เอ่อ…หนูน้ำสวยที่สุดเลยจ่ะจริงมั้ยยัยอัยย์”
คนพูดโยนบาปไปให้คนข้างๆที่ตอนนี้ได้แต่ทำหน้าอึ้งๆกับคำถามแต่เพียงไม่นานไอฟ้าก็ต้องรีบยิ้มออกมาเมื่อหันไปเห็นแม่เลี้ยงกระพริบตาถี่ๆมาให้
“อัยย์โชคดีจังนะคะที่มีพี่สาวสวยขนาดนี้”
พูดจบสองพ่อลูกก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวอีกครั้งส่วนคนถูกชมก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งๆกับคำชมที่เหมือนหุ่นยนต์พูดแบบแข็งๆดูไม่จริงใจและไม่ให้ความรู้สึกดีอะไรเลยแล้วนี่เธอจะหวังอะไรจากสองพ่อลูกนี่กันนะ
เมื่อมาถึงบริษัทรอยยิ้มของไอฟ้าก็ค่อยๆจางลงเมื่อพบว่าสิ่งที่เคยวาดหวังได้พังทลายลงมาอย่างไม่เหลือชิ้นดี
ทั้งๆที่คิดว่าจะได้เห็นผู้หญิงคนนี้แค่ตอนนอนแต่บัดนี้มันไม่ใช่เสียแล้วเมื่อห้องทำงานของเธอและศิศิราคือห้องเดียวกันแถมยังนั่งหันหน้าเข้าหากันอีกแล้วถ้ายัยนี่โมโหขึ้นมาไม่ทุ่มแจกันใส่หัวเธอเลยเหรอ
“ก็เดินเข้าไปสิ”
ไอฟ้าหันไปมองคนพูดที่ยืนอยู่ข้างหลังก่อนจะรีบทำตามอย่างรวดเร็วแต่เมื่อเดินเอาของไปวางที่โต๊ะก็ถูกอีกฝ่ายดุอีกจนได้
“เธอนี่บื้อหรือว่าโง่กันแน่นะ”
“อัยย์ทำอะไรผิดอีกเหรอคะ”
“ไม่ผิดมั้งแหกตาดูสิว่าโต๊ะที่เธอนั่งเป็นชื่อใคร”
คนถูกว่าหันไปมองตามก่อนจะรีบลุกเปลี่ยนโต๊ะแทบไม่ทัน
“แค่นี้ก็ต้องให้บอกแบบนี้ฉันคงต้องพาเธอไปเข้าห้องน้ำด้วยใช่มั้ย”
“ได้ก็ดีค่ะ”
ศิศิรามองคนพูดที่รีบตะครุบปากตัวเองทันทีหลังจากหลุดพูดออกมาเสียงดังแต่จะมาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเธอก็คงจะไม่เชื่อเพราะเสียงที่เอ่ยมันดังชัดเจนเต็มหูของเธอ
“อัยย์ว่าเราทำงานกันดีกว่านะคะ”
“ก็ทำงานน่ะสิหรือเธอจะขายของ”
คนพูดกระแทกกระเป๋าที่โต๊ะแรงๆหนึ่งทีก่อนจะยกแฟ้มมาปิดหน้าอย่างเซ็งๆไม่เข้าใจว่าใครหรืออะไรกำลังเล่นตลกให้คนที่ไม่ชอบหน้ากันต้องมาเกี่ยวข้องกันมากมายขนาดนี้แล้วเมื่อไหร่เธอจะหลุดพ้นจากคนทิ่มๆแบบนี้ซะทีนะ
เสียงเคาะประตูทำให้ห้องที่เงียบมาตลอดมีเสียงขึ้นมาบ้างจากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฎตัวของชายหนุ่มหน้าตาดีที่เดินเข้ามาไม่กี่ก้าวก็ทำให้คนหน้าบูดยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
ไม่พูดเปล่าแต่ศิศิราโผเข้าไปกอดชายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนคนถูกกอดถึงกับเซเล็กน้อยแต่พอตั้งตัวได้มีหรือที่เขาจะไม่กอดกลับ
“มาสองสามวันแล้วครับพอเสร็จงานก็รีบมาหาน้ำเลยนะ”
“ก็ลองไม่มาหาดูสิ”
วัลลภมองท่าทางกระเง้ากระงอดของเพื่อนสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะคลายอ้อมกอดออกเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครอีกคนในห้อง
“ขอโทษทีครับผมไม่คิดว่าน้ำมีแขก”
ศิศิรามองไปยังบุคคลที่เพื่อนชายเอ่ยถึงก่อนจะหันไปลากแขนคนพูดให้ไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“อย่าไปสนใจเลยค่ะถือว่าเป็นอากาศก็แล้วกัน”
“น้ำทำไม…”
“ถ้ามาหาน้ำจะสนใจคนอื่นทำไมล่ะคะ”
จบคำพูดของเจ้าของห้องวัลลภก็จำใจต้องละทิ้งความสงสัยทุกอย่างเอาไว้เพราะขืนเซ้าซี้เขาอาจเป็นอีกหนึ่งคนที่จะถูกศิศิราเมิน
ไอฟ้าแอบมองคนทั้งคู่อยู่เป็นระยะๆด้วยความสงสัยไหนแม่เลี้ยงของเธอบอกว่าลูกสาวของตัวเองยังไม่มีแฟนแล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะแต่เท่าที่ดูเหมือนฝ่ายหญิงจะรุกซะมากกว่าดูสิมือไม้ทำไมอยู่ไม่สุขเอาไปเกาะแขนเกาะขาผู้ชายอยู่ได้ถ้าเป็นน้องเป็นนุ้งจะจับมาตีสั่งสอนซะให้เข็ดแต่แล้วคนแอบดูก็ต้องรีบชักสายตากลับมาที่เดิมเมื่อคนที่เธอเฝ้าดูทำท่าเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
“ฉันจะไปกินข้าว”
อยู่ๆศิศิราก็เอ่ยออกมาลอยๆพร้อมกับการหยิบกระเป๋าเตรียมออกไปอย่างที่พูดทุกอย่างรวดเร็วจนไอฟ้าไม่แน่ใจว่าคนพูดกำลังคุยกับเธอหรือว่าส่งกระแสจิตมากันแน่
“แป๊บๆอัยย์เก็บของก่อน”
ศิศิราหยุดเดินทันทีก่อนจะหันมามองคนพูดด้วยสีหน้าตึงๆ
“เธอคงไม่คิดว่าฉันชวนเธอหรอกนะ”
“อ๋อ…ค่ะ”
“ไปกันเถอะค่ะลภน้ำหิวจะแย่แล้ว”
พูดจบศิศิราก็ดึงแขนชายหนุ่มมาควงก่อนจะเดินเคียงคู่กันไปโดยไม่สนใจใครอีกคนเลยสักนิดช่างเป็นท่าทางชวนหมั่นไส้และครั้งนี้ไอฟ้าคงต้องทำตัวเป็นก้างเพื่อระบายความอัดอั้นของตัวเองบ้าง
การก้าวเท้าขึ้นรถต้องหยุดชะงั้นทันทีเมื่อมีคนไม่พึงประสงค์ขึ้นมาด้วย ศิศิราหันไปมองบุคคลที่สามอย่างไม่พอใจ
“ขึ้นมาทำไม”
“ไปกินข้าวค่ะ”
“ฉันไม่ได้ชวนฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง”
“ก็อัยย์หิวนี่คะทางเดียวกันประหยัดน้ำมันดีออก”
“ไอฟ้า!”
“ขาพี่สาวคนสวยให้น้องคนนี้ไปด้วยคนนะ”
ไอฟ้าเปลี่ยนมาใช้ลูกอ้อนเธอคิดว่าหากไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยป่านี้เธอคงถูกคนตรงหน้าหักคอตายไปแล้ว
“พี่สุดหล่ออัยย์ขอไปด้วยคนนะคะ”
แขกไม่ได้รับเชิญหันไปอ้อนกับคนขับบ้างก่อนจะใช้มือของตัวเองเขย่าที่ไหล่ของชายหนุ่มไปมาจนถูกศิศิราตีมือพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่อย่างเอาเรื่อง
“มีหวงด้วย”
“อ๊า! อย่ามาพูดบ้าๆนะจะไปก็ช่วยหุบปากไม่งั้นฉันโยนเธอลงข้างทางแน่”
ศิศิราเอ่ยออกมาด้วยความโมโหสุดขีดก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง
วัลลภเป็นเพื่อนชายเพียงคนเดียวที่เธอสนิทด้วยแต่แปลกที่เธอไม่เคยรู้สึกหวงชายหนุ่มเลยสักครั้งแต่จากเหตุการณ์เมื่อสักครู่เธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่ไอฟ้ามาแตะไหล่เพื่อนของเธอแต่จะคิดอะไรให้มากมายก็ยัยนี่มันโรคจิตจะตายเกิดมาแพร่เชื้อให้เพื่อนเธอล่ะแย่เลย
ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ผู้คนไม่มากอย่างทุกวันอาจเพราะไม่ใช่เวลาพักหรือเลิกงานแต่นั่นก็ดีทำให้การมานั่งทานอาหารที่นี่ดูผ่อนคล้ายมากยิ่งขึ้น
“ทานเต็มที่เลยนะครับวันนี้ผมเลี้ยงเอง”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ส่งไปให้หญิงสาวทั้งสองโดยเฉพาะคนข้างๆที่ดูจะถูกอกถูกใจเป็นพิเศษ
“ดีจังแต่จะดีกว่านี้นะคะถ้าเรามากันแค่สองคน”
ศิศิรามองไปยังบุคคลที่สามที่ดูไม่สนใจกับคำพูดเธอเลยสักนิดเพราะตอนนี้เอาแต่สั่งอาหารน้ำไหลไฟดับ
“นี่เธอสั่งเยอะขนาดนั้นจะกินหมดเหรอ”
“ไม่หมดก็ห่อกลับสิคะนานๆทีจะมีเจ้ามือ”
“ตะกละฉันไม่น่าหลวมตัวให้เธอมาด้วยเลย”
“แหมๆคุณพี่สาวก็ ทนๆหน่อยนะคะอีกหน่อยก็ชินเอง”
ไอฟ้าหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างสะใจนานๆทีเธอจะได้แกล้งยัยโหดนี่สักครั้งแต่ความสะใจก็มาไวไปไวเมื่อจู่ๆเท้าของไอฟ้าก็ถูกเท้าของคนที่เธอหัวเราะเยาะบี้ลงมาอย่างจัง
“โอ๊ย!”
“เป็นอะไรครับคุณอัยย์”
ไอฟ้าได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะรีบดึงเท้าของตัวเองออกมาไว้ตำแหน่งที่น่าจะปลอดภัย
“คงจะปากเสียจนเจ้าที่เจ้าทางท่านไม่พอใจเข้าให้ฉันว่าถ้าเธอยังพูดมากอยู่แบบนี้ครั้งหน้าเธออาจจะได้ไปลอยคอในน้ำก็ได้นะ”
พูดจบศิศิราก็หันไปพูดคุยหัวเราะกับชายหนุ่มคนข้างๆต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่สำหรับไอฟ้าแล้วเธอแทบจะกินข้าวไม่ลงนี่ขนาดอยู่ต่อหน้าคนอื่นยังกล้าขู่เธอขนาดนี้
ไม่รู้พี่จะโหดอะไรนักหนา…
หลังจากกินข้าวอิ่มแล้วไอฟ้าก็ขอตัวแยกออกมาเดินเล่นเธอรู้สึกว่าศิศิราดูอ่อนโยนและยิ้มแย้มมากขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้นถึงจะไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยหากเป็นแบบนี้เธอควรจะไปบอกให้แม่เลี้ยงของเธอเตรียมขันหมากไปสู่ขอวัลลภดีมั้ยนะทุกอย่างจะได้ดีขึ้นกว่านี้
“ช่ววด้วย! ช่วยด้วย!”
เสียงร้องขอความช่วยเหลือทำให้ไอฟ้าที่กำลังใช้ความคิดต้องหันไปให้ความสนใจก่อนจะรีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงและทุกอย่างเหมือนจะเร็วไปหมดเมื่อไอฟ้าตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยเด็กตกน้ำทันทีแต่สิ่งที่เธอลืมนึกไปก็คือเธอก็ว่ายน้ำไม่เป็น…
เสียงดังรอบๆข้างทำให้คนที่สลบอยู่ต้องลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะพบใบหน้าของคนที่คุ้นเคยมองมา
“เด็กคนนั้นล่ะ”
“ก่อนถามถึงคนอื่นเอาตัวเองให้รอดก่อนมั้ย”
ศิศิราเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดเหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำเอาเธอใจหายใจคว่ำเมื่อจู่ๆคนที่นอนอยู่ก็กระโจนลงน้ำเสียงดังแต่สิ่งที่ทำเอาเธอขำไม่ออกก็คือยัยนี่จมน้ำแบบไม่มีท่าทีจะลอยขึ้นมาเลยจนวัลลภต้องโดดลงไปช่วยลากตัวขึ้นมา
“อัยย์ลืมตัว”
“เธอจะลืมตัวจะทำบ้าๆอะไรก็เชิญแต่อย่ามาทำเวลาอยู่กับฉัน”
ไอฟ้าค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าสำนึกผิดเธอคงทำให้ศิศิราลำบากจริงๆทั้งๆที่จะได้มากินข้าวอร่อยๆกับคนรักแต่กลับมีเธอมาเป็นก้างแถมยังก่อเรื่องให้ได้อายอีก
“ใจเย็นๆนะครับน้ำ”
“ดีนะที่ได้ลภเค้าช่วยไว้ไม่งั้นเธอคงได้อึดลอยไปลอยมาในน้ำ”
“น้ำผมว่าเรากลับกันเถอะครับ”
“จำไว้นะไอฟ้าอย่ามาเป็นภาระให้ฉันอีก!”
พูดจบศิศิราก็เดินตรงไปที่รถทันทีเธอไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้เลยมันอัดอั้น บีบหัวใจอย่างไรบอกไม่ถูกแต่ทุกสิ่งที่เธอได้เอ่ยออกมามันคือความจริงที่เธอไม่อยากเห็นใครมาตายต่อหน้าต่อตาอีก
ไอฟ้าได้แต่ก้มหน้าเดินมาที่รถอย่างเงียบๆ เธออาจทำผิดจริงที่เอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้นแต่ไม่เข้าใจว่าศิศิราจะโกรธทำไมกันนักกันหนาเมื่อนี่มันคือชีวิตของเธอ